นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวภายหลังการประชุมพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)ว่าที่ประชุมมีการตรวจสอบดำเนินการของกระทรวงต่างๆ เพื่อความเห็นชอบของ 8 กระทรวง รวมทั้งหมด 43 ฉบับ การที่รัฐบาลต้องเร่งรัดความเห็นชอบต่อสภา เพราะมีความจำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมาก
ทั้งนี้วิปรัฐบาลต่างเห็นชอบในกรอบสัญญาเป็นที่เรียบร้อย มติวิปจึงเห็นว่าตามมาตรา190 ให้มีพระราชบัญญัติกำหนดแผนขั้นตอน และกระบวนการในการทำสัญญากับต่างประเทศ ตามกฏหมาย รัฐธรมนูญ 2550 ภายใต้เงื่อนไขมาตรา190 วรรค2 ยังไม่ได้มีกรอบกฏหมายพระราชบัญญัติกำหนดไว้ จึงเห็นว่าควรมีบรรทัดฐานชัดเจนในการที่จะให้ความเห็นชอบ ซึ่งก่อนที่รัฐสภาจะเห็นชอบ ต้องให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทน และหัวหน้ารัฐบาล ที่จะต้องทำสัญญา หรือข้อตกลง ภายใต้ความรับผิดชอบของชาติบ้านเมือง ดังนั้นวิปรัฐบาลจึงเห็นว่า ควรที่จะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้รัฐบาลเห็นชอบตามข้อตกลงของผู้นำอาเซียนต่อไป
ทั้งนี้นายชินวรณ์ กล่าวว่า การประชุมสภา จะเปิดประชุมในวันที่ 26-27ม.ค.นี้
ส่วนกรณีกลุ่มเสื้อแดง จะมาชุมนุมในการประชุมอาเซียนนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า วิปรัฐบาลได้พูดคุยกันอย่างกว้างขวาง แต่เข้าใจว่าแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ควรจะตระหนักว่า การประชุมผู้นำสุดยอดอาเซียน ซึ่งประเทศไทยเป็นตัวแทน เลขาธิการอาเซียนก็เป็นคนไทย ที่สำคัญผลจากการประชุมผู้นำสุดยอดนี้ นอกจากเป็นผลต่อความเชื่อมั่นของไทยแล้ว ผลการลงนามต่างๆนั้น เห็นชัดเจนว่าเป็นผลผระโยชน์ต่อคนไทย ต่อประเทศชาติบ้านเมือง หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ที่จะทำให้การดำเนินการประชุมครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่มเสื้อแดงจะไปยื่นหนังสือเพื่อขอให้มีการประชุมเลื่อนออกไปก่อนนั้น ก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่โดยข้อเท็จจริง กระบวนการในการเตรียมการจัดประชุมผู้นำอาเซียนนั้นมีการเตรียมการมาจากรัฐาลชุดที่แแล้ว มีการทำข้อตกลงกับประเทศต่างๆ เห็นว่าการประชุม กว่าจะได้เงื่อนไขตกลงจากทุกฝ่ายก็เป็นเรื่องที่ยาก วันนี้เมื่อทุกฝ่ายให้ความร่วมมือทุกคนก็ไม่อยากให้มีอุปสรรค
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่าในการประชุมสภาที่จะมีขึ้น วิปรัฐบาลซึ่งเป็นตัวแทนของทุกพรรค เห็นพ้องต้องกันว่า จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรร โดยเฉพาะจะขอความร่วมมือจากรัฐมนตรี และวิปรัฐบาล เพื่อให้ประสานงานกับ ส.ส.ให้เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง เชื่อว่าสมาชิกสภาทุกคนต่างก็มีความรับผิดชอบ มีวุฒิภาวะ จึงไม่จำเป็นต้องมีบทลงโทษผูที่ไม่ได้เข้าประชุม
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า จะมีการนัดประชุมวิปรัฐบาล ทั้ง3 ฝ่ายในวันที่ 22 ม.ค. ให้ทางฝ่ายประสานงานต่อวิปทั้ง 3 ให้มาตกลงร่วมกันว่า จะให้เวลาฝ่ายใดเท่าไร คือจะให้เวลาอภิปราย 2 วัน 28 ชั่วโมง จะมีการแบ่งเวลาเป็น ให้รมต. 5 ชั่วโมง รัฐบาล 6 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน 8 ชั่วโมง ส.ว. 6 ชั่วโมง เพราะจะต้องกันเวลาไว้จำนวนหนึ่ง เนื่องจากการลงมติในกรอบการเจรจาข้อตกลงนี้ เป็นรายญัตติ ไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
เมื่อถามว่าวิปรัฐบาลได้เตรียมการรับมือการอภิปราย ไม่ให้ขยายความออกนอกกรอบเจรจาที่จะมีการอภิปรายพาดพิงถึง นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ อย่างไร นายชินวรณ์ กล่าว่า มีการพูดถึงเช่นเดียวกันว่า ในการอภิปรายในครั้งนี้ เนื่องจากการทรวงการต่างประเทศ ถือว่าเป็นกระทรวงเจ้าภาพหลักในการเสนอกรอบเจรจา และข้อสัญญาที่มีความสำคัญโดยเฉพาะ คำประกาศที่หัวหิน
"เป็นเป้าหมายของฝ่ายนค้านที่จะพูดถึงกรอบสัญญาที่จะเกิดขึ้น จากการตั้งสมาคม ความมั่นคงของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งจะเน้นประโยชน์ของประเทศอาเซียนของเราในอนาคต และประโยชน์ของประเทศไทย ซึ่งเกรงว่าฝ่ายค้าน จะนำเรื่องส่วนตัวของ รมว.ต่างประเทศ มาพูดจาซึ่ง เราคิดว่าส่วนใดที่ไม่ขัดต่อข้อบังคับ วิปรัฐาลก็ไม่ขัดข้อง สามารถอภิปรายได้ และสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัว รัฐมนตรี ก็มีสิทธิที่จะชี้แจงได้ " นายชินวรณ์กล่าว
เมื่อ ถามว่าที่ประชุมได้มีการหารือหรือไม่ว่า กลุ่มเสื้อแดง เตรียมที่จะมีการให้ ส.ส. พรรคฝ่ายค้านล้มการประชุมเกี่ยวกับข้อตลลงร่วม ตามกรอบ มาตรา 190 เพื่อไม่ให้ผ่านทั้ง 43 ฉบับ นายชินวรณ์ กล่าว่า คงไม่มี เนื่องจากได้ฟังคำสัมภาษณ์จากแกนนำเสื้อแดง ก็เห็นชัดเจนว่าจะไม่ขัดขวางการพิจารณารัฐมนตรีที่รัฐสภา เพื่อการพิจารณากรอบอาเซียน เนื่องจาก เรื่องนี้ได้ดำเนินการมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว เป็นเรื่องประเทศชาติบ้านเมือง ทั้งนี้ตนเชื่อว่าไม่มีกลุ่มใด ไปดำเนินการจูงใจหรือขัดขวางการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาได้
ทั้งนี้วิปรัฐบาลต่างเห็นชอบในกรอบสัญญาเป็นที่เรียบร้อย มติวิปจึงเห็นว่าตามมาตรา190 ให้มีพระราชบัญญัติกำหนดแผนขั้นตอน และกระบวนการในการทำสัญญากับต่างประเทศ ตามกฏหมาย รัฐธรมนูญ 2550 ภายใต้เงื่อนไขมาตรา190 วรรค2 ยังไม่ได้มีกรอบกฏหมายพระราชบัญญัติกำหนดไว้ จึงเห็นว่าควรมีบรรทัดฐานชัดเจนในการที่จะให้ความเห็นชอบ ซึ่งก่อนที่รัฐสภาจะเห็นชอบ ต้องให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทน และหัวหน้ารัฐบาล ที่จะต้องทำสัญญา หรือข้อตกลง ภายใต้ความรับผิดชอบของชาติบ้านเมือง ดังนั้นวิปรัฐบาลจึงเห็นว่า ควรที่จะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้รัฐบาลเห็นชอบตามข้อตกลงของผู้นำอาเซียนต่อไป
ทั้งนี้นายชินวรณ์ กล่าวว่า การประชุมสภา จะเปิดประชุมในวันที่ 26-27ม.ค.นี้
ส่วนกรณีกลุ่มเสื้อแดง จะมาชุมนุมในการประชุมอาเซียนนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า วิปรัฐบาลได้พูดคุยกันอย่างกว้างขวาง แต่เข้าใจว่าแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ควรจะตระหนักว่า การประชุมผู้นำสุดยอดอาเซียน ซึ่งประเทศไทยเป็นตัวแทน เลขาธิการอาเซียนก็เป็นคนไทย ที่สำคัญผลจากการประชุมผู้นำสุดยอดนี้ นอกจากเป็นผลต่อความเชื่อมั่นของไทยแล้ว ผลการลงนามต่างๆนั้น เห็นชัดเจนว่าเป็นผลผระโยชน์ต่อคนไทย ต่อประเทศชาติบ้านเมือง หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ที่จะทำให้การดำเนินการประชุมครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่มเสื้อแดงจะไปยื่นหนังสือเพื่อขอให้มีการประชุมเลื่อนออกไปก่อนนั้น ก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่โดยข้อเท็จจริง กระบวนการในการเตรียมการจัดประชุมผู้นำอาเซียนนั้นมีการเตรียมการมาจากรัฐาลชุดที่แแล้ว มีการทำข้อตกลงกับประเทศต่างๆ เห็นว่าการประชุม กว่าจะได้เงื่อนไขตกลงจากทุกฝ่ายก็เป็นเรื่องที่ยาก วันนี้เมื่อทุกฝ่ายให้ความร่วมมือทุกคนก็ไม่อยากให้มีอุปสรรค
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่าในการประชุมสภาที่จะมีขึ้น วิปรัฐบาลซึ่งเป็นตัวแทนของทุกพรรค เห็นพ้องต้องกันว่า จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรร โดยเฉพาะจะขอความร่วมมือจากรัฐมนตรี และวิปรัฐบาล เพื่อให้ประสานงานกับ ส.ส.ให้เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง เชื่อว่าสมาชิกสภาทุกคนต่างก็มีความรับผิดชอบ มีวุฒิภาวะ จึงไม่จำเป็นต้องมีบทลงโทษผูที่ไม่ได้เข้าประชุม
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า จะมีการนัดประชุมวิปรัฐบาล ทั้ง3 ฝ่ายในวันที่ 22 ม.ค. ให้ทางฝ่ายประสานงานต่อวิปทั้ง 3 ให้มาตกลงร่วมกันว่า จะให้เวลาฝ่ายใดเท่าไร คือจะให้เวลาอภิปราย 2 วัน 28 ชั่วโมง จะมีการแบ่งเวลาเป็น ให้รมต. 5 ชั่วโมง รัฐบาล 6 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน 8 ชั่วโมง ส.ว. 6 ชั่วโมง เพราะจะต้องกันเวลาไว้จำนวนหนึ่ง เนื่องจากการลงมติในกรอบการเจรจาข้อตกลงนี้ เป็นรายญัตติ ไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
เมื่อถามว่าวิปรัฐบาลได้เตรียมการรับมือการอภิปราย ไม่ให้ขยายความออกนอกกรอบเจรจาที่จะมีการอภิปรายพาดพิงถึง นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ อย่างไร นายชินวรณ์ กล่าว่า มีการพูดถึงเช่นเดียวกันว่า ในการอภิปรายในครั้งนี้ เนื่องจากการทรวงการต่างประเทศ ถือว่าเป็นกระทรวงเจ้าภาพหลักในการเสนอกรอบเจรจา และข้อสัญญาที่มีความสำคัญโดยเฉพาะ คำประกาศที่หัวหิน
"เป็นเป้าหมายของฝ่ายนค้านที่จะพูดถึงกรอบสัญญาที่จะเกิดขึ้น จากการตั้งสมาคม ความมั่นคงของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งจะเน้นประโยชน์ของประเทศอาเซียนของเราในอนาคต และประโยชน์ของประเทศไทย ซึ่งเกรงว่าฝ่ายค้าน จะนำเรื่องส่วนตัวของ รมว.ต่างประเทศ มาพูดจาซึ่ง เราคิดว่าส่วนใดที่ไม่ขัดต่อข้อบังคับ วิปรัฐาลก็ไม่ขัดข้อง สามารถอภิปรายได้ และสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัว รัฐมนตรี ก็มีสิทธิที่จะชี้แจงได้ " นายชินวรณ์กล่าว
เมื่อ ถามว่าที่ประชุมได้มีการหารือหรือไม่ว่า กลุ่มเสื้อแดง เตรียมที่จะมีการให้ ส.ส. พรรคฝ่ายค้านล้มการประชุมเกี่ยวกับข้อตลลงร่วม ตามกรอบ มาตรา 190 เพื่อไม่ให้ผ่านทั้ง 43 ฉบับ นายชินวรณ์ กล่าว่า คงไม่มี เนื่องจากได้ฟังคำสัมภาษณ์จากแกนนำเสื้อแดง ก็เห็นชัดเจนว่าจะไม่ขัดขวางการพิจารณารัฐมนตรีที่รัฐสภา เพื่อการพิจารณากรอบอาเซียน เนื่องจาก เรื่องนี้ได้ดำเนินการมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว เป็นเรื่องประเทศชาติบ้านเมือง ทั้งนี้ตนเชื่อว่าไม่มีกลุ่มใด ไปดำเนินการจูงใจหรือขัดขวางการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาได้