ปธ.กกต.รับความขัดแย้งทางเมือง เป็นผลทำคนเบื่อเลือกตั้งจริง เผยพบเขต 10 กทม.ปชช.ยังสับสนเหตุต้องใช้สิทธิเลือกทั้ง ส.ส-ผู้ว่าฯ กทม. และต้องใช้ กม.คนละฉบับ ขณะเดียวกันมีแจ้งเหตุทุจริตแล้ว ส่วนใหญ่แจกเงิน 11 ราย
วันนี้ (11 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่าง 29 คน 26 เขต ใน 22 จังหวัด และการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ก็ได้มีการเปิดศูนย์รายงานผลการเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่าง ที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พร้อมกับระบุว่าตนได้รับรายงานว่าตั้งแต่ 08.00 น.ทุกหน่วยเลือกตั้ง สามารถเปิดให้ประชาชนลงคะแนนอย่างเรียบร้อย ซึ่งในการเลือกตั้ง ส.ส.มีหน่วยเลือกตั้ง 15,967 หน่วย มีผู้มีสิทธิ 8,166,385 คน ขณะที่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มีหน่วยเลือกตั้ง 6,337 หน่วย มีผู้มีสิทธิ 4,149,147 คน ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่จัดการการเลือกตั้งทั้งหมด 254,000 คน รวมทั้งมีลูกเสืออาสาคอยอำนวยความสะดวกให้แก้ผู้มีสิทธิ
“ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงขณะนี้โดยรวมถือว่าดีมาก คืนที่ผ่านมาก็มีการแจ้งเบาะแสกันบ้างแต่เมื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแต่ก็ไม่พบการกระทำความผิดแต่อย่างใด มีเพียงการแจ้งเหตุที่ จ.อุบลราชธานี ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามีวิทยุชุมชนนำสปอตของผู้สมัครรับเลือกตั้งรายหนึ่งไปออกอากาศ แต่ผู้สมัครที่ถูกกล่าวหาก็ได้ไปแจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทั้งปฏิเสธการกระทำโดยระบุว่าไม่ได้เป็นผู้นำสปอตโฆษณาไปมอบให้สถานีวิทยุดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้หากตรวจสอบแล้วเป็นความจริงก็ต้องดำเนินการต่อไป”
ส่วนที่มีการเกรงว่าจะมีกลุ่มการเมืองไปชุมนุมหน้าหน่วยเลือกตั้งนั้น ตนเชื่อว่าหากมีก็คงไม่ถึงขนาดขัดขวางการเลือกตั้งเพราะผิดกฎหมาย การชุมนุมเพื่อแสดงความเห็นทางการเมืองสามารถทำได้ แต่อย่าถึงขนาดให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งหากเกิดเหตุก็จะถือว่าหมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมาย จึงขอร้องว่าอย่าให้มีเลยและขอให้ประชาชนมาเลือกตั้งโดยสะดวกและไม่มีการชี้นำ ทั้งนี้ กกต.ก็ได้เตรียมรับมือหากมีเหตุทางกรรมการประจำหน่วยก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาจจะมีการขอกำลังเพิ่มในกรณีที่จำเป็น เช่นเดียวกับที่ จ.นราธิวาส ที่ กกต.ก็เป็นห่วงสถานการณ์ความไม่สงบ โดยมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยอีกหลายเท่าตัว
นายอภิชาตยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ในเขตเลือกตั้งที่ศาลฎีกาสั่งคืนสิทธิการสมัครให้แก่ผู้สมัครบางคนตรวจสอบเอกสารและประกาศให้เป็นปัจจุบันเพื่อป้องกันการร้องเรียนในภายหลัง พร้อมทั้งแจ้งแก่ผู้มีสิทธิว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การเลือกตั้งทั่วไปจึงไม่มีการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ดังนั้นใครที่เคยลงทะเบียนที่ต่างจังหวัดเอาไว้ ครั้งนี้ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งถอนและสามารถมาลงคะแนนในพื้นที่ที่มีทะเบียนบ้านอยู่ได้เลย นอกจากนี้ หากใครพบเห็นเหตุทุจริตสามารถแจ้งเหตุได้ที่ กกต.จังหวัด หรือโทรศัพท์แจ้งเหตุได้ที่หมายเลข 0-2141-8047-9 หรือ สายด่วน กกต.หมายเลข 1171 พร้อมทั้งระบุว่าขอให้ผู้มีสิทธิเลือกคนที่ตัวเองเห็นว่าดีด้วยตัวเองโดยไม่ต้องฟังคำชี้นำจากใคร หากทำเช่นนั้นบ้านเมืองก็จะเป็นประชาธิปไตย
สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธาน กกต.กล่าวว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งที่ผ่านมามีผู้ออกมาใช้สิทธิ 54% คาดว่าครั้งนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิมากกว่าโดยในขณะนี้ทุกหน่วยเลือกตั้งก็พร้อมที่จะให้บริการผู้มาใช้สิทธิ เนื่องจากเตรียมการมาเป็นเวลานานแล้ว และคาดว่าคืนนี้น่าจะทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการประมาณ 3-4 ทุ่ม อย่างไรก็ตาม ทราบว่ายังมีความสับสนในเขตเลือกตั้งที่ 10 กทม.ที่มีการเลือกตั้งทั้ง ส.ส. และผู้ว่าฯ กทม. โดยผู้มีสิทธิบางคนเมื่อมาเลือกตั้ง ส.ส.หรือเลือกตั้งผู้ว่าแล้วกลับบ้านทันที โดยลืมใช้สิทธิอีกอย่าง จึงขอเตือนให้ผู้มีสิทธิไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั้ง ส.ส. และผู้ว่าฯ กทม. โดยที่หน่วยเลือกตั้งทั้ง 2 แห่งจะอยู่ไม่ไกลกัน ขอให้กรรมการประจำหน่วยช่วยชี้แจงต่อประชาชนด้วยว่า ผู้มีสิทธิของการเลือกตั้งทั้ง 2 อย่างจะไม่เหมือนกันเพราะใช้กฎหมายคนละฉบับ โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.จะต้องมีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 90 วัน แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปี ทำให้บางคนมีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. แต่ไม่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายอภิชาตได้ตรวจเยี่ยมการให้บริการของสายด่วนเลือกตั้ง กกต. หมายเลข 1171 ที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. และอาสาสมัครจากธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) มาร่วมให้บริการแก่ผู้ที่มีข้อสงสัยในการเลือกตั้ง หรือต้องการแจ้งเหตุทุจริต และเดินทางไปตรวจหน่วยเลือกตั้งที่ วัดประเสริฐสุทธาวาส เขตราษฎร์บูรณะ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผลโพลระบุว่าประชาชน 81% เบื่อหน่ายการเลือกตั้ง โดยยอมรับว่าความขัดแย้งทางการเมืองเป็นอุปสรรคสำคัญ แต่เชื่อว่าประชาชนจะออกมาใชสิทธิเพื่อให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ขณะที่กรณีการฉีกบัตรเลือกตั้งที่ จ.นครพนม นายอภิชาต กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และมีโทษทางอาญา โดย กกต.ต้องดำเนินการตามกฎหมายส่งเรื่องให้ศาลพิจารณา และต้องดูที่เจตนาด้วยว่าเป็นความสับสนหรือตั้งใจ
ด้าน นายเรืองโรจน์ จอมสืบ ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์ กกต.กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์รับแจ้งเหตุทุจริตเลือกตั้งรับแจ้งเหตุทุจริตเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว 11 ราย แบ่งเป็นการแจกเงิน 7 ราย ใส่ร้าย 1 ราย ข่มขู่ 1 ราย เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง 1 ราย และจัดเลี้ยง 1 ราย ขณะที่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. รับแจ้งเหตุแล้ว 3 ราย เป็นเหตุแจกเงินที่เขตทุ่งครุ และบางซื่อ อย่างละ 1 ราย และเป็นเหตุเก็บบัตรประชาชนที่เขตบึงกุ่ม 1 ราย