"ยายเนียม"เสียชีวิตแล้ว หลังเจอแก๊งเสื้อแดงบุกอาละวาดถึงห้องไอซียู "อภิสิทธิ์"เผยโทรคุยครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นลม เตรียมไปงานศพ แต่ตำรวจเบรกไว้ อ้างขอเคลียร์แก๊งถ่อยก่อน ลั่นต้องใช้กฎหมายจัดการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ขว้างปา ทำลายทรัพย์สิน ยันประชุมอาเซียนซัมมิท ที่หัวหิน ไม่ย้ายหนี เชื่อรับมือกลุ่มที่จะตามไปป่วนได้
จากกรณีนางเนียม พันธุ์มณี หรือ "ยายเนียม" หญิงชราวัย 84 ปี ผู้ที่มอบแหวนทองเหลืองให้แก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่ไปหาเสียงที่ จ.อุบลราชธานี จนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ต่อมายายเนียม มีอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งในท่อน้ำดี จึงถูกนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และโรคได้ลุกลามทำให้ตับวาย ลูกหลานจึงเตรียมนำตัวยายเนียม กลับบ้านตามความประสงค์ของนางเนียม ที่ต้องการเสียชีวิตที่บ้าน ปรากฏว่าระหว่างแพทย์นำยายเนียม กลับบ้านด้วยรถพยาบาล ก็ได้เสียชีวิตระหว่างการเดินทาง
**"ยายเนียม" เสียชีวิตก่อนถึงบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวานนี้ (8 ม.ค.) ขณะที่นายหลา คิ้วยม บุตรบุญธรรมของยายเนียม พร้อมคณะแพทย์ นำตัวยายเนียม ใส่รถพยาบาลเดินทางกลับบ้านโนนค้อ หมู่ 3 ต.ม่วง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เมื่อรถแล่นเข้าเขตบ้านโนนค้อ ห่างจากบ้านยายเนียมประมาณ 1 กม. ยายเนียม ก็เสียชีวิตในรถพยาบาลที่นำมาส่ง
เมื่อนายหลา นำร่างที่ไร้วิญญาณของยายเนียมมาถึงบ้าน โดยมีเพื่อนบ้านและลูกหลานมารอรับด้วยสีหน้าเศร้าสลด ญาติของยายเนียม ได้กำหนดตั้งศพบำเพ็ญกุศล 7 วัน และจะทำการฌาปนกิจ ที่วัดบ้านโนนค้อ ในวันพุธที่ 14 ม.ค.นี้
ทั้งนี้ ยายเนียม มีอาการปวดท้องรุนแรง ญาติจึงส่งตัวเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.51 จนกระทั่งวันที่ 30 ธ.ค.51 ก็มีอาการอ่อนเพลียมาก แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และให้อาหารทางสายยางมาโดยตลอด โดยไม่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้ เนื่องจากมีอายุมากถึง 84 ปีแล้ว
นายหลา กล่าวว่า ญาติพี่น้องได้ทำใจไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ทราบว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็ง เมื่อปลายเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยบั้นปลายชีวิตของแม่ก็ได้รับการลูกแลจากแพทย์พยาบาลเป็นอย่างดี สิ่งที่อยากฝากไว้หลังแม่เสียชีวิตก็คือ การจัดหาแหล่งน้ำให้ชาวบ้านไว้ทำเกษตรกรรม การปรับปรุงถนนในหมู่บ้าน และช่วยทำให้ศาลาการเปรียญวัดบ้านโนนค้อที่ยังคั่งค้างให้เสร็จสมบูรณ์ตามความตั้งใจของแม่ด้วย
ด้านบรรยากาศการจัดงานศพของยายเนียม ได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าวว่ายายเนียม เสียชีวิตต่างเดินทางมาเคารพศพที่บ้านโนนค้อ จำนวนมาก พร้อมทั้งช่วยจัดเตรียมสถานที่สำหรับใช้ในพิธีรดน้ำศพที่จะมีขึ้นในเวลา 16.00 น. มีนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานพิธีรดน้ำศพ และมีพิธีสวดอภิธรรมศพในเวลา 18.30 น. ของทุกวัน กำหนดฌาปนกิจในวันที่ 14 ม.ค. โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี
**ปชป.รับเป็นเจ้าภาพสวดงานศพ
นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส เขต 1 อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังยายเนียม เสียชีวิตและมีข่าวว่านายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ จะทำเรื่องขอพระราชทานเพลิงศพให้ยายเนียม เป็นกรณีพิเศษ แต่ต่อมาญาติของยายเนียม ยืนยันว่ายายเนียม ได้สั่งไว้ก่อนเสียชีวิตให้จัดงานศพอย่างเรียบง่าย ถ้าจะให้ยิ่งใหญ่ก็คือ ต้องการให้มีคนมาร่วมงานศพมากๆ เท่านั้น แต่ไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษ จึงตกลงจะไม่ขอพระราชทานเพลิงศพ และการจัดงานศพครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเป็นเจ้าภาพงานทั้งหมดด้วย
**เสื้อแดงถ่อยบุกรพ.ป่วนยายเนียม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่นางเนียมจะเสียชีวิต 1 วัน (7 ม.ค.) ได้มีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 200 คนที่ใช้ชื่อว่า "ชักธงรบ" ได้ไปชุมนุมปิดล้อมประดูทางเข้า-ออกโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ทั้ง 4 จุดตั้งแต่ช่วงเย็น หลังจากมีข่าวว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเยี่ยมยายเนียม ซึ่งขณะนั้นยัง ที่รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เตรียมตีนตบมาใช้เพื่อขับไล่ด้วย
จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เดินทางมาตามข่าวลือ และเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงส่งคนไปตรวจสอบเที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายของวันที่ 7 ม.ค. ก็ได้รับการยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เดินทางมาตามข่าวลือ จึงได้พากันสลายตัวไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างการชุมนุมรอบโรงพยาบาลของกลุ่มเสื้อแดง ได้ทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก ทำให้คนป่วยที่จะต้องเข้าไปรักษาตัวภายในโรงพยาบาลเข้าไปลำบากขึ้น พร้อมกับมีเสียงด่าจากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน และญาติของผู้ป่วย รวมทั้งผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ถ่อย เพราะการมาชุมนุมพร้อมกับส่งเสียงดังของกลุ่มคนเสื้อแดง ได้สร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วยที่ต้องการจะพักผ่อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยหนักอย่างเช่นยายเนียม ซึ่งนอนอยู่ในห้องไอซียู ร่วมทั้งผู้ป่วยหนักรายอื่นๆ ด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ช่วงหนึ่งในระหว่างการชุมนุม นายประยุทธ์ มูลสาร แกนนำกลุ่มเสื้อแดงกลุ่มนี้ พร้อมพวกจำนวนหนึ่งได้พยายามที่จะบุกเข้าไปภายในโรงพยาบาลโดยอ้างว่าจะเข้าไปหายายเนียม ที่นอนป่วยอยู่ในห้องไอซียู แต่ทางโรงพยาบาลห้ามไว้ และได้เชิญตัวออกไปจนเกิดความวุ่นวายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น ยายเนียม ก็เสียชีวิต ท่ามกลางเสียงสาปแช่งจากชาวบ้านว่าการเสียชีวิตลงอย่างกระทันหันของยายเนียม ในครั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มนี้ มีส่วนด้วย ทั้งที่ยายเนียมนั้นน่าจะยังมีชีวิตต่ออยู่ได้อีกหลายวัน เพื่อให้ลูกหลานได้มาดูใจ
**ยายเนียมน้ำตาไหลอดสูเสื้อแดง
นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของยายเนียม และการแสดงออกของกลุ่มเสื้อแดง ที่ใช้ชื่อว่า"ชักธงรบ" ที่บุกไปที่ห้องไอซียู ร.พ.สรรพสิทธิประสงค์ ที่ยายเนียมนอนรักษาตัวอยู่ โดยมีการพูดจาหยาบคาย ไม่เหมาะสม แม้ยายเนียมจะตอบโต้ไม่ได้ แต่ยังมีความรู้สึกอยู่ ถึงกับน้ำตาไหล ความจริงกลุ่มคนดังกล่าวมีเพียง 200-300 คนเท่านั้น ซึ่งคนอุบลฯ ส่วนใหญ่เป็นคนมีน้ำใจ เข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกันเวลาที่ตกทุกข์ได้ยาก
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะยื่น กกต.ตรวจสอบว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่นำของไปให้ยายเนียมนั้น ไม่ใช่สาระ อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราต้องการส่งสัญญาณให้สังคมไทยไม่ทอดทิ้งกัน เมื่อผู้ใหญ่เจ็บป่วยลูกหลานก็ไปเยี่ยม ช่วงหนึ่งมียายคนหนึ่งผูกพันกับนักการเมืองที่ไม่มีตำแหน่ง วันนี้มีตำแหน่งก็ยังระลึกถึงกันอยู่ สิ่งของก็ราคาไม่มาก และระเบียบของกกต.กำหนดว่าการให้และรับสิ่งของในวาระต่างๆได้ไม่เกิน 3 พันบาท และสิ่งที่มอบให้ก็มีรูปภาพยายเนียมถ่ายคู่กับนาย อภิสิทธิ์ จดหมาย และกระเช้าของฝากราคาก็ไม่เกิน 1 พันบาท และมอบให้ที่โรงพยาบาล เขตอำเภอ และที่บ้าน อ.ม่วงสามสิบ ซึ่งทั้งสองเขตไม่มีการเลือกตั้งซ่อม
**ตำรวจไม่อยากให้นายกฯไปอุบลฯ
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรี ยังยืนยันจะไปที่ จ.อุบลราชธานี ทั้งที่กลุ่มคนเสื้อแดงรอประท้วงอยู่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หากเป็นไปได้ให้มาวันหลัง ขอเวลาเจรจากับคนเสื้อแดงก่อน แต่นายกฯ ก็ยืนยันจะไปร่วมงานศพต่อไป ส่วนจะเป็นเมื่อไร ต้องดูอีกครั้งหนึ่ง
**นายกฯโทรหายายเนียมก่อนสิ้นลม
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสโทรศัพท์ไปคุยกับยายเนียม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เข้าใจว่ายายเนียมไม่รับรู้มาสองวันแล้ว ตนจึงได้พยายามสื่อสารถึงยายเนียมเป็นครั้งสุดท้าย ทราบว่าอาการทรุดหนักมากในสองวันที่ผ่านมา ส่วนการจะไปร่วมพิธีศพยายเนียมหรือไม่ กำลังดูกำหนดการที่เป็นไปได้อยู่
ถามว่าเมื่อ เมื่อเช้านายกฯโทรศัพท์ไปหาได้คุยกับใครบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางญาติเปิดลำโพงโทรศัพท์ให้ยายเนียมฟัง ส่วนยายเนียมจะมีปฏิกริยาหรือไม่ตนไม่ได้ยิน เพราะเป็นการพูดทางโทรศัพท์ แต่ตอนนั้นมีญาติยายเนียมอยู่ด้วย และให้ตนพูดกับยายเนียมเป็นครั้งสุดท้าย
"ผมพูดว่า ความผูกพันที่ผมมีกับท่าน และครอบครัวจะมีตลอดไป และญาติพี่น้องและโรงพยาบาลได้พยายามช่วยเหลือคุณยายอย่างเต็มที่" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่ที่กลุ่มคนเสื้อแดงขณะนี้มีความเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะที่จ.อุบลฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนย้ำว่า อย่าให้มีความรุนแรง และในกรณีที่ไม่ใช่เรื่องของการเมืองอย่างกรณีนี้ ไม่อยากเห็นภาพความขัดแย้ง น่าจะเข้าใจและเห็นใจกันได้
เมื่อถามว่า จะแก้ปัญหาอย่างไรในหลายจุดที่เกิด และขณะเดียวกันก็มีรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาขู่ผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถ้าไม่ทำหน้าที่ จะมีการสั่งย้าย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่มีเรื่องไปขู่ หรือเรื่องอะไร เป็นเรื่องของการที่ต้องช่วยกันกำชับเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย และขอย้ำอีกครั้งว่า การชุมุนุมทำได้ แต่ควรมีขอบเขต การใช้สิ่งของขว้างปาเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ส่วนที่ดูว่าเหมือนว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆนั้น ตนคิดว่าไม่ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้สิ่งเหล่านี้พื่อให้เป็นข่าวเท่านั้น จริงๆ แล้วไม่ถือว่ามีอะไรรุนแรงขึ้น และเจ้าหน้าที่จะต้องช่วยดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ตนเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แม้กระทั่งเมื่อคืนก่อนที่ จ.บุรีรัมย์ ก็มีปัญหาเวทีทางการเมือง รวมถึง จ.สมุทรปราการด้วย
**ขันนอตตำรวจจัดการแก๊งถ่อย
เมื่อถามว่านายชวน หลีกภัย ระบุว่ารัฐบาลควรจัดการรูปแบบการเคลื่อนไหวเช่นนี้ เพราะเป็นขบวนการและจิตวิทยา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าช่วงบ่าย จะเรียกผู้ที่รับผิดชอบมาหารือในเรื่องนี้ จริงนั้นๆเราต้องการให้รักษากฎหมาย การแสดงออกใช้สิทธิเสรีภาพทำได้ แต่การทำร้ายกันไม่ควรเกิดขึ้นเด็ดขาด ไม่ว่าจะในรูปแบบใด
ส่วนกรณีที่นายชวน เสนอให้ล้างบางตำรวจที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดนั้น เราต้องให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ ใครไม่ปฏิบัติ ก็เป็นสิ่งที่ผู้บริหารและผู้บังคับบัญชาต้องพิจารณาต่อไป
**ยันประชุมอาเซียนซัมมิทที่หัวหิน
เมื่อถามว่า การประชุมอาเซียนซัมมิท ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มเสื้อแดงขู่ว่าจะตามไปต่อต้าน นายอภิสิทธิ์ กลาวว่า มั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลได้
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดง ประกาศจะตามไปชุมนุมประท้วง การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่หัวหินว่า เราคงไม่ย้ายแล้ว เพราะทุกฝ่ายเห็นตรงกันอย่างเป็นทางการแล้ว
ส่วนการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม คงต้องพูดคุยเจรจาทำความเข้าใจต่อไป เพราะยังมีเวลา ทางที่ดีที่สุด คนไทยทั้งประเทศควรร่วมกันเป็นเจ้าภาพ เพราะถ้าเราจัดได้อย่างดี ก็เป็นภาพพจน์ที่ดีของประเทศ และสร้างความเชื่อมั่น ธุรกิจ การลงทุน การท่องเที่ยวก็ดีขึ้น ยังมองไม่เห็นว่า คนที่มาชุมนุมจะมาด้วยเหตุผลอะไร
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ส่วนคนที่จะไปยื่นหนังสือถึงสถานทูตต่างๆ ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย บางคนเคยเป็น รมว.ต่างประเทศ ก็น่าจะรู้ว่าเรื่องการประชุมอาเซียน เป็นผลประโยชน์ที่คนไทยทั้งประเทศจะได้รับ ในฐานะที่เราเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงก็มีการเตรียมการกัน และก็มอบให้ผู้เกี่ยวข้องไปดูแลแล้ว
"ผมยังเชื่อว่าเมื่อถึงวันนั้นพลังของคนไทยจะช่วยกันบอกกับผู้ชุมนุมว่า ให้ช่วยกันในฐานะที่เป็นเจ้าภาพ อย่าทำอะไรให้ประเทศต้องเสียหายอีกเลย เราบาดเจ็บมาพอแล้ว ประเทศมาถึงจุดนี้ก็วิกฤติพอแล้ว อย่าไปเพิ่มเติมความวิกฤติเลย" นายสาทิตย์กล่าว
เมื่อถามถึงเรื่องที่กลุ่มเสื้อแดง ประกาศจะมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลทุกวัน นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เป็นสิทธิของเขา แต่เท่าที่ดูเขาน่าจะเห็นว่า ตอนนี้ประชาชนคิดอย่างไรกับพฤติกรรมของเขา เพราะหลายเรื่องเกินเลยขอบเขตการเรียกร้องสิทธิตามรัฐธรรมนูญ กลายเป็นพฤติกรรมก่อกวน ไม่เหมาะสมที่จะละเมิดสิทธิส่วนบุคคล วันนี้เกินเลยการชุมนุมภายใต้สิทธิรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องคนกลุ่มน้อย วันนี้คนกลุ่มใหญ่รู้แล้วว่า ประเทศต้องเดินไปข้างหน้า
เมื่อถามถึงความคืบหน้า กรณีที่นายกฯ เตรียมตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง นายสาทิตย์ กล่าวว่า นายกฯ จะประกาศเรื่องนี้ เราเห็นว่าเป็นเรื่องจริงจังต้องทำ และเป็นกระบวนการที่จะชี้ให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหาวิกฤตความขัดแย้งก็ต้องมีกลไกพิเศษขึ้นมาให้หลักประกัน
**มั่นใจคุมเสื้อแดงอยู่หมัด
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า การแสดงออกทางการเมือง ทุกคนสามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ ไม่มีการสกัดกั้น แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น เช่น การขว้างปาข้าวของ หรือทำร้ายร่างกายกัน อย่างนี้ไม่ได้ ไม่ยอม และถ้าตำรวจไม่ดำเนินคดี ตนก็จะเล่นงานตำรวจ และตนเห็นด้วยกับคำพูดของนายชวน หลีกภัย ที่บอกว่าถ้าตำรวจไม่ดี ก็ต้องล้างบางตำรวจ เพราะตำรวจเป็นผู้ที่ต้องดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นผู้รักษากฎหมาย ถ้าตำรวจไปร่วมด้วยช่วยกันซะเองอย่างนี้ ก็ต้องดำเนินการกัน ตอนนี้กำลังมีการประเมินอยู่ ซึ่งต้องใช้เวลาบ้าง ประมาณสัก 3 เดือน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมอาเซียนซัมมิทที่มีข่าวว่ามีบางประเทศ อย่างน้อย 2 ประเทศคือ จีน และกัมพูชา ถอนตัวแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มี พูดไปเรื่อยเปื่อย ยืนยันไม่มีแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุมอาเซียน ซัมมิท จะมีการรักษาความปลอดภัยอย่างไร เพราะมีเครื่องบินบางประเทศที่ลงที่สนามบินหัวหินไม่ได้ ต้องมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อน นายสุเทพ กล่าวยอมรับว่ามีเครื่องบินอยู่ 2 -3ประเทศ ที่ไม่สามารถลงที่สนามบินหัวหินได้ ก็ต้องมาลงที่สุวรรณภูมิ แต่เราก็ไม่ได้กลัวพวกเสื้อแดงอะไร ขนาดนั้น
"เขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เขาแค่เป็นคนประท้วงเฉย ๆ ไม่ใช่พอเห็นหน้าแล้วจะต้องยิง หรือขว้างระเบิดเอา ไม่ใช่ ซึ่งเราก็ต้องมีการเจรจากับเขา" นายสุเทพกล่าว
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงจะตามไปที่หัวหิน นายสุเทพ กล่าวว่า ไปไม่ได้ ไปทำไม
"มาจากสุราษฎร์ธานี ผมก็ไม่ให้มาอยู่แล้ว ลงจากเพชรบุรี ก็ติดนายอลงกรณ์ ผมเชื่อว่าไม่มี และที่หัวหินนี้ โดยธรรมชาติประชาชนที่นั่นเขาจะไม่มีสีเหลือง สีแดงอยู่แล้ว และการเดินทางไปมา ก็ควบคุมกันง่าย อย่าไปตระหนก กลุ่มเสื้อแดงไปได้ทุกที่ แต่อย่าไปทำร้ายคน หรือทำลายสิ่งของราชการก็แล้วกัน จะไปไหนก็ได้ ประเทศนี้เสรี จะเดินทั้งวันก็ได้" นายสุเทพกล่าว
**ยังคิดเจรจากับทักษิณ
เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ยังคิดจะเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่ายังรออยู่ ตอนนี้รอสัญญาณอยู่ว่าเมื่อไรเขาจะนัดหมายมา แต่ขอว่าอย่าถามเลยว่าติดต่อผ่านทางใคร เพราะเขาคนนั้นจะถูกกดดัน และถูกเขม่น ส่วนที่มีคนบอกว่าตนไม่ได้ติดต่อจริงนั้น ก็ขอบอกว่าตนไม่ได้ติดต่อคนที่พูดก็แล้วกัน เมื่อถามว่าทำไมจึงมั่นใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเจรจาด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ไม่มีอะไรเสียหาย ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ กับตนก็คุยกันหลายรอบแล้ว และหลายเรื่องที่ตนเคยแนะนำไป ที่เป็นประโยชน์ ซึ่งถ้าเขายอมร่วมมือกับตนได้ก็ดี แต่ถ้าเขาไม่ร่วมมือ ตนก็ไม่ขาดทุนอะไร ขณะนี้ยังคิดว่าจะเป็นไปด้วยดี
**ประท้วงแบบผิดกม. ต้องจัดการ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุมฝ่ายความมั่นคงถึงปัญหาความแตกแยก และกลุ่มเสื้อแดงที่พยายามป่วนไปทุกเรื่องว่า ได้ย้ำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องแยกแยะว่า ส่วนที่ใช้สิทธิการชุมนุมก็เปิดโอกาสทำได้ แต่ความผิดในลักษณะที่ทำร้ายร่างกาย ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ใครตั้งใจทำร้ายร่างการคนอื่นก็ผิดชัดเจน ต้องดำเนินการ ตนได้กำชับคดีที่ทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน ทุกเหตุการณ์ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม ควรเร่งรัดให้มีความชัดเจน ต่อไปการเคลื่อนไหวในการชุมนุมครั้งหน้าก็ทำได้ แต่หากทำผิดกฏหมายดังกล่าว ต้องดำเนินการทันที
**หาคนกลางสร้างสมานฉันท์
ผู้สื่อข่าวถามว่า รูปธรรมของการสร้างความสมานฉันท์จะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องติดตามในเรื่องของความเป็นธรรม ตนคงไม่สามารถพิสูจน์การทำงานได้ในเวลาสั้นๆ แต่มาตรการที่เดินหน้าเต็มที่ เชื่อว่าภายในไม่กี่เดือนคงเห็นผลชัด ในส่วนของการปฏิรูปการเมือง และส่วนของคดีความต่างๆ กำลังทาบทามบุคคที่เป็นบุคคลภายนอกที่ไม่อยู่วังวนของความขัดแย้ง มาช่วยดำเนินการให้เป็นที่ยอมรับและมีความชัดเจน ซึ่งขอเวลาอีก 1 สัปดาห์ จึงจะเปิดเผยรายชื่อ เพราะอยู่ในช่วงที่กำลังสอบถามความคิดเห็นฝ่ายต่างๆ อยู่
เมื่อถามว่าองค์กรที่ตั้งขึ้นอาจจะต้องมีกฏหมายรองรับ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดแทรกแซงกระบนการยุติธรรม เพราะต้องการสะท้อนข้อมูลให้ครบถ้วนเท่านั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการสอบทาน ทำให้เกิดความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเว้น หรือปกป้องใคร ลักษณะองค์กรคงไม่ใหญ่ เพราะจะทำให้ทำงานยาก
เมื่อถามว่าลักษณะรูปแบบจะคล้ายกับคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) ในยุค พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะไม่คล้ายรูปแบบ กอส. เพราะกอส.จำเป็นที่จะต้องมีหลายฝ่ายมากๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง และภารกิจ กอส. ครอบคลุมนโยบาย ทั้งระยะยาวมีเวลาทำงานมาก แต่กรณีนี้เข้าใจว่า มีความจำเป็นที่จะต้องทำในระยะเวลาสั้นๆ มีความกระชับ ประเด็นไม่ซับซ้อน แต่ต้องทำให้ครบถ้วนมีความเป็นธรรม รูปแบบให้ข้อมูลข้อเสนอแนะกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่าให้เกิดความเป็นกลาง แต่รัฐบาลก็มีจุดอ่อนที่ให้นายกษิต ภิรมย์ มาเป็นรมว.ต่างประเทศ และไม่ยอมรับกลุ่มเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่งที่อยากย้ำ กรณีนายกษิต มาร่วมงานในกรอบผู้มีประสบการณ์เรื่องงานการต่างประเทศ เรื่องเศรษฐกิจ ช่วยตนมาตลอด ให้นายกษิต มาทำงานในกระทรวงต่างประเทศ ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ส่วนนายกษิตจะมีส่วนร่วมเคลื่อนไหวอย่างไร หรือทำผิดอย่างไร ก็ต้องมีการดำเนินการ แต่ขณะนี้นายกษิตยังไม่มีความผิดอะไร ก็ทำงานตามมอบหมาย ที่ผ่านมาหากนายกษิต จะไปชุมนุมตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญมีให้ ก็สามารถทำได้ ส่วนเรื่องคดีความเหตุการณ์ในทำเนียบฯ ตนได้หารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ก็ต้องดำเนินการให้ชัดเจน กรณีทำร้ายร่างกาย ใครที่เกียวข้องต้องดำเนินการ ไม่ว่าเสื้อสีไหนก็ตาม
ส่วนกรอบระยะเวลาตน ต้องการให้รวดเร็ว แต่เมื่อสอบถามไปยังพล.ต.อ. พัชรวาท ก็บอกว่าต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ จะให้เร็วทันใจคงไม่ได้ เพราะการพิสูจน์ความผิดหรือถูกทางกฏหมาย ต้องใช้เวลา ตนยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว โดยได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน.
จากกรณีนางเนียม พันธุ์มณี หรือ "ยายเนียม" หญิงชราวัย 84 ปี ผู้ที่มอบแหวนทองเหลืองให้แก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่ไปหาเสียงที่ จ.อุบลราชธานี จนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ต่อมายายเนียม มีอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งในท่อน้ำดี จึงถูกนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และโรคได้ลุกลามทำให้ตับวาย ลูกหลานจึงเตรียมนำตัวยายเนียม กลับบ้านตามความประสงค์ของนางเนียม ที่ต้องการเสียชีวิตที่บ้าน ปรากฏว่าระหว่างแพทย์นำยายเนียม กลับบ้านด้วยรถพยาบาล ก็ได้เสียชีวิตระหว่างการเดินทาง
**"ยายเนียม" เสียชีวิตก่อนถึงบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวานนี้ (8 ม.ค.) ขณะที่นายหลา คิ้วยม บุตรบุญธรรมของยายเนียม พร้อมคณะแพทย์ นำตัวยายเนียม ใส่รถพยาบาลเดินทางกลับบ้านโนนค้อ หมู่ 3 ต.ม่วง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เมื่อรถแล่นเข้าเขตบ้านโนนค้อ ห่างจากบ้านยายเนียมประมาณ 1 กม. ยายเนียม ก็เสียชีวิตในรถพยาบาลที่นำมาส่ง
เมื่อนายหลา นำร่างที่ไร้วิญญาณของยายเนียมมาถึงบ้าน โดยมีเพื่อนบ้านและลูกหลานมารอรับด้วยสีหน้าเศร้าสลด ญาติของยายเนียม ได้กำหนดตั้งศพบำเพ็ญกุศล 7 วัน และจะทำการฌาปนกิจ ที่วัดบ้านโนนค้อ ในวันพุธที่ 14 ม.ค.นี้
ทั้งนี้ ยายเนียม มีอาการปวดท้องรุนแรง ญาติจึงส่งตัวเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.51 จนกระทั่งวันที่ 30 ธ.ค.51 ก็มีอาการอ่อนเพลียมาก แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และให้อาหารทางสายยางมาโดยตลอด โดยไม่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้ เนื่องจากมีอายุมากถึง 84 ปีแล้ว
นายหลา กล่าวว่า ญาติพี่น้องได้ทำใจไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ทราบว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็ง เมื่อปลายเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยบั้นปลายชีวิตของแม่ก็ได้รับการลูกแลจากแพทย์พยาบาลเป็นอย่างดี สิ่งที่อยากฝากไว้หลังแม่เสียชีวิตก็คือ การจัดหาแหล่งน้ำให้ชาวบ้านไว้ทำเกษตรกรรม การปรับปรุงถนนในหมู่บ้าน และช่วยทำให้ศาลาการเปรียญวัดบ้านโนนค้อที่ยังคั่งค้างให้เสร็จสมบูรณ์ตามความตั้งใจของแม่ด้วย
ด้านบรรยากาศการจัดงานศพของยายเนียม ได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าวว่ายายเนียม เสียชีวิตต่างเดินทางมาเคารพศพที่บ้านโนนค้อ จำนวนมาก พร้อมทั้งช่วยจัดเตรียมสถานที่สำหรับใช้ในพิธีรดน้ำศพที่จะมีขึ้นในเวลา 16.00 น. มีนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานพิธีรดน้ำศพ และมีพิธีสวดอภิธรรมศพในเวลา 18.30 น. ของทุกวัน กำหนดฌาปนกิจในวันที่ 14 ม.ค. โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี
**ปชป.รับเป็นเจ้าภาพสวดงานศพ
นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส เขต 1 อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังยายเนียม เสียชีวิตและมีข่าวว่านายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ จะทำเรื่องขอพระราชทานเพลิงศพให้ยายเนียม เป็นกรณีพิเศษ แต่ต่อมาญาติของยายเนียม ยืนยันว่ายายเนียม ได้สั่งไว้ก่อนเสียชีวิตให้จัดงานศพอย่างเรียบง่าย ถ้าจะให้ยิ่งใหญ่ก็คือ ต้องการให้มีคนมาร่วมงานศพมากๆ เท่านั้น แต่ไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษ จึงตกลงจะไม่ขอพระราชทานเพลิงศพ และการจัดงานศพครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเป็นเจ้าภาพงานทั้งหมดด้วย
**เสื้อแดงถ่อยบุกรพ.ป่วนยายเนียม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่นางเนียมจะเสียชีวิต 1 วัน (7 ม.ค.) ได้มีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 200 คนที่ใช้ชื่อว่า "ชักธงรบ" ได้ไปชุมนุมปิดล้อมประดูทางเข้า-ออกโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ทั้ง 4 จุดตั้งแต่ช่วงเย็น หลังจากมีข่าวว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเยี่ยมยายเนียม ซึ่งขณะนั้นยัง ที่รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เตรียมตีนตบมาใช้เพื่อขับไล่ด้วย
จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เดินทางมาตามข่าวลือ และเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงส่งคนไปตรวจสอบเที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายของวันที่ 7 ม.ค. ก็ได้รับการยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เดินทางมาตามข่าวลือ จึงได้พากันสลายตัวไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างการชุมนุมรอบโรงพยาบาลของกลุ่มเสื้อแดง ได้ทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก ทำให้คนป่วยที่จะต้องเข้าไปรักษาตัวภายในโรงพยาบาลเข้าไปลำบากขึ้น พร้อมกับมีเสียงด่าจากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน และญาติของผู้ป่วย รวมทั้งผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ถ่อย เพราะการมาชุมนุมพร้อมกับส่งเสียงดังของกลุ่มคนเสื้อแดง ได้สร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วยที่ต้องการจะพักผ่อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยหนักอย่างเช่นยายเนียม ซึ่งนอนอยู่ในห้องไอซียู ร่วมทั้งผู้ป่วยหนักรายอื่นๆ ด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ช่วงหนึ่งในระหว่างการชุมนุม นายประยุทธ์ มูลสาร แกนนำกลุ่มเสื้อแดงกลุ่มนี้ พร้อมพวกจำนวนหนึ่งได้พยายามที่จะบุกเข้าไปภายในโรงพยาบาลโดยอ้างว่าจะเข้าไปหายายเนียม ที่นอนป่วยอยู่ในห้องไอซียู แต่ทางโรงพยาบาลห้ามไว้ และได้เชิญตัวออกไปจนเกิดความวุ่นวายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น ยายเนียม ก็เสียชีวิต ท่ามกลางเสียงสาปแช่งจากชาวบ้านว่าการเสียชีวิตลงอย่างกระทันหันของยายเนียม ในครั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มนี้ มีส่วนด้วย ทั้งที่ยายเนียมนั้นน่าจะยังมีชีวิตต่ออยู่ได้อีกหลายวัน เพื่อให้ลูกหลานได้มาดูใจ
**ยายเนียมน้ำตาไหลอดสูเสื้อแดง
นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของยายเนียม และการแสดงออกของกลุ่มเสื้อแดง ที่ใช้ชื่อว่า"ชักธงรบ" ที่บุกไปที่ห้องไอซียู ร.พ.สรรพสิทธิประสงค์ ที่ยายเนียมนอนรักษาตัวอยู่ โดยมีการพูดจาหยาบคาย ไม่เหมาะสม แม้ยายเนียมจะตอบโต้ไม่ได้ แต่ยังมีความรู้สึกอยู่ ถึงกับน้ำตาไหล ความจริงกลุ่มคนดังกล่าวมีเพียง 200-300 คนเท่านั้น ซึ่งคนอุบลฯ ส่วนใหญ่เป็นคนมีน้ำใจ เข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกันเวลาที่ตกทุกข์ได้ยาก
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะยื่น กกต.ตรวจสอบว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่นำของไปให้ยายเนียมนั้น ไม่ใช่สาระ อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราต้องการส่งสัญญาณให้สังคมไทยไม่ทอดทิ้งกัน เมื่อผู้ใหญ่เจ็บป่วยลูกหลานก็ไปเยี่ยม ช่วงหนึ่งมียายคนหนึ่งผูกพันกับนักการเมืองที่ไม่มีตำแหน่ง วันนี้มีตำแหน่งก็ยังระลึกถึงกันอยู่ สิ่งของก็ราคาไม่มาก และระเบียบของกกต.กำหนดว่าการให้และรับสิ่งของในวาระต่างๆได้ไม่เกิน 3 พันบาท และสิ่งที่มอบให้ก็มีรูปภาพยายเนียมถ่ายคู่กับนาย อภิสิทธิ์ จดหมาย และกระเช้าของฝากราคาก็ไม่เกิน 1 พันบาท และมอบให้ที่โรงพยาบาล เขตอำเภอ และที่บ้าน อ.ม่วงสามสิบ ซึ่งทั้งสองเขตไม่มีการเลือกตั้งซ่อม
**ตำรวจไม่อยากให้นายกฯไปอุบลฯ
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรี ยังยืนยันจะไปที่ จ.อุบลราชธานี ทั้งที่กลุ่มคนเสื้อแดงรอประท้วงอยู่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หากเป็นไปได้ให้มาวันหลัง ขอเวลาเจรจากับคนเสื้อแดงก่อน แต่นายกฯ ก็ยืนยันจะไปร่วมงานศพต่อไป ส่วนจะเป็นเมื่อไร ต้องดูอีกครั้งหนึ่ง
**นายกฯโทรหายายเนียมก่อนสิ้นลม
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสโทรศัพท์ไปคุยกับยายเนียม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เข้าใจว่ายายเนียมไม่รับรู้มาสองวันแล้ว ตนจึงได้พยายามสื่อสารถึงยายเนียมเป็นครั้งสุดท้าย ทราบว่าอาการทรุดหนักมากในสองวันที่ผ่านมา ส่วนการจะไปร่วมพิธีศพยายเนียมหรือไม่ กำลังดูกำหนดการที่เป็นไปได้อยู่
ถามว่าเมื่อ เมื่อเช้านายกฯโทรศัพท์ไปหาได้คุยกับใครบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางญาติเปิดลำโพงโทรศัพท์ให้ยายเนียมฟัง ส่วนยายเนียมจะมีปฏิกริยาหรือไม่ตนไม่ได้ยิน เพราะเป็นการพูดทางโทรศัพท์ แต่ตอนนั้นมีญาติยายเนียมอยู่ด้วย และให้ตนพูดกับยายเนียมเป็นครั้งสุดท้าย
"ผมพูดว่า ความผูกพันที่ผมมีกับท่าน และครอบครัวจะมีตลอดไป และญาติพี่น้องและโรงพยาบาลได้พยายามช่วยเหลือคุณยายอย่างเต็มที่" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่ที่กลุ่มคนเสื้อแดงขณะนี้มีความเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะที่จ.อุบลฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนย้ำว่า อย่าให้มีความรุนแรง และในกรณีที่ไม่ใช่เรื่องของการเมืองอย่างกรณีนี้ ไม่อยากเห็นภาพความขัดแย้ง น่าจะเข้าใจและเห็นใจกันได้
เมื่อถามว่า จะแก้ปัญหาอย่างไรในหลายจุดที่เกิด และขณะเดียวกันก็มีรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาขู่ผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถ้าไม่ทำหน้าที่ จะมีการสั่งย้าย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่มีเรื่องไปขู่ หรือเรื่องอะไร เป็นเรื่องของการที่ต้องช่วยกันกำชับเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย และขอย้ำอีกครั้งว่า การชุมุนุมทำได้ แต่ควรมีขอบเขต การใช้สิ่งของขว้างปาเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ส่วนที่ดูว่าเหมือนว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆนั้น ตนคิดว่าไม่ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้สิ่งเหล่านี้พื่อให้เป็นข่าวเท่านั้น จริงๆ แล้วไม่ถือว่ามีอะไรรุนแรงขึ้น และเจ้าหน้าที่จะต้องช่วยดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ตนเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แม้กระทั่งเมื่อคืนก่อนที่ จ.บุรีรัมย์ ก็มีปัญหาเวทีทางการเมือง รวมถึง จ.สมุทรปราการด้วย
**ขันนอตตำรวจจัดการแก๊งถ่อย
เมื่อถามว่านายชวน หลีกภัย ระบุว่ารัฐบาลควรจัดการรูปแบบการเคลื่อนไหวเช่นนี้ เพราะเป็นขบวนการและจิตวิทยา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าช่วงบ่าย จะเรียกผู้ที่รับผิดชอบมาหารือในเรื่องนี้ จริงนั้นๆเราต้องการให้รักษากฎหมาย การแสดงออกใช้สิทธิเสรีภาพทำได้ แต่การทำร้ายกันไม่ควรเกิดขึ้นเด็ดขาด ไม่ว่าจะในรูปแบบใด
ส่วนกรณีที่นายชวน เสนอให้ล้างบางตำรวจที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดนั้น เราต้องให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ ใครไม่ปฏิบัติ ก็เป็นสิ่งที่ผู้บริหารและผู้บังคับบัญชาต้องพิจารณาต่อไป
**ยันประชุมอาเซียนซัมมิทที่หัวหิน
เมื่อถามว่า การประชุมอาเซียนซัมมิท ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มเสื้อแดงขู่ว่าจะตามไปต่อต้าน นายอภิสิทธิ์ กลาวว่า มั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลได้
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดง ประกาศจะตามไปชุมนุมประท้วง การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่หัวหินว่า เราคงไม่ย้ายแล้ว เพราะทุกฝ่ายเห็นตรงกันอย่างเป็นทางการแล้ว
ส่วนการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม คงต้องพูดคุยเจรจาทำความเข้าใจต่อไป เพราะยังมีเวลา ทางที่ดีที่สุด คนไทยทั้งประเทศควรร่วมกันเป็นเจ้าภาพ เพราะถ้าเราจัดได้อย่างดี ก็เป็นภาพพจน์ที่ดีของประเทศ และสร้างความเชื่อมั่น ธุรกิจ การลงทุน การท่องเที่ยวก็ดีขึ้น ยังมองไม่เห็นว่า คนที่มาชุมนุมจะมาด้วยเหตุผลอะไร
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ส่วนคนที่จะไปยื่นหนังสือถึงสถานทูตต่างๆ ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย บางคนเคยเป็น รมว.ต่างประเทศ ก็น่าจะรู้ว่าเรื่องการประชุมอาเซียน เป็นผลประโยชน์ที่คนไทยทั้งประเทศจะได้รับ ในฐานะที่เราเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงก็มีการเตรียมการกัน และก็มอบให้ผู้เกี่ยวข้องไปดูแลแล้ว
"ผมยังเชื่อว่าเมื่อถึงวันนั้นพลังของคนไทยจะช่วยกันบอกกับผู้ชุมนุมว่า ให้ช่วยกันในฐานะที่เป็นเจ้าภาพ อย่าทำอะไรให้ประเทศต้องเสียหายอีกเลย เราบาดเจ็บมาพอแล้ว ประเทศมาถึงจุดนี้ก็วิกฤติพอแล้ว อย่าไปเพิ่มเติมความวิกฤติเลย" นายสาทิตย์กล่าว
เมื่อถามถึงเรื่องที่กลุ่มเสื้อแดง ประกาศจะมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลทุกวัน นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เป็นสิทธิของเขา แต่เท่าที่ดูเขาน่าจะเห็นว่า ตอนนี้ประชาชนคิดอย่างไรกับพฤติกรรมของเขา เพราะหลายเรื่องเกินเลยขอบเขตการเรียกร้องสิทธิตามรัฐธรรมนูญ กลายเป็นพฤติกรรมก่อกวน ไม่เหมาะสมที่จะละเมิดสิทธิส่วนบุคคล วันนี้เกินเลยการชุมนุมภายใต้สิทธิรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องคนกลุ่มน้อย วันนี้คนกลุ่มใหญ่รู้แล้วว่า ประเทศต้องเดินไปข้างหน้า
เมื่อถามถึงความคืบหน้า กรณีที่นายกฯ เตรียมตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง นายสาทิตย์ กล่าวว่า นายกฯ จะประกาศเรื่องนี้ เราเห็นว่าเป็นเรื่องจริงจังต้องทำ และเป็นกระบวนการที่จะชี้ให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหาวิกฤตความขัดแย้งก็ต้องมีกลไกพิเศษขึ้นมาให้หลักประกัน
**มั่นใจคุมเสื้อแดงอยู่หมัด
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า การแสดงออกทางการเมือง ทุกคนสามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ ไม่มีการสกัดกั้น แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น เช่น การขว้างปาข้าวของ หรือทำร้ายร่างกายกัน อย่างนี้ไม่ได้ ไม่ยอม และถ้าตำรวจไม่ดำเนินคดี ตนก็จะเล่นงานตำรวจ และตนเห็นด้วยกับคำพูดของนายชวน หลีกภัย ที่บอกว่าถ้าตำรวจไม่ดี ก็ต้องล้างบางตำรวจ เพราะตำรวจเป็นผู้ที่ต้องดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นผู้รักษากฎหมาย ถ้าตำรวจไปร่วมด้วยช่วยกันซะเองอย่างนี้ ก็ต้องดำเนินการกัน ตอนนี้กำลังมีการประเมินอยู่ ซึ่งต้องใช้เวลาบ้าง ประมาณสัก 3 เดือน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมอาเซียนซัมมิทที่มีข่าวว่ามีบางประเทศ อย่างน้อย 2 ประเทศคือ จีน และกัมพูชา ถอนตัวแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มี พูดไปเรื่อยเปื่อย ยืนยันไม่มีแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุมอาเซียน ซัมมิท จะมีการรักษาความปลอดภัยอย่างไร เพราะมีเครื่องบินบางประเทศที่ลงที่สนามบินหัวหินไม่ได้ ต้องมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อน นายสุเทพ กล่าวยอมรับว่ามีเครื่องบินอยู่ 2 -3ประเทศ ที่ไม่สามารถลงที่สนามบินหัวหินได้ ก็ต้องมาลงที่สุวรรณภูมิ แต่เราก็ไม่ได้กลัวพวกเสื้อแดงอะไร ขนาดนั้น
"เขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เขาแค่เป็นคนประท้วงเฉย ๆ ไม่ใช่พอเห็นหน้าแล้วจะต้องยิง หรือขว้างระเบิดเอา ไม่ใช่ ซึ่งเราก็ต้องมีการเจรจากับเขา" นายสุเทพกล่าว
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงจะตามไปที่หัวหิน นายสุเทพ กล่าวว่า ไปไม่ได้ ไปทำไม
"มาจากสุราษฎร์ธานี ผมก็ไม่ให้มาอยู่แล้ว ลงจากเพชรบุรี ก็ติดนายอลงกรณ์ ผมเชื่อว่าไม่มี และที่หัวหินนี้ โดยธรรมชาติประชาชนที่นั่นเขาจะไม่มีสีเหลือง สีแดงอยู่แล้ว และการเดินทางไปมา ก็ควบคุมกันง่าย อย่าไปตระหนก กลุ่มเสื้อแดงไปได้ทุกที่ แต่อย่าไปทำร้ายคน หรือทำลายสิ่งของราชการก็แล้วกัน จะไปไหนก็ได้ ประเทศนี้เสรี จะเดินทั้งวันก็ได้" นายสุเทพกล่าว
**ยังคิดเจรจากับทักษิณ
เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ยังคิดจะเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่ายังรออยู่ ตอนนี้รอสัญญาณอยู่ว่าเมื่อไรเขาจะนัดหมายมา แต่ขอว่าอย่าถามเลยว่าติดต่อผ่านทางใคร เพราะเขาคนนั้นจะถูกกดดัน และถูกเขม่น ส่วนที่มีคนบอกว่าตนไม่ได้ติดต่อจริงนั้น ก็ขอบอกว่าตนไม่ได้ติดต่อคนที่พูดก็แล้วกัน เมื่อถามว่าทำไมจึงมั่นใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเจรจาด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ไม่มีอะไรเสียหาย ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ กับตนก็คุยกันหลายรอบแล้ว และหลายเรื่องที่ตนเคยแนะนำไป ที่เป็นประโยชน์ ซึ่งถ้าเขายอมร่วมมือกับตนได้ก็ดี แต่ถ้าเขาไม่ร่วมมือ ตนก็ไม่ขาดทุนอะไร ขณะนี้ยังคิดว่าจะเป็นไปด้วยดี
**ประท้วงแบบผิดกม. ต้องจัดการ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุมฝ่ายความมั่นคงถึงปัญหาความแตกแยก และกลุ่มเสื้อแดงที่พยายามป่วนไปทุกเรื่องว่า ได้ย้ำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องแยกแยะว่า ส่วนที่ใช้สิทธิการชุมนุมก็เปิดโอกาสทำได้ แต่ความผิดในลักษณะที่ทำร้ายร่างกาย ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ใครตั้งใจทำร้ายร่างการคนอื่นก็ผิดชัดเจน ต้องดำเนินการ ตนได้กำชับคดีที่ทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน ทุกเหตุการณ์ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม ควรเร่งรัดให้มีความชัดเจน ต่อไปการเคลื่อนไหวในการชุมนุมครั้งหน้าก็ทำได้ แต่หากทำผิดกฏหมายดังกล่าว ต้องดำเนินการทันที
**หาคนกลางสร้างสมานฉันท์
ผู้สื่อข่าวถามว่า รูปธรรมของการสร้างความสมานฉันท์จะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องติดตามในเรื่องของความเป็นธรรม ตนคงไม่สามารถพิสูจน์การทำงานได้ในเวลาสั้นๆ แต่มาตรการที่เดินหน้าเต็มที่ เชื่อว่าภายในไม่กี่เดือนคงเห็นผลชัด ในส่วนของการปฏิรูปการเมือง และส่วนของคดีความต่างๆ กำลังทาบทามบุคคที่เป็นบุคคลภายนอกที่ไม่อยู่วังวนของความขัดแย้ง มาช่วยดำเนินการให้เป็นที่ยอมรับและมีความชัดเจน ซึ่งขอเวลาอีก 1 สัปดาห์ จึงจะเปิดเผยรายชื่อ เพราะอยู่ในช่วงที่กำลังสอบถามความคิดเห็นฝ่ายต่างๆ อยู่
เมื่อถามว่าองค์กรที่ตั้งขึ้นอาจจะต้องมีกฏหมายรองรับ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดแทรกแซงกระบนการยุติธรรม เพราะต้องการสะท้อนข้อมูลให้ครบถ้วนเท่านั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการสอบทาน ทำให้เกิดความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเว้น หรือปกป้องใคร ลักษณะองค์กรคงไม่ใหญ่ เพราะจะทำให้ทำงานยาก
เมื่อถามว่าลักษณะรูปแบบจะคล้ายกับคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) ในยุค พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะไม่คล้ายรูปแบบ กอส. เพราะกอส.จำเป็นที่จะต้องมีหลายฝ่ายมากๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง และภารกิจ กอส. ครอบคลุมนโยบาย ทั้งระยะยาวมีเวลาทำงานมาก แต่กรณีนี้เข้าใจว่า มีความจำเป็นที่จะต้องทำในระยะเวลาสั้นๆ มีความกระชับ ประเด็นไม่ซับซ้อน แต่ต้องทำให้ครบถ้วนมีความเป็นธรรม รูปแบบให้ข้อมูลข้อเสนอแนะกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่าให้เกิดความเป็นกลาง แต่รัฐบาลก็มีจุดอ่อนที่ให้นายกษิต ภิรมย์ มาเป็นรมว.ต่างประเทศ และไม่ยอมรับกลุ่มเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่งที่อยากย้ำ กรณีนายกษิต มาร่วมงานในกรอบผู้มีประสบการณ์เรื่องงานการต่างประเทศ เรื่องเศรษฐกิจ ช่วยตนมาตลอด ให้นายกษิต มาทำงานในกระทรวงต่างประเทศ ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ส่วนนายกษิตจะมีส่วนร่วมเคลื่อนไหวอย่างไร หรือทำผิดอย่างไร ก็ต้องมีการดำเนินการ แต่ขณะนี้นายกษิตยังไม่มีความผิดอะไร ก็ทำงานตามมอบหมาย ที่ผ่านมาหากนายกษิต จะไปชุมนุมตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญมีให้ ก็สามารถทำได้ ส่วนเรื่องคดีความเหตุการณ์ในทำเนียบฯ ตนได้หารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ก็ต้องดำเนินการให้ชัดเจน กรณีทำร้ายร่างกาย ใครที่เกียวข้องต้องดำเนินการ ไม่ว่าเสื้อสีไหนก็ตาม
ส่วนกรอบระยะเวลาตน ต้องการให้รวดเร็ว แต่เมื่อสอบถามไปยังพล.ต.อ. พัชรวาท ก็บอกว่าต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ จะให้เร็วทันใจคงไม่ได้ เพราะการพิสูจน์ความผิดหรือถูกทางกฏหมาย ต้องใช้เวลา ตนยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว โดยได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน.
