ASTVผู้จัดการรายวัน - "ชวน" ชี้แก๊งเสื้อแดงภาคเหนือเป็นกลุ่มจัดตั้ง ส่งสัญญาณ "สุเทพ" จัดการ ขรก.นอกรีด ด้านเทพเทือกพร้อมตั้ง 2 แนวทางแก้ความแตกแยก อภิสิทธิ์เดินหน้าตั้งองค์กรพิเศษแก้ปัญหาขัดแย้ง สั่งย้ายที่ประชุมอาเซียนซัมมิทไปหัวหิน ด้าน พัชรวาท รุดถก เทพเทือก สั่งตำรวจ ดำเนินคดีแก๊งเสื้อแดง ส่วนส.ส.เพื่อไทย เสียงแข็งไม่เกี่ยวก๊กป่วน ผู้ว่าฯเชียงใหม่ยันทำดีที่สุดแล้วกรณี “ชวน” ถูกเสื้อแดงบุกสนามบินตะโกนไล่ เหตุไม่ได้รับประสานล่วงหน้า ด้านผู้ว่าฯลำปางยอมรับหนักใจปัญหา “แก๊งเสื้อแดงถ่อย” "ชิงชัย มงคลธรรม" ชี้กรณีกลุ่มเสื้อแดงป่วน"ชวน " เป็นสัญญาณอันตรายถึงขั้นรุนแรง
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ วานนี้ (7 ม.ค.) ถึงกรณีโดนกลุ่มเสื้อแดงจากลำปาง และลำพูน ปาไข่ และสิ่งของใส่ ระหว่างช่วยลูกพรรคประชาธิปัตย์ หาเสียงว่า คนในพื้นที่ไม่มีปัญหาอะไร แต่คิดว่าฝ่ายตรงข้าม คงไม่อยากให้เราหาเสียง แต่ก็ไม่อยากให้ไปตำหนิหรือคาดโทษอะไรกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 2 จังหวัดก็มาประชุมที่ กทม. และเจ้าหน้าที่เองก็คงมีประสบการณ์ไม่มากนัก จึงตั้งหลักไม่ได้
ในอดีตคนของนักการเมืองไปทำอะไร เจ้าหน้าที่ก็ไม่ค่อยกล้าทำอะไร กลัวว่าจะโดนคนของนายก็เลยย่อหย่อนมาตลอด เจ้าหน้าที่เองก็ไม่อยากให้ผมเข้าไป แต่ผมก็บอกว่าไม่ได้ เพราะเรามาหาเสียงให้กับลูกพรรคเราไม่ได้มาทำอะไร อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการชุมนุมประท้วง แค่ตะโกนด่าว่าก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเคยเห็นอยู่แล้ว แต่วิธีรุนแรง กระทืบรถ ปาสิ่งของใส่ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ ในเวลาหาเสียง
**ชวนชี้เสื้อแดงถ่อยเกิดจากการจัดตั้ง
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมและปาไข่เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล นายชวน กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวคล้ายเป็นกิจกรรมของคนกลุ่มหนึ่งไปแล้ว เท่าที่สังเกตดูเวลาหาเสียงในช่วงเช้าใน จ.ลำพูน ส.ส.หญิงไปช่วยหาเสียงก็ไม่เกิดอะไรขึ้น แต่พอช่วงบ่ายเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างไม่น่าเชื่อเลยว่า คนที่เราเห็นธรรมดาๆ จะมีลักษณะอย่างนั้น เหมือนเป็นศัตรูมาร้อยชาติ ซึ่งตนเข้าใจว่าเกิดจากขบวนการที่มีการจัดตั้งมา และเกิดจากวิทยุชุมชนที่ปลุกระดม เพราะทราบว่ามีการปลุกระดมตลอด ก่อนที่ตนจะเดินทางไปช่วยหาเสียง ดังนั้น เราไม่ควรกลัวคนพวกนี้ ตนจึงเข้าไปถึงได้เกิดเหตุขึ้นมา
“ผู้การฯเชียงใหม่ก็กรุณาบอกมาตั้งแต่ต้น ตอนลงเครื่องบินว่ามีกลุ่มเสื้อแดง แต่ผมก็บอกว่า อย่าให้ผมลงเครื่องและออกไปเลย ทางออกที่ชาวบ้านออกทางไหน ก็ควรจะออกทางนั้น คนเหนือส่วนใหญ่ก็เป็นคนดี และห่วงใยผมเยอะ”
นายชวน เชื่อว่า บางคนเหมือนถูกปลูกฝังใส่ข้อมูลลงไปในความเชื่อ ให้พูดอย่างนั้น ปฏิบัติอย่างนั้น เพราะด่าหยาบคาย และวิธีการก็เหมือนกัน ดังนั้นการให้ข้อมูลเป็นสิ่งที่จำเป็น อีกส่วนเกิดจากนักการเมืองที่กลัวว่าเราไปหาเสียง ส่วนเจ้าของรถได้รับความเสียหายก็ไม่เอาเรื่องอะไร แต่ไม่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีข้อมูลอยู่แล้ว ก็ต้องรอดูว่าเจ้าหน้าที่จะทำอย่างไร
นายชวน กล่าวว่า ความรุนแรงไม่ใช่เพิ่งเริ่ม แต่หลังจากเปลี่ยนรัฐบาลก็แรงขึ้นกว่าเดิม แต่ความพยายามของนายกฯที่จะทำให้เกิดสามัคคี โดยยึดหลักทุกฝ่ายอยู่ภายใต้กฎหมาย คิดว่านายกฯเดินไปในจุดที่จะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้า
**ชวนส่งสัญญาณล้างบางขรก.นอกรีด
นายชวน กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่าการฝากให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ สั่งให้ตำรวจไปดูแลปัญหาคนเสื้อแดงเหมือนส่งสัญญาณให้ล้างบ้างข้าราชการ ฝ่ายตรงข้ามว่า ถ้าบางมันน่าล้างก็ควรล้าง ก็ต้องยอมรับว่าบางไหนที่มีลักษณะสกปรกควรจะล้างบางนั้นเสีย ซึ่งเห็นว่ามีหลายบางที่ควรล้าง ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความเป็นธรรม กับทุกฝ่าย ในวงการเหล่านี้ยังมีคนดีอยู่เพียงแต่ว่า ถ้าเราไม่คิดเอาคนเหล่านี้มาเป็นเครื่องมือ ทางการเมือง แต่สงเสริมคนดีให้ปกครองซึ่งสอดคล้องกับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่าต้องส่งเสริมคนดีปกครองบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน นายชวน พร้อมคณะส.ส. รวมถึงเจ้าหน้าที่พรรคประชาธิปัตย์ ไปช่วยลูกพรรคหาเสียงที่ จ.สมุทรปราการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 1 คันรถ ขับตามอารักขาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
**ยันมีหลวงพ่อโกยไม่ขอให้ดูแลเป็นพิเศษ
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงยืนยันว่าจะตามนายกฯ ไปทุกที่ นายชวน กล่าวว่า ถ้าไปคุ้มกันให้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะไปขับไล่ก็ไม่ดี อยากให้รู้ถึงความพอเหมาะใช้สิทธิในขอบเขตก็จะเป็นสิ่งที่ดีและยืนยันที่จะลงพื้นที่ช่วยลูกพรรคหาเสียงเหมือนเดิมเพราะรับปากไว้แล้ว แต่ก็ต้องระวังหน่อย มีหลายคนบอกว่า ถ้าเปลี่ยนจากไข่ มาเป็นลูกกระสุนก็เสร็จเลย หรือถ้าเคราะห์ดีก็แค่เจ็บ เจ้าหน้าที่ก็ต้องช่วยระวัง แต่ตนไม่มีสถานะภาพที่จะเอาคนมาคุ้มครอง เพราะเป็นส.ส.ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
คงไม่ต้องส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลเป็นพิเศษ เพราะผมมีหลวงพ่อโกยอยู่แล้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลในรัฐบาลว่า ไม่ได้สั่งการดูแลใครเป็นพิเศษ ส่วนกรณีของนายชวน หลีกภัย โดนปาไข่ขณะช่วยลูกพรรคหาเสียงนั้น นายชวนไม่ได้ขอ การอารักขา เพราะไปทำหน้าที่ในฐานะนักการเมือง และตนไม่คิดว่าจะมีใครไปทำร้ายท่าน เพราะนายชวน เป็นคนดี และเป็นคนที่คนทั้งประเทศให้ความเคารพ
สิ่งที่เกิดขึ้นเราต้องพยายามพูดจาชี้แจงให้พี่น้องประชาชนเข้าใจตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีระบุไว้ว่าในระบอบประชาธิปไตย การหาเสียงเลือกตั้งแข่งขันกันต่างคนต่างทำได้ ไม่ควรมีเรื่องรุนแรง หากใครจะสนับสนุนใครก็ตั้งเวทีปราศรัยไปฟังกัน อีกฝ่ายจะตั้งบ้างก็ต้องให้เขา ทำแล้วไปตัดสินเอาด้วยการลงคะแนนเสียงในวันเลือกตั้ง ใครแพ้ ชนะก็จบตรงนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการประสานฝ่ายค้านให้มากขึ้นหรือไม่ เพื่อให้มีความเข้าใจ ที่ตรงกัน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพยายามพูดคุยในทุกโอกาส กับคนที่พอจะพูดคุยกันได้
**เทพเทือกย้ำไม่ยุบสภาใน6เดือนนี้
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายชวน เป็นเหมือนการจงใจหรือไม่ เพราะมีการเตรียมผ้าโพกศีรษะ นายสุเทพ กล่าวว่า ได้รับรายงานข่าวมาว่าการกระทำดังกล่าวมีกระบวนการต้องการให้ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ภายใน4-5 เดือนนี้ จึงถือโอกาสนี้เรียนว่า เป็นไปไม่ได้ บ้านเมืองเดินมาถึง ขนาดนี้แล้วต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติและประชาชนก่อน รัฐบาลจะทนแรงเสียดทานได้
**ซัดตร.เห็นการระทำซึ่งหน้าไม่จัดการ
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมหน้าทำเนียบฯแสดงความไม่พอใจรัฐบาลนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นไรตราบใดที่มาชุมนุมโดยสงบ ไม่ทำอะไรที่รุนแรง ปราศจากอาวุธก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่การกระทำที่ไปทำร้ายนายชวน หรือขัดขวาง การเลือกตั้งอย่างนี้ผิดกฎหมาย เมื่อถามว่า กรณีของนายชวน จะมีการแจ้งความ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่เจอนายชวน แต่ได้ยินว่าจะไม่แจ้งความ อย่างไรก็ตามกรณีนี้เกิดเหตุต่อหน้าตำรวจ คงต้องปฏิบัติหน้าที่ไม่ต้องรอให้ใคร มาแจ้งความ เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่านายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ตั้งข้อสังเกตุว่า ข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ในแต่ละพื้นที่รู้เห็นเป็นใจให้เหตุการณ์เช่นนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ถือเป็นข้อสันนิฐานของนายถาวร ตนต้องรอข้อเท็จจริงก่อนผู้สื่อข่าวถามว่าเท่าที่เห็นยังมีกลุ่มอำนาจเก่าในพื้นที่ภาคเหนือลักษณะเช่นนี้ยังมีอยู่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็มีอยู่บ้างเพราะกลุ่มของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยึดอำนาจ ในการปกครองประเทศมา 8-9 ปี คงได้ชุบเลี้ยงผู้คนมาพอสมควร
**ลั่นหากพบขรก.ช่วยเสื้อแดงโดนแน่
เมื่อถามว่า จะบริหารพื้นที่ดังกล่าวอย่างไรให้ราบรื่นตลอดการทำงานของรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องดูแลเป็นพื้นที่ๆไป ข้าราชการแม้ว่าจะเคยได้รับการ เลื่อนยศ แต่งตั้ง ด้วยความสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่วันนี้มีความตั้งใจเป็น ข้าราชการที่ดีของประชาชนก็ต้องให้โอกาสเขาก่อน แต่คงไม่มีการโยกย้ายข้าราชการ ด้วยการลุแก่อำนาจ ต้องดูตามข้อเท็จจริง ถ้ามีการใส่เกียร์ว่าง หรือเข้าด้วยช่วยเหลือ ฝ่ายที่ทำความผิด เราก็ต้องดำเนินการตามระเบียบราชการ และไม่กลัวที่จะดำเนินการด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีระยะเวลาในการดำเนินการอย่างไร หากข้าราชการ ใส่เกียร์ว่างทางรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ค่อยๆ ดูต่อไป ตรงไหนน๊อตหลวม ใช้ไม่ได้ต้องว่าเป็นตัวๆ ไป ไม่เพียงเฉพาะภาคเหนือ อีสานเท่านั้น แต่เป็นทุกพื้นที่จะพิจารณาด้วยส่วนคนที่ตั้งใจทำงานจะรักใครชอบใครเป็นเรื่องส่วนตัว
**ตั้ง2แนวทางแก้ปัญหาความแตกแยก
ส่วนแนวทางของนายสุเทพ ในการแก้ปัญหาความแตกแยกอย่างไรให้เป็น รูปธรรมนั้น นายสุเทพ กล่าวว่าตนไม่ได้ปฏิเสธหรือมีความเห็นในการตั้งองค์กรพิเศษ เพราะส่วนที่ตนทำคืองานปกติธรรมดา คือ 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานให้สมบูรณ์รักษากฎหมาย เห็นคนตีกันซึ่งหน้าแล้วนิ่งเฉยอย่างนี้ไม่ได้ 2. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองต้องมีหน้าที่ ทำกฎหมายให้เป็น กฎหมายจริงๆ ไม่ว่าใครทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ที่เหลือเป็นความพยายามทำความเข้าใจ
เมื่อถามว่า ที่ให้บังคับใช้กฎหมายรวมถึงกลุ่มพันธมิตรฯด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า รวมด้วยทุกอย่าง ต่อข้อถามว่า การตั้งองค์กรพิเศษจะสอดรับกับการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าองค์กรพิเศษเป็นอย่างไร ไม่ทราบจริงๆ ตนจะไปทำความเข้าใจกับนายกฯ เพราะตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้พบ
ส่วนกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ ทำหนังสือให้มีการดูแลสนามบินนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยจะนัดหมายมาหารือแนวทางที่จะจัดการตามที่นายกษิต เสนอมา พร้อมวันไหนจะทำวันนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมอาเซียนซัมมิท จะดูแลสถานการณ์ได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ดูแลได้ ฝากไปถึงประชาชน ทุกคนว่าการเป็นเจ้าภาพ เพราะนี่คือ งานของคนไทยทุกคน ไม่ใช่งานของนายอภิสิทธิ์ หรือ ครม.
**มาร์คตั้งองค์กรพิเศษแก้ขัดแย้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งองค์กรพิเศษขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของประชาชนในการชี้แจงนโยบายของรัฐบาลและแนวทางการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินกับหัวหน้าส่วนราชการ ว่า กำลังดูอยู่ ขอเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ กำลังแลกเปลี่ยนความคิดกับหลายๆ ฝ่าย ว่าวิธีที่ดีที่สุด จะเป็นอย่างไร โดยเป็นกลไกที่จะเข้ามาดูเรื่องของคดีทางด้านการเมือง จะช่วยให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจมากขึ้นว่าจะได้รับความเป็นธรรมส่วนการที่จะให้ข้าราชการเป็นกลไกการทำงานของรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องทำ และต้องลบปัญหาในอดีตที่สะสมมา ขอย้ำอีกครั้งว่าปัญหาที่สะสมมาการเมืองมันไม่จำกัดขอบเขตของตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราชการ เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของสื่อ เข้าไปเกี่ยวข้องกับอีกหลายๆ ส่วน และเลยทำให้ความขัดแย้งมันขยายวงออกไป เป็นความแตกแยก ความตั้งใจของตนก็คือ ต้องดึงความแตกต่างทางการเมืองถึงจะมีความขัดแย้งบ้าง ขีดวงกลับเข้ามาสู่ในส่วนของการเมืองเท่านั้น เพราะฉะนั้นกลไกไหนที่มีอำนาจหน้าที่ หรือ บทบาทหน้าที่ตามปกติ ควรมีความเป็นอิสระในวิชาชีพ มีความเป็นกลางในส่วนของเขา
ขณะนี้กำลังดูกลไกการตั้งองค์กรพิเศษอยู่และจะมาทำให้มีภาพที่ชัดเจนในการดำเนินการ ซึ่งกลไกโดยปกติก็ยังทำอยู่ คือทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ ศาล แต่ว่าต้องยอมรับว่า เหตุการณ์มันมีมาก คดีความก็มีมาก และมีหลายแง่หลายมุม ตรงนี้ก็ต้องขอเวลาในช่วงต้นในการที่จะไปหากลไกตรงนี้มาให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมรัฐบาลแต่งตั้งคนที่มีคดีมาเป็นข้าราชการการเมือง อย่างนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นที่ปรึกษานายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายอภิรักษ์ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่สั่งการ เป็นที่ปรึกษาเท่านั้น ตนแยกแยะในการดำรงตำแหน่งด้านบริหาร กับการมาเป็นที่ปรึกษา จริงๆ แล้ว นายอภิรักษ์สามารถดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ได้ถ้าไม่ลาออก แต่ถ้าศาลตัดสินแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งและต้องรับคำตัดสินของศาล ขณะนี้นายอภิรักษ์จะดำรงตำแหน่งบริหารก็ทำได้ แต่ตนให้มาทำหน้าที่เป็นปรึกษาก่อน
**ไม่แลกล้างคดีแม้วกับความสงบ
ผู้สื่อข่าถามว่าถ้าแลกกับการล้างคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อให้บ้านเมือง สงบจะทำหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคดีเฉพาะต่างหากไปอยู่แล้ว ถ้าเป็นการเมืองก็อีกเรื่อง เมื่อถามว่า ถ้าจะแลกกับความสงบบ้านเมืองจะแลกหรือไม่ นายกฯ กล่าว่า ไม่ได้คิดถึงเรื่องอย่างนั้น คิดแต่เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน และมีแง่มุมในทางการเมืองกับเรื่องสิทธิเสรีภาพจะสะสางกันอย่างไร เมื่อถามต่อว่า รวมถึงคดี 3 จังหวัดภาคใต้ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ภาคใต้คงต่างหากเพราะเป็นคดีพิเศษ ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง จะเสนอแนวทางแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในการประชุมครม.สัปดาห์หน้า
** สั่งย้ายประชุมอาเซียนไปหัวหิน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลตัดสินใจที่จะย้ายสถานที่ ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน(อาเซียนซัมมิท) ไปที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อความสงบเรียบร้อย ก่อนหน้านี้ รัฐบาลคาดว่าจะจัดการประชุมดังกล่าวขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยมีการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลและได้เตรียมสถานที่ประชุมไว้แล้ว
ทั้งนี้ การสั่งย้ายสถานที่ประชุม เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลชุดก่อน ประกาศที่จะเคลื่อนไหวคัดค้านการจัดประชุมดังกล่าว โดยอ้างความไม่ชอบธรรมที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
**พัชรวาทถกเทพเทือก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา16.45น. วันเดียวกัน ที่ตึกบัญชาการ1 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้กล่าวหลังจากเข้าพบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมตรี โดยใช้เวลาหารือกว่า 20 นาที ว่า มาหารือภาพรวมเกี่ยวกับงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตามที่นายสุเทพได้รับมอบหมายดูแล สตช. คณะกรรมการ กตร. คณะกรรมการ กตช. แต่ไม่ได้หารือถึงการปรับโครงสร้าง สตช. คาดว่า คงจะมีการนัดหารืออีกครั้ง ส่วนความเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดง นั้นตอนนี้ตำรวจยังดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่ทุกวัน งานด้านการข่าวก็ยังไม่มีการรายงาน ความเคลื่อนไหว
**สุเทพเผยหารือเรื่องประชุมอาเซียน
นายสุเทพ กล่าวว่าได้พูดคุยกับผบ.ตร.ในการเตรียมการประชุมผู้นำอาเซียน ซึ่งตนได้เน้นย้ำ ผบ.ตร.ไปว่าการประชุมครั้งนี้เป็นหน้าตาของประเทศ ต้องทำให้เรียบร้อยเพื่อให้ผู้ที่ร่วมประชุมมีความรู้สึกมั่นใจ ไม่ใช่เจอเรื่องไม่ดีกลับไป ซึ่งจะเสียหายต่อประเทศได้
นายสุเทพกล่าวว่าสาเหตุการย้ายที่ประชุมไป อ.หัวหิน มีหลายสาเหตุ แต่เหตุหนึ่งที่มีความสำคัญเห็นว่าการประชุมอาเซียนครั้งที่ผ่านมามักใช้เมืองตากอากาศ สำหรับจัดการประชุมในประเทศไทย ด้วยเหตุผลสารพัด จึงคิดว่าจัดประชุมอ.หัวหิน น่าจะเหมาะสมกว่าแต่ยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะมีข่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะมาก่อกวนการประชุม รัฐบาลไม่ต้องการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง เราพยายามจะคลี่คลาย คิดว่าหากเป็นพื้นที่ที่ป้องกันปัญหาการเผชิญหน้าสามารถป้องกันได้จึงย้ายสถานที่การประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจแค่ไหนว่าไปประชุมอ.หัวหิน เสื้อแดงจะไม่ไปก่อกวน นายสุเทพ กล่าวว่า มีหลายเหตุผล ทั้งที่ควรพูดและไม่สมควรพูด ส่วนจะแก้ปัญหากลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลอย่างไรนั้น นายสุเทพ กล่าวเลี่ยงว่า ในที่ประชุมห้องสีเขียวพูดถึงแต่การจัดประชุมผู้นำอาเซียน ไม่ได้พูดเรื่องเสื้อแดง เสื้อเหลือง ส่วนเรื่องเสื้อแดงก็คงจะเน้นการเจรจาต่อไป
**มท.1กำชับผู้ว่าฯกันม็อบปาของ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชวนโดนปาไข่ และขวดน้ำขณะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงว่า ได้กำชับผู้ว่าฯหาทางป้องกันไม่ให้ เกิดเหตุขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นผู้ชุมนุมกลุ่มไหนก็ตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาดูแล อย่างเข้มงวด โดยการวางแนวกั้นเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างผู้ชุมนุม แต่ถ้าใครโดนปา สิ่งที่ร่างกาย ก็เป็นสิทธิ์ที่จะไปดำเนินคดีตามกฎหมายได้
**พัชรวาทสั่งดำเนินคดีเสื้อแดงเถื่อน
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร. ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ กล่าวถึงกลุ่มคนเสื้อแดงปาไข่และสิ่งของใส่ นายขวนว่า พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มีความห่วงใย จึงได้สั่งกำชับและเน้นย้ำการปฏิบัติงาน ของข้าราชการตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ที่เกิดเหตุให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและจริงจังแล้ว
ด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. ใช้ไข่ขว้างปา ครม.ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ว่า กรณีดังกล่าว ถือเป็นความผิด ฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท เพราะหากปาไข่กระทบกับใบหน้าของบุคคล แล้วอาจทำให้เกิดรอยช้ำต้องรักษาตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ถึงจะหายเป็นปกติ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายแก่กาย แต่ถ้าขวางปาแล้วไม่ถูกก็จะเข้าข่ายฐานพยายาม ทำร้ายร่างกาย มีโทษ 2 ใน 3 ส่วนของโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่า การชุมนุมนั้นต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ อีกทั้งต้องไม่มีการละเมิดกฎหมายบ้านเมืองอีกด้วย
การใช้ไข่ขว้างปาไปยังบุคคลอื่นถือว่าผู้กระทำใช้ไข่เป็นอาวุธตามความหมาย ของกฎหมายแล้ว ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ได้สั่งการให้ ผกก.สน.ดุสิต ดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานตามกฎหมายแล้ว
**มท.3สำทับผู้ว่าฯ-ตร.ต้องรับผิดชอบ
นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ต่อต้านรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้อแดงเสื้อเหลือง หรือเสื้ออะไร เมื่อทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนคนที่สั่งการก็ต้องรับผิดตามกฎหมายเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือใคร เช่นเดียวกับข้าราชการที่หย่อนยานประสิทธิภาพในการทำงานก็ต้องมาพิจารณาในเรื่องความดีความชอบไม่เช่นนั้นก็เป็นอะไรก็ได้ ที่ไม่ต้องรับผิดชอบในหน้าที่ ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่การส่งสัญญาณล้างบางขั้วอำนาจเก่าแต่เป็นการประเมินผลการทำงานในการปฏิบัติราชการของทุกคน ที่เป็นข้าราชการ เพื่อที่จะดูในเรื่องประสิทธิภาพประสิทธิผลการทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการส่งสัญญาณเช่นนี้ต้องการให้ตำรวจ และผู้ว่าฯพิจารณาตัวเองใช่หรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า ทั้ง 2 อย่างถ้าสำนึกความเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องรักษากฎหมาย และหลังเกิดเหตุกับนายชวน ยังไม่ได้โทรศัพท์สั่งการไปยังผู้ว่าฯทั้ง 2 จังหวัด เพราะไม่มีอำนาจสั่งการเป็นเรื่อง ของ มท.1 ซึ่งก็ได้หารือกับรมว.มหาดไทยและปลัดมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามได้สั่งการไปทุกจังหวัดให้ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยทุกพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะของคนพรรคหนึ่งพรรคใดซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคนของรัฐบาล แต่เป็นทุกคน ไม่สามารถละเว้นหน้าที่ได้ ไม่ว่าคน คนนั้นเป็นใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีโดนกลุ่มคน เสื้อเหลืองปารองเท้าใส่ก็ยังไม่มีใครดำเนินการ นายถาวร กล่าวว่า ตอนนั้นนายสมชาย เป็นรัฐบาล ทำไมไม่ดำเนินการ เรื่องนี้แม้นายชวน ไม่ติดใจเอาความเรื่องก็ไม่จบ บ้านเมืองต้องมีขื่อมีแป ความรับผิดชอบของผู้มีอำนาจรัฐต้องให้ข้าราชการที่ตัวเองบังคับบัญชาอยู่ปฏิบัติตามกฎหมาย วันนี้รัฐบาลไม่ใช่แค่พรรคประชาธิปัตย์เพียงแค่พรรคเดียว แต่ข้าราชการทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่ตัวเองรับมาจากประชาชน
**เสื้อแดงหยิบมือบุกป่วนทำเนียบฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเช้าวานนี้ (7 ม.ค.) กลุ่มเสื้อแดงประมาณ 30 คน เดินทางมาตะโกนขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ โดยเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ดำเนินคดีกลับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เข้ามาสร้างความเสียหายในทำเนียบรัฐบาล และเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ยุบสภาโดยบางรายได้พยายามปีนรั้วทำเนียบรัฐบาล เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาลได้นำแผงเหล็กมากั้นทางเข้าทำเนียบฯบริเวณดังกล่าวไว้ เพื่อไม่ให้กลุ่มเสื้อแดงเข้ามาได้ ขณะที่ชุมนุมอยู่นั้นกลุ่มเสื้อแดงต่างตะโกน ด่าทอบรรดาคณะรัฐมนตีด้วยถ้อยคำที่ หยาบคาย
เวลาต่อมาก่อนที่จะมีการประชุมครม.เศรษฐกิจ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้นำกลุ่ม ครม.เข้ากราบไหว้ศาลพระภูมิประจำทำเนียบฯ เมื่อกลุ่มเสื้อแดงเห็นจึงวิ่งกรูกันเข้าไปเกาะบริเวณรั้วทำเนียบฯใกล้ๆ ศาลพระภูมิ พร้อม ตะโกนด่าทอ ครม. จากนั้นมีผู้ชุมนุมรายหนึ่งป่าไข่ไก่ เข้าใส่รัฐมนตรี แต่ปรากฏว่า ไข่ไก่ไม่ถูกใคร จากนั้นกลุ่มเสื้อแดงก็ได้เดินทางกลับเมื่อเวลา 10.00 น.
อ้างเสื้อแดงใช้สิทธิม.63ปาชวน
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเสื้อแดงจ.ลำปาง และจ.ลำพูนขาวสิ่งของใส่นายชวน แต่มองว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เหมือนที่กลุ่มคนเสื้อเหลือง ดำเนินการมาก่อน เป็นการเลียนแบบเหมือนกรณีที่นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯที่โดนปาร้องเท้าและขวดน้ำใส่
ส่วนที่มีการระบุว่าขบวนการของกลุ่มเสื้อแดงมีนักการเมืองท้องถิ่น ที่เป็นคน ของพรรคเพื่อไทยอยู่ด้วย จะมีการพูดคุยหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้ามีหลักฐาน ก็ดำเนินคดีฟ้องร้องได้เลย จะได้ดูว่าตำรวจจะทำอย่างไรบ้างเพราะก่อนหน้านี้ ตนกับเพื่อน ส.ส.ก็เคยแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มเสื้อเหลือง แต่จนถึงขณะนี้คดีก็หายเข้ากลีบเมฆหากเลือกปฏิบัติ เลือกที่รักมักที่ชังอย่างนี้ ความปรองดอง สมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะให้ตนไปห้ามคงไม่ได้ เพราะไม่ได้ข้อเกี่ยว หรือรู้เห็นด้วย กลุ่มคนเหล่านี้เขาก็มีหัวใจ
**อนุพงษ์ให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ชาติ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวถึงแนวทางการสร้างความสมานฉันฑ์ว่า ถ้ากองทัพบกมีส่วนช่วยได้ ต้องเป็นแนวคิดว่าต้องไม่เป็นศัตรูกับใครต้องไปเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ทำให้ทุกคนเข้าใจสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยความคิดต่างกัน ไม่ว่าจะใช้กลไกอะไรก็ตาม หากเป็นวิกฤติของชาติ สื่อก็ต้องช่วย มวลชนต่างๆ ที่มีโอกาสช่วยได้ต้องช่วย ส่วนกองทัพบกหากช่วยได้ก็จะช่วยผ่านวิกฤติไปได้ ประเทศชาติขณะนี้เป็นช่วงที่ทุกคนต้องช่วยกัน
แกนนำกลุ่มเสื้อแดงอาจจะมีความรักคนใดคนหนึ่งเฉพาะ เขาทำได้จะบอกว่า เขาผิดคงไม่ได้ ต้องค่อยพูดให้เขาค่อยๆ ลด และเอาชาติเป็นที่ตั้ง ถ้าไม่แตกแยกก็จะไม่มีการใช้มาตรการที่รุนแรง หากไม่เห็นชอบ เช่น ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือแสดงออกอย่างอื่นก็ทำได้ชอบหรือไม่ชอบใครเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่หากจะเป็นฝ่ายตรงข้ามแล้วพยายามทำทุกอย่าง แสดงว่าต้องการจะแตกหัก แต่ถ้าเอาชาติเป็นที่ตั้งทุกคนต้องลืมหมด ผมพยายามอย่างนี้มานาน แต่โดนด่า จากทุกฝ่าย
ส่วนที่นายชวน ถูกกลุ่มเสื้อแดงปาไข่ใส่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่าปกติ เป็นหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าของพื้นที่ แต่ทหารพร้อมออกไปช่วยในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงส่งผลกระทบต่อการประชุมอาเซียน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การประชุมอาเซียนเป็นวาระของชาติ ถ้าทำได้สำเร็จลุล่วงด้วยดีจะเป็นผลดีแก่ประเทศชาติ
**ผู้ว่าฯชม.-ตร.ยันดูแล”ชวน”ดีแล้ว
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ตะโกนด่าและขับไล่ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ว่า การเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ของนายชวน นั้นทางจังหวัดไม่ได้รับการประสานล่วงหน้า การลงพื้นที่ดังกล่าวก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้ามาทำงานทางการเมือง เมื่อประกอบกับไม่ได้มีการแจ้งประสานมาล่วงหน้าก็จะให้เจ้าหน้าที่ไปคอยเฝ้าอยู่ที่ท่าอากาศยานตลอดเวลาก็คงจะเป็นไปไม่ได้
ขณะที่นายไพโรจน์ แสงภู่วงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางจังหวัดมีนโยบายเข้มงวดการชุมนุมทางการเมืองอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยมีแนวทางให้ใช้มาตรการทางกฎหมายให้เข้มข้นขึ้นเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
“การชุมนุมสนับสนุนหรือต่อต้านทางการเมือง ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน หากจะชุมนุมด้วยความสงบ ไม่ก้าวร้าว หยาบคาย แต่ก็ยอมรับว่าการปลุกระดมทางการเมืองโดยการใช้คลื่นวิทยุชุมชน ซึ่งมีช่องว่างของการบังคับใช้กฎหมายการควบคุม เนื่องจากยังไม่มี กทช.ทำให้ดูแลได้ยาก คดีที่จะดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อมีการทำผิดกฎหมายพาดพิงหรือหมิ่นประมาทผู้อื่นเป็นกรณีไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้มากที่สุด” นายไพโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ทางจังหวัดจะมีมาตรการเข้มงวดในการชุมนุมที่กระทำเกินขอบเขตของกฎหมาย แต่ปรากฏว่าในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในคืนวันที่ 6 ม.ค.ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ก่อนที่นายชวน หลีกภัย จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้ชุมนุมประมาณ 1 พันคนนั้น ดีเจ.ปูนิ่ม ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ ได้บรรยายสถานการณ์สดถ่ายทอดทางวิทยุชุมชน โดยช่วงหนึ่งที่บ่งบอกว่า “ผู้ร่วมชุมนุมหลายคนได้เตรียมอุปกรณ์ที่อาจเกิดอันตรายได้ แต่ไม่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตรวจค้นหรือมีจุดสกัดเพื่อป้องกันอาวุธ หรือสิ่งต้องห้ามในการชุมนุมแต่อย่างใด”
ด้าน พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ตำรวจได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งการกระทำของกลุ่มเสื้อแดง เป็นการทำเลยเถิดเกินไป ซึ่งจะมีการดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น ส่วนที่มีการตำหนิว่าตำรวจปล่อยปละละเลย แล้วแต่จะมอง ซึ่งกรณีนี้นักการเมืองที่เข้ามาทำกิจกรรมการเมืองในพื้นที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า เมื่อทราบก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลอย่างดีที่สุด
**‘จรัญ’ยกขึ้น ชม.หลังเสื้อแดงขู่ล้อม
ขณะที่ทางด้านประชาสัมพันธ์โรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว ภายในศูนย์การค้ากาดสวนแก้ว ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่วิทยุชุมชนคนเสื้อแดง 92.5 Mhz ประกาศว่า จะยกมาปิดล้อมโรงแรมในระหว่างที่นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะเดินทางมาร่วมงานในเย็นวันที่ 8 ม.ค. โดยทางโรงแรมได้รับการแจ้งเตือนจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทางโรงแรมไม่ได้เตรียมการใดๆเป็นพิเศษ เนื่องจากฝ่ายจัดงานได้ประสานแจ้งว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงประธานในพิธี แต่การจัดงานจะยังคงดำเนินตามกำหนด โดยการประชุมจะเริ่มในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08-17.00 น. เป็นการประชุมวิชาการของสภาทนายความภาค 5 และ 6 ผู้เข้าประชุมประมาณ 300 คนกำหนดการเดิมมีนายจรัญ ภักดีธนากุล เป็นประธานเปิดงาน
ทั้งนี้ นางกัญญาภัค มณีจักร ดีเจ.คลื่นคนรักทักษิณกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ประกาศเมื่อเช้าวานนี้ (7ม.ค.) ว่า จะทำหนังสือถึงผู้บริหารโรงแรมเพื่อไม่ให้นายจรัญ เดินทางเข้ามา โดยก่อนหน้านี้ได้ประกาศอย่างต่อเนื่องว่าจะขัดขวางมิให้นายจรัญเข้าพื้นที่เชียงใหม่
**ผู้ว่าฯลำปางรับหนักใจเสื้อแดงถ่อย
ด้านนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงตามไล่พร้อมนำสิ่งของไข่ไก่ขว้างใส่นายชวน หลีกภัย ขณะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงที่ลำปางเมื่อวันที่ 6 ม.ค.จนเป็นเหตุให้กระทรวงมหาดไทย ต้องมีการสอบสวนว่า ในพื้นที่มีการปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นจนทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเสียหายหรือไม่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้รับรายงานจากผู้ปฏิบัติงานในส่วนต่างๆตามลำดับแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆ หากพบว่าการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นการไปละเมิดสิทธิของผู้ใดผู้หนึ่ง ผู้รักษากฎกติกาก็ต้องเข้าไปดำเนินการ เมื่อปรากฏว่า มีผู้ใดได้รับความเสียหายและมีการเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษก็ต้องสู่กระบวนการของกฎหมายต่อไป
“ต้องดูที่หลักฐานของทุกฝ่ายซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมอยู่ แต่ทั้งนี้ ได้ยืนยันว่า ตนและข้าราชการผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นทุกคน เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหน้าที่ที่จะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ไม่มีหน้าที่ไปช่วยสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่มีหน้าที่ไปดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เข้ากับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง”
ส่วนการทำหน้าที่และการสั่งการนั้นไม่ได้มีการสั่งการอะไรที่พิเศษ ปล่อยให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ด้วยความถูกต้องและเป็นธรรม หากพบว่ามีการละเมิดก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายในส่วนนั้น ทั้งนี้ ยอมรับว่า หนักใจกับเหตุการณ์ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วก็ต้องแก้ไขกันไป
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ (8 ม.ค.) ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้เรียกผู้นำท้องถิ่นทั้งจังหวัด เกือบ 2,000 คนเข้ารับนโยบาย ณ ศูนย์หัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปางด้วย
**“ชิงชัย”ชี้เสื้อแดงป่วนส่ออันตราย
นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงป่วนขบวนหาเสียงของนายชวน หลีกภัย ที่ จ.ลำปางว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นสัญญาณอันตรายที่สื่อให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า ปัญหาของระบอบเผด็จการรัฐสภากับปัญหาระบอบเผด็จการทางทหารเริ่มส่งผลกระทบไปสู่พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ เพราะในขณะนี้สังคมไทย แบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่ายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง ที่ประชาชนยังคงสับสนและเข้าใจผิด ขณะที่รัฐบาลก็ยังคงรูปแบบการสืบทอดอำนาจเผด็จการรัฐสภาที่ต่อสู้กันอยู่ 2 ขั้นอย่างเด่นชัด
"เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหานี้ พรรคการเมือง กองทัพ และไม่ว่าสถาบันใด จะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา สร้างรูปแบบการปกครองในรูปแบบรัฐบาลเฉพาะการขึ้นมา ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะของถวายคืนพระราชอำนาจ แล้วจัดหาผู้รู้เข้ามาร่วมกันแก้วิกฤตแล้วดึงประชาชนออกจากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้" นายชิงชัย กล่าว และว่า ดังนั้น หากไม่มีการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นใครในรัฐบาลเดินทางเคลื่อนไหว ท่ามกลางคามขัดแย้งที่มีอยู่ก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้และอาจจะมีความรุนแรงมากกว่าเดิม
**จับตาคน”เสื้อแดง”จ้องป่วนรัฐบาล
มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงในหลายพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ทางภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และทางภาคอีสาน เช่น อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น และนครราชสีมา เป็นต้น ยังคงมีการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยวิธีการที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.ที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ เช่นที่ จ.ลำปาง อุดรธานี อุบลราชธานี และนครปฐม เป็นต้น
โดยกลุ่มคนเสื้อแดง จะออกมาก่อความวุ่นวายทุกครั้งที่มีแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปช่วยลูกพรรคหาเสียง นอกจากนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงในหลายพื้นที่ยังมีการเตรียมความพร้อมในการที่จะก่อกวนรัฐมนตรีทุกคนในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ด้วย หากพบว่ารัฐมนตรีคนใดเดินทางลงพื้นที่ในจังหวัดใดก็ตาม ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในบางพื้นที่ ดูเหมือนว่าจะปล่อยปละละเลยต่อเรื่องนี้ โดยมักจะปล่อยให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาก่อกวนอยู่เนืองๆ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ วานนี้ (7 ม.ค.) ถึงกรณีโดนกลุ่มเสื้อแดงจากลำปาง และลำพูน ปาไข่ และสิ่งของใส่ ระหว่างช่วยลูกพรรคประชาธิปัตย์ หาเสียงว่า คนในพื้นที่ไม่มีปัญหาอะไร แต่คิดว่าฝ่ายตรงข้าม คงไม่อยากให้เราหาเสียง แต่ก็ไม่อยากให้ไปตำหนิหรือคาดโทษอะไรกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 2 จังหวัดก็มาประชุมที่ กทม. และเจ้าหน้าที่เองก็คงมีประสบการณ์ไม่มากนัก จึงตั้งหลักไม่ได้
ในอดีตคนของนักการเมืองไปทำอะไร เจ้าหน้าที่ก็ไม่ค่อยกล้าทำอะไร กลัวว่าจะโดนคนของนายก็เลยย่อหย่อนมาตลอด เจ้าหน้าที่เองก็ไม่อยากให้ผมเข้าไป แต่ผมก็บอกว่าไม่ได้ เพราะเรามาหาเสียงให้กับลูกพรรคเราไม่ได้มาทำอะไร อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการชุมนุมประท้วง แค่ตะโกนด่าว่าก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเคยเห็นอยู่แล้ว แต่วิธีรุนแรง กระทืบรถ ปาสิ่งของใส่ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ ในเวลาหาเสียง
**ชวนชี้เสื้อแดงถ่อยเกิดจากการจัดตั้ง
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมและปาไข่เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล นายชวน กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวคล้ายเป็นกิจกรรมของคนกลุ่มหนึ่งไปแล้ว เท่าที่สังเกตดูเวลาหาเสียงในช่วงเช้าใน จ.ลำพูน ส.ส.หญิงไปช่วยหาเสียงก็ไม่เกิดอะไรขึ้น แต่พอช่วงบ่ายเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างไม่น่าเชื่อเลยว่า คนที่เราเห็นธรรมดาๆ จะมีลักษณะอย่างนั้น เหมือนเป็นศัตรูมาร้อยชาติ ซึ่งตนเข้าใจว่าเกิดจากขบวนการที่มีการจัดตั้งมา และเกิดจากวิทยุชุมชนที่ปลุกระดม เพราะทราบว่ามีการปลุกระดมตลอด ก่อนที่ตนจะเดินทางไปช่วยหาเสียง ดังนั้น เราไม่ควรกลัวคนพวกนี้ ตนจึงเข้าไปถึงได้เกิดเหตุขึ้นมา
“ผู้การฯเชียงใหม่ก็กรุณาบอกมาตั้งแต่ต้น ตอนลงเครื่องบินว่ามีกลุ่มเสื้อแดง แต่ผมก็บอกว่า อย่าให้ผมลงเครื่องและออกไปเลย ทางออกที่ชาวบ้านออกทางไหน ก็ควรจะออกทางนั้น คนเหนือส่วนใหญ่ก็เป็นคนดี และห่วงใยผมเยอะ”
นายชวน เชื่อว่า บางคนเหมือนถูกปลูกฝังใส่ข้อมูลลงไปในความเชื่อ ให้พูดอย่างนั้น ปฏิบัติอย่างนั้น เพราะด่าหยาบคาย และวิธีการก็เหมือนกัน ดังนั้นการให้ข้อมูลเป็นสิ่งที่จำเป็น อีกส่วนเกิดจากนักการเมืองที่กลัวว่าเราไปหาเสียง ส่วนเจ้าของรถได้รับความเสียหายก็ไม่เอาเรื่องอะไร แต่ไม่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีข้อมูลอยู่แล้ว ก็ต้องรอดูว่าเจ้าหน้าที่จะทำอย่างไร
นายชวน กล่าวว่า ความรุนแรงไม่ใช่เพิ่งเริ่ม แต่หลังจากเปลี่ยนรัฐบาลก็แรงขึ้นกว่าเดิม แต่ความพยายามของนายกฯที่จะทำให้เกิดสามัคคี โดยยึดหลักทุกฝ่ายอยู่ภายใต้กฎหมาย คิดว่านายกฯเดินไปในจุดที่จะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้า
**ชวนส่งสัญญาณล้างบางขรก.นอกรีด
นายชวน กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่าการฝากให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ สั่งให้ตำรวจไปดูแลปัญหาคนเสื้อแดงเหมือนส่งสัญญาณให้ล้างบ้างข้าราชการ ฝ่ายตรงข้ามว่า ถ้าบางมันน่าล้างก็ควรล้าง ก็ต้องยอมรับว่าบางไหนที่มีลักษณะสกปรกควรจะล้างบางนั้นเสีย ซึ่งเห็นว่ามีหลายบางที่ควรล้าง ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความเป็นธรรม กับทุกฝ่าย ในวงการเหล่านี้ยังมีคนดีอยู่เพียงแต่ว่า ถ้าเราไม่คิดเอาคนเหล่านี้มาเป็นเครื่องมือ ทางการเมือง แต่สงเสริมคนดีให้ปกครองซึ่งสอดคล้องกับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่าต้องส่งเสริมคนดีปกครองบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน นายชวน พร้อมคณะส.ส. รวมถึงเจ้าหน้าที่พรรคประชาธิปัตย์ ไปช่วยลูกพรรคหาเสียงที่ จ.สมุทรปราการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 1 คันรถ ขับตามอารักขาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
**ยันมีหลวงพ่อโกยไม่ขอให้ดูแลเป็นพิเศษ
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงยืนยันว่าจะตามนายกฯ ไปทุกที่ นายชวน กล่าวว่า ถ้าไปคุ้มกันให้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะไปขับไล่ก็ไม่ดี อยากให้รู้ถึงความพอเหมาะใช้สิทธิในขอบเขตก็จะเป็นสิ่งที่ดีและยืนยันที่จะลงพื้นที่ช่วยลูกพรรคหาเสียงเหมือนเดิมเพราะรับปากไว้แล้ว แต่ก็ต้องระวังหน่อย มีหลายคนบอกว่า ถ้าเปลี่ยนจากไข่ มาเป็นลูกกระสุนก็เสร็จเลย หรือถ้าเคราะห์ดีก็แค่เจ็บ เจ้าหน้าที่ก็ต้องช่วยระวัง แต่ตนไม่มีสถานะภาพที่จะเอาคนมาคุ้มครอง เพราะเป็นส.ส.ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
คงไม่ต้องส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลเป็นพิเศษ เพราะผมมีหลวงพ่อโกยอยู่แล้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลในรัฐบาลว่า ไม่ได้สั่งการดูแลใครเป็นพิเศษ ส่วนกรณีของนายชวน หลีกภัย โดนปาไข่ขณะช่วยลูกพรรคหาเสียงนั้น นายชวนไม่ได้ขอ การอารักขา เพราะไปทำหน้าที่ในฐานะนักการเมือง และตนไม่คิดว่าจะมีใครไปทำร้ายท่าน เพราะนายชวน เป็นคนดี และเป็นคนที่คนทั้งประเทศให้ความเคารพ
สิ่งที่เกิดขึ้นเราต้องพยายามพูดจาชี้แจงให้พี่น้องประชาชนเข้าใจตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีระบุไว้ว่าในระบอบประชาธิปไตย การหาเสียงเลือกตั้งแข่งขันกันต่างคนต่างทำได้ ไม่ควรมีเรื่องรุนแรง หากใครจะสนับสนุนใครก็ตั้งเวทีปราศรัยไปฟังกัน อีกฝ่ายจะตั้งบ้างก็ต้องให้เขา ทำแล้วไปตัดสินเอาด้วยการลงคะแนนเสียงในวันเลือกตั้ง ใครแพ้ ชนะก็จบตรงนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการประสานฝ่ายค้านให้มากขึ้นหรือไม่ เพื่อให้มีความเข้าใจ ที่ตรงกัน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพยายามพูดคุยในทุกโอกาส กับคนที่พอจะพูดคุยกันได้
**เทพเทือกย้ำไม่ยุบสภาใน6เดือนนี้
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายชวน เป็นเหมือนการจงใจหรือไม่ เพราะมีการเตรียมผ้าโพกศีรษะ นายสุเทพ กล่าวว่า ได้รับรายงานข่าวมาว่าการกระทำดังกล่าวมีกระบวนการต้องการให้ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ภายใน4-5 เดือนนี้ จึงถือโอกาสนี้เรียนว่า เป็นไปไม่ได้ บ้านเมืองเดินมาถึง ขนาดนี้แล้วต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติและประชาชนก่อน รัฐบาลจะทนแรงเสียดทานได้
**ซัดตร.เห็นการระทำซึ่งหน้าไม่จัดการ
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมหน้าทำเนียบฯแสดงความไม่พอใจรัฐบาลนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นไรตราบใดที่มาชุมนุมโดยสงบ ไม่ทำอะไรที่รุนแรง ปราศจากอาวุธก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่การกระทำที่ไปทำร้ายนายชวน หรือขัดขวาง การเลือกตั้งอย่างนี้ผิดกฎหมาย เมื่อถามว่า กรณีของนายชวน จะมีการแจ้งความ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่เจอนายชวน แต่ได้ยินว่าจะไม่แจ้งความ อย่างไรก็ตามกรณีนี้เกิดเหตุต่อหน้าตำรวจ คงต้องปฏิบัติหน้าที่ไม่ต้องรอให้ใคร มาแจ้งความ เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่านายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ตั้งข้อสังเกตุว่า ข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ในแต่ละพื้นที่รู้เห็นเป็นใจให้เหตุการณ์เช่นนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ถือเป็นข้อสันนิฐานของนายถาวร ตนต้องรอข้อเท็จจริงก่อนผู้สื่อข่าวถามว่าเท่าที่เห็นยังมีกลุ่มอำนาจเก่าในพื้นที่ภาคเหนือลักษณะเช่นนี้ยังมีอยู่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็มีอยู่บ้างเพราะกลุ่มของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยึดอำนาจ ในการปกครองประเทศมา 8-9 ปี คงได้ชุบเลี้ยงผู้คนมาพอสมควร
**ลั่นหากพบขรก.ช่วยเสื้อแดงโดนแน่
เมื่อถามว่า จะบริหารพื้นที่ดังกล่าวอย่างไรให้ราบรื่นตลอดการทำงานของรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องดูแลเป็นพื้นที่ๆไป ข้าราชการแม้ว่าจะเคยได้รับการ เลื่อนยศ แต่งตั้ง ด้วยความสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่วันนี้มีความตั้งใจเป็น ข้าราชการที่ดีของประชาชนก็ต้องให้โอกาสเขาก่อน แต่คงไม่มีการโยกย้ายข้าราชการ ด้วยการลุแก่อำนาจ ต้องดูตามข้อเท็จจริง ถ้ามีการใส่เกียร์ว่าง หรือเข้าด้วยช่วยเหลือ ฝ่ายที่ทำความผิด เราก็ต้องดำเนินการตามระเบียบราชการ และไม่กลัวที่จะดำเนินการด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีระยะเวลาในการดำเนินการอย่างไร หากข้าราชการ ใส่เกียร์ว่างทางรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ค่อยๆ ดูต่อไป ตรงไหนน๊อตหลวม ใช้ไม่ได้ต้องว่าเป็นตัวๆ ไป ไม่เพียงเฉพาะภาคเหนือ อีสานเท่านั้น แต่เป็นทุกพื้นที่จะพิจารณาด้วยส่วนคนที่ตั้งใจทำงานจะรักใครชอบใครเป็นเรื่องส่วนตัว
**ตั้ง2แนวทางแก้ปัญหาความแตกแยก
ส่วนแนวทางของนายสุเทพ ในการแก้ปัญหาความแตกแยกอย่างไรให้เป็น รูปธรรมนั้น นายสุเทพ กล่าวว่าตนไม่ได้ปฏิเสธหรือมีความเห็นในการตั้งองค์กรพิเศษ เพราะส่วนที่ตนทำคืองานปกติธรรมดา คือ 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานให้สมบูรณ์รักษากฎหมาย เห็นคนตีกันซึ่งหน้าแล้วนิ่งเฉยอย่างนี้ไม่ได้ 2. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองต้องมีหน้าที่ ทำกฎหมายให้เป็น กฎหมายจริงๆ ไม่ว่าใครทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ที่เหลือเป็นความพยายามทำความเข้าใจ
เมื่อถามว่า ที่ให้บังคับใช้กฎหมายรวมถึงกลุ่มพันธมิตรฯด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า รวมด้วยทุกอย่าง ต่อข้อถามว่า การตั้งองค์กรพิเศษจะสอดรับกับการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าองค์กรพิเศษเป็นอย่างไร ไม่ทราบจริงๆ ตนจะไปทำความเข้าใจกับนายกฯ เพราะตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้พบ
ส่วนกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ ทำหนังสือให้มีการดูแลสนามบินนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยจะนัดหมายมาหารือแนวทางที่จะจัดการตามที่นายกษิต เสนอมา พร้อมวันไหนจะทำวันนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมอาเซียนซัมมิท จะดูแลสถานการณ์ได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ดูแลได้ ฝากไปถึงประชาชน ทุกคนว่าการเป็นเจ้าภาพ เพราะนี่คือ งานของคนไทยทุกคน ไม่ใช่งานของนายอภิสิทธิ์ หรือ ครม.
**มาร์คตั้งองค์กรพิเศษแก้ขัดแย้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งองค์กรพิเศษขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของประชาชนในการชี้แจงนโยบายของรัฐบาลและแนวทางการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินกับหัวหน้าส่วนราชการ ว่า กำลังดูอยู่ ขอเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ กำลังแลกเปลี่ยนความคิดกับหลายๆ ฝ่าย ว่าวิธีที่ดีที่สุด จะเป็นอย่างไร โดยเป็นกลไกที่จะเข้ามาดูเรื่องของคดีทางด้านการเมือง จะช่วยให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจมากขึ้นว่าจะได้รับความเป็นธรรมส่วนการที่จะให้ข้าราชการเป็นกลไกการทำงานของรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องทำ และต้องลบปัญหาในอดีตที่สะสมมา ขอย้ำอีกครั้งว่าปัญหาที่สะสมมาการเมืองมันไม่จำกัดขอบเขตของตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราชการ เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของสื่อ เข้าไปเกี่ยวข้องกับอีกหลายๆ ส่วน และเลยทำให้ความขัดแย้งมันขยายวงออกไป เป็นความแตกแยก ความตั้งใจของตนก็คือ ต้องดึงความแตกต่างทางการเมืองถึงจะมีความขัดแย้งบ้าง ขีดวงกลับเข้ามาสู่ในส่วนของการเมืองเท่านั้น เพราะฉะนั้นกลไกไหนที่มีอำนาจหน้าที่ หรือ บทบาทหน้าที่ตามปกติ ควรมีความเป็นอิสระในวิชาชีพ มีความเป็นกลางในส่วนของเขา
ขณะนี้กำลังดูกลไกการตั้งองค์กรพิเศษอยู่และจะมาทำให้มีภาพที่ชัดเจนในการดำเนินการ ซึ่งกลไกโดยปกติก็ยังทำอยู่ คือทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ ศาล แต่ว่าต้องยอมรับว่า เหตุการณ์มันมีมาก คดีความก็มีมาก และมีหลายแง่หลายมุม ตรงนี้ก็ต้องขอเวลาในช่วงต้นในการที่จะไปหากลไกตรงนี้มาให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมรัฐบาลแต่งตั้งคนที่มีคดีมาเป็นข้าราชการการเมือง อย่างนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นที่ปรึกษานายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายอภิรักษ์ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่สั่งการ เป็นที่ปรึกษาเท่านั้น ตนแยกแยะในการดำรงตำแหน่งด้านบริหาร กับการมาเป็นที่ปรึกษา จริงๆ แล้ว นายอภิรักษ์สามารถดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ได้ถ้าไม่ลาออก แต่ถ้าศาลตัดสินแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งและต้องรับคำตัดสินของศาล ขณะนี้นายอภิรักษ์จะดำรงตำแหน่งบริหารก็ทำได้ แต่ตนให้มาทำหน้าที่เป็นปรึกษาก่อน
**ไม่แลกล้างคดีแม้วกับความสงบ
ผู้สื่อข่าถามว่าถ้าแลกกับการล้างคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อให้บ้านเมือง สงบจะทำหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคดีเฉพาะต่างหากไปอยู่แล้ว ถ้าเป็นการเมืองก็อีกเรื่อง เมื่อถามว่า ถ้าจะแลกกับความสงบบ้านเมืองจะแลกหรือไม่ นายกฯ กล่าว่า ไม่ได้คิดถึงเรื่องอย่างนั้น คิดแต่เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน และมีแง่มุมในทางการเมืองกับเรื่องสิทธิเสรีภาพจะสะสางกันอย่างไร เมื่อถามต่อว่า รวมถึงคดี 3 จังหวัดภาคใต้ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ภาคใต้คงต่างหากเพราะเป็นคดีพิเศษ ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง จะเสนอแนวทางแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในการประชุมครม.สัปดาห์หน้า
** สั่งย้ายประชุมอาเซียนไปหัวหิน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลตัดสินใจที่จะย้ายสถานที่ ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน(อาเซียนซัมมิท) ไปที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อความสงบเรียบร้อย ก่อนหน้านี้ รัฐบาลคาดว่าจะจัดการประชุมดังกล่าวขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยมีการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลและได้เตรียมสถานที่ประชุมไว้แล้ว
ทั้งนี้ การสั่งย้ายสถานที่ประชุม เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลชุดก่อน ประกาศที่จะเคลื่อนไหวคัดค้านการจัดประชุมดังกล่าว โดยอ้างความไม่ชอบธรรมที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
**พัชรวาทถกเทพเทือก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา16.45น. วันเดียวกัน ที่ตึกบัญชาการ1 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้กล่าวหลังจากเข้าพบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมตรี โดยใช้เวลาหารือกว่า 20 นาที ว่า มาหารือภาพรวมเกี่ยวกับงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตามที่นายสุเทพได้รับมอบหมายดูแล สตช. คณะกรรมการ กตร. คณะกรรมการ กตช. แต่ไม่ได้หารือถึงการปรับโครงสร้าง สตช. คาดว่า คงจะมีการนัดหารืออีกครั้ง ส่วนความเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดง นั้นตอนนี้ตำรวจยังดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่ทุกวัน งานด้านการข่าวก็ยังไม่มีการรายงาน ความเคลื่อนไหว
**สุเทพเผยหารือเรื่องประชุมอาเซียน
นายสุเทพ กล่าวว่าได้พูดคุยกับผบ.ตร.ในการเตรียมการประชุมผู้นำอาเซียน ซึ่งตนได้เน้นย้ำ ผบ.ตร.ไปว่าการประชุมครั้งนี้เป็นหน้าตาของประเทศ ต้องทำให้เรียบร้อยเพื่อให้ผู้ที่ร่วมประชุมมีความรู้สึกมั่นใจ ไม่ใช่เจอเรื่องไม่ดีกลับไป ซึ่งจะเสียหายต่อประเทศได้
นายสุเทพกล่าวว่าสาเหตุการย้ายที่ประชุมไป อ.หัวหิน มีหลายสาเหตุ แต่เหตุหนึ่งที่มีความสำคัญเห็นว่าการประชุมอาเซียนครั้งที่ผ่านมามักใช้เมืองตากอากาศ สำหรับจัดการประชุมในประเทศไทย ด้วยเหตุผลสารพัด จึงคิดว่าจัดประชุมอ.หัวหิน น่าจะเหมาะสมกว่าแต่ยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะมีข่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะมาก่อกวนการประชุม รัฐบาลไม่ต้องการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง เราพยายามจะคลี่คลาย คิดว่าหากเป็นพื้นที่ที่ป้องกันปัญหาการเผชิญหน้าสามารถป้องกันได้จึงย้ายสถานที่การประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจแค่ไหนว่าไปประชุมอ.หัวหิน เสื้อแดงจะไม่ไปก่อกวน นายสุเทพ กล่าวว่า มีหลายเหตุผล ทั้งที่ควรพูดและไม่สมควรพูด ส่วนจะแก้ปัญหากลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลอย่างไรนั้น นายสุเทพ กล่าวเลี่ยงว่า ในที่ประชุมห้องสีเขียวพูดถึงแต่การจัดประชุมผู้นำอาเซียน ไม่ได้พูดเรื่องเสื้อแดง เสื้อเหลือง ส่วนเรื่องเสื้อแดงก็คงจะเน้นการเจรจาต่อไป
**มท.1กำชับผู้ว่าฯกันม็อบปาของ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชวนโดนปาไข่ และขวดน้ำขณะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงว่า ได้กำชับผู้ว่าฯหาทางป้องกันไม่ให้ เกิดเหตุขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นผู้ชุมนุมกลุ่มไหนก็ตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาดูแล อย่างเข้มงวด โดยการวางแนวกั้นเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างผู้ชุมนุม แต่ถ้าใครโดนปา สิ่งที่ร่างกาย ก็เป็นสิทธิ์ที่จะไปดำเนินคดีตามกฎหมายได้
**พัชรวาทสั่งดำเนินคดีเสื้อแดงเถื่อน
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร. ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ กล่าวถึงกลุ่มคนเสื้อแดงปาไข่และสิ่งของใส่ นายขวนว่า พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มีความห่วงใย จึงได้สั่งกำชับและเน้นย้ำการปฏิบัติงาน ของข้าราชการตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ที่เกิดเหตุให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและจริงจังแล้ว
ด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. ใช้ไข่ขว้างปา ครม.ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ว่า กรณีดังกล่าว ถือเป็นความผิด ฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท เพราะหากปาไข่กระทบกับใบหน้าของบุคคล แล้วอาจทำให้เกิดรอยช้ำต้องรักษาตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ถึงจะหายเป็นปกติ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายแก่กาย แต่ถ้าขวางปาแล้วไม่ถูกก็จะเข้าข่ายฐานพยายาม ทำร้ายร่างกาย มีโทษ 2 ใน 3 ส่วนของโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่า การชุมนุมนั้นต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ อีกทั้งต้องไม่มีการละเมิดกฎหมายบ้านเมืองอีกด้วย
การใช้ไข่ขว้างปาไปยังบุคคลอื่นถือว่าผู้กระทำใช้ไข่เป็นอาวุธตามความหมาย ของกฎหมายแล้ว ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ได้สั่งการให้ ผกก.สน.ดุสิต ดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานตามกฎหมายแล้ว
**มท.3สำทับผู้ว่าฯ-ตร.ต้องรับผิดชอบ
นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ต่อต้านรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้อแดงเสื้อเหลือง หรือเสื้ออะไร เมื่อทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนคนที่สั่งการก็ต้องรับผิดตามกฎหมายเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือใคร เช่นเดียวกับข้าราชการที่หย่อนยานประสิทธิภาพในการทำงานก็ต้องมาพิจารณาในเรื่องความดีความชอบไม่เช่นนั้นก็เป็นอะไรก็ได้ ที่ไม่ต้องรับผิดชอบในหน้าที่ ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่การส่งสัญญาณล้างบางขั้วอำนาจเก่าแต่เป็นการประเมินผลการทำงานในการปฏิบัติราชการของทุกคน ที่เป็นข้าราชการ เพื่อที่จะดูในเรื่องประสิทธิภาพประสิทธิผลการทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการส่งสัญญาณเช่นนี้ต้องการให้ตำรวจ และผู้ว่าฯพิจารณาตัวเองใช่หรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า ทั้ง 2 อย่างถ้าสำนึกความเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องรักษากฎหมาย และหลังเกิดเหตุกับนายชวน ยังไม่ได้โทรศัพท์สั่งการไปยังผู้ว่าฯทั้ง 2 จังหวัด เพราะไม่มีอำนาจสั่งการเป็นเรื่อง ของ มท.1 ซึ่งก็ได้หารือกับรมว.มหาดไทยและปลัดมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามได้สั่งการไปทุกจังหวัดให้ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยทุกพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะของคนพรรคหนึ่งพรรคใดซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคนของรัฐบาล แต่เป็นทุกคน ไม่สามารถละเว้นหน้าที่ได้ ไม่ว่าคน คนนั้นเป็นใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีโดนกลุ่มคน เสื้อเหลืองปารองเท้าใส่ก็ยังไม่มีใครดำเนินการ นายถาวร กล่าวว่า ตอนนั้นนายสมชาย เป็นรัฐบาล ทำไมไม่ดำเนินการ เรื่องนี้แม้นายชวน ไม่ติดใจเอาความเรื่องก็ไม่จบ บ้านเมืองต้องมีขื่อมีแป ความรับผิดชอบของผู้มีอำนาจรัฐต้องให้ข้าราชการที่ตัวเองบังคับบัญชาอยู่ปฏิบัติตามกฎหมาย วันนี้รัฐบาลไม่ใช่แค่พรรคประชาธิปัตย์เพียงแค่พรรคเดียว แต่ข้าราชการทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่ตัวเองรับมาจากประชาชน
**เสื้อแดงหยิบมือบุกป่วนทำเนียบฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเช้าวานนี้ (7 ม.ค.) กลุ่มเสื้อแดงประมาณ 30 คน เดินทางมาตะโกนขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ โดยเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ดำเนินคดีกลับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เข้ามาสร้างความเสียหายในทำเนียบรัฐบาล และเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ยุบสภาโดยบางรายได้พยายามปีนรั้วทำเนียบรัฐบาล เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาลได้นำแผงเหล็กมากั้นทางเข้าทำเนียบฯบริเวณดังกล่าวไว้ เพื่อไม่ให้กลุ่มเสื้อแดงเข้ามาได้ ขณะที่ชุมนุมอยู่นั้นกลุ่มเสื้อแดงต่างตะโกน ด่าทอบรรดาคณะรัฐมนตีด้วยถ้อยคำที่ หยาบคาย
เวลาต่อมาก่อนที่จะมีการประชุมครม.เศรษฐกิจ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้นำกลุ่ม ครม.เข้ากราบไหว้ศาลพระภูมิประจำทำเนียบฯ เมื่อกลุ่มเสื้อแดงเห็นจึงวิ่งกรูกันเข้าไปเกาะบริเวณรั้วทำเนียบฯใกล้ๆ ศาลพระภูมิ พร้อม ตะโกนด่าทอ ครม. จากนั้นมีผู้ชุมนุมรายหนึ่งป่าไข่ไก่ เข้าใส่รัฐมนตรี แต่ปรากฏว่า ไข่ไก่ไม่ถูกใคร จากนั้นกลุ่มเสื้อแดงก็ได้เดินทางกลับเมื่อเวลา 10.00 น.
อ้างเสื้อแดงใช้สิทธิม.63ปาชวน
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเสื้อแดงจ.ลำปาง และจ.ลำพูนขาวสิ่งของใส่นายชวน แต่มองว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เหมือนที่กลุ่มคนเสื้อเหลือง ดำเนินการมาก่อน เป็นการเลียนแบบเหมือนกรณีที่นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯที่โดนปาร้องเท้าและขวดน้ำใส่
ส่วนที่มีการระบุว่าขบวนการของกลุ่มเสื้อแดงมีนักการเมืองท้องถิ่น ที่เป็นคน ของพรรคเพื่อไทยอยู่ด้วย จะมีการพูดคุยหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้ามีหลักฐาน ก็ดำเนินคดีฟ้องร้องได้เลย จะได้ดูว่าตำรวจจะทำอย่างไรบ้างเพราะก่อนหน้านี้ ตนกับเพื่อน ส.ส.ก็เคยแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มเสื้อเหลือง แต่จนถึงขณะนี้คดีก็หายเข้ากลีบเมฆหากเลือกปฏิบัติ เลือกที่รักมักที่ชังอย่างนี้ ความปรองดอง สมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะให้ตนไปห้ามคงไม่ได้ เพราะไม่ได้ข้อเกี่ยว หรือรู้เห็นด้วย กลุ่มคนเหล่านี้เขาก็มีหัวใจ
**อนุพงษ์ให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ชาติ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวถึงแนวทางการสร้างความสมานฉันฑ์ว่า ถ้ากองทัพบกมีส่วนช่วยได้ ต้องเป็นแนวคิดว่าต้องไม่เป็นศัตรูกับใครต้องไปเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ทำให้ทุกคนเข้าใจสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยความคิดต่างกัน ไม่ว่าจะใช้กลไกอะไรก็ตาม หากเป็นวิกฤติของชาติ สื่อก็ต้องช่วย มวลชนต่างๆ ที่มีโอกาสช่วยได้ต้องช่วย ส่วนกองทัพบกหากช่วยได้ก็จะช่วยผ่านวิกฤติไปได้ ประเทศชาติขณะนี้เป็นช่วงที่ทุกคนต้องช่วยกัน
แกนนำกลุ่มเสื้อแดงอาจจะมีความรักคนใดคนหนึ่งเฉพาะ เขาทำได้จะบอกว่า เขาผิดคงไม่ได้ ต้องค่อยพูดให้เขาค่อยๆ ลด และเอาชาติเป็นที่ตั้ง ถ้าไม่แตกแยกก็จะไม่มีการใช้มาตรการที่รุนแรง หากไม่เห็นชอบ เช่น ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือแสดงออกอย่างอื่นก็ทำได้ชอบหรือไม่ชอบใครเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่หากจะเป็นฝ่ายตรงข้ามแล้วพยายามทำทุกอย่าง แสดงว่าต้องการจะแตกหัก แต่ถ้าเอาชาติเป็นที่ตั้งทุกคนต้องลืมหมด ผมพยายามอย่างนี้มานาน แต่โดนด่า จากทุกฝ่าย
ส่วนที่นายชวน ถูกกลุ่มเสื้อแดงปาไข่ใส่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่าปกติ เป็นหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าของพื้นที่ แต่ทหารพร้อมออกไปช่วยในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงส่งผลกระทบต่อการประชุมอาเซียน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การประชุมอาเซียนเป็นวาระของชาติ ถ้าทำได้สำเร็จลุล่วงด้วยดีจะเป็นผลดีแก่ประเทศชาติ
**ผู้ว่าฯชม.-ตร.ยันดูแล”ชวน”ดีแล้ว
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ตะโกนด่าและขับไล่ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ว่า การเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ของนายชวน นั้นทางจังหวัดไม่ได้รับการประสานล่วงหน้า การลงพื้นที่ดังกล่าวก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้ามาทำงานทางการเมือง เมื่อประกอบกับไม่ได้มีการแจ้งประสานมาล่วงหน้าก็จะให้เจ้าหน้าที่ไปคอยเฝ้าอยู่ที่ท่าอากาศยานตลอดเวลาก็คงจะเป็นไปไม่ได้
ขณะที่นายไพโรจน์ แสงภู่วงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางจังหวัดมีนโยบายเข้มงวดการชุมนุมทางการเมืองอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยมีแนวทางให้ใช้มาตรการทางกฎหมายให้เข้มข้นขึ้นเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
“การชุมนุมสนับสนุนหรือต่อต้านทางการเมือง ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน หากจะชุมนุมด้วยความสงบ ไม่ก้าวร้าว หยาบคาย แต่ก็ยอมรับว่าการปลุกระดมทางการเมืองโดยการใช้คลื่นวิทยุชุมชน ซึ่งมีช่องว่างของการบังคับใช้กฎหมายการควบคุม เนื่องจากยังไม่มี กทช.ทำให้ดูแลได้ยาก คดีที่จะดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อมีการทำผิดกฎหมายพาดพิงหรือหมิ่นประมาทผู้อื่นเป็นกรณีไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้มากที่สุด” นายไพโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ทางจังหวัดจะมีมาตรการเข้มงวดในการชุมนุมที่กระทำเกินขอบเขตของกฎหมาย แต่ปรากฏว่าในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในคืนวันที่ 6 ม.ค.ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ก่อนที่นายชวน หลีกภัย จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้ชุมนุมประมาณ 1 พันคนนั้น ดีเจ.ปูนิ่ม ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ ได้บรรยายสถานการณ์สดถ่ายทอดทางวิทยุชุมชน โดยช่วงหนึ่งที่บ่งบอกว่า “ผู้ร่วมชุมนุมหลายคนได้เตรียมอุปกรณ์ที่อาจเกิดอันตรายได้ แต่ไม่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตรวจค้นหรือมีจุดสกัดเพื่อป้องกันอาวุธ หรือสิ่งต้องห้ามในการชุมนุมแต่อย่างใด”
ด้าน พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ตำรวจได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งการกระทำของกลุ่มเสื้อแดง เป็นการทำเลยเถิดเกินไป ซึ่งจะมีการดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น ส่วนที่มีการตำหนิว่าตำรวจปล่อยปละละเลย แล้วแต่จะมอง ซึ่งกรณีนี้นักการเมืองที่เข้ามาทำกิจกรรมการเมืองในพื้นที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า เมื่อทราบก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลอย่างดีที่สุด
**‘จรัญ’ยกขึ้น ชม.หลังเสื้อแดงขู่ล้อม
ขณะที่ทางด้านประชาสัมพันธ์โรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว ภายในศูนย์การค้ากาดสวนแก้ว ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่วิทยุชุมชนคนเสื้อแดง 92.5 Mhz ประกาศว่า จะยกมาปิดล้อมโรงแรมในระหว่างที่นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะเดินทางมาร่วมงานในเย็นวันที่ 8 ม.ค. โดยทางโรงแรมได้รับการแจ้งเตือนจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทางโรงแรมไม่ได้เตรียมการใดๆเป็นพิเศษ เนื่องจากฝ่ายจัดงานได้ประสานแจ้งว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงประธานในพิธี แต่การจัดงานจะยังคงดำเนินตามกำหนด โดยการประชุมจะเริ่มในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08-17.00 น. เป็นการประชุมวิชาการของสภาทนายความภาค 5 และ 6 ผู้เข้าประชุมประมาณ 300 คนกำหนดการเดิมมีนายจรัญ ภักดีธนากุล เป็นประธานเปิดงาน
ทั้งนี้ นางกัญญาภัค มณีจักร ดีเจ.คลื่นคนรักทักษิณกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ประกาศเมื่อเช้าวานนี้ (7ม.ค.) ว่า จะทำหนังสือถึงผู้บริหารโรงแรมเพื่อไม่ให้นายจรัญ เดินทางเข้ามา โดยก่อนหน้านี้ได้ประกาศอย่างต่อเนื่องว่าจะขัดขวางมิให้นายจรัญเข้าพื้นที่เชียงใหม่
**ผู้ว่าฯลำปางรับหนักใจเสื้อแดงถ่อย
ด้านนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงตามไล่พร้อมนำสิ่งของไข่ไก่ขว้างใส่นายชวน หลีกภัย ขณะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงที่ลำปางเมื่อวันที่ 6 ม.ค.จนเป็นเหตุให้กระทรวงมหาดไทย ต้องมีการสอบสวนว่า ในพื้นที่มีการปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นจนทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเสียหายหรือไม่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้รับรายงานจากผู้ปฏิบัติงานในส่วนต่างๆตามลำดับแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆ หากพบว่าการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นการไปละเมิดสิทธิของผู้ใดผู้หนึ่ง ผู้รักษากฎกติกาก็ต้องเข้าไปดำเนินการ เมื่อปรากฏว่า มีผู้ใดได้รับความเสียหายและมีการเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษก็ต้องสู่กระบวนการของกฎหมายต่อไป
“ต้องดูที่หลักฐานของทุกฝ่ายซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมอยู่ แต่ทั้งนี้ ได้ยืนยันว่า ตนและข้าราชการผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นทุกคน เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหน้าที่ที่จะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ไม่มีหน้าที่ไปช่วยสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่มีหน้าที่ไปดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เข้ากับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง”
ส่วนการทำหน้าที่และการสั่งการนั้นไม่ได้มีการสั่งการอะไรที่พิเศษ ปล่อยให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ด้วยความถูกต้องและเป็นธรรม หากพบว่ามีการละเมิดก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายในส่วนนั้น ทั้งนี้ ยอมรับว่า หนักใจกับเหตุการณ์ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วก็ต้องแก้ไขกันไป
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ (8 ม.ค.) ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้เรียกผู้นำท้องถิ่นทั้งจังหวัด เกือบ 2,000 คนเข้ารับนโยบาย ณ ศูนย์หัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปางด้วย
**“ชิงชัย”ชี้เสื้อแดงป่วนส่ออันตราย
นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงป่วนขบวนหาเสียงของนายชวน หลีกภัย ที่ จ.ลำปางว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นสัญญาณอันตรายที่สื่อให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า ปัญหาของระบอบเผด็จการรัฐสภากับปัญหาระบอบเผด็จการทางทหารเริ่มส่งผลกระทบไปสู่พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ เพราะในขณะนี้สังคมไทย แบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่ายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง ที่ประชาชนยังคงสับสนและเข้าใจผิด ขณะที่รัฐบาลก็ยังคงรูปแบบการสืบทอดอำนาจเผด็จการรัฐสภาที่ต่อสู้กันอยู่ 2 ขั้นอย่างเด่นชัด
"เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหานี้ พรรคการเมือง กองทัพ และไม่ว่าสถาบันใด จะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา สร้างรูปแบบการปกครองในรูปแบบรัฐบาลเฉพาะการขึ้นมา ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะของถวายคืนพระราชอำนาจ แล้วจัดหาผู้รู้เข้ามาร่วมกันแก้วิกฤตแล้วดึงประชาชนออกจากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้" นายชิงชัย กล่าว และว่า ดังนั้น หากไม่มีการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นใครในรัฐบาลเดินทางเคลื่อนไหว ท่ามกลางคามขัดแย้งที่มีอยู่ก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้และอาจจะมีความรุนแรงมากกว่าเดิม
**จับตาคน”เสื้อแดง”จ้องป่วนรัฐบาล
มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงในหลายพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ทางภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และทางภาคอีสาน เช่น อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น และนครราชสีมา เป็นต้น ยังคงมีการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยวิธีการที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.ที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ เช่นที่ จ.ลำปาง อุดรธานี อุบลราชธานี และนครปฐม เป็นต้น
โดยกลุ่มคนเสื้อแดง จะออกมาก่อความวุ่นวายทุกครั้งที่มีแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปช่วยลูกพรรคหาเสียง นอกจากนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงในหลายพื้นที่ยังมีการเตรียมความพร้อมในการที่จะก่อกวนรัฐมนตรีทุกคนในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ด้วย หากพบว่ารัฐมนตรีคนใดเดินทางลงพื้นที่ในจังหวัดใดก็ตาม ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในบางพื้นที่ ดูเหมือนว่าจะปล่อยปละละเลยต่อเรื่องนี้ โดยมักจะปล่อยให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาก่อกวนอยู่เนืองๆ