ASTVผู้จัดการรายวัน – คนกรุงเทคะแนนให้ “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์” นั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. เฉียดล้าน ทิ้งขาดอันดับ 2 “แซม” หลุดลุ่ย เจ้าตัวเผยงานแรกจะเร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้คนกทม. ดันกรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งโลก ลั่นพร้อมเดินหน้าสานต่อนโยบาย “อภิรักษ์” ทันที โดยเฉพาะการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ขณะที่ “ปลื้ม” ยอมรับความพ่ายแพ้ ส่วน“แก้วสรร” ชี้ผิดคาดว่าประชาชนจะให้บทเรียน ปชป. ขณะที่ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิคิดเป็นร้อยละ 51.10% แต่เกิดปัญหาร้องเรียนที่เขตพญาไท ทำให้การนับคะแนนต้องหยุดชะงัก “ไชยันต์” ชำแหละคุณชายชนะเพราะคนกรุงเทพฯ ไม่พอใจรัฐบาลเก่า-เพื่อไทยอ่อนกำลัง
วานนี้(11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 22.00 น. หรือคิดเป็นร้อยละ 97.07 ว่า นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล หมายเลข 1ได้ 5,625 คะแนน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 2 ได้ 902,712 คะแนน นางลีนา จังจรรจา หมายเลข 3 ได้ 8,461 คะแนน นางธรณี ฤทธีธรรมรงค์ หมายเลข 4 ได้ 1,812 คะแนน นายกงจักร ใจดี หมายเลข 5 ได้ 2,302 คะแนน ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ หมายเลข 6 ได้ 1,344 คะแนน นายอิสระ อมรเวช หมายเลข 7 ได้ 889 คะแนน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หมายเลข 8 ได้ 323,148 คะแนน นายวิทยา จังกอบพัฒนา หมายเลข 9 ได้ 3,515 คะแนน นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หมายเลข 10 ได้ 590,436 คะแนน นายธรรณม์ชัย รุ่งจิรโรจน์ หมายเลข 11 ได้ 2,140 คะแนน นายแก้วสรร อติโพธิ หมายเลข 12 ได้ 139,483 คะแนน นายอุดม วิบูลเทพาชาติ หมายเลข 13 ได้ 631 คะแนน และนายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ หมายเลข 14 ได้ 3,960 คะแนน
**คนกรุงใช้สิทธิ์ 51.10 %
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยตัวเลข และสถิติของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขตว่า มีผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 2,120,803 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 4,150,103 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 51.10
สำหรับเขตที่มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ เขตทวีวัฒนา มีผู้มาใช้สิทธิด 31,221 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ 53,364 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 58.51 อันดับ 2 ได้แก่ เขตพญาไท มีผู้มาใช้สิทธิ 30,984 คน จากผู้มีสิทธิ 55,296 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 56.03% อันดับ 3 เขตบางรัก มีผู้มาใช้สิทธิ 19,106 คน จากผู้มีสิทธิ 34,146 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 55.95% อันดับ 4 เขตลาดพร้าว มีผู้มาใช้สิทธิ 50,424 คน จากผู้มีสิทธิ 91,088 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 55.36% อันดับที่ 5 เขตสะพานสูง มีผู้มาใช้สิทธิ 34,631 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ 62,804 คน คิดเป็นร้อยละ 55.14 ส่วนเขตที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยที่สุด คือ เขตดุสิต มีผู้มาใช้สิทธิ 38,869 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ 84,610 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 45.94
นายพงศ์ศักติฐ์กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้จะต้องทำการวิเคราะห์และประเมินผลขนานใหญ่พอสมควรทั้งที่มีความพยายามรณรงค์ในทุกรูปแบบ แต่เข้าใจได้ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองซึ่งเป็นข้อจำกัดให้คนออกมาใช้สิทธิน้อย อย่างไรก็ตามถือว่ากทม.พยายามทำหน้าที่ได้ครบถ้วนแล้ว และการเลือกตั้งครั้งนี้มีตัวแปรที่จะต้องศึกษาหลายประเด็นทั้งบรรยากาศทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ประกอบกับเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งที่ 2 ในรอบ 3เดือนเป็นตัวแปรทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อย โดยกทม.จะทำเรื่องสรุปปรึกษากับกกต.กทม. กกต.กลาง เพื่อหาสาเหตุและปรับปรุงหากมีการเลือกตั้งในครั้งต่อไป
**มีผู้ร้องเรียน 14 เรื่อง
ด้านนายพิงค์ รุ่งสมัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ปธ.กกต.กทม.) กล่าวว่า มีเรื่องร้องเรียนมีทั้งหมด 14 เรื่อง และรอผลการพิสูจน์อีก 2 เรื่อง โดยคาดว่าจะได้รับผลอย่างเป็นทางการในวันนี้(12 ม.ค.) ซึ่งเรื่องร้องเรียนที่พบได้แก่ การแจกเงินซื้อเสียงในเขตทุ่งครุแต่เมื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้วกลับไม่พบปัญหาดังกล่าว ส่วนเรื่องร้องเรียนอื่นๆ ได้แก่ การตั้งป้ายหาเสียงใกล้หน่วยเลือกตั้งในเขตบางแค การเพิ่มชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ในหน่วยเขตเลือกตั้งฉีกบัตรเลือกตั้งรอผู้มาใช้สิทธิในเขตสายไหม การใช้บัตรเลือกตั้งของผู้อื่นในเขตลาดกระบัง เป็นต้น
**พญาไทวุ่น “แซม” ร้องหยุดนับคะแนน
เมื่อเวลา 15.00 น.หลังเวลาปิดหีบเลือกตั้ง ได้เกิดการประท้วงจากประชาชนจำนวน 10 คน ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 70 แขวงพญาไท ซ.พหลโยธิน 8 เนื่องจากกรรมการประจำหน่วยได้เปิดหีบเลือกตั้งหลังจากที่ปิดการลงคะแนน เพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่และกรรมการประจำหน่วยตั้งใจทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งนายสว่าง บุญสิทธิ์ ผู้อำนวยการเขตพญาไทชี้แจงกับประชาชนว่า ว่าเหตุที่เปิดหีบเลือกตั้งนั้นเพื่อต้องการนับบัตรที่อยู่ในหีบว่า ตรงกับต้นขั้วหรือไม่
ขณะที่นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้อำนวยการสำนักปกครองและทะเบียน กทม. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 70 คงยังไม่เข้าใจในขั้นตอนของการเลือกตั้งดีพอ จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ก็เจ้าหน้าที่ถือว่าไม่มีความผิด เพราะเป็นเหตุที่ไม่ตั้งใจ
จากนั้นในเวลา 19.00 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย ได้ส่งเจ้าหน้าที่นำหนังสือร้องเรียนขอให้ระงับการนับคะแนนในเขตพญาไท พร้อมส่งหลักฐานการบันทึกภาพ ให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร(กกต.กทม.) นอกจากนี้ ยังร้องเรียนกรณีที่หน่วยเลือกตั้งที่ 70-73 เขตพญาไท ไม่มีการปิดผนึกหีบบัตรเลือกตั้งก่อนขนย้ายไปยังสถานที่นับคะแนนของเขต ซึ่งทำให้นายมนูญ ศิริวรรณ ประธาน กกต.ท้องถิ่น กทม. เปิดเผยว่า กกต.กทม. และกกต.ท้องถิ่น ได้ประชุมด่วนที่ศาลาว่าการ กทม. พร้อมทั้งให้ระงับการนับคะแนนไว้ก่อน ซึ่งจนถึงเวลา 22.50 น. ก็ยังไม่มีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาแต่อย่างใด
** “สุขุมพันธุ์” ประกาศชัยชนะ
เมื่อเวลา 19.00 น. มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่ากทม.พรรคประชาธิปัตย์ได้เดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรค เพื่อเข้ามาสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ก่อนที่จะขึ้นไปฟังผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการบนชั้นสองตึกควงอภัยวงษ์
จากนั้นเวลา 19.45 น.มรว.สุขุมพันธุ์ พร้อมด้วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม.และสก.สข.พรรคประชาธิปัตย์ได้ร่วมกันแถลง โดย มรว.สุขุมพันธุ์ กล่าวขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในชัยชนะครั้งนี้ รวมทั้งประชาชนชาวกทม.ที่ให้การสนับสนุนและไว้วางใจตนและพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้ามาบริหารกทม.โดยยืนยันว่าบริหารประเทศให้ดีให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล โปรงใส ตรวจสอบได้ รวมทั้งจะทุ่มเทด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเที่ยงธรรม เป็นผู้ว่าของคนกทม.ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ทุกชาติศาสนา และทุกสี เพราะถือว่าเป็นผู้ว่ากทม.ที่ต้องรับใช้ประชาชนทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น
มรว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า พร้อมจะทำงานทันทีที่ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเพราะปัญหาของกทม.ไม่สามารถรอได้ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ที่เป็นปัญหาอยู่ในหัวใจของคนกทม.ทุกคน โดยจะผลักดันกทม.ให้เป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่อันดับโลก โดยจะลดทุกข์ของประชาชนชาวกทม.ให้ลดน้อยลง ด้วยการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของกทม.ที่มีศักยภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งเดินหน้านโยบายที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้และต่อยอดนโยบายของนายอภิรักษ์ต่อไป โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชนการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนเชื่อมต่อและขยาย
ทั้งนี้ วันแรกที่เข้าทำงานจะเชิญปลัด กทม.เข้ามา เพื่อดูว่าจะสามารถเร่งเบิกจ่ายงบประมาณได้อย่างไร และจะเชิญประธานสภา กทม.มาหารือเรื่องเงินคงคลังเพื่ออัดฉีดสู่ระบบเศรษฐกิจ และ เรื่องที่3 จะเชิญผู้อำนวยการเขตทุกคนมาสั่งการหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มพื้นที่ค้าขายให้ผู้ค้ารายย่อย รวมถึงเรื่องความปลอดภัยการติดไฟให้แสงสว่างในพื้นที่ต่างๆ
ต่อข้อถามว่า จะดำเนินการเรื่องปัญหารถดับเพลิงอย่างไรต่อไป ผู้สมัครจาก ปชป. กล่าวว่า จะขอดูหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าเพียงพอจะฟ้องยกเลิกสัญญาหรือไม่ ส่วนเรื่องรถโดยสารด่วนพิเศษ หรือ บีอาร์ทีจะหารือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ว่าจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่อย่างไร
**เอ็กซิทโพล 3 สำนัก “สุขุมพันธุ์” ชนะเรียบ
ก่อนหน้านี้ ในเวลา 15.00 น. ได้มีการเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้สิทธิหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือเอ็กซิตโพล ของ ม.ศรีปทุม โดยพบว่า อันดับ 1 ได้แก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ 55.06% อันดับ 2 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ได้ 28.48% อันดับ 3 ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ได้ 16.55% และอันดับ 4 นายแก้วสรร อติโพธิ ได้ 5.66%
ส่วนผลเอ็กซิตโพลของ มรภ.สวนดุสิต อันดับ 1 ได้แก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ 46.75% อันดับ 2 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ได้ 26.92% อันดับ 3 ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ได้ 18.50% และอันดับ 4 นายแก้วสรร อติโพธิ ได้ 6.37%
ขณะที่เอ็กซิทโพลของ ม.รามคำแหง อันดับ 1 ได้แก่ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ 44.74% อันดับ 2 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ได้ 28.11% อันดับ 3 มล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ได้ 15.89% และอันดับ 4 นายแก้วสรร อติโพธิ ได้7.06%
**"แก้วสรร"เสียดายคนกรุงไม่ให้บทเรียนปชป.
นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครหมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพฯ ใหม่ กล่าวว่า ขอขอบคุณในทุกคะแนนเสียง ทุกเสียงที่ได้เป็นกำลังใจ ส่วนเรื่องเงินทองที่บริจาคมาเกินกว่ารายจ่ายที่ใช้ไปประมาณ 4-5 แสน จนจะทำเป็นมูลนิธิกรุงเทพใหม่ และงานส่วนรวมของ กทม.ที่จะทำได้ในภาคประชาชนก็จะใช้เงินตัวนี้เป็นทุนในการจัดกิจกรรมต่อไป
“ในการหาเสียงครั้งนี้ ผมคิดว่าความสับสนที่สร้างขึ้นในการหาเสียงไม่พึงประสงค์คือ การที่บอกว่ามีพรรคใดเป็นรัฐบาลแล้ว ต้องมีผู้ว่าฯ จากพรรคนั้น ทำให้การเมืองท้องถิ่นแยกไม่ขาดจากการเมืองใหม่ แต่ผมจะไม่ดึงดันว่าให้เลือกพรรคอิสระ เพราะการสังกัดพรรคหรือไม่สังกัดพรรคไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้สมัครมีความอิสระในการทำงานหรือไม่ ซึ่งน่าเสียดายที่ถูกทำให้สับสน ตอนแรกคิดว่าประชาชนจะให้บทเรียนกับ ปชป.จากการบริหารงานที่ผิดพลาด แต่ประชาชนก็ไม่ได้ให้บทเรียน”นายแก้วสรรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ต้องการชักชวนให้เข้าไปร่วมทีมงานตรวจสอบนั้น นายแก้วสรร กล่าวว่า เรื่องการเข้าร่วมทีมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ตนไม่ขอร่วมมือด้วยเด็ดขาด เนื่องจากเรื่องการตรวจสอบเป็นงานขององค์กรอิสระ หากผู้ว่าฯ มีทีมงานในการตรวจสอบแสดงว่าผู้ว่าฯ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยใช่หรือไม่ ถ้าคิดแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก แต่หากตนจะช่วยก็จะช่วยเหลือในส่วนที่ช่วยได้โดยไม่รับตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น เช่น การทำเว็บไซด์อาชีพ ซึ่งเป็นโครงการที่ตนเห็นด้วยและมองว่าเป็นประโยชน์ต่อคนกรุงเทพฯ และเป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่ในนโยบายของตนเองเช่นกัน
ส่วนอนาคตทางการเมืองของตนนั้น นายแก้วสรร กล่าวว่า จะไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับการเมืองระดับชาติอีกต่อไป แม้แต่การลงสมัครรับเลือกตั้งส.ว. เนื่องจากมองว่าการเมืองระดับชาตินับวันยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ แต่จะให้ความสำคัญกับการเมืองในระดับท้องถิ่นและการเมืองภาคพลเมืองมากยิ่งขึ้น
**"ปลื้ม"ยอมรับพ่ายคุณชาย
ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครฯ หมายเลข 8 สังกัดอิสระ กล่าวว่า ตื้นตันใจกับทุกคะแนนที่ได้รับ แต่ก็ยอมรับผลที่ออกมา ไม่คิดว่าจะถูกทิ้งห่าง แสดงว่า ปชป.ยังมีฐานเสียงที่ดีอยู่มาก อย่างไรก็ตามอนาคตทางการเมืองยังไม่ได้เทใจว่าจะไปอยู่กับพรรคไหน ซึ่งใน 1-2 ปีข้างหน้า ตนจะสร้างฐานะทางสังคม สะสมรายได้ และประสบการณ์เพื่อจะได้เดินเข้าสู่สนามการเมืองต่อไป
** "แซม" ลั่นพรรคไม่ใช่เหตุแพ้
นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือแซม ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ว่าผลคะแนนจะออกมาอย่างไร เนื่องจากตนเป็นคนที่ไม่ยึดมั่น ถือมั่นอยู่แล้ว เป็นคนง่ายๆ ไม่ยึดติด จะทำอะไรก็สุขใจในสิ่งที่ทำ จึงทำทุกอย่างเต็ม 100% รวมทั้งเคารพการตัดสินใจของประชาชน
นายยุรนันท์ กล่าวด้วยว่า แม้จะแพ้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ก็คงไม่ได้เกิดมาจากการที่พรรคไม่ให้การสนับสนุน อาจเกิดมาจากหลายสาเหตุทั้งจากนโยบาย และตัวผู้สมัคร จากนี้คงจะต้องมาวิเคราะห์จุดอ่อน ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ เวลา 16.50 น. ประชาชนที่สนับสนุนนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 10 สวมเสื้อแดง พกตีนตบ และถือป้ายเชียร์และตะโกน "กกต.โคตรโกง" ร่วมกับกองเชียร์ของนางลีน่า จัง เป็นระยะ
**มาร์คลั่นสุขุมพันธุ์สานต่องานอภิรักษ์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ภายหลังเดินทางกลับจาก จ.อุบลราชธานีถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า ต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ไปลงคะแนนเสียงวันนี้(11 ม.ค.) ถือเป็นการไปลงคะแนนเสียงเพื่อยืนยันสิทธิ์ที่พึงมีในระบอบประชาธิปไตย และขอขอบพระคุณที่ให้ความไว้วางใจผู้สมัคร ปชป.
“ ผมและ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะสานต่องานที่อดีตผู้ว่าฯ นายอภิรักษ์ทำไว้เกือบ 4 ปี โดยจะเร่งทั้งงานในส่วนของ กทม.และงานของรัฐบาลเพื่อให้นำไปปฏิบัติได้ใน กทม.ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นผลดีต่อคน กทม. แต่จะเป็นผลดีต่อพี่น้องจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกทม.ด้วย”นายอภิสิทธิ์กล่าว
** เผยคืนหมาหอนไม่มีรายงานทุจริต
ในช่วงเช้า นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาถึงศาลาว่าการกทม.ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เพื่อตรวจความพร้อมของศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง กทม. พร้อมกล่าวว่า ได้รับรายงานจากหน่วยเลือกตั้งตั้งแต่เวลา 05.00 น.ว่า คณะกรรมการได้นำหีบเลือกตั้งและอุปกรณ์ไปยังหน่วยเลือกได้ครบทุกหน่วย ซึ่งทุกเขตสามารถเปิดหน่วยเลือกตั้งให้ลงคะแนนได้ในเวลา 08.00 น.ทั้ง 6,337 หน่วย
**รวบ “เสี่ยตราชั่ง” ป่วนเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 08.30 ปลัด กทม.ได้เดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้งที่ 4 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา ภายในโรงเรียนสวัสดีวิทยา ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีพร้อมภรรยาและบุตรสาว จะเดินทางลงคะแนน โดยขณะที่เดินทางมาถึงก็เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากนายอุทิศ เหมวัฒนกิจ ได้เดินทางมาเพื่อร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการคอรัปชั่นในการกระทรวงศึกษาธิการและการสร้างที่จอดรถบริเวณซอยสุขุมวิท 65 ซึ่งระหว่างนั้น นายอุทิศได้ส่งเสียงตะโกน จนกระทั่งมีปากเสียงกับตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาก่อกวนการเลือกตั้ง
**เขต 10 สับสนซ่อม ส.ส.-ผู้ว่าฯ กทม.
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเขตเลือกตั้งที่ 10 ที่มีการเลือกตั้งพิเศษ คือ มีทั้งการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.และเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งมีปัญหาเต็นท์ใกล้กัน และไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลควบคุมการลงคะแนน สร้างความสับสนให้กับประชาชนนั้น หลังได้รับการร้องเรียนก็ได้จัดการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงประชาชนสามารถลงคะแนนได้ถูกต้องเพียงอาจเกิดปัญหาบ้างในช่วงเช้า
**“ไชยันต์” ชี้คุณชายชนะเพราะไม่พอใจรัฐบาลเก่า
นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ซึ่งปรากฏว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.นั้น สะท้อนให้เห็นว่า คนกรุงเทพฯ มีกระแสความไม่พอใจรัฐบาลชุดที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก ประกอบกับคิดว่า การทำงานของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม.ทำงานได้ไม่มีอะไรเสียหาย หรือติดลบ การเลือก ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ ก็เหมือนกับนายอภิรักษ์ ที่สามารถสานต่อนโยบายของนายอภิรักษ์ต่อไปได้ ถือเป็นการเลือกแบบถนอมตัว ดังนั้นอย่าเพิ่งเหลิงว่ามีคนชอบมากเนื่องจากตัวเลือกอื่นๆ คนกรุงเทพฯไม่แน่ใจว่าจะทำงานได้มากน้อยแค่ไหน
นอกจากนั้น เมื่อพิจารณาคู่แข่งขันในการลงเลือกตั้งครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ก็พบว่า ต่างจากคู่แข่งของนายอภิรักษ์ ซึ่งพรรคพลังประชาชนส่งนายประภัสร์ จงสงวน เนื่องจากเป็นผู้ที่ถือว่ามีความสามารถ มีประสบการณ์ในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่มาแล้ว ขณะที่นายยุรนันท์ แม้จะเคยเป็นส.ส.เขตดินแดงแต่ก็เป็นเพราะอาศัยบารมีของพรรคไทยรักไทย และมี สก. สข.ในพื้นที่ ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นของใคร ซึ่งนายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ์เองก็ชัดเจนว่าเป็นหุ่นเชิดอย่างแน่นอน ซึ่งในช่วงที่พรรคเป็นลูกผีลูกคนเช่นนี้ทำให้พรรคเพื่อไทยอ่อนกำลังลง ขณะที่ตัวนายยุรนันท์เองไม่เคยผ่านงานการบริหาร หรือเกาะติดสถานการณ์ปัญหาของกรุงเทพฯ เลย ขณะเดียวกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ แม้ไม่โดดเด่นมาก แต่หากเปรียบเทียบกับนายยุรนันท์แล้วถือว่าดีกว่า
ขณะที่ผู้ที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองอย่าง มล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ยิ่งอ่อนด้อยกว่า มหาศาล เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการบริหาร แค่อาศัยกระแสสร้างความหวือหวา พูดจาเป็นพิธีกร อ่านข่าวภาษาอังกฤษ ซึ่งการพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ถือว่าใช้ความรู้ หรือความสามารถการบริหาร ขณะที่ อ.แก้วสรร อติโพธิ์ ซึ่งนโยบายหลักการทำงานถือว่าดีที่สุด มีทีมงานที่ชัดเจน นักวิชาการทุกคนฟันธง แต่ไม่มีพรรค ส่วนที่ได้คะแนนน้อยอาจเป็นเพราะคนรู้จักน้อยเกินไป และไม่คุ้นชินกับบทบาทของการเป็นผู้บริหาร ควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนกรุงเทพฯ มากกว่านี้และคนกลุ่มหนึ่งที่ชอบ อ.แก้วสรร แต่เลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะเกรงว่าคะแนนจะเสียเปล่าเพราะเลือกไปแล้วอ.แก้วสรรไม่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.จริง”นายไชยยันต์กล่าว
นายไชยันต์ กล่าวด้วยว่า เมื่อพิจารณาผลโพลจะเห็นว่า กลุ่มคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีจะเลือก นายยุรนันท์จำนวนหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนกรุงเทพฯ ที่รักพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชนิดหน้ามืดตามัวยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะส่งใครมาเป็นตัวแทนของพรรค ก็ยังคงเลือกผู้ที่พ.ต.ท.ทักษิณ สนับสนุนอยู่ อย่างไรก็ตามผลจากการเลือกตั้งครั้งนี้เชื่อว่าประชาชนไม่ได้หวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพฯ มากหนักเพราะหวังเพียงให้สานนโยบายเดิมของนายอภิรักษ์เท่านั้น
วานนี้(11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 22.00 น. หรือคิดเป็นร้อยละ 97.07 ว่า นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล หมายเลข 1ได้ 5,625 คะแนน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 2 ได้ 902,712 คะแนน นางลีนา จังจรรจา หมายเลข 3 ได้ 8,461 คะแนน นางธรณี ฤทธีธรรมรงค์ หมายเลข 4 ได้ 1,812 คะแนน นายกงจักร ใจดี หมายเลข 5 ได้ 2,302 คะแนน ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ หมายเลข 6 ได้ 1,344 คะแนน นายอิสระ อมรเวช หมายเลข 7 ได้ 889 คะแนน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หมายเลข 8 ได้ 323,148 คะแนน นายวิทยา จังกอบพัฒนา หมายเลข 9 ได้ 3,515 คะแนน นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หมายเลข 10 ได้ 590,436 คะแนน นายธรรณม์ชัย รุ่งจิรโรจน์ หมายเลข 11 ได้ 2,140 คะแนน นายแก้วสรร อติโพธิ หมายเลข 12 ได้ 139,483 คะแนน นายอุดม วิบูลเทพาชาติ หมายเลข 13 ได้ 631 คะแนน และนายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ หมายเลข 14 ได้ 3,960 คะแนน
**คนกรุงใช้สิทธิ์ 51.10 %
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยตัวเลข และสถิติของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขตว่า มีผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 2,120,803 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 4,150,103 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 51.10
สำหรับเขตที่มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ เขตทวีวัฒนา มีผู้มาใช้สิทธิด 31,221 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ 53,364 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 58.51 อันดับ 2 ได้แก่ เขตพญาไท มีผู้มาใช้สิทธิ 30,984 คน จากผู้มีสิทธิ 55,296 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 56.03% อันดับ 3 เขตบางรัก มีผู้มาใช้สิทธิ 19,106 คน จากผู้มีสิทธิ 34,146 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 55.95% อันดับ 4 เขตลาดพร้าว มีผู้มาใช้สิทธิ 50,424 คน จากผู้มีสิทธิ 91,088 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 55.36% อันดับที่ 5 เขตสะพานสูง มีผู้มาใช้สิทธิ 34,631 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ 62,804 คน คิดเป็นร้อยละ 55.14 ส่วนเขตที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยที่สุด คือ เขตดุสิต มีผู้มาใช้สิทธิ 38,869 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ 84,610 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 45.94
นายพงศ์ศักติฐ์กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้จะต้องทำการวิเคราะห์และประเมินผลขนานใหญ่พอสมควรทั้งที่มีความพยายามรณรงค์ในทุกรูปแบบ แต่เข้าใจได้ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองซึ่งเป็นข้อจำกัดให้คนออกมาใช้สิทธิน้อย อย่างไรก็ตามถือว่ากทม.พยายามทำหน้าที่ได้ครบถ้วนแล้ว และการเลือกตั้งครั้งนี้มีตัวแปรที่จะต้องศึกษาหลายประเด็นทั้งบรรยากาศทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ประกอบกับเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งที่ 2 ในรอบ 3เดือนเป็นตัวแปรทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อย โดยกทม.จะทำเรื่องสรุปปรึกษากับกกต.กทม. กกต.กลาง เพื่อหาสาเหตุและปรับปรุงหากมีการเลือกตั้งในครั้งต่อไป
**มีผู้ร้องเรียน 14 เรื่อง
ด้านนายพิงค์ รุ่งสมัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ปธ.กกต.กทม.) กล่าวว่า มีเรื่องร้องเรียนมีทั้งหมด 14 เรื่อง และรอผลการพิสูจน์อีก 2 เรื่อง โดยคาดว่าจะได้รับผลอย่างเป็นทางการในวันนี้(12 ม.ค.) ซึ่งเรื่องร้องเรียนที่พบได้แก่ การแจกเงินซื้อเสียงในเขตทุ่งครุแต่เมื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้วกลับไม่พบปัญหาดังกล่าว ส่วนเรื่องร้องเรียนอื่นๆ ได้แก่ การตั้งป้ายหาเสียงใกล้หน่วยเลือกตั้งในเขตบางแค การเพิ่มชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ในหน่วยเขตเลือกตั้งฉีกบัตรเลือกตั้งรอผู้มาใช้สิทธิในเขตสายไหม การใช้บัตรเลือกตั้งของผู้อื่นในเขตลาดกระบัง เป็นต้น
**พญาไทวุ่น “แซม” ร้องหยุดนับคะแนน
เมื่อเวลา 15.00 น.หลังเวลาปิดหีบเลือกตั้ง ได้เกิดการประท้วงจากประชาชนจำนวน 10 คน ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 70 แขวงพญาไท ซ.พหลโยธิน 8 เนื่องจากกรรมการประจำหน่วยได้เปิดหีบเลือกตั้งหลังจากที่ปิดการลงคะแนน เพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่และกรรมการประจำหน่วยตั้งใจทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งนายสว่าง บุญสิทธิ์ ผู้อำนวยการเขตพญาไทชี้แจงกับประชาชนว่า ว่าเหตุที่เปิดหีบเลือกตั้งนั้นเพื่อต้องการนับบัตรที่อยู่ในหีบว่า ตรงกับต้นขั้วหรือไม่
ขณะที่นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้อำนวยการสำนักปกครองและทะเบียน กทม. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 70 คงยังไม่เข้าใจในขั้นตอนของการเลือกตั้งดีพอ จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ก็เจ้าหน้าที่ถือว่าไม่มีความผิด เพราะเป็นเหตุที่ไม่ตั้งใจ
จากนั้นในเวลา 19.00 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย ได้ส่งเจ้าหน้าที่นำหนังสือร้องเรียนขอให้ระงับการนับคะแนนในเขตพญาไท พร้อมส่งหลักฐานการบันทึกภาพ ให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร(กกต.กทม.) นอกจากนี้ ยังร้องเรียนกรณีที่หน่วยเลือกตั้งที่ 70-73 เขตพญาไท ไม่มีการปิดผนึกหีบบัตรเลือกตั้งก่อนขนย้ายไปยังสถานที่นับคะแนนของเขต ซึ่งทำให้นายมนูญ ศิริวรรณ ประธาน กกต.ท้องถิ่น กทม. เปิดเผยว่า กกต.กทม. และกกต.ท้องถิ่น ได้ประชุมด่วนที่ศาลาว่าการ กทม. พร้อมทั้งให้ระงับการนับคะแนนไว้ก่อน ซึ่งจนถึงเวลา 22.50 น. ก็ยังไม่มีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาแต่อย่างใด
** “สุขุมพันธุ์” ประกาศชัยชนะ
เมื่อเวลา 19.00 น. มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่ากทม.พรรคประชาธิปัตย์ได้เดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรค เพื่อเข้ามาสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ก่อนที่จะขึ้นไปฟังผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการบนชั้นสองตึกควงอภัยวงษ์
จากนั้นเวลา 19.45 น.มรว.สุขุมพันธุ์ พร้อมด้วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม.และสก.สข.พรรคประชาธิปัตย์ได้ร่วมกันแถลง โดย มรว.สุขุมพันธุ์ กล่าวขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในชัยชนะครั้งนี้ รวมทั้งประชาชนชาวกทม.ที่ให้การสนับสนุนและไว้วางใจตนและพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้ามาบริหารกทม.โดยยืนยันว่าบริหารประเทศให้ดีให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล โปรงใส ตรวจสอบได้ รวมทั้งจะทุ่มเทด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเที่ยงธรรม เป็นผู้ว่าของคนกทม.ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ทุกชาติศาสนา และทุกสี เพราะถือว่าเป็นผู้ว่ากทม.ที่ต้องรับใช้ประชาชนทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น
มรว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า พร้อมจะทำงานทันทีที่ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเพราะปัญหาของกทม.ไม่สามารถรอได้ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ที่เป็นปัญหาอยู่ในหัวใจของคนกทม.ทุกคน โดยจะผลักดันกทม.ให้เป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่อันดับโลก โดยจะลดทุกข์ของประชาชนชาวกทม.ให้ลดน้อยลง ด้วยการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของกทม.ที่มีศักยภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งเดินหน้านโยบายที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้และต่อยอดนโยบายของนายอภิรักษ์ต่อไป โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชนการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนเชื่อมต่อและขยาย
ทั้งนี้ วันแรกที่เข้าทำงานจะเชิญปลัด กทม.เข้ามา เพื่อดูว่าจะสามารถเร่งเบิกจ่ายงบประมาณได้อย่างไร และจะเชิญประธานสภา กทม.มาหารือเรื่องเงินคงคลังเพื่ออัดฉีดสู่ระบบเศรษฐกิจ และ เรื่องที่3 จะเชิญผู้อำนวยการเขตทุกคนมาสั่งการหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มพื้นที่ค้าขายให้ผู้ค้ารายย่อย รวมถึงเรื่องความปลอดภัยการติดไฟให้แสงสว่างในพื้นที่ต่างๆ
ต่อข้อถามว่า จะดำเนินการเรื่องปัญหารถดับเพลิงอย่างไรต่อไป ผู้สมัครจาก ปชป. กล่าวว่า จะขอดูหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าเพียงพอจะฟ้องยกเลิกสัญญาหรือไม่ ส่วนเรื่องรถโดยสารด่วนพิเศษ หรือ บีอาร์ทีจะหารือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ว่าจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่อย่างไร
**เอ็กซิทโพล 3 สำนัก “สุขุมพันธุ์” ชนะเรียบ
ก่อนหน้านี้ ในเวลา 15.00 น. ได้มีการเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้สิทธิหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือเอ็กซิตโพล ของ ม.ศรีปทุม โดยพบว่า อันดับ 1 ได้แก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ 55.06% อันดับ 2 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ได้ 28.48% อันดับ 3 ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ได้ 16.55% และอันดับ 4 นายแก้วสรร อติโพธิ ได้ 5.66%
ส่วนผลเอ็กซิตโพลของ มรภ.สวนดุสิต อันดับ 1 ได้แก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ 46.75% อันดับ 2 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ได้ 26.92% อันดับ 3 ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ได้ 18.50% และอันดับ 4 นายแก้วสรร อติโพธิ ได้ 6.37%
ขณะที่เอ็กซิทโพลของ ม.รามคำแหง อันดับ 1 ได้แก่ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ 44.74% อันดับ 2 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ได้ 28.11% อันดับ 3 มล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ได้ 15.89% และอันดับ 4 นายแก้วสรร อติโพธิ ได้7.06%
**"แก้วสรร"เสียดายคนกรุงไม่ให้บทเรียนปชป.
นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครหมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพฯ ใหม่ กล่าวว่า ขอขอบคุณในทุกคะแนนเสียง ทุกเสียงที่ได้เป็นกำลังใจ ส่วนเรื่องเงินทองที่บริจาคมาเกินกว่ารายจ่ายที่ใช้ไปประมาณ 4-5 แสน จนจะทำเป็นมูลนิธิกรุงเทพใหม่ และงานส่วนรวมของ กทม.ที่จะทำได้ในภาคประชาชนก็จะใช้เงินตัวนี้เป็นทุนในการจัดกิจกรรมต่อไป
“ในการหาเสียงครั้งนี้ ผมคิดว่าความสับสนที่สร้างขึ้นในการหาเสียงไม่พึงประสงค์คือ การที่บอกว่ามีพรรคใดเป็นรัฐบาลแล้ว ต้องมีผู้ว่าฯ จากพรรคนั้น ทำให้การเมืองท้องถิ่นแยกไม่ขาดจากการเมืองใหม่ แต่ผมจะไม่ดึงดันว่าให้เลือกพรรคอิสระ เพราะการสังกัดพรรคหรือไม่สังกัดพรรคไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้สมัครมีความอิสระในการทำงานหรือไม่ ซึ่งน่าเสียดายที่ถูกทำให้สับสน ตอนแรกคิดว่าประชาชนจะให้บทเรียนกับ ปชป.จากการบริหารงานที่ผิดพลาด แต่ประชาชนก็ไม่ได้ให้บทเรียน”นายแก้วสรรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ต้องการชักชวนให้เข้าไปร่วมทีมงานตรวจสอบนั้น นายแก้วสรร กล่าวว่า เรื่องการเข้าร่วมทีมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ตนไม่ขอร่วมมือด้วยเด็ดขาด เนื่องจากเรื่องการตรวจสอบเป็นงานขององค์กรอิสระ หากผู้ว่าฯ มีทีมงานในการตรวจสอบแสดงว่าผู้ว่าฯ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยใช่หรือไม่ ถ้าคิดแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก แต่หากตนจะช่วยก็จะช่วยเหลือในส่วนที่ช่วยได้โดยไม่รับตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น เช่น การทำเว็บไซด์อาชีพ ซึ่งเป็นโครงการที่ตนเห็นด้วยและมองว่าเป็นประโยชน์ต่อคนกรุงเทพฯ และเป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่ในนโยบายของตนเองเช่นกัน
ส่วนอนาคตทางการเมืองของตนนั้น นายแก้วสรร กล่าวว่า จะไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับการเมืองระดับชาติอีกต่อไป แม้แต่การลงสมัครรับเลือกตั้งส.ว. เนื่องจากมองว่าการเมืองระดับชาตินับวันยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ แต่จะให้ความสำคัญกับการเมืองในระดับท้องถิ่นและการเมืองภาคพลเมืองมากยิ่งขึ้น
**"ปลื้ม"ยอมรับพ่ายคุณชาย
ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครฯ หมายเลข 8 สังกัดอิสระ กล่าวว่า ตื้นตันใจกับทุกคะแนนที่ได้รับ แต่ก็ยอมรับผลที่ออกมา ไม่คิดว่าจะถูกทิ้งห่าง แสดงว่า ปชป.ยังมีฐานเสียงที่ดีอยู่มาก อย่างไรก็ตามอนาคตทางการเมืองยังไม่ได้เทใจว่าจะไปอยู่กับพรรคไหน ซึ่งใน 1-2 ปีข้างหน้า ตนจะสร้างฐานะทางสังคม สะสมรายได้ และประสบการณ์เพื่อจะได้เดินเข้าสู่สนามการเมืองต่อไป
** "แซม" ลั่นพรรคไม่ใช่เหตุแพ้
นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือแซม ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ว่าผลคะแนนจะออกมาอย่างไร เนื่องจากตนเป็นคนที่ไม่ยึดมั่น ถือมั่นอยู่แล้ว เป็นคนง่ายๆ ไม่ยึดติด จะทำอะไรก็สุขใจในสิ่งที่ทำ จึงทำทุกอย่างเต็ม 100% รวมทั้งเคารพการตัดสินใจของประชาชน
นายยุรนันท์ กล่าวด้วยว่า แม้จะแพ้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ก็คงไม่ได้เกิดมาจากการที่พรรคไม่ให้การสนับสนุน อาจเกิดมาจากหลายสาเหตุทั้งจากนโยบาย และตัวผู้สมัคร จากนี้คงจะต้องมาวิเคราะห์จุดอ่อน ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ เวลา 16.50 น. ประชาชนที่สนับสนุนนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 10 สวมเสื้อแดง พกตีนตบ และถือป้ายเชียร์และตะโกน "กกต.โคตรโกง" ร่วมกับกองเชียร์ของนางลีน่า จัง เป็นระยะ
**มาร์คลั่นสุขุมพันธุ์สานต่องานอภิรักษ์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ภายหลังเดินทางกลับจาก จ.อุบลราชธานีถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า ต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ไปลงคะแนนเสียงวันนี้(11 ม.ค.) ถือเป็นการไปลงคะแนนเสียงเพื่อยืนยันสิทธิ์ที่พึงมีในระบอบประชาธิปไตย และขอขอบพระคุณที่ให้ความไว้วางใจผู้สมัคร ปชป.
“ ผมและ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะสานต่องานที่อดีตผู้ว่าฯ นายอภิรักษ์ทำไว้เกือบ 4 ปี โดยจะเร่งทั้งงานในส่วนของ กทม.และงานของรัฐบาลเพื่อให้นำไปปฏิบัติได้ใน กทม.ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นผลดีต่อคน กทม. แต่จะเป็นผลดีต่อพี่น้องจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกทม.ด้วย”นายอภิสิทธิ์กล่าว
** เผยคืนหมาหอนไม่มีรายงานทุจริต
ในช่วงเช้า นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาถึงศาลาว่าการกทม.ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เพื่อตรวจความพร้อมของศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง กทม. พร้อมกล่าวว่า ได้รับรายงานจากหน่วยเลือกตั้งตั้งแต่เวลา 05.00 น.ว่า คณะกรรมการได้นำหีบเลือกตั้งและอุปกรณ์ไปยังหน่วยเลือกได้ครบทุกหน่วย ซึ่งทุกเขตสามารถเปิดหน่วยเลือกตั้งให้ลงคะแนนได้ในเวลา 08.00 น.ทั้ง 6,337 หน่วย
**รวบ “เสี่ยตราชั่ง” ป่วนเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 08.30 ปลัด กทม.ได้เดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้งที่ 4 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา ภายในโรงเรียนสวัสดีวิทยา ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีพร้อมภรรยาและบุตรสาว จะเดินทางลงคะแนน โดยขณะที่เดินทางมาถึงก็เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากนายอุทิศ เหมวัฒนกิจ ได้เดินทางมาเพื่อร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการคอรัปชั่นในการกระทรวงศึกษาธิการและการสร้างที่จอดรถบริเวณซอยสุขุมวิท 65 ซึ่งระหว่างนั้น นายอุทิศได้ส่งเสียงตะโกน จนกระทั่งมีปากเสียงกับตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาก่อกวนการเลือกตั้ง
**เขต 10 สับสนซ่อม ส.ส.-ผู้ว่าฯ กทม.
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเขตเลือกตั้งที่ 10 ที่มีการเลือกตั้งพิเศษ คือ มีทั้งการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.และเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งมีปัญหาเต็นท์ใกล้กัน และไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลควบคุมการลงคะแนน สร้างความสับสนให้กับประชาชนนั้น หลังได้รับการร้องเรียนก็ได้จัดการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงประชาชนสามารถลงคะแนนได้ถูกต้องเพียงอาจเกิดปัญหาบ้างในช่วงเช้า
**“ไชยันต์” ชี้คุณชายชนะเพราะไม่พอใจรัฐบาลเก่า
นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ซึ่งปรากฏว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.นั้น สะท้อนให้เห็นว่า คนกรุงเทพฯ มีกระแสความไม่พอใจรัฐบาลชุดที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก ประกอบกับคิดว่า การทำงานของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม.ทำงานได้ไม่มีอะไรเสียหาย หรือติดลบ การเลือก ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ ก็เหมือนกับนายอภิรักษ์ ที่สามารถสานต่อนโยบายของนายอภิรักษ์ต่อไปได้ ถือเป็นการเลือกแบบถนอมตัว ดังนั้นอย่าเพิ่งเหลิงว่ามีคนชอบมากเนื่องจากตัวเลือกอื่นๆ คนกรุงเทพฯไม่แน่ใจว่าจะทำงานได้มากน้อยแค่ไหน
นอกจากนั้น เมื่อพิจารณาคู่แข่งขันในการลงเลือกตั้งครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ก็พบว่า ต่างจากคู่แข่งของนายอภิรักษ์ ซึ่งพรรคพลังประชาชนส่งนายประภัสร์ จงสงวน เนื่องจากเป็นผู้ที่ถือว่ามีความสามารถ มีประสบการณ์ในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่มาแล้ว ขณะที่นายยุรนันท์ แม้จะเคยเป็นส.ส.เขตดินแดงแต่ก็เป็นเพราะอาศัยบารมีของพรรคไทยรักไทย และมี สก. สข.ในพื้นที่ ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นของใคร ซึ่งนายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ์เองก็ชัดเจนว่าเป็นหุ่นเชิดอย่างแน่นอน ซึ่งในช่วงที่พรรคเป็นลูกผีลูกคนเช่นนี้ทำให้พรรคเพื่อไทยอ่อนกำลังลง ขณะที่ตัวนายยุรนันท์เองไม่เคยผ่านงานการบริหาร หรือเกาะติดสถานการณ์ปัญหาของกรุงเทพฯ เลย ขณะเดียวกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ แม้ไม่โดดเด่นมาก แต่หากเปรียบเทียบกับนายยุรนันท์แล้วถือว่าดีกว่า
ขณะที่ผู้ที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองอย่าง มล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ยิ่งอ่อนด้อยกว่า มหาศาล เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการบริหาร แค่อาศัยกระแสสร้างความหวือหวา พูดจาเป็นพิธีกร อ่านข่าวภาษาอังกฤษ ซึ่งการพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ถือว่าใช้ความรู้ หรือความสามารถการบริหาร ขณะที่ อ.แก้วสรร อติโพธิ์ ซึ่งนโยบายหลักการทำงานถือว่าดีที่สุด มีทีมงานที่ชัดเจน นักวิชาการทุกคนฟันธง แต่ไม่มีพรรค ส่วนที่ได้คะแนนน้อยอาจเป็นเพราะคนรู้จักน้อยเกินไป และไม่คุ้นชินกับบทบาทของการเป็นผู้บริหาร ควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนกรุงเทพฯ มากกว่านี้และคนกลุ่มหนึ่งที่ชอบ อ.แก้วสรร แต่เลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะเกรงว่าคะแนนจะเสียเปล่าเพราะเลือกไปแล้วอ.แก้วสรรไม่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.จริง”นายไชยยันต์กล่าว
นายไชยันต์ กล่าวด้วยว่า เมื่อพิจารณาผลโพลจะเห็นว่า กลุ่มคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีจะเลือก นายยุรนันท์จำนวนหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนกรุงเทพฯ ที่รักพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชนิดหน้ามืดตามัวยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะส่งใครมาเป็นตัวแทนของพรรค ก็ยังคงเลือกผู้ที่พ.ต.ท.ทักษิณ สนับสนุนอยู่ อย่างไรก็ตามผลจากการเลือกตั้งครั้งนี้เชื่อว่าประชาชนไม่ได้หวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพฯ มากหนักเพราะหวังเพียงให้สานนโยบายเดิมของนายอภิรักษ์เท่านั้น