ASTVผู้จัดการรายวัน – ย้อนรอย คดี “หมวดเจี๊ยบ” หนีราชการไปหา “แม้ว” ถึงอังกฤษ ยี่สิบวัน แต่ไม่ถูกไล่ออก เผย “บิ๊กสีเขียว” ในกองทัพทั้งอุ้มทั้งชู ปล่อยให้รับราชการในสังกัดสำนักงานเลขานุการกองทัพบกต่อ จนเจ้าตัวได้ใจกลับมาร่วมจัดรายการกับ นปช.-ลิ่วล้อระบอบทักษิณใน “ดี สเตชั่น”
จากกรณีที่ในช่วงสายวานนี้ (15 ม.ค.) คณะกรรมการบริหารบริษัท ดี สเตชั่น จำกัด ซึ่งประกอบไปด้วย อดีตคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย อดีตคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ส.ส.พรรคเพื่อไทย อดีต ส.ว. แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และผู้จัดรายการความจริงวันนี้ได้ร่วมกันแถลงข่าว เปิดตัวสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม “ดี สเตชั่น สถานีประชาธิปไตย” ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ โดยมีการเปิดเผย ผังรายการ และรายชื่อผู้ดำเนินรายการของสถานีดี สเตชั่นด้วย
ทั้งนี้ ในการเปิดเผยผังรายการดังกล่าว ปรากฏรายชื่อของ ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต หรือ หมวดเจี๊ยบ ผู้เขียนหนังสือ “ทักษิณ Where Are You?” และข้าราชการทหารสังกัดกองทัพบก ดำเนินรายการ “ห้องเรียนประชาธิปไตย” ร่วมกับ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำ นปช.
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถาม ร.ท.หญิงสุณิสา ถึงการมาจัดรายการในช่องดี สเตชั่นว่ายังคงรับราชการอยู่หรือไม่ เธอก็ตอบว่า ตนยังรับราชการทหารอยู่ในสังกัดสำนักงานเลขานุการกองทัพบก โดยการจัดรายการได้แจ้งกับผู้บังคับบัญชาแล้วว่าจะมาจัดรายการสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมดี สเตชั่น ในวันเสาร์และวันอาทิตย์
“ผู้บังคับบัญชาให้นำรูปแบบรายการไปให้พิจารณาอีกครั้ง แต่เชื่อว่าจะได้รับความกรุณาจากผู้บังคับบัญชาให้มาจัดรายการได้ เนื่องจากเราไม่ได้ใช้เวลาราชการในการมาจัดรายการ และข้าราชการทหารหลายคนไปเป็นพิธีกร และดารา ซึ่งหลายคนก็ได้รับการอนุญาตเหมือนกัน” ร.ท.หญิง สุณิสา หรือ หมวดเจี๊ยบกล่าว
กระนั้น การมาจัดรายการโทรทัศน์ร่วมกับ นักการเมืองพรรคพลังประชาชน และ แกนนำกลุ่ม นปช. ของ ร.ท.หญิง สุณิสา ก็ยังสร้างความเคลือบแคลงและสงสัยในหมู่ประชาชนว่า เธอทำงานนี้ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เคยทำผิดวินัยข้าราชการอย่างร้ายแรงมาก่อนเนื่องจากเคย ขาดราชการอย่างต่อเนื่องถึง 20 วัน ทั้งๆ ที่ทำเรื่องลาราชการเพียง 3 วัน
ย้อนรอย กรณีหนีราชการไปหา “แม้ว”
ชื่อ “หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัต โด่งดังมาจากหนังสือ “ทักษิณ Where Are You?” ซึ่งเป็นการเผยแพร่บทสัมภาษณ์พิเศษและชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และชีวิตในประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก โดยหมวดเจี๊ยบอ้างว่า หนังสือเล่มดังกล่าวเป็นการลงทุนด้วยเงินเก็บของตนเอง เพื่อเดินทางไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงประเทศอังกฤษ โดยมิได้มีการนัดหมายเอาไว้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามด้วยการวิงวอนของเธอสุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ จึงยินยอมให้สัมภาษณ์ในเดือน มิถุนายน 2550
ทั้งนี้ทั้งนั้น มีการเปิดเผยเบื้องหลังว่า จริงๆ แล้ว ในช่วงปลายเดือน พ.ค. 2550 ร.ท.หญิงสุณิสา ซึ่งขณะนั้นปฏิบัติหน้าที่เป็นนักข่าวสายต่างประเทศและผู้ประกาศข่าว ของ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) ได้ทำหนังสือขอลาพักผ่อน ในวันที่ 30, 31 พ.ค. และ 1 มิ.ย. 2550 โดยระบุว่าลาพักผ่อนอยู่ในเขตของกรุงเทพมหานคร แต่หลังจากยื่นใบลาไปแล้วเธอกลับเดินทางไปอังกฤษ เพื่อไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ และต้องรอจนถึงวันเสาร์ที่ 2 มิ.ย. 2550 จึงได้สัมภาษณ์
ในการเดินทางไปประเทศอังกฤษ ร.ท.หญิงสุณิสา ได้ไหว้วานให้เพื่อนที่ช่อง 5 อ่านข่าวแทน แต่ไม่ได้บอกว่าตนเองไปไหนและไม่มีการขอลาเพิ่ม จนกระทั่งวันที่ 20 มิ.ย. 2550 จึงเดินทางกลับมา ซึ่งขณะนั้นทาง ททบ.5 เห็นว่า ร.ท.หญิง สุณิสา ทำผิดวินัยและระเบียบหลายข้อจึงส่งตัวกลับต้นสังกัด คือ สำนักงานเลขานุการกองทัพบก โดยให้เหตุผลว่าทำผิดถึง 19 ข้อหา พร้อมกับตั้งกรรมการสอบวินัย ซึ่งในขณะนั้น ททบ.5 ยังไม่ทราบว่า ร.ท.หญิงสุณิสาเดินทางไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงประเทศอังกฤษ จนกระทั่ง ร.ท.หญิงสุณิสาให้สัมภาษณ์นักข่าวเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2550 และกองทัพบกได้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยถึง 4 ชั่วโมง ในวันที่ 2 ส.ค. 2550
เมื่อหนังสือ “ทักษิณ Where Are You?” ถูกนำมาเผยแพร่และ ร.ท.หญิง สุณิสา กลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในสังคม ก็เกิดปรากฎการณ์ที่สื่อมวลชนหลายแขนงพยายามจะขอสัมภาษณ์และอุ้มชูเธอ โดยสื่อมวลชนส่วนใหญ่ยายามนำเสนอข่าวในเชิงว่า เธอถูกผู้ใหญ่ในกองทัพรังแกและบีบให้ออกจากราชการ แต่สื่อมวลชนส่วนใหญ่กลับมิได้กล่าวถึง กรณีทำผิดวินัยข้าราชการและทหารของ ร.ท.หญิง สุณิสา แต่อย่างใด
“การได้เป็นคนข่าวเป็นสิ่งที่เจี๊ยบรักและอยากทำให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องการเขียนหนังสือ หรือเขียนบทละคร เป็นแค่งานเสริมเท่านั้น ซึ่งเรามองว่า มันไม่ขัดกับอาชีพทหาร ถึงวันนี้เจี๊ยบไม่ได้อยากให้ คนรู้จักมากมายแต่อยากให้คนยอมรับมากกว่า ถ้าคนเกลียดเจี๊ยบก็คงเสียใจ อยากให้คนรักและเข้าใจ มากกว่าการมีชื่อเสียง ขอยืนยันว่าไม่มีใครซื้อเจี๊ยบได้ หรือใช้เป็นเครื่องมือ ... ทุกอย่างเขียนออกมาจากสมองและสองมือตัวเองล้วนๆ ถึงเจี๊ยบจะไม่ใช่คนวิเศษเลิศเลอมาจากไหน แต่เจี๊ยบก็รักในศักดิ์ศรีของตัวเองเหมือนกัน และยังรักในอาชีพทหาร อยากจะเป็นทหารไปจนกว่าทางกองทัพบอกว่าไม่ต้องการเจี๊ยบแล้ว” หมวดเจี๊ยบกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์ที่ 5 ส.ค. 50
ต่อมาในวันที่ 8 ส.ค. 50 พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าว ร.ท.หญิง สุณิสา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นทหารว่า ได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่า ร.ท.หญิง สุณิสา ยังไม่ได้ยื่นใบลาออก เพียงแต่ได้เข้าไปขอคำปรึกษา พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศาล เลขานุการกองทัพบก ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง โดย พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การลาออกถือเป็นเรื่องส่วนตัวของกำลังพลแต่ละคน อย่างไรก็ตาม เรื่องการลาออกจากราชการของ ร.ท.หญิง สุณิสา ก็เงียบหายไปจนกระทั่งวันนี้
แฉ! มีบิ๊กสีเขียวอุ้ม
สำหรับประเด็นดังกล่าวแหล่งข่าวในกองทัพเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ ว่า หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีนายพลใหญ่ใน คมช. คนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันก็เป็นผู้ที่มีอำนาจสูงในกองทัพบก และ ททบ.5 ได้ยื่นมือเข้าช่วย ร.ท.สุณิสา มิให้ถูกไล่ออกจากราชการและช่วยให้สามารถรับราชการในสังกัดสำนักงานเลขานุการกองทัพบกต่อไปได้
“เรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องน่าตกใจที่กองทัพบก ยังเก็บ ร.ท.หญิง สุณิสา ไว้อยู่ทั้งๆ ที่เป็นการทำผิดวินัยและระเบียบข้าราชการอย่างโจ่งแจ้ง เนื่องจากขาดราชการเกือบ 20 วันโดยไม่แจ้ง อีกทั้งยังเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่รายงานต่อผู้บังคับบัญชาอีกด้วย ยิ่งมาเปิดตัวเป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ของฝ่ายระบอบทักษิณด้วย ก็ไม่รู้ว่า ผบ.ทบ. และ กองทัพจะอยู่เฉยได้อย่างไร” แหล่งข่าวกล่าว
การกลับมาปรากฏตัวในฐานะผู้ดำเนินรายการทางสถานีดี สเตชั่น ครั้งนี้ของ “หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต แท้จริงแล้วมิเพียงเป็นใบเสร็จที่ชี้ชัดว่า แท้จริงแล้วหมวดเจี๊ยบเดินทางไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงประเทศอังกฤษนั้นเธอไปโดยบริสุทธิ์ใจหรือไม่ แต่ยังเป็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่า ในกองทัพบกไทยยังมีเรื่องเน่าเฟะ และความไม่ถูกต้องแฝงอยู่อีกมาก.
จากกรณีที่ในช่วงสายวานนี้ (15 ม.ค.) คณะกรรมการบริหารบริษัท ดี สเตชั่น จำกัด ซึ่งประกอบไปด้วย อดีตคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย อดีตคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ส.ส.พรรคเพื่อไทย อดีต ส.ว. แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และผู้จัดรายการความจริงวันนี้ได้ร่วมกันแถลงข่าว เปิดตัวสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม “ดี สเตชั่น สถานีประชาธิปไตย” ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ โดยมีการเปิดเผย ผังรายการ และรายชื่อผู้ดำเนินรายการของสถานีดี สเตชั่นด้วย
ทั้งนี้ ในการเปิดเผยผังรายการดังกล่าว ปรากฏรายชื่อของ ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต หรือ หมวดเจี๊ยบ ผู้เขียนหนังสือ “ทักษิณ Where Are You?” และข้าราชการทหารสังกัดกองทัพบก ดำเนินรายการ “ห้องเรียนประชาธิปไตย” ร่วมกับ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำ นปช.
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถาม ร.ท.หญิงสุณิสา ถึงการมาจัดรายการในช่องดี สเตชั่นว่ายังคงรับราชการอยู่หรือไม่ เธอก็ตอบว่า ตนยังรับราชการทหารอยู่ในสังกัดสำนักงานเลขานุการกองทัพบก โดยการจัดรายการได้แจ้งกับผู้บังคับบัญชาแล้วว่าจะมาจัดรายการสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมดี สเตชั่น ในวันเสาร์และวันอาทิตย์
“ผู้บังคับบัญชาให้นำรูปแบบรายการไปให้พิจารณาอีกครั้ง แต่เชื่อว่าจะได้รับความกรุณาจากผู้บังคับบัญชาให้มาจัดรายการได้ เนื่องจากเราไม่ได้ใช้เวลาราชการในการมาจัดรายการ และข้าราชการทหารหลายคนไปเป็นพิธีกร และดารา ซึ่งหลายคนก็ได้รับการอนุญาตเหมือนกัน” ร.ท.หญิง สุณิสา หรือ หมวดเจี๊ยบกล่าว
กระนั้น การมาจัดรายการโทรทัศน์ร่วมกับ นักการเมืองพรรคพลังประชาชน และ แกนนำกลุ่ม นปช. ของ ร.ท.หญิง สุณิสา ก็ยังสร้างความเคลือบแคลงและสงสัยในหมู่ประชาชนว่า เธอทำงานนี้ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เคยทำผิดวินัยข้าราชการอย่างร้ายแรงมาก่อนเนื่องจากเคย ขาดราชการอย่างต่อเนื่องถึง 20 วัน ทั้งๆ ที่ทำเรื่องลาราชการเพียง 3 วัน
ย้อนรอย กรณีหนีราชการไปหา “แม้ว”
ชื่อ “หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัต โด่งดังมาจากหนังสือ “ทักษิณ Where Are You?” ซึ่งเป็นการเผยแพร่บทสัมภาษณ์พิเศษและชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และชีวิตในประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก โดยหมวดเจี๊ยบอ้างว่า หนังสือเล่มดังกล่าวเป็นการลงทุนด้วยเงินเก็บของตนเอง เพื่อเดินทางไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงประเทศอังกฤษ โดยมิได้มีการนัดหมายเอาไว้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามด้วยการวิงวอนของเธอสุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ จึงยินยอมให้สัมภาษณ์ในเดือน มิถุนายน 2550
ทั้งนี้ทั้งนั้น มีการเปิดเผยเบื้องหลังว่า จริงๆ แล้ว ในช่วงปลายเดือน พ.ค. 2550 ร.ท.หญิงสุณิสา ซึ่งขณะนั้นปฏิบัติหน้าที่เป็นนักข่าวสายต่างประเทศและผู้ประกาศข่าว ของ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) ได้ทำหนังสือขอลาพักผ่อน ในวันที่ 30, 31 พ.ค. และ 1 มิ.ย. 2550 โดยระบุว่าลาพักผ่อนอยู่ในเขตของกรุงเทพมหานคร แต่หลังจากยื่นใบลาไปแล้วเธอกลับเดินทางไปอังกฤษ เพื่อไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ และต้องรอจนถึงวันเสาร์ที่ 2 มิ.ย. 2550 จึงได้สัมภาษณ์
ในการเดินทางไปประเทศอังกฤษ ร.ท.หญิงสุณิสา ได้ไหว้วานให้เพื่อนที่ช่อง 5 อ่านข่าวแทน แต่ไม่ได้บอกว่าตนเองไปไหนและไม่มีการขอลาเพิ่ม จนกระทั่งวันที่ 20 มิ.ย. 2550 จึงเดินทางกลับมา ซึ่งขณะนั้นทาง ททบ.5 เห็นว่า ร.ท.หญิง สุณิสา ทำผิดวินัยและระเบียบหลายข้อจึงส่งตัวกลับต้นสังกัด คือ สำนักงานเลขานุการกองทัพบก โดยให้เหตุผลว่าทำผิดถึง 19 ข้อหา พร้อมกับตั้งกรรมการสอบวินัย ซึ่งในขณะนั้น ททบ.5 ยังไม่ทราบว่า ร.ท.หญิงสุณิสาเดินทางไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงประเทศอังกฤษ จนกระทั่ง ร.ท.หญิงสุณิสาให้สัมภาษณ์นักข่าวเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2550 และกองทัพบกได้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยถึง 4 ชั่วโมง ในวันที่ 2 ส.ค. 2550
เมื่อหนังสือ “ทักษิณ Where Are You?” ถูกนำมาเผยแพร่และ ร.ท.หญิง สุณิสา กลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในสังคม ก็เกิดปรากฎการณ์ที่สื่อมวลชนหลายแขนงพยายามจะขอสัมภาษณ์และอุ้มชูเธอ โดยสื่อมวลชนส่วนใหญ่ยายามนำเสนอข่าวในเชิงว่า เธอถูกผู้ใหญ่ในกองทัพรังแกและบีบให้ออกจากราชการ แต่สื่อมวลชนส่วนใหญ่กลับมิได้กล่าวถึง กรณีทำผิดวินัยข้าราชการและทหารของ ร.ท.หญิง สุณิสา แต่อย่างใด
“การได้เป็นคนข่าวเป็นสิ่งที่เจี๊ยบรักและอยากทำให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องการเขียนหนังสือ หรือเขียนบทละคร เป็นแค่งานเสริมเท่านั้น ซึ่งเรามองว่า มันไม่ขัดกับอาชีพทหาร ถึงวันนี้เจี๊ยบไม่ได้อยากให้ คนรู้จักมากมายแต่อยากให้คนยอมรับมากกว่า ถ้าคนเกลียดเจี๊ยบก็คงเสียใจ อยากให้คนรักและเข้าใจ มากกว่าการมีชื่อเสียง ขอยืนยันว่าไม่มีใครซื้อเจี๊ยบได้ หรือใช้เป็นเครื่องมือ ... ทุกอย่างเขียนออกมาจากสมองและสองมือตัวเองล้วนๆ ถึงเจี๊ยบจะไม่ใช่คนวิเศษเลิศเลอมาจากไหน แต่เจี๊ยบก็รักในศักดิ์ศรีของตัวเองเหมือนกัน และยังรักในอาชีพทหาร อยากจะเป็นทหารไปจนกว่าทางกองทัพบอกว่าไม่ต้องการเจี๊ยบแล้ว” หมวดเจี๊ยบกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์ที่ 5 ส.ค. 50
ต่อมาในวันที่ 8 ส.ค. 50 พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าว ร.ท.หญิง สุณิสา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นทหารว่า ได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่า ร.ท.หญิง สุณิสา ยังไม่ได้ยื่นใบลาออก เพียงแต่ได้เข้าไปขอคำปรึกษา พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศาล เลขานุการกองทัพบก ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง โดย พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การลาออกถือเป็นเรื่องส่วนตัวของกำลังพลแต่ละคน อย่างไรก็ตาม เรื่องการลาออกจากราชการของ ร.ท.หญิง สุณิสา ก็เงียบหายไปจนกระทั่งวันนี้
แฉ! มีบิ๊กสีเขียวอุ้ม
สำหรับประเด็นดังกล่าวแหล่งข่าวในกองทัพเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ ว่า หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีนายพลใหญ่ใน คมช. คนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันก็เป็นผู้ที่มีอำนาจสูงในกองทัพบก และ ททบ.5 ได้ยื่นมือเข้าช่วย ร.ท.สุณิสา มิให้ถูกไล่ออกจากราชการและช่วยให้สามารถรับราชการในสังกัดสำนักงานเลขานุการกองทัพบกต่อไปได้
“เรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องน่าตกใจที่กองทัพบก ยังเก็บ ร.ท.หญิง สุณิสา ไว้อยู่ทั้งๆ ที่เป็นการทำผิดวินัยและระเบียบข้าราชการอย่างโจ่งแจ้ง เนื่องจากขาดราชการเกือบ 20 วันโดยไม่แจ้ง อีกทั้งยังเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่รายงานต่อผู้บังคับบัญชาอีกด้วย ยิ่งมาเปิดตัวเป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ของฝ่ายระบอบทักษิณด้วย ก็ไม่รู้ว่า ผบ.ทบ. และ กองทัพจะอยู่เฉยได้อย่างไร” แหล่งข่าวกล่าว
การกลับมาปรากฏตัวในฐานะผู้ดำเนินรายการทางสถานีดี สเตชั่น ครั้งนี้ของ “หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต แท้จริงแล้วมิเพียงเป็นใบเสร็จที่ชี้ชัดว่า แท้จริงแล้วหมวดเจี๊ยบเดินทางไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงประเทศอังกฤษนั้นเธอไปโดยบริสุทธิ์ใจหรือไม่ แต่ยังเป็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่า ในกองทัพบกไทยยังมีเรื่องเน่าเฟะ และความไม่ถูกต้องแฝงอยู่อีกมาก.