"สุขุมพันธุ์" ผู้ว่าฯ กทม.รับลูกเชือดสินบนอุโมงค์ฉาวญี่ปุ่น ลั่นเตรียมใช้วิธีการทางการทูตขอข้อมูล เดินหน้าสอบต่อเลี่ยงบกพร่องหน้าที่ ด้านปลัดกทม.เตรียมรายงานคืบหน้า ขณะที่กมธ.ป.ป.ช. หนุนไทยขอข้อมูลจากญี่ปุ่นจัดการนิชิมัตซิเข้าคุกติดสินบนเจ้าหน้าที่ไทย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีการสอบสวนคดีทุจริตติดสินบนการประมูลโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-ลาดพร้าวของกทม. ซึ่งล่าสุดนั้น อัยการประเทศญี่ปุ่นได้ส่งหลักฐานและข้อมูลมาให้รัฐบาลไทยว่า กทม.ก็ต้องมีการดำเนินการสอบสวนต่อในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งขอความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวตนเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่มีองค์กรต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องดังนั้นการดำเนินการเบื้องต้นต้องใช้การทูตเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งกทม.คงต้องประสานขอความร่วมมือจากรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศด้วย ทั้งนี้ในส่วนที่กทม.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนั้นก็ต้องให้มีการดำเนินต่อไป เพราะหากไม่ดำเนินการต่อก็ถือว่าบกพร่องในหน้าที่
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม. กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าทางอัยการญี่ปุ่นได้มีการแถลงจับกุมอดีตเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส และอดีตเจ้าหน้าที่อีก 3 คน ของบริษัทนิชิมัตสึ คอนสตรักชั่น จำกัด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ่ายสินบนอุโมงค์ระบายน้ำ โดยต้องรอให้ทางการญี่ปุ่นส่งข้อมูลมาให้กับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อที่จะได้ส่งข้อมูลต่อให้กับทางกทม.
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่จะส่งมายังกทม.นั้นจะต้องระบุให้ชัดเจนว่าใครเกี่ยวข้องในขั้นตอนใดบ้าง เพื่อกทม.จะได้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป ส่วนคณะกรรมการชุดปัจจุบันที่ดำเนินการตรวจสอบอยู่นั้น ก็ได้ตรวจสอบในประเด็นที่สำนักงานการตรวจเงินแผนดิน(สตง.) ลงในบันทึกกล่าวโทษมาที่มีการระบุรายชื่อว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ประเด็นราคาของที่สูงเกินจริง และประเด็นการติดสินบน ทั้งนี้ตนจะนำเรื่องความคืบหน้าการตรวจสอบสินบนอุโมงค์ระบายน้ำรายงานให้ผู้ว่าฯกทม.ทราบต่อไป
วันเดียวกันที่รัฐสภา นาย ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการตรวจสอบกรณีเงินสินบนของบริษัทนิชิมัตซึ คอนสตรัคชั่น และความไม่โปร่งใสในการดำเนินการโครงการของกรุงเทพมหานคร ในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นได้ระบุว่า ทางการญี่ปุ่นได้ส่งหลักฐานการทุจริตโครงการดังกล่าวถึงทางการไทยว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นเอกสาร แต่ถือเป็นเรื่องดีจะได้ช่วยกันตรวจสอบ เนื่องจากเป็นความเสียหายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการฯได้ส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบต่อไปแล้ว เพราะพบว่ามีการให้เงินสินบนของบริษัทนิชิมัตซึคอนตรัคชั่น ซึ่งทราบว่าทางป.ป.ช.ได้ตั้งคณะทำงานดำเนินการเรื่องนี้แล้ว และทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ได้ส่งรายงานผลการตรวจสอบโครงการดังกล่าวไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.โดยมีความเห็นเช่นเดียวกันกับคณะกรรมาธิการฯ ที่ระบุว่ามีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจงใจหลีกเลี่ยงหรือละเว้นการปฏิบัติตามขั้นตอนของทางราชการตั้งแต่กระบวนการเตรียมโครงการก่อนการประมูล โดยมีกลุ่มคนที่เข้าข่ายการกระทำผิดคือเจ้าหน้าที่ของรัฐคือ ตั้งแต่ผู้ว่าฯ- รองผู้ว่าฯกทม. ตลอดจนคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา รวมทั้งกลุ่มบริษัทเอกชน โดยเฉพาะบริษัทนิชิมัตซึฯ ซึ่งมีมูลว่าให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ กทม.ด้วย
นายชาญชัย กล่าวว่า ขณะนี้ทางหน่วยงานราชการของญี่ปุ่นก็ได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งอยากให้กระทรวงต่างประเทศประสานขอข้อมูลการตรวจสอบการทุจริตโครงการดังกล่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด และสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่น เพราะที่ผ่านมาเคยประสานขอข้อมูลไปก็อ้างว่าเป็นคดีระหว่างบุคคล และเป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการสอบสวนจึงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะเห็นว่าบริษัทนิชิมัติซึฯได้ปฎิเสธไม่ขอรับการคุ้มครองตามกฎหมายของญี่ปุ่น ดังนั้นหากกระทำความผิดโดยให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของไทยจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายไทยด้วย อย่างไรก็ตามอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยอัยการต้องขอข้อมูลการตรวจสอบการทุจริตจากญี่ปุ่นเพราะเข้าองค์ประกอบการทุจริตและเกิดความเสียหายระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงายว่าหลังจากที่มีรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นตีข่าว จึงทำให้สื่อมวลชนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่นได้มารอการแถลงข่าวจากนายชาญชัย ที่เกาะติดเรื่องนี้มาโดยตลอด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีการสอบสวนคดีทุจริตติดสินบนการประมูลโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-ลาดพร้าวของกทม. ซึ่งล่าสุดนั้น อัยการประเทศญี่ปุ่นได้ส่งหลักฐานและข้อมูลมาให้รัฐบาลไทยว่า กทม.ก็ต้องมีการดำเนินการสอบสวนต่อในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งขอความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวตนเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่มีองค์กรต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องดังนั้นการดำเนินการเบื้องต้นต้องใช้การทูตเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งกทม.คงต้องประสานขอความร่วมมือจากรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศด้วย ทั้งนี้ในส่วนที่กทม.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนั้นก็ต้องให้มีการดำเนินต่อไป เพราะหากไม่ดำเนินการต่อก็ถือว่าบกพร่องในหน้าที่
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม. กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าทางอัยการญี่ปุ่นได้มีการแถลงจับกุมอดีตเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส และอดีตเจ้าหน้าที่อีก 3 คน ของบริษัทนิชิมัตสึ คอนสตรักชั่น จำกัด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ่ายสินบนอุโมงค์ระบายน้ำ โดยต้องรอให้ทางการญี่ปุ่นส่งข้อมูลมาให้กับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อที่จะได้ส่งข้อมูลต่อให้กับทางกทม.
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่จะส่งมายังกทม.นั้นจะต้องระบุให้ชัดเจนว่าใครเกี่ยวข้องในขั้นตอนใดบ้าง เพื่อกทม.จะได้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป ส่วนคณะกรรมการชุดปัจจุบันที่ดำเนินการตรวจสอบอยู่นั้น ก็ได้ตรวจสอบในประเด็นที่สำนักงานการตรวจเงินแผนดิน(สตง.) ลงในบันทึกกล่าวโทษมาที่มีการระบุรายชื่อว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ประเด็นราคาของที่สูงเกินจริง และประเด็นการติดสินบน ทั้งนี้ตนจะนำเรื่องความคืบหน้าการตรวจสอบสินบนอุโมงค์ระบายน้ำรายงานให้ผู้ว่าฯกทม.ทราบต่อไป
วันเดียวกันที่รัฐสภา นาย ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการตรวจสอบกรณีเงินสินบนของบริษัทนิชิมัตซึ คอนสตรัคชั่น และความไม่โปร่งใสในการดำเนินการโครงการของกรุงเทพมหานคร ในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นได้ระบุว่า ทางการญี่ปุ่นได้ส่งหลักฐานการทุจริตโครงการดังกล่าวถึงทางการไทยว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นเอกสาร แต่ถือเป็นเรื่องดีจะได้ช่วยกันตรวจสอบ เนื่องจากเป็นความเสียหายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการฯได้ส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบต่อไปแล้ว เพราะพบว่ามีการให้เงินสินบนของบริษัทนิชิมัตซึคอนตรัคชั่น ซึ่งทราบว่าทางป.ป.ช.ได้ตั้งคณะทำงานดำเนินการเรื่องนี้แล้ว และทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ได้ส่งรายงานผลการตรวจสอบโครงการดังกล่าวไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.โดยมีความเห็นเช่นเดียวกันกับคณะกรรมาธิการฯ ที่ระบุว่ามีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจงใจหลีกเลี่ยงหรือละเว้นการปฏิบัติตามขั้นตอนของทางราชการตั้งแต่กระบวนการเตรียมโครงการก่อนการประมูล โดยมีกลุ่มคนที่เข้าข่ายการกระทำผิดคือเจ้าหน้าที่ของรัฐคือ ตั้งแต่ผู้ว่าฯ- รองผู้ว่าฯกทม. ตลอดจนคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา รวมทั้งกลุ่มบริษัทเอกชน โดยเฉพาะบริษัทนิชิมัตซึฯ ซึ่งมีมูลว่าให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ กทม.ด้วย
นายชาญชัย กล่าวว่า ขณะนี้ทางหน่วยงานราชการของญี่ปุ่นก็ได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งอยากให้กระทรวงต่างประเทศประสานขอข้อมูลการตรวจสอบการทุจริตโครงการดังกล่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด และสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่น เพราะที่ผ่านมาเคยประสานขอข้อมูลไปก็อ้างว่าเป็นคดีระหว่างบุคคล และเป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการสอบสวนจึงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะเห็นว่าบริษัทนิชิมัติซึฯได้ปฎิเสธไม่ขอรับการคุ้มครองตามกฎหมายของญี่ปุ่น ดังนั้นหากกระทำความผิดโดยให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของไทยจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายไทยด้วย อย่างไรก็ตามอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยอัยการต้องขอข้อมูลการตรวจสอบการทุจริตจากญี่ปุ่นเพราะเข้าองค์ประกอบการทุจริตและเกิดความเสียหายระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงายว่าหลังจากที่มีรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นตีข่าว จึงทำให้สื่อมวลชนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่นได้มารอการแถลงข่าวจากนายชาญชัย ที่เกาะติดเรื่องนี้มาโดยตลอด