เอเจนซี – ศาลสูงสุดแคลิฟอร์เนียสั่งจำคุกหญิงเจ้าของสุนัข 2 ตัวเป็นเวลา 15 ปี เมื่อวันจันทร์ (22) หลังสุนัขที่เธอเลี้ยงไว้รุมขย้ำเพื่อนบ้านจนเสียชีวิตเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
มาร์โจรี โคลเลอร์ ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา แต่ไม่มีการไตร่ตรองไว้ก่อน หลังปล่อยสุนัข 2 ตัวรุมขย้ำไดแอน วิพเพิล เพื่อนบ้านคนหนึ่ง จนเสียชีวิตบริเวณทางเดินภายในอพาร์ตเมนต์ เมื่อปี 2001 แต่ภายหลังศาลแขวงลอสแองเจลิสได้ลดข้อหาลงมาเหลือเพียงฆาตกรรมโดยไม่ได้เจตนา และได้ตัดสินจำคุกโคลเลอร์เป็นเวลา 4 ปี ในข้อหาดังกล่าวเมื่อปี 2002
อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้วศาลสูงสุดของแคลิฟอร์เนียได้รับคดีดังกล่าวมาสอบสวน ก่อนที่จะมีความเห็นเมื่อเดือนที่แล้วว่าโคลเลอร์มีความผิดในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา แต่ไม่มีการไตร่ตรองไว้ก่อน ก่อนที่จะตัดสินจำคุกผู้ต้องหาเป็นเวลา 15 ปีในที่สุด
ชาร์ล็อตต์ วูลาร์ด ผู้พิพากษาศาลสูงสุดแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ได้โทรศัพท์แจ้ง 911 หรือพยายามที่จะช่วยเหยื่อระหว่างถูกสุนัขขย้ำเป็นเวลานานกว่า 10 นาที และทั้งๆ ที่ผู้ต้องหารู้ว่าสุนัขเป็นอันตราย แต่ก็ไม่สนใจคำเตือนที่ให้ฝึกสุนัข รวมถึงแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ผู้ต้องหากล่าวโทษเหยื่อ และให้ความสำคัญกับสุนัขมากกว่ามนุษย์ด้วยกัน” ผู้พิพากษาศาลสูงสุดแคลิฟอร์เนีย ระบุ
คดีดังกล่าวซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับการฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีของสุนัขคดีแรกของแคลิฟอร์เนีย สร้างความสะเทือนขวัญให้กับชาวอเมริกันถึงความดุร้ายของสุนัข 2 ตัว หลังรุมขย้ำเหยื่อจนร่างเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะกว่า 70 แห่ง และกัดเสื้อผ้าของเหยื่อจนขาดกระจุย ขณะที่ โคลเลอร์ และโรเบิร์ต โนเอล สามีของเธอ กลับโทษว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดของวิพเพิล
โคลเลอร์ และสามียังได้อ้างด้วยว่า พวกเขาเลี้ยงสุนัข 2 ตัวนี้แทนพอล “คอร์นเฟ็ด” ชไนเดอร์ ลูกชายบุญธรรม ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้าเครือข่ายสุนัขที่มีนิสัยจู่โจมและขย้ำเหยื่อ
ทั้งนี้ โคลเลอร์ ซึ่งถูกจำคุกมาแล้ว 3 ปี จะต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำไปอีก 12 ปี ก่อนที่จะสามารถยื่นเรื่องขอปล่อยตัวโดยมีทัณฑ์บนได้
