ASTVผู้จัดการรายวัน - "สุเทพ" เหมาลำเครื่องบินเอกชนนำ "นายกฯ"ลงพื้นที่อุบลฯเป็นประธานฌาปนกิจศพ "ยายเนียม" หญิงชราชาวม่วงสามสิบที่ให้แหวนเมื่อครั้งมาหาเสียง ไร้เงากลุ่มคนเสื้อแดงมาป่วนท่ามกลางการอารักขาอย่างเข้มงวด ขณะที่ชาวบ้านกว่าพันคนร่วมไว้อาลัยและมอบดอกไม้เป็นกำลังใจนายกฯ "มาร์ค" เผยความประทับใจเมื่อครั้งได้รับแหวน พร้อมปราม"คนเสื้อแดง"ชุมนุมได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย ห้ามรุนแรง "เสื้อแดงขอนแก่น" รวมพลลานน้ำพุเผาหุ่น"อภิสิทธิ์" ตั้งโต๊ะล่าชื่อขอความเป็นธรรมให้ "แม้ว" ลั่นรากหญ้าต้องดึง "ทักษิณ" กลับมาบริหารประเทศให้ได้
เมื่อเวลา 14.50 น.วานนี้ (11 ม.ค.) ที่วัดบ้านโนนค้อ ต.ม่วง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเดินทางด้วยเครื่องบินตำรวจมาลงที่สนามบินกองบิน 21 อ.เมือง และนั่งเฮลิคอปเตอร์มาลงที่โรงเรียนม่วงสามสิบอัมพวัน เพื่อเดินทางมาร่วมพิธีศพนางเนียม พันธ์มณี หญิงชราที่มอบแหวนให้นายอภิสิทธิ์เมื่อครั้งเดินทางมารณรงค์โครงการคืนน้ำให้ข้าว คืนปลาให้ทุ่ง และนำความประทับใจครั้งนั้นมาพูดในวันที่นายอภิสิทธิ์ได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อนายอภิสิทธิ์ เดินทางมาถึงก็ได้รับมอบข้าวสารเหนียวและข้าวสารเจ้ากระสอบละ 30 กิโลกรัมจากนายหลา คิ้วยม บุตรชายบุญธรรมของนางเนียม โดยข้าวสารทั้งหมดเป็นความประสงค์ของนางเนียม ที่ตั้งใจจะนำไปมอบให้นายอภิสิทธิ์ แต่มาเสียชีวิตก่อน หลังจากนั้นนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ มอบเงินที่เรี่ยไรจากสมาชิกพรรคจำนวน 104,000 บาท ให้แก่ทายาทของนางเนียม
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวคำไว้อาลัยแก่นางเนียม โดยเล่าถึงวันที่มาพบกับนางเนียม เมื่อเดือนสิงหาคม 2550 และนางเนียม มอบแหวนให้ โดยหวังให้เข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ แต่ไม่มีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมนางเนียม กระทั่งได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้พูดถึงความประทับใจที่ได้รับจากนางเนียม พร้อมตั้งใจจะหาโอกาสมาเยี่ยมพูดคุยกับนางเนียม กระทั่งทราบว่านางเนียม มีอาการเจ็บป่วย แต่ไม่ทราบว่าเป็นโรคร้าย ซึ่งขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ กำลังหาจังหวะลงมาเยี่ยมอาการป่วย แต่นางเนียม ก็มาเสียชีวิตก่อน การเดินทางมาครั้งก็เพื่อมาไว้อาลัยและจะทำงานตามที่นางเนียม ได้ตั้งใจไว้
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เป็นประธานทอดผ้าบังสุกุล ก่อนมาเดินทักทายกับชาวบ้านที่มารอต้อนรับกว่า 1,000 คน ก่อนเดินทางกลับนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ได้รับเลือก โดยมีหลายเรื่องที่ต้องสานต่อ โดยมีโครงการรออนุมัติจากรัฐบาล และ กทม.ต้องร่วมมือกับรัฐบาล โดยเรื่องเฉพาะหน้ารัฐบาลต้องการให้ กทม.ช่วยเรื่องแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่ได้รับประโยชน์เฉพาะชาว กทม.เพราะมีพี่น้องจากทั่วประเทศทำงานอยู่ใน กทม.ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะเคลื่อนไหวนั้น เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นรถตู้ที่ใช้เป็นพาหนะก่อนไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์และไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน 21 กลับกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านายอภิสิทธิ์เดินทางมา มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจราจลจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร และอาสาสมัคร อปพร.กว่า 300 นายมาดูแลความสงบ ซึ่งไม่ปรากฏมีม็อบเสื้อแดงเข้ามาป่วนการเดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ของนายอภิสิทธิ์แต่อย่างใด
**ไม่หวั่นเสื้อแดงนัดเคลื่อนไหววันนี้
ก่อนหน้านี้เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 4 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ บริเวณโรงเรียนสวัสดีวิทยา ซอยสุขุมวิท 31 เกี่ยวกับกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวในวันนี้ (12 ม.ค.) ด้วยว่า ทุกคนมีสิทธิแสงความคิดเห็นทางการเมืองได้ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น รวมทั้งจะต้องไม่ทำลายสิ่งของทางราชการ หรือแม้กระทั้งจะต้องไม่ใช้ความรุนแรง การเคลื่อนไหวจะต้องอยู่ในทิศทางของกรอบรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ แต่ตำรวจก็ต้องไม่ถูกคนอื่นใช้เป็นเครื่องมือเช่นกัน
**สมเด็จเกี่ยวอวยพร"มาร์ค"เทวดารักษา
เวลา 12.30 น.นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังวัดสระเกศวรราชมหาวิหาร เพื่อร่วมงานงานอายุวัฒนมงคลครบ 81 ปีสมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือสมเด็จเกี่ยว ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และเจ้าอาวาสวัดสระเกศ โดยนายอภิสิทธิ์ เข้าขอพรจากสมเด็จเกี่ยวด้วย ซึ่งสมเด็จเกี่ยวกล่าวเพียงว่า "นายกฯมีพรในตัวของตัวเองอยู่แล้ว ขอให้เทวดาคุ้มครองรักษา อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ได้มาร่วมงานทุกปีอยู่แล้ว"
จากนั้นเวลา 13.00 น.นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำ 8 ที่นั่งที่ท่ากาศยานกรุงเทพ โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมดินทางไปด้วย โดยเครื่องบินได้บินไปลงที่กองบินน 21 จ.อุบลราชธานี เพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปลงที่โรงเรียนม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เพื่อไปร่วมงานฌาปนกิจศพยายเนียม พันธุ์มณี
ทั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเช่าเหมาลำเครื่องบินเอกชนไปร่วมงานศพยายเนียมว่า เนื่องจากนายกฯมีภารกิจที่กรุงเทพฯหลายงาน จึงไม่สามารถเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารตามปกติได้เนื่องจากมีเวลาบินจำกัด แค่ช่วงเช้ากับเย็นเท่านั้น พรรคจึงตัดสินใจเช่าเครื่องบินของบริษัทเอกชนไป
ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านมองว่ากรณีของยายเนียม พรรคประชาธิปัตย์ใช้เป็นประตูทางการเมืองเปิดไปสู่ภาคอีสานนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ฝ่ายคู่แข่งอาจจะคิดมากไปเอง เพราะการที่ยายเนียม ได้พบกับนายกฯ ได้พบก่อนที่จะมาเป็นนายกฯเสียอีก และได้พูดคุยหรือคิดตามแบบชาวบ้าน ที่อยากเห็นคนหนุ่มได้ขึ้นมาบริหารประเทศ ยายเนียม ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด และวันที่นายกฯอภิสิทธิ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ยายเนียม ก็ดีใจ พรรคก็ได้ติดต่อกับยายเนียม แต่โชคไม่ดีที่ยายเนียม เกิดอาการป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หายและเกิดการเสียชีวิตก่อน
**"จำลอง"อัดเสื้อแดงทำรุนแรงเพื่อสะใจ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงโดยยืนยันว่า การกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่ได้ใช้การกระทำของพันธมิตรฯเป็นบรรทัดฐาน เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงไร้เหตุผลทำเพื่อความสะใจ ซึ่งการก่อกวนการประชุมอาเซียนซัมมิทฯ ถือว่าไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องให้เป็นไปตามกฎหมายไม่สามารถเลือกที่รักมักที่ชังได้ พร้อมแสดงความไม่กังวลกรณีที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งความพันธมิตรฯ พร้อมที่จะรับผิดตามกฎหมาย
**เสื้อแดงล่าชื่อขอความเป็นธรรมให้แม้ว
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง เมื่อเย็นวานนี้ นางซาบีน่า ซาห์ และนายภูเบศ ภูมิอัครเศรษฐ แกนนำและผู้ประสานงานชมรมเสื้อแดงขอนแก่น ร่วมกันจัดงานรวมพลคนเสื้อแดง ที่บริเวณลานน้ำพุ ริมบึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น พร้อมตั้งโต๊ะรับสมัครสมาชิก "กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น" เพื่อร่วมลงชื่อขอความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อไม่ให้มีการถอดถอนยศตำแหน่งของอดีตนายกฯขวัญใจคนเสื้อแดง โดยมีชาวขอนแก่นที่สวมเสื้อแดงทยอยมาร่วมงานรวมกว่า 100 คน
นายภูเบศ เผยถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า ต้องการนัดรวมพลพลังคนเสื้อแดงใน จ.ขอนแก่น เพื่อดูพลังของคนที่มีใจสีแดงเหมือนกัน ซึ่งทุกคนมาด้วยใจ ไม่ได้รับจ้างมา โดยจะมีการประกาศยอดเงินบริจาคที่ชาวขอนแก่นได้มาบริจาคที่กล่องรับบริจาคหน้างานด้วย ซึ่งหลังจากนี้กลุ่มเสื้อแดงขอนแก่นจะได้ร่วมกันจัดงาน "ความจริงวันนี้สัญจร" ใน จ.ขอนแก่นต่อไป
นอกจากนี้ ภายในงานยังถือเป็นโอกาสดีที่กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่นจะได้พบปะกัน ซึ่งขณะนี้ผู้แจ้งความประสงค์ขอร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มแล้วกว่า 1,000 ราย ดังนั้น จึงมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้มีการสมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการ และยังเป็นการลงชื่อเพื่อให้ชาวขอนแก่นร่วมกันขอความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นบุคคลที่ทำคุณงามความดีให้แผ่นดินไทย แต่กลับไม่สามารถอยู่ในแผ่นดินเกิดได้
**เผาหุ่น"อภิสิทธิ์"- ด่ากลุ่มเนวินทรยศ
แกนนำกลุ่มเสื้อแดงขอนแก่น กล่าวอีกว่า สมาชิกกลุ่มจะร่วมกันประกาศนโยบายของกลุ่มเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยยืนยันไม่ว่าจะมีการให้ข่าวที่ให้ร้ายกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร กลุ่มคนเสื้อแดงก็ไม่มีวันหลงเชื่อและยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือนายกฯที่ดีที่สุดของประเทศไทย เป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตยที่แท้จริง มีความตั้งใจทำงานเพื่อคนจนและจะนำประเทศไทยไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ดังนั้น คนรากหญ้าจะไม่ยอมรับประชาธิปไตยจอมปลอมของพรรคประชาธิปัตย์ และระบบอำมาตย์ที่มีคนระดับนายพลเอก ร่วมกันกดขี่สิทธิของประชาชนอีกต่อไป ที่สำคัญเชื่อมั่นว่าพลังของคนรากหญ้าจะสามารถนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นผู้นำบริหารประเทศได้อีกครั้งแน่นอน
ทั้งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น ได้แสดงออกถึงความเกลียดชังพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ ทั้งการนำรูปนายอภิสิทธิ์ ติดกับหุ่นฟาง แล้วระบายอารมณ์ด้วยการเตะและใช้เท้าเหยียบ โดยพ่อแม่หลายคนได้ให้ลูกหลานทำตาม จากนั้นเมื่อแกนกลุ่มเสื้อแดงใช้ไฟแช็คจุดเผาหุ่นฟาง และนำผู้ชุมนุมตะโกนด่านายอภิสิทธิ์ ด้วยคำหยาบคาย พร้อมกับยกตีนตบขึ้นตบอย่างพออกพอใจ พร้อมประกาศไม่ยอมรับรัฐบาลชุดนี้ และขอให้ชาวขอนแก่นจำชื่อนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม และนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งเป็นคนทรยศหักหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยจะต้องไม่เลือกคนสองคนนี้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างเด็ดขาด และจะต่อต้านทุกองค์กร บุคคล และบริษัท ที่สนับสนุนพันธมิตรฯ
เมื่อเวลา 14.50 น.วานนี้ (11 ม.ค.) ที่วัดบ้านโนนค้อ ต.ม่วง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเดินทางด้วยเครื่องบินตำรวจมาลงที่สนามบินกองบิน 21 อ.เมือง และนั่งเฮลิคอปเตอร์มาลงที่โรงเรียนม่วงสามสิบอัมพวัน เพื่อเดินทางมาร่วมพิธีศพนางเนียม พันธ์มณี หญิงชราที่มอบแหวนให้นายอภิสิทธิ์เมื่อครั้งเดินทางมารณรงค์โครงการคืนน้ำให้ข้าว คืนปลาให้ทุ่ง และนำความประทับใจครั้งนั้นมาพูดในวันที่นายอภิสิทธิ์ได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อนายอภิสิทธิ์ เดินทางมาถึงก็ได้รับมอบข้าวสารเหนียวและข้าวสารเจ้ากระสอบละ 30 กิโลกรัมจากนายหลา คิ้วยม บุตรชายบุญธรรมของนางเนียม โดยข้าวสารทั้งหมดเป็นความประสงค์ของนางเนียม ที่ตั้งใจจะนำไปมอบให้นายอภิสิทธิ์ แต่มาเสียชีวิตก่อน หลังจากนั้นนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ มอบเงินที่เรี่ยไรจากสมาชิกพรรคจำนวน 104,000 บาท ให้แก่ทายาทของนางเนียม
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวคำไว้อาลัยแก่นางเนียม โดยเล่าถึงวันที่มาพบกับนางเนียม เมื่อเดือนสิงหาคม 2550 และนางเนียม มอบแหวนให้ โดยหวังให้เข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ แต่ไม่มีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมนางเนียม กระทั่งได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้พูดถึงความประทับใจที่ได้รับจากนางเนียม พร้อมตั้งใจจะหาโอกาสมาเยี่ยมพูดคุยกับนางเนียม กระทั่งทราบว่านางเนียม มีอาการเจ็บป่วย แต่ไม่ทราบว่าเป็นโรคร้าย ซึ่งขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ กำลังหาจังหวะลงมาเยี่ยมอาการป่วย แต่นางเนียม ก็มาเสียชีวิตก่อน การเดินทางมาครั้งก็เพื่อมาไว้อาลัยและจะทำงานตามที่นางเนียม ได้ตั้งใจไว้
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เป็นประธานทอดผ้าบังสุกุล ก่อนมาเดินทักทายกับชาวบ้านที่มารอต้อนรับกว่า 1,000 คน ก่อนเดินทางกลับนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ได้รับเลือก โดยมีหลายเรื่องที่ต้องสานต่อ โดยมีโครงการรออนุมัติจากรัฐบาล และ กทม.ต้องร่วมมือกับรัฐบาล โดยเรื่องเฉพาะหน้ารัฐบาลต้องการให้ กทม.ช่วยเรื่องแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่ได้รับประโยชน์เฉพาะชาว กทม.เพราะมีพี่น้องจากทั่วประเทศทำงานอยู่ใน กทม.ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะเคลื่อนไหวนั้น เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นรถตู้ที่ใช้เป็นพาหนะก่อนไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์และไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน 21 กลับกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านายอภิสิทธิ์เดินทางมา มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจราจลจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร และอาสาสมัคร อปพร.กว่า 300 นายมาดูแลความสงบ ซึ่งไม่ปรากฏมีม็อบเสื้อแดงเข้ามาป่วนการเดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ของนายอภิสิทธิ์แต่อย่างใด
**ไม่หวั่นเสื้อแดงนัดเคลื่อนไหววันนี้
ก่อนหน้านี้เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 4 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ บริเวณโรงเรียนสวัสดีวิทยา ซอยสุขุมวิท 31 เกี่ยวกับกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวในวันนี้ (12 ม.ค.) ด้วยว่า ทุกคนมีสิทธิแสงความคิดเห็นทางการเมืองได้ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น รวมทั้งจะต้องไม่ทำลายสิ่งของทางราชการ หรือแม้กระทั้งจะต้องไม่ใช้ความรุนแรง การเคลื่อนไหวจะต้องอยู่ในทิศทางของกรอบรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ แต่ตำรวจก็ต้องไม่ถูกคนอื่นใช้เป็นเครื่องมือเช่นกัน
**สมเด็จเกี่ยวอวยพร"มาร์ค"เทวดารักษา
เวลา 12.30 น.นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังวัดสระเกศวรราชมหาวิหาร เพื่อร่วมงานงานอายุวัฒนมงคลครบ 81 ปีสมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือสมเด็จเกี่ยว ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และเจ้าอาวาสวัดสระเกศ โดยนายอภิสิทธิ์ เข้าขอพรจากสมเด็จเกี่ยวด้วย ซึ่งสมเด็จเกี่ยวกล่าวเพียงว่า "นายกฯมีพรในตัวของตัวเองอยู่แล้ว ขอให้เทวดาคุ้มครองรักษา อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ได้มาร่วมงานทุกปีอยู่แล้ว"
จากนั้นเวลา 13.00 น.นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำ 8 ที่นั่งที่ท่ากาศยานกรุงเทพ โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมดินทางไปด้วย โดยเครื่องบินได้บินไปลงที่กองบินน 21 จ.อุบลราชธานี เพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปลงที่โรงเรียนม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เพื่อไปร่วมงานฌาปนกิจศพยายเนียม พันธุ์มณี
ทั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเช่าเหมาลำเครื่องบินเอกชนไปร่วมงานศพยายเนียมว่า เนื่องจากนายกฯมีภารกิจที่กรุงเทพฯหลายงาน จึงไม่สามารถเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารตามปกติได้เนื่องจากมีเวลาบินจำกัด แค่ช่วงเช้ากับเย็นเท่านั้น พรรคจึงตัดสินใจเช่าเครื่องบินของบริษัทเอกชนไป
ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านมองว่ากรณีของยายเนียม พรรคประชาธิปัตย์ใช้เป็นประตูทางการเมืองเปิดไปสู่ภาคอีสานนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ฝ่ายคู่แข่งอาจจะคิดมากไปเอง เพราะการที่ยายเนียม ได้พบกับนายกฯ ได้พบก่อนที่จะมาเป็นนายกฯเสียอีก และได้พูดคุยหรือคิดตามแบบชาวบ้าน ที่อยากเห็นคนหนุ่มได้ขึ้นมาบริหารประเทศ ยายเนียม ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด และวันที่นายกฯอภิสิทธิ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ยายเนียม ก็ดีใจ พรรคก็ได้ติดต่อกับยายเนียม แต่โชคไม่ดีที่ยายเนียม เกิดอาการป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หายและเกิดการเสียชีวิตก่อน
**"จำลอง"อัดเสื้อแดงทำรุนแรงเพื่อสะใจ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงโดยยืนยันว่า การกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่ได้ใช้การกระทำของพันธมิตรฯเป็นบรรทัดฐาน เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงไร้เหตุผลทำเพื่อความสะใจ ซึ่งการก่อกวนการประชุมอาเซียนซัมมิทฯ ถือว่าไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องให้เป็นไปตามกฎหมายไม่สามารถเลือกที่รักมักที่ชังได้ พร้อมแสดงความไม่กังวลกรณีที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งความพันธมิตรฯ พร้อมที่จะรับผิดตามกฎหมาย
**เสื้อแดงล่าชื่อขอความเป็นธรรมให้แม้ว
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง เมื่อเย็นวานนี้ นางซาบีน่า ซาห์ และนายภูเบศ ภูมิอัครเศรษฐ แกนนำและผู้ประสานงานชมรมเสื้อแดงขอนแก่น ร่วมกันจัดงานรวมพลคนเสื้อแดง ที่บริเวณลานน้ำพุ ริมบึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น พร้อมตั้งโต๊ะรับสมัครสมาชิก "กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น" เพื่อร่วมลงชื่อขอความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อไม่ให้มีการถอดถอนยศตำแหน่งของอดีตนายกฯขวัญใจคนเสื้อแดง โดยมีชาวขอนแก่นที่สวมเสื้อแดงทยอยมาร่วมงานรวมกว่า 100 คน
นายภูเบศ เผยถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า ต้องการนัดรวมพลพลังคนเสื้อแดงใน จ.ขอนแก่น เพื่อดูพลังของคนที่มีใจสีแดงเหมือนกัน ซึ่งทุกคนมาด้วยใจ ไม่ได้รับจ้างมา โดยจะมีการประกาศยอดเงินบริจาคที่ชาวขอนแก่นได้มาบริจาคที่กล่องรับบริจาคหน้างานด้วย ซึ่งหลังจากนี้กลุ่มเสื้อแดงขอนแก่นจะได้ร่วมกันจัดงาน "ความจริงวันนี้สัญจร" ใน จ.ขอนแก่นต่อไป
นอกจากนี้ ภายในงานยังถือเป็นโอกาสดีที่กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่นจะได้พบปะกัน ซึ่งขณะนี้ผู้แจ้งความประสงค์ขอร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มแล้วกว่า 1,000 ราย ดังนั้น จึงมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้มีการสมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการ และยังเป็นการลงชื่อเพื่อให้ชาวขอนแก่นร่วมกันขอความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นบุคคลที่ทำคุณงามความดีให้แผ่นดินไทย แต่กลับไม่สามารถอยู่ในแผ่นดินเกิดได้
**เผาหุ่น"อภิสิทธิ์"- ด่ากลุ่มเนวินทรยศ
แกนนำกลุ่มเสื้อแดงขอนแก่น กล่าวอีกว่า สมาชิกกลุ่มจะร่วมกันประกาศนโยบายของกลุ่มเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยยืนยันไม่ว่าจะมีการให้ข่าวที่ให้ร้ายกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร กลุ่มคนเสื้อแดงก็ไม่มีวันหลงเชื่อและยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือนายกฯที่ดีที่สุดของประเทศไทย เป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตยที่แท้จริง มีความตั้งใจทำงานเพื่อคนจนและจะนำประเทศไทยไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ดังนั้น คนรากหญ้าจะไม่ยอมรับประชาธิปไตยจอมปลอมของพรรคประชาธิปัตย์ และระบบอำมาตย์ที่มีคนระดับนายพลเอก ร่วมกันกดขี่สิทธิของประชาชนอีกต่อไป ที่สำคัญเชื่อมั่นว่าพลังของคนรากหญ้าจะสามารถนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นผู้นำบริหารประเทศได้อีกครั้งแน่นอน
ทั้งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น ได้แสดงออกถึงความเกลียดชังพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ ทั้งการนำรูปนายอภิสิทธิ์ ติดกับหุ่นฟาง แล้วระบายอารมณ์ด้วยการเตะและใช้เท้าเหยียบ โดยพ่อแม่หลายคนได้ให้ลูกหลานทำตาม จากนั้นเมื่อแกนกลุ่มเสื้อแดงใช้ไฟแช็คจุดเผาหุ่นฟาง และนำผู้ชุมนุมตะโกนด่านายอภิสิทธิ์ ด้วยคำหยาบคาย พร้อมกับยกตีนตบขึ้นตบอย่างพออกพอใจ พร้อมประกาศไม่ยอมรับรัฐบาลชุดนี้ และขอให้ชาวขอนแก่นจำชื่อนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม และนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งเป็นคนทรยศหักหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยจะต้องไม่เลือกคนสองคนนี้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างเด็ดขาด และจะต่อต้านทุกองค์กร บุคคล และบริษัท ที่สนับสนุนพันธมิตรฯ