นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงข้อเสนอให้ออกกฎหมาย นิรโทษกรรมให้กับนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากการถูกยุบพรรคว่า เป็นเพียงข้อเสนอแนะขึ้นมา ซึ่งก็ต้องเอามาดูกันว่าดำเนินการได้เพียงใด เพราะเป็นเรื่องของสภา ที่สำคัญจะต้องอยู่ที่ความพึงพอใจของประชาชนด้วย ดังนั้นจึงเร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเท่าที่ทราบก็มีเพียงข่าว ยังไม่มีใครเสนอออกมาจริงจัง แต่หากมีการเสนอก็ต้องนำมาพูดคุยหารือกันก่อน
ส่วนการตั้งพรรคภูมิใจไทยที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 2 นั้น นายถาวร กล่าวว่า ต้องอนุโมทนาสาธุให้กับเพื่อนที่ตั้งพรรคการเมืองได้ เพราะความจริงพรรคการเมืองควรจะเป็นสถาบัน เมื่อทำได้ก็ดีใจ และคงไม่ไปคิดอิจฉาริษยาอะไร เพราะถ้าทำอย่างนั้นก็ถือว่าใจแคบ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคที่ใจแคบ
เราไม่กลัวว่าจะเป็นการวมตัวของ ส.ส.เพื่อต่อรองกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะการดำเนินการอะไรต้องเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและใครที่จะทำอะไรที่ประชาชนไม่ต้องการก็อยู่ไม่ได้
นายชำนิ ศักดิเศรษฐ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการเรียกร้อง ให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรม ีว่า คงเป็นการเรียกร้องส่วนบุคคล โดยในพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ ตนในฐานะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งรู้เห็นการจัดตั้งรัฐบาลมาโดยตลอด ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ยื่นข้อเสนอเรื่องออกกฎหมาย นิรโทษกรรม เพื่อให้พรรคร่วม หรือกลุ่มเพื่อนเนวินเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล และเขาก็ไม่ได้เสนอเงื่อนไขนี้แต่อย่างใด
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้คณะกรรมการปฏิรูปการเมืองไปศึกษาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าคณะกรรมการชุดดังกล่าว เล็งเห็นว่าควรแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 237 ก็ไม่จำเป็น ต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะออกกฎหมาย นิรโทษกรรม เพราะควรรอผลการศึกษาคณะกรรมการปฏิรูปการเมืองที่จะตั้งขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งถ้าเห็นควรว่าต้องแก้มาตรา 237 ก็ปลดล็อคบุคคลที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคณะกรรมการชุดนี้คงมีรูปแบบคล้ายๆ กับ ส.ส.ร. ที่เปิดโอกาสให้แต่ละภาคส่วนในสังคมเข้ามามีส่วนร่วม
นายทิวา เงินยวง ส.ส. กทม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้รอคำสั่งจาก นายกรัฐมนตรี ในการตั้งคณะกรรมการปฎิรูปการเมืองอยู่ คาดว่าจะตั้งได้ภายในวันนี้ (16 ม.ค.) ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าว เป็นกรรมการที่ดูแลเรื่องปฏิรูปการเมือง เป็นหลัก ว่าจะปรับปรุงหรือปฎิรูปอย่างไร โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนากรัฐมนตรี เป็นประธานโดยตำแหน่ง ซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 19 ม.ค.นี้ เวลา 16.00 น. ที่ตึกบัญชาการ ทำเนีนบรัฐบาล
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ใช้เงิน 2 แสนบาทต่อเดือน ดูแล ส.ส.ของพรรค เรื่องนี้เป็นการปล่อยข่าว และไม่เคยคิดเป็นคู่แข่งกับพรรคการเมืองใด อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า กระแสของพรรคเริ่มดีขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องไปใช้เงิน 30 ล้านบาท เพื่อดูด ส.ส.จากพรรคอื่น
นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คงไม่มีการดำเนินการอะไรกับ ส.ส.ภาคเหนือ และอีสานของพรรค ที่มีข่าวว่าทำหนังสือสอบถามไปยัง กกต.ว่า ยังสามารถเปลี่ยนพรรคต้นสังกัดได้หรือไม่ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเพียงการหารือไปยัง กกต. เท่านั้น และไม่มีความชัดเจนว่า ส.ส.ของพรรคจะย้ายพรรคจริงหรือไม่ เพราะทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถที่จะทำได้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความพยายามที่จะทาบทาม ส.ส.ของพรรค ให้ไปอยู่กับพรรคอื่นด้วยเงินจำนวนมาก ซึ่งมีการดำเนินการเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ตนไม่ได้หมายถึงหรือเจาะจงพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง เพราะเรื่องนี้มีความพยายามทำกันมานานแล้ว
นายวิทยา กล่าวอีกว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่พรรคคู่แข่งของพรรคเพื่อไทย เพราะในอนาคตไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ และขอแสดงความยินดีกับ ส.ส.ที่เคยร่วมงานกันมา ที่ขณะนี้มีพรรคสังกัดและจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่าหากนายทะเบียนพรรคการเมืองตอบรัรบการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว ส.ส.ก็ไม่สามารถย้ายไปอยู่พรรคอื่นได้ ส่วนที่อ้างว่าอาจมีการปลอมแปลงเอกสารการสมัครเป็นสมาชิกพรรคนั้น ถ้าสงสัยก็สามารถแจ้งมายังนายทะเบียนพรรคให้ตรวจสอบได้ แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครกล้าปลอมเอกสารเพราะมี่ความผิดถึงขั้นยุบพรรค
ส่วนการตั้งพรรคภูมิใจไทยที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 2 นั้น นายถาวร กล่าวว่า ต้องอนุโมทนาสาธุให้กับเพื่อนที่ตั้งพรรคการเมืองได้ เพราะความจริงพรรคการเมืองควรจะเป็นสถาบัน เมื่อทำได้ก็ดีใจ และคงไม่ไปคิดอิจฉาริษยาอะไร เพราะถ้าทำอย่างนั้นก็ถือว่าใจแคบ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคที่ใจแคบ
เราไม่กลัวว่าจะเป็นการวมตัวของ ส.ส.เพื่อต่อรองกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะการดำเนินการอะไรต้องเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและใครที่จะทำอะไรที่ประชาชนไม่ต้องการก็อยู่ไม่ได้
นายชำนิ ศักดิเศรษฐ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการเรียกร้อง ให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรม ีว่า คงเป็นการเรียกร้องส่วนบุคคล โดยในพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ ตนในฐานะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งรู้เห็นการจัดตั้งรัฐบาลมาโดยตลอด ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ยื่นข้อเสนอเรื่องออกกฎหมาย นิรโทษกรรม เพื่อให้พรรคร่วม หรือกลุ่มเพื่อนเนวินเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล และเขาก็ไม่ได้เสนอเงื่อนไขนี้แต่อย่างใด
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้คณะกรรมการปฏิรูปการเมืองไปศึกษาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าคณะกรรมการชุดดังกล่าว เล็งเห็นว่าควรแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 237 ก็ไม่จำเป็น ต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะออกกฎหมาย นิรโทษกรรม เพราะควรรอผลการศึกษาคณะกรรมการปฏิรูปการเมืองที่จะตั้งขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งถ้าเห็นควรว่าต้องแก้มาตรา 237 ก็ปลดล็อคบุคคลที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคณะกรรมการชุดนี้คงมีรูปแบบคล้ายๆ กับ ส.ส.ร. ที่เปิดโอกาสให้แต่ละภาคส่วนในสังคมเข้ามามีส่วนร่วม
นายทิวา เงินยวง ส.ส. กทม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้รอคำสั่งจาก นายกรัฐมนตรี ในการตั้งคณะกรรมการปฎิรูปการเมืองอยู่ คาดว่าจะตั้งได้ภายในวันนี้ (16 ม.ค.) ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าว เป็นกรรมการที่ดูแลเรื่องปฏิรูปการเมือง เป็นหลัก ว่าจะปรับปรุงหรือปฎิรูปอย่างไร โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนากรัฐมนตรี เป็นประธานโดยตำแหน่ง ซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 19 ม.ค.นี้ เวลา 16.00 น. ที่ตึกบัญชาการ ทำเนีนบรัฐบาล
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ใช้เงิน 2 แสนบาทต่อเดือน ดูแล ส.ส.ของพรรค เรื่องนี้เป็นการปล่อยข่าว และไม่เคยคิดเป็นคู่แข่งกับพรรคการเมืองใด อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า กระแสของพรรคเริ่มดีขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องไปใช้เงิน 30 ล้านบาท เพื่อดูด ส.ส.จากพรรคอื่น
นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คงไม่มีการดำเนินการอะไรกับ ส.ส.ภาคเหนือ และอีสานของพรรค ที่มีข่าวว่าทำหนังสือสอบถามไปยัง กกต.ว่า ยังสามารถเปลี่ยนพรรคต้นสังกัดได้หรือไม่ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเพียงการหารือไปยัง กกต. เท่านั้น และไม่มีความชัดเจนว่า ส.ส.ของพรรคจะย้ายพรรคจริงหรือไม่ เพราะทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถที่จะทำได้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความพยายามที่จะทาบทาม ส.ส.ของพรรค ให้ไปอยู่กับพรรคอื่นด้วยเงินจำนวนมาก ซึ่งมีการดำเนินการเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ตนไม่ได้หมายถึงหรือเจาะจงพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง เพราะเรื่องนี้มีความพยายามทำกันมานานแล้ว
นายวิทยา กล่าวอีกว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่พรรคคู่แข่งของพรรคเพื่อไทย เพราะในอนาคตไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ และขอแสดงความยินดีกับ ส.ส.ที่เคยร่วมงานกันมา ที่ขณะนี้มีพรรคสังกัดและจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่าหากนายทะเบียนพรรคการเมืองตอบรัรบการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว ส.ส.ก็ไม่สามารถย้ายไปอยู่พรรคอื่นได้ ส่วนที่อ้างว่าอาจมีการปลอมแปลงเอกสารการสมัครเป็นสมาชิกพรรคนั้น ถ้าสงสัยก็สามารถแจ้งมายังนายทะเบียนพรรคให้ตรวจสอบได้ แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครกล้าปลอมเอกสารเพราะมี่ความผิดถึงขั้นยุบพรรค