xs
xsm
sm
md
lg

"โอบามา"เร่งขอเงิน$350,000ล. พร้อมใช้แก้ศก.ทันทีที่รับตำแหน่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - ว่าที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์(12)เดินหน้าเตรียมการสำคัญ เพื่อให้สามารถลงมือปฏิบัติการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ ทันทีที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งให้คำมั่นด้วยว่าจะไม่ใช้เงินอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือของกองทุนช่วยชีวิตภาคการเงิน 700,000 ล้านดอลลาร์ ไปในทางที่เปล่าประโยชน์

ภายหลังที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงว่าใช้เงินครึ่งแรกของกองทุนนี้ หรือ 350,000 ล้านดอลลาร์ ไปโดยที่ไม่มีความโปร่งใสและไม่มีความรับผิดชอบต่อผู้เสียภาษีเท่าที่ควร โอบามาก็ได้ออกมาบอกในวันจันทร์ว่า จะปรับปรุงปฏิรูปการใช้เงินอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ ให้เป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้ผ่านรัฐสภายอมอนุมัติเงินก้อนหลังนี้ออกมา

"คำมั่นของผมก็คือเราจะเปลี่ยนแปลงถึงขั้นรากฐานในการดำเนินการบางอย่างในขั้นตอนต่อไปของแผนการนี้" โอบามากล่าวพร้อมทั้งเสริมว่า จะเน้นการใช้เงินที่เหลืออยู่ไปที่การสร้างงาน ให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจรายเล็ก ๆ และช่วยเจ้าของบ้านที่กำลังถูกบังคับขายบ้านที่ติดจำนอง

"นี่จะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาพรวมซึ่งจะรวมไปถึงการปรับเปลี่ยนกฏระเบียบในวอลสตรีท รวมทั้งภาคการเงินและการธนาคารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น" โอบามาบอก

ทางด้าน โฆษกทำเนียบขาว ดานา เพอริโนแถลงว่า เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้แจ้งต่อรัฐสภาตามคำร้องขอของโอบามา เพื่อให้รัฐสภาอนุมัติเงินอีก 350,000 ล้านดอลลาร์ จากแผนการบรรเทาสินทรัพย์มีปัญหา (TARP) เพื่อให้โอบามานำมาใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อไป

เงินจากแผนงานนี้ครึ่งแรก ได้ถูกนำมาใช้ในการกอบกู้สถานะของแบงก์และบริษัทต่าง ๆในภาคการเงินและอุตสาหกรรม อย่างเช่น ธนาคาร, ผู้ผลิตรถยนต์, บริษัทประกันภัยและบริษัทบัตรเครดิตที่มีปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องอย่างหนัก โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ได้รับการต่อต้านจากชาวอเมริกันอย่างมาก การสำรวจความคิดเห็นหลายครั้งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ชอบใจที่นำเอาเงินภาษีไปช่วยเหลือบริษัทในวอลสตรีทที่ทำธุรกิจด้วยความโลภ จนทำให้เศรษฐกิจส่วนรวมต้องเสียหาย

เป็นที่คาดหมายกันว่า บรรดาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯจะใช้ความเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติเงินครึ่งหลังของแผนช่วยชีวิตภาคการเงินนี้ ขณะเดียวกันก็มีคำเตือนจากนักเศรษฐศาสตร์ออกมาว่า สหรัฐฯจะต้องเผชิญหน้ากับการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ส.ส.สเตนี ฮอยเยอร์ แห่งพรรคเดโมแครต ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่ารัฐสภาจะเริ่มการพิจารณาเบิกจ่ายเงินส่วนที่เหลือภายในสัปดาห์นี้

"ผมคาดว่าสภาล่างจะเริ่มพิจารณากฏหมายรองรับการใช้เงินในแผนงาน TARP ได้ในวันพุธ(14)และจะพิจารณาเสร็จสิ้นในวันพฤหัสบดี(15)" เขากล่าว

จากที่ฮอยเยอร์พูดแสดงให้เห็นว่าโอบามาตั้งใจจะประกาศรายละเอียดของการใช้เงินทันทีที่เขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ที่จะถึงนี้

ส่วนผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ส.ว.แฮร์รี รีด ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตเช่นกัน บอกว่าต้องเน้น"หลักประกันถึงความโปร่งใส การกำกับดูแล และความรับผิดชอบในการใช้เงิน" รวมทั้งคำมั่นที่จะให้เงินกู้แก่ผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็ก ๆก็เป็น "ประเด็นสำคัญที่จะละเลยไม่ได้"

หากว่าโอบามาไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากบรรดาสมาชิกรัฐสภาเพื่อนำเอาเงินที่เหลืออยู่มาใช้ ก็น่าจะเป็นความเสียหายทางการเมืองครั้งสำคัญในช่วงเริ่มต้นการบริหารงาน โดยที่จะเป็นบททดสอบบารมีของเขาไปด้วย

นอกจากนี้ ก็ยังจะส่งผลไปถึงแผนการอีกอันหนึ่งของเขา ที่จะขอให้รัฐสภาอนุมัติเม็ดเงินกอบกู้เศรษฐกิจอีก 775,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาแสดงความเชื่อมั่นว่าจะสร้างงานได้ถึง 4 ล้านตำแหน่งรวมทั้งป้องกันมิให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยมากไปยิ่งกว่านี้

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการกำกับตรวจสอบแห่งรัฐสภา ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์วิธีการที่รัฐบาลประธานาธิบดีบุชใช้เงินครึ่งแรกตามแผนการ 700,000 ล้านดอลลาร์อย่างรุนแรง และกล่าวหาว่าการใช้เงินไร้ซึ่งความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อเงินภาษีของประชาชน

คณะกรรมการออกมากล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า พวกเขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ธนาคารที่ได้รับเงินช่วยเหลือไปแล้วนั้นใช้เงินไปอย่างไรบ้าง รวมทั้งยังได้กล่าวหากระทรวงการคลังที่ไม่สามารถจะบรรเทาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ และปล่อยให้ลุกลามไปยังภาคการเงินของประเทศ และส่งผลไปทั่วโลก

ทางด้านทำเนียบขาวก็ออกมาปกป้องกระทรวงการคลัง พร้อมทั้งยืนยันว่าได้พยายามตอบสนองความต้องการใช้เงินอย่างรวดเร็วแต่ก็มีการกำกับดูแลอย่างครบถ้วนแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น