ASTVผู้จัดการออนไลน์/เอเอฟพี/รอยเตอร์ - "ในหลวง" ส่งพระราชสาสน์แสดงความยินดีกับ"โอบามา" ซึ่งสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการเมื่อคืนนี้ ขณะที่ประชาชนอเมริกันนับแสนนับล้านคน พากันหลั่งไหลเข้าไปยังกรุงวอชิงตัน ร่วมเป็นประจักษ์พยานการสร้างประวัติศาสตร์ เมื่อคนผิวสีก้าวขึ้นเป็นผู้ปกครองประเทศเป็นครั้งแรก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชสาส์นแสดงความยินดีต่อ นายบารัค โอบามา ที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯเมื่อวานนี้(20) โดยทรงอำนวยพรให้นายโอบามาประสบความสำเร็จและความสุขสวัสดิ์ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประชาชน และความรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่งขึ้นของสหรัฐอเมริกา
ในพระราชสาส์นฉบับนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงความเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตร และความร่วมมืออันใกล้ชิดระหว่างสหรัฐฯ และไทย จะกระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า
ทางด้านบรรยากาศงานพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโอบามาที่กรุงวอชิงตัน ปรากฏว่าตั้งแต่เช้าก็มีประชาชนเป็นจำนวนมากมาย ฝ่าความหนาวเหน็บสุดแสนไปชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณ เนชั่นแนล มอลล์ และแออัดกันอยู่ตามถนนสายต่างๆ ซึ่งนำไปสู่ลานกว้างใจกลางเมืองแห่งนั้น ที่อยู่ติดกับอาคารรัฐสภา
ตามรายงานของสำนักงานระบบรถไฟใต้ดินกรุงวอชิงตัน เพียงถึงเวลา 8.00 น. หรืออีก 4 ชั่วโมงก่อนที่โอบามาจะกล่าวคำสาบานตนอย่างเป็นทางการ ได้มีผู้คนเข้ามาใช้รถไฟใต้ดินแล้ว 318,422 คน ซึ่งมากมายกว่าเวลาปกติอย่างยิ่ง นอกจากนั้นตามที่ขายตั๋วก็มีผู้คนเข้าแถวรอซื้อตั๋วกันยาวเหยียด บางสถานีมีคนแออัดมาก จนคนที่ต้องการออกจากสถานีประสบปัญหาออกไปไม่ค่อยได้ทีเดียว
สำหรับโอบามาเอง พร้อมด้วยมิเชลผู้ภรรยา ซึ่งอยู่ในชุดสีเหลือง ได้ออกจาก "แบลร์เฮาส์" อันเป็นทำเนียบรับรองแขกเมืองของประธานาธิบดี ตั้งแต่ตอนเช้า เพื่อเดินทางไปสวดอ้อนวอนพระเจ้า ยังโบสถ์เซนต์จอห์นเอพิสโคพอล ซึ่งอยู่ใกล้ๆ และรู้จักกันในนาม "โบสถ์ของประธานาธิบดี" โดยที่มีรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน และภรรยามาสมทบ
หลังจากนั้น ว่าที่ประธานาธิบดีวัย 47 ปี ก็เดินทางไปยังทำเนียบขาว เพื่อดื่มกาแฟกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ก่อนที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันและคนต่อไปในอนาคต จะนั่งรถไปยังอาคารรัฐสภาด้วยกัน เพื่อเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการส่งมอบอำนาจ
เฮลิคอปเตอร์นาวิกโยธินสีเขียวลำหนึ่งจอดคอยอยู่เรียบร้อยแล้ว ณ อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อนำบุชออกเดินทางช่วงแรกแห่งการกลับคืนสู่บ้านในมลรัฐเทกซัสของเขา
ณ บริเวณลานเนชั่นแนล มอลล์ ฝูงชนจำนวนมากมายกระจายอยู่เต็มเบื้องล่างอาคารรูปโดมสีขาวของรัฐสภาสหรัฐฯ แล้วยังยาวเหยียดไปจนถึงอนุสาวรีย์วอชิงตัน ที่เป็นรูปแท่งหินอ่อนสีขาวสูงตระหง่าน ณ บันไดด้านตะวันตกของอาคารรัฐสภานี้แหละ ในเวลาเที่ยงตรง (ตรงกับเวลา 0.00 น.วันพุธที่ 21 เวลาเมืองไทย) ที่โอบามาวางมือบนคัมภีร์ไบเบิลเล่มเก่า ซึ่งอับราฮัม ลินคอล์น เคยใช้ในพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกของเขาเมื่อปี 1861 และกล่าวคำสาบานว่า เขาจะ "ดูแลรักษา, คุ้มครอง, และปกป้อง" รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
จากนั้นโอบามาซึ่งใครๆ หลายคนเรียกขานว่าเป็นนักกล่าวปราศรัยผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในรุ่นอายุของเขา ก็จะกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
รอเบิร์ต กิบส์ เลขานุการฝ่ายหนังสือพิมพ์ของทำเนียบขาวคนใหม่เอี่ยม บอกกับสถานโทรทัศน์ฟอกซ์นิวส์ว่า สิ่งที่โอบามาจะพูดเน้นในสุนทรพจน์สำคัญคราวนี้ คือเรื่องความสามัคคีแห่งชาติ เพื่อร่วมกันเผชิญหน้ากับปัญหาความยุ่งเหยิงอันมากมายที่เป็นมรดกตกทอดจากยุคของบุช
"ผมคิดว่าคุณยังจะได้ยินเรื่องเกี่ยวกับยุคใหม่แห่งความรับผิดชอบด้วย" กิบส์บอก "ความรับผิดชอบในการปฏิบัติการต่างๆ ที่รัฐบาลต้องรับไป และความรับผิดชอบของพวกสถาบันการเงินของเรา ซึ่งบางรายก็เป็นผู้ทำให้เราต้องตกอยู่ในความยุ่งเหยิงทางเศรษฐกิจอย่างที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้"
ช่วงขณะแห่งการสร้างประวัติศาสตร์ของโอบามาในครั้งนี้ ยังกำลังเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดของทั่วโลกอีกด้วย
พระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ประมุขคริสตจักรคาทอลิก ได้ทรงส่งพระสมณสาส์น เรียกร้องให้ประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯผู้นี้ "ส่งเสริมความเข้าใจกัน, ความร่วมมือกัน, และสันติภาพ" ระหว่างชาติต่างๆ
ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส แถลงว่า เขากระหายที่จะได้ทำงานร่วมกับโอบามาเพื่อ "เปลี่ยนโลกนี้" ขณะที่นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ก็ส่งความปรารถนาขอให้ "เขาโชคดีอย่างที่สุด"
ตามการสำรวจความคิดเห็นของบีบีซีแห่งอังกฤษใน 17 ประเทศทั่วโลกพบว่า ผู้คนถึงราวสองในสามทีเดียวที่เชื่อว่า โอบามาจะสามารถปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับประเทศอื่นๆ ในโลกให้ฟื้นคืนดีขึ้นมาได้
ทว่าในขณะที่กำลังมีความหวังกันสูงส่งมากมายทั้งภายในสหรัฐฯเองและจากทั่วโลก ทีมงานของโอบามาก็ออกมาขอร้องให้มีความอดทนกันหน่อย เนื่องจากปัญหาที่ประธานาธิบดีและคณะรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯต้องเผชิญนั้น มีมากมายมหาศาล
หลังจากพิธีสาบานตนของโอบามา และรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว คณะผู้นำใหม่ของสหรัฐฯก็จะรับประทานอาหารกลางกับกับพวกสมาชิกรัฐสภา, คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุด, ตลอดจนบรรดารัฐมนตรีและผู้ช่วยของโอบามา
จากนั้นจะเป็นรายการเดินพาเหรดไปตามถนนเพนซิลวาเนีย จากอาคารรัฐสภาสู่ทำเนียบขาว โดยที่จะมีทั้งวงดนตรีโยธวาทิต, ทหารผ่านศึก, สมาชิกสหภาพแรงงาน, และเด็กนักเรียน ร่วมเดินส่งโอบามาสู่ทำเนียบอันเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของสหรัฐฯ
แต่การเฉลิมฉลองในวันนี้ยังไม่จบสิ้นเพียงเท่านี้ ในช่วงค่ำคืนยังมีการจัดงานบอลล์เนื่องในพิธีสาบานตนของประธานาธิบดี เฉพาะที่เป็นงานบอลล์อย่างเป็นทางการก็มีถึง 10 งาน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชสาส์นแสดงความยินดีต่อ นายบารัค โอบามา ที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯเมื่อวานนี้(20) โดยทรงอำนวยพรให้นายโอบามาประสบความสำเร็จและความสุขสวัสดิ์ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประชาชน และความรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่งขึ้นของสหรัฐอเมริกา
ในพระราชสาส์นฉบับนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงความเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตร และความร่วมมืออันใกล้ชิดระหว่างสหรัฐฯ และไทย จะกระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า
ทางด้านบรรยากาศงานพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโอบามาที่กรุงวอชิงตัน ปรากฏว่าตั้งแต่เช้าก็มีประชาชนเป็นจำนวนมากมาย ฝ่าความหนาวเหน็บสุดแสนไปชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณ เนชั่นแนล มอลล์ และแออัดกันอยู่ตามถนนสายต่างๆ ซึ่งนำไปสู่ลานกว้างใจกลางเมืองแห่งนั้น ที่อยู่ติดกับอาคารรัฐสภา
ตามรายงานของสำนักงานระบบรถไฟใต้ดินกรุงวอชิงตัน เพียงถึงเวลา 8.00 น. หรืออีก 4 ชั่วโมงก่อนที่โอบามาจะกล่าวคำสาบานตนอย่างเป็นทางการ ได้มีผู้คนเข้ามาใช้รถไฟใต้ดินแล้ว 318,422 คน ซึ่งมากมายกว่าเวลาปกติอย่างยิ่ง นอกจากนั้นตามที่ขายตั๋วก็มีผู้คนเข้าแถวรอซื้อตั๋วกันยาวเหยียด บางสถานีมีคนแออัดมาก จนคนที่ต้องการออกจากสถานีประสบปัญหาออกไปไม่ค่อยได้ทีเดียว
สำหรับโอบามาเอง พร้อมด้วยมิเชลผู้ภรรยา ซึ่งอยู่ในชุดสีเหลือง ได้ออกจาก "แบลร์เฮาส์" อันเป็นทำเนียบรับรองแขกเมืองของประธานาธิบดี ตั้งแต่ตอนเช้า เพื่อเดินทางไปสวดอ้อนวอนพระเจ้า ยังโบสถ์เซนต์จอห์นเอพิสโคพอล ซึ่งอยู่ใกล้ๆ และรู้จักกันในนาม "โบสถ์ของประธานาธิบดี" โดยที่มีรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน และภรรยามาสมทบ
หลังจากนั้น ว่าที่ประธานาธิบดีวัย 47 ปี ก็เดินทางไปยังทำเนียบขาว เพื่อดื่มกาแฟกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ก่อนที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันและคนต่อไปในอนาคต จะนั่งรถไปยังอาคารรัฐสภาด้วยกัน เพื่อเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการส่งมอบอำนาจ
เฮลิคอปเตอร์นาวิกโยธินสีเขียวลำหนึ่งจอดคอยอยู่เรียบร้อยแล้ว ณ อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อนำบุชออกเดินทางช่วงแรกแห่งการกลับคืนสู่บ้านในมลรัฐเทกซัสของเขา
ณ บริเวณลานเนชั่นแนล มอลล์ ฝูงชนจำนวนมากมายกระจายอยู่เต็มเบื้องล่างอาคารรูปโดมสีขาวของรัฐสภาสหรัฐฯ แล้วยังยาวเหยียดไปจนถึงอนุสาวรีย์วอชิงตัน ที่เป็นรูปแท่งหินอ่อนสีขาวสูงตระหง่าน ณ บันไดด้านตะวันตกของอาคารรัฐสภานี้แหละ ในเวลาเที่ยงตรง (ตรงกับเวลา 0.00 น.วันพุธที่ 21 เวลาเมืองไทย) ที่โอบามาวางมือบนคัมภีร์ไบเบิลเล่มเก่า ซึ่งอับราฮัม ลินคอล์น เคยใช้ในพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกของเขาเมื่อปี 1861 และกล่าวคำสาบานว่า เขาจะ "ดูแลรักษา, คุ้มครอง, และปกป้อง" รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
จากนั้นโอบามาซึ่งใครๆ หลายคนเรียกขานว่าเป็นนักกล่าวปราศรัยผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในรุ่นอายุของเขา ก็จะกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
รอเบิร์ต กิบส์ เลขานุการฝ่ายหนังสือพิมพ์ของทำเนียบขาวคนใหม่เอี่ยม บอกกับสถานโทรทัศน์ฟอกซ์นิวส์ว่า สิ่งที่โอบามาจะพูดเน้นในสุนทรพจน์สำคัญคราวนี้ คือเรื่องความสามัคคีแห่งชาติ เพื่อร่วมกันเผชิญหน้ากับปัญหาความยุ่งเหยิงอันมากมายที่เป็นมรดกตกทอดจากยุคของบุช
"ผมคิดว่าคุณยังจะได้ยินเรื่องเกี่ยวกับยุคใหม่แห่งความรับผิดชอบด้วย" กิบส์บอก "ความรับผิดชอบในการปฏิบัติการต่างๆ ที่รัฐบาลต้องรับไป และความรับผิดชอบของพวกสถาบันการเงินของเรา ซึ่งบางรายก็เป็นผู้ทำให้เราต้องตกอยู่ในความยุ่งเหยิงทางเศรษฐกิจอย่างที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้"
ช่วงขณะแห่งการสร้างประวัติศาสตร์ของโอบามาในครั้งนี้ ยังกำลังเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดของทั่วโลกอีกด้วย
พระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ประมุขคริสตจักรคาทอลิก ได้ทรงส่งพระสมณสาส์น เรียกร้องให้ประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯผู้นี้ "ส่งเสริมความเข้าใจกัน, ความร่วมมือกัน, และสันติภาพ" ระหว่างชาติต่างๆ
ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส แถลงว่า เขากระหายที่จะได้ทำงานร่วมกับโอบามาเพื่อ "เปลี่ยนโลกนี้" ขณะที่นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ก็ส่งความปรารถนาขอให้ "เขาโชคดีอย่างที่สุด"
ตามการสำรวจความคิดเห็นของบีบีซีแห่งอังกฤษใน 17 ประเทศทั่วโลกพบว่า ผู้คนถึงราวสองในสามทีเดียวที่เชื่อว่า โอบามาจะสามารถปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับประเทศอื่นๆ ในโลกให้ฟื้นคืนดีขึ้นมาได้
ทว่าในขณะที่กำลังมีความหวังกันสูงส่งมากมายทั้งภายในสหรัฐฯเองและจากทั่วโลก ทีมงานของโอบามาก็ออกมาขอร้องให้มีความอดทนกันหน่อย เนื่องจากปัญหาที่ประธานาธิบดีและคณะรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯต้องเผชิญนั้น มีมากมายมหาศาล
หลังจากพิธีสาบานตนของโอบามา และรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว คณะผู้นำใหม่ของสหรัฐฯก็จะรับประทานอาหารกลางกับกับพวกสมาชิกรัฐสภา, คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุด, ตลอดจนบรรดารัฐมนตรีและผู้ช่วยของโอบามา
จากนั้นจะเป็นรายการเดินพาเหรดไปตามถนนเพนซิลวาเนีย จากอาคารรัฐสภาสู่ทำเนียบขาว โดยที่จะมีทั้งวงดนตรีโยธวาทิต, ทหารผ่านศึก, สมาชิกสหภาพแรงงาน, และเด็กนักเรียน ร่วมเดินส่งโอบามาสู่ทำเนียบอันเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของสหรัฐฯ
แต่การเฉลิมฉลองในวันนี้ยังไม่จบสิ้นเพียงเท่านี้ ในช่วงค่ำคืนยังมีการจัดงานบอลล์เนื่องในพิธีสาบานตนของประธานาธิบดี เฉพาะที่เป็นงานบอลล์อย่างเป็นทางการก็มีถึง 10 งาน
