ASTVผู้จัดการรายวัน - กทม.สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบ-แก้ไขความปลอดภัยการใช้อาคารเป็นกรณีพิเศษในพื้นที่เมืองกรุง ปลัดกทม.ยันต้องรื้อทิ้งซานติก้าเพื่อความปลอดภัย พร้อมทำบุญใหญ่ 3 ศาสนาพุทธ –คริสต์-อิสลาม 7 ม.ค.นี้ที่ผับมรณะ เผยต้องแก้ไขพ.ร.บ.ควบคุมอาคารกำจัดจุดอ่อน ขณะที่ปธ.กก.สอบเหตุเพลิงไหม้ยัน 15 วันรู้ผล ตะลึง 2,000 อาคารทั่วกรุงยังไม่ยื่นผลตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวหลังป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้า ผับ และอาคารเสือป่า พลาซ่าว่า ขณะนี้ กทม.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและแก้ไขด้านความปลอดภัยการใช้อาคารเป็นกรณีพิเศษ เพื่อตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของอาคาร สถานบันเทิง หอพัก โรงแรม ห้างสรรพสินค้า รวมถึงอาคารที่มีประชาชนรวมกลุ่มเป็นจำนวนมาก โดยจะมีรองปลัด กทม.เป็นประธานในแต่ละเขตกลุ่มโซน
ทั้งนี้ จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น อุปกรณ์ดับเพลิง สัญญาณไฟฉุกเฉิน ทางหนีไฟ เป็นต้น รวมทั้งให้ สปภ.เชิญกลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้ พร้อมทั้งแจกคู่มือตรวจสอบความปลอดภัย รวมทั้งแนะอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับป้องกันเหตุเพลิงไหม้
สำหรับการตรวจสอบโครงสร้างซานติก้า ผับว่ามีการต่อเติมอาคารไปจากที่ขออนุญาตก่อสร้างหรือไม่นั้น ขณะนี้ตนรอเอกสารต่างๆ จากทางเขตวัฒนาอยู่ ทั้งนี้ ภายในตัวอาคารเกิดการเผาไหม้ไปจนกระทั่งหลักฐานต่างๆ สูญหายไปเกือบหมดแล้ว ขณะที่โครงสร้างของอาคารนั้นจำเป็นจะต้องรื้อทิ้งทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย
**รับ กม.คุมอาคารมีปัญหาจริง
ส่วนกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ออกมาระบุว่าเป็นเพราะ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ของ กทม.ที่ยังมีช่องโหว่อยู่และจำเป็นต้องแก้ไขนั้น ปลัดกทม.กล่าวว่า ตนเองพร้อมทั้ง สนย.ได้เข้าไปชี้แจงในประเด็นดังกล่าวกับรัฐมนตรีแล้ว โดย กทม.ยอมรับว่าจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจริง เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวมีจุดอ่อน เปิดช่องให้มีการอุทธรณ์และต่อสู้คดีในชั้นศาล จนกลายเป็นช่องโหว่ให้มีการขยายเวลารื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างไม่ถูกต้องออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 7 ม.ค.นี้ เวลา 13.00 น. กทม.จะจัดพิธีกรรมทางศาสนาทั้ง 3 ศาสนา คือ พุทธ คริสต์และอิสลามบริเวณที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ โดยจะเชิญญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ร่วมทำบุญเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจของผู้ที่มีชีวิตอยู่ให้กลับมา
**ผงะ 2 พันอาคารไม่ยื่นตรวจความปลอดภัย
ด้านนายชาตินัย เนาวภูติ ผอ.สนย.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบและแก้ไขด้านความปลอดภัยการใช้อาคาร กรณีเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงซานติก้า ผับ และอาคารเสือป่าพลาซ่า เปิดเผยว่า ในวันนี้(7ม.ค.) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฯ นัดแรก ที่สำนักการโยธา โดยจะวางกรอบแนวทางการดำเนินการตรวจสอบ มาตรการรักษาความปลอดภัยของอาคาร โดยเฉพาะการปฏิบัติตามกฎหมาย การขออนุญาตและการใช้อาคาร ซึ่งอาจจะต้องเชิญเขตมาสอบถามข้อมูล และจะพิจารณาว่าจะต้องเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องคนใดมาให้ข้อมูลบ้าง ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
ส่วนการตรวจสอบอาคารต่างๆ ในพื้นที่ กทม.นั้น ปรากฏว่าเจ้าของอาคารในพื้นที่ กทม.ที่มีกว่า 5,900 อาคาร ยื่นรายงานตรวจสอบอาคารมาที่ กทม.แล้วจำนวน 3,000 กว่าราย และไม่ยื่น 2,000 กว่าราย ขณะนี้สำนักการโยธา ได้รวบรวมข้อมูลและแจ้งไปยังสำนักงานเขตในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ดำเนินการส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีทางแพ่งและอาญากับอาคารที่ฝ่าฝืน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ทั้ง 50 เขต ยังไม่สามารถส่งฟ้องศาลได้แม้แต่รายเดียว
**สภาทนายฯ ชี้ช่องฟ้องผับนรก
ที่สภาทนายความ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เปิดเผยว่า สภาทนายความจัดให้บริการรับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายกรณีเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ โดยผู้เสียหายอาจเป็นญาติหรือเป็นผู้ประสบภัยเอง ซึ่งต้องเข้าเงื่อนไขยากจน หรือไม่มีทรัพย์สินเพียงพอ สภาทนายความจะรับว่าความให้ แต่ถ้าต้องการคำปรึกษาก็สามารถมาปรึกษาได้ทันทีไม่มีเงื่อนไข
นายกสภาทนายความ กล่าวว่า ขณะนี้สภาทนายความได้รับข้อมูลจากผู้เสียหายมาบ้างแล้วว่าซานติก้าอาจมีข้อบกพร่องจากโครงสร้างการออกแบบอาคาร กล่าวคืออาจมีการ “ใช้อาคารผิดประเภท” และ “ต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งหากตรวจสอบแล้วเป็นเช่นนั้นจริงก็จะนำไปสู่มูลคดีที่เราจะฟ้องร้องฐานละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และฟ้องคดีตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 ซึ่งมีการดำเนินคดีที่รวดเร็ว และสามารถเรียกค่าเสียหายทางจิตใจได้ เพราะถ้าฟ้องละเมิด ปกติศาลจะไม่ค่อยให้ค่าเสียหายทางด้านจิตใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้อาคารผิดประเภทจะนำสืบอย่างไร นายเดชอุดม กล่าวว่า หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ได้รับข้อมูลมา ก็อาจเป็นไปได้ว่าซานติก้าได้ขอใบอนุญาตในชั้นก่อสร้างถูกประเภทหรือไม่ เช่น ขอเป็นที่อยู่อาศัยแล้วดัดแปลงเป็นใช้เป็นอาคารพาณิชย์ หรือใช้เป็นสถานบริการ หรือมีการต่อเติมอาคารโดยได้รับอนุญาตหรือไม่ ผู้ครอบครองเคยขออนุญาตหรือไม่ ผู้เช่าเคยขออนุญาตหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการขออนุญาตเปิดสถานบันเทิงที่ต้องขออนุญาตกับตำรวจ
**ตร.เข้าตรวจหาหลักฐานเพิ่ม
เวลา 11.00 น.ที่ซานติก้าผับ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (รอง ผบก.น.5) หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุอีกครั้ง โดยประสานให้ บ.โฟกัส ไลท์ซาวด์ ซิสเต็ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่รับทำเอฟเฟกต์ในงานคืนวันเกิดเหตุ และบ. เมจิก ไลท์ แอนด์ ซาวด์ นำตัวอย่างเครื่องยิงเปเปอร์ชู้ต จำนวน 2 ตัว ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกับที่บริษัท โฟกัส ใช้ในจุดเกิดเหตุมาลองยิงกระดาษเปรียบเทียบด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญบริษัทที่มาติดตั้งเอฟเฟกต์ในคืนวันเคานต์ดาวน์ที่ซานติก้า ผับ มาชี้จุดที่มีการวางเอฟเฟกต์ให้เจ้าหน้าที่ พฐ.ว่า วางจุดใดบ้าง เบื้องต้นพบว่ามีอยู่ 2 จุด คือ จุดหน้าเวที 4 ตัว และจุดกลางเวที 5 ตัว รวมทั้งหมด 9 ตัว โดยถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ ซึ่งต้องรอตรวจสอบในส่วนอื่นๆ รวมถึงไฟเย็นที่มีการแจก ซึ่งต้องรอดูผลอีกครั้ง โดยจากการตรวจที่เกิดเหตุพบสวิตช์ที่ใช้จุดเอฟเฟกต์อยู่ที่ทางออก ซึ่งจะมีการนำมาตรวจสอบอีกครั้ง โดยในส่วนอื่นๆ พฐ.ยังอยู่ระหว่างตรวจหาหลักฐาน และยังไม่มีการตั้งข้อหาแต่อย่างใด ต้องรอผลจาก พฐ.อีกครั้ง จากนั้นจึงจะประชุมพนักงานสอบสวนอีกครั้งว่า อยู่ในข่ายที่จะมีการแจ้งข้อหาหรือไม่ คาดว่า ต้องใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์
พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับนายสุริยา ฤทธิ์ระบือ อายุ 31 ปี กรรมการผู้จัดการ บ.ไวท์ แอน บราเธอร์ (2003) จำกัด ที่เปิดกิจการซานติก้า ผับ นั้น ถึงขณะนี้ยังไม่มาให้ปากคำ โดยให้ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ ออกหมายเรียกอีกครั้งไปแล้ว คาดว่า วันที่ 9 ม.ค.น่าจะมาพบพนักงานสอบสวน หากยังไม่มาก็อาจต้องขออนุมัติศาลออกหมายจับ ถึงขณะนี้ก็สอบปากคำไปแล้วกว่า 200 ปาก ซึ่งเป็นทั้งคนเจ็บ พนักงาน และญาติของผู้เสียชีวิต โดยหากไม่มาพบจะถือว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน โดยมีความผิดสถานบริการ ฐานปล่อยให้มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ
เมื่อถามว่า ได้มีการตั้งประเด็นเรื่องเปเปอร์ชู้ต ตามที่ นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือ ดีเจภูมิ เข้าให้ปากคำ เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมากับพนักงานสอบสวนหรือไม่ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้ตัดประเด็นทิ้งไป โดยทาง พฐ.ก็ได้มีการเข้าไปตรวจในที่เกิดเหตุก็พบเศษกระดาษดังกล่าวด้วย และได้เก็บเป็นหลักฐานแล้ว แต่สาเหตุจะมาจากเอฟเฟกต์ หรือพลุ ต้องขอสอบให้ชัดเจนก่อน
อนึ่ง สำหรับ บ.เมจิก ไลท์ แอนด์ ซาวด์นั้น พนักงานยืนยันไม่ได้รับงานในคืนวันเกิดเหตุ และไม่เคยรับงานจากซานติก้าผับแต่อย่างใด เพียงแต่ทางตำรวจได้ประสานให้นำเครื่องยิงเปเปอร์ชู้ตจำนวน 2 ตัว ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกันกับที่ใช้ในวันเกิดเหตุมาทดสอบดูในภายในผับ
**”มาร์ค” เผยเหตุเพลิงไหม้ “ซานติก้า” ไม่คืบ
นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องที่หน่วยงานต่างๆรายงานเข้ามา โดยเฉพาะปัญหาอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ และเรื่องของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีเพลิงไหม้ได้รับรายงานเบื้องต้น เกี่ยวกับ ซานติก้าผับ ครม.ได้เร่งรัดให้คณะกรรมการร่วมระหว่าง กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรมสรุปเรื่องทั้งหมด ทั้งในแง่สาเหตุและข้อกฎหมาย รวมถึงมาตรการที่จะต้องปรับปรุงต่อไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอีก
เมื่อถามว่า จากการรายงานเหตุไฟไหม้ซานติก้าผับ ระบุหรือไม่ว่า ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยัง เพราะมี 2 ประเด็นที่คณะกรรมการต้องไปสอบรายละเอียด คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวอาคารทั้งหมดว่าถูกต้องตามหลักเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ หากถูกต้องก็ต้องทำข้อเสนอต่อไปว่าจะปรับปรุงมาตรฐานอย่างไร เช่น การจะเอาระบบสปริงเกอร์มาใช้หรือไม่ อีกส่วนคือ ปัญหาข้อเท็จจริงที่ยังคลาดเคลื่อนกันอยู่ว่า ที่สุดแล้วการขออนุญาตประกอบกิจการเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะมีการร้องไปถึงศาลปกครอง ขณะเดียวกันเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยมีการดำเนินคดีกับทางผู้ประกอบการอยู่ ทั้งนี้กำลังให้กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงมหาดไทยสรุปข้อเท็จจริงมาด้วย
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่ามีการจ่ายใต้โต๊ะให้ตำรวจในพื้นที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ตั้งข้อสังเกตทางหนึ่งทางใด เพราะยังมีข้อเท็จจริงที่ยังแย้งกันอยู่ ทั้งการต่อสู้คดีที่ศาลปกครอง และการดำเนินคดีในส่วนอื่น ซึ่งจะต้องนำตรงนั้นมาดู
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวหลังป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้า ผับ และอาคารเสือป่า พลาซ่าว่า ขณะนี้ กทม.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและแก้ไขด้านความปลอดภัยการใช้อาคารเป็นกรณีพิเศษ เพื่อตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของอาคาร สถานบันเทิง หอพัก โรงแรม ห้างสรรพสินค้า รวมถึงอาคารที่มีประชาชนรวมกลุ่มเป็นจำนวนมาก โดยจะมีรองปลัด กทม.เป็นประธานในแต่ละเขตกลุ่มโซน
ทั้งนี้ จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น อุปกรณ์ดับเพลิง สัญญาณไฟฉุกเฉิน ทางหนีไฟ เป็นต้น รวมทั้งให้ สปภ.เชิญกลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้ พร้อมทั้งแจกคู่มือตรวจสอบความปลอดภัย รวมทั้งแนะอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับป้องกันเหตุเพลิงไหม้
สำหรับการตรวจสอบโครงสร้างซานติก้า ผับว่ามีการต่อเติมอาคารไปจากที่ขออนุญาตก่อสร้างหรือไม่นั้น ขณะนี้ตนรอเอกสารต่างๆ จากทางเขตวัฒนาอยู่ ทั้งนี้ ภายในตัวอาคารเกิดการเผาไหม้ไปจนกระทั่งหลักฐานต่างๆ สูญหายไปเกือบหมดแล้ว ขณะที่โครงสร้างของอาคารนั้นจำเป็นจะต้องรื้อทิ้งทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย
**รับ กม.คุมอาคารมีปัญหาจริง
ส่วนกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ออกมาระบุว่าเป็นเพราะ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ของ กทม.ที่ยังมีช่องโหว่อยู่และจำเป็นต้องแก้ไขนั้น ปลัดกทม.กล่าวว่า ตนเองพร้อมทั้ง สนย.ได้เข้าไปชี้แจงในประเด็นดังกล่าวกับรัฐมนตรีแล้ว โดย กทม.ยอมรับว่าจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจริง เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวมีจุดอ่อน เปิดช่องให้มีการอุทธรณ์และต่อสู้คดีในชั้นศาล จนกลายเป็นช่องโหว่ให้มีการขยายเวลารื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างไม่ถูกต้องออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 7 ม.ค.นี้ เวลา 13.00 น. กทม.จะจัดพิธีกรรมทางศาสนาทั้ง 3 ศาสนา คือ พุทธ คริสต์และอิสลามบริเวณที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ โดยจะเชิญญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ร่วมทำบุญเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจของผู้ที่มีชีวิตอยู่ให้กลับมา
**ผงะ 2 พันอาคารไม่ยื่นตรวจความปลอดภัย
ด้านนายชาตินัย เนาวภูติ ผอ.สนย.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบและแก้ไขด้านความปลอดภัยการใช้อาคาร กรณีเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงซานติก้า ผับ และอาคารเสือป่าพลาซ่า เปิดเผยว่า ในวันนี้(7ม.ค.) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฯ นัดแรก ที่สำนักการโยธา โดยจะวางกรอบแนวทางการดำเนินการตรวจสอบ มาตรการรักษาความปลอดภัยของอาคาร โดยเฉพาะการปฏิบัติตามกฎหมาย การขออนุญาตและการใช้อาคาร ซึ่งอาจจะต้องเชิญเขตมาสอบถามข้อมูล และจะพิจารณาว่าจะต้องเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องคนใดมาให้ข้อมูลบ้าง ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
ส่วนการตรวจสอบอาคารต่างๆ ในพื้นที่ กทม.นั้น ปรากฏว่าเจ้าของอาคารในพื้นที่ กทม.ที่มีกว่า 5,900 อาคาร ยื่นรายงานตรวจสอบอาคารมาที่ กทม.แล้วจำนวน 3,000 กว่าราย และไม่ยื่น 2,000 กว่าราย ขณะนี้สำนักการโยธา ได้รวบรวมข้อมูลและแจ้งไปยังสำนักงานเขตในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ดำเนินการส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีทางแพ่งและอาญากับอาคารที่ฝ่าฝืน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ทั้ง 50 เขต ยังไม่สามารถส่งฟ้องศาลได้แม้แต่รายเดียว
**สภาทนายฯ ชี้ช่องฟ้องผับนรก
ที่สภาทนายความ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เปิดเผยว่า สภาทนายความจัดให้บริการรับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายกรณีเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ โดยผู้เสียหายอาจเป็นญาติหรือเป็นผู้ประสบภัยเอง ซึ่งต้องเข้าเงื่อนไขยากจน หรือไม่มีทรัพย์สินเพียงพอ สภาทนายความจะรับว่าความให้ แต่ถ้าต้องการคำปรึกษาก็สามารถมาปรึกษาได้ทันทีไม่มีเงื่อนไข
นายกสภาทนายความ กล่าวว่า ขณะนี้สภาทนายความได้รับข้อมูลจากผู้เสียหายมาบ้างแล้วว่าซานติก้าอาจมีข้อบกพร่องจากโครงสร้างการออกแบบอาคาร กล่าวคืออาจมีการ “ใช้อาคารผิดประเภท” และ “ต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งหากตรวจสอบแล้วเป็นเช่นนั้นจริงก็จะนำไปสู่มูลคดีที่เราจะฟ้องร้องฐานละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และฟ้องคดีตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 ซึ่งมีการดำเนินคดีที่รวดเร็ว และสามารถเรียกค่าเสียหายทางจิตใจได้ เพราะถ้าฟ้องละเมิด ปกติศาลจะไม่ค่อยให้ค่าเสียหายทางด้านจิตใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้อาคารผิดประเภทจะนำสืบอย่างไร นายเดชอุดม กล่าวว่า หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ได้รับข้อมูลมา ก็อาจเป็นไปได้ว่าซานติก้าได้ขอใบอนุญาตในชั้นก่อสร้างถูกประเภทหรือไม่ เช่น ขอเป็นที่อยู่อาศัยแล้วดัดแปลงเป็นใช้เป็นอาคารพาณิชย์ หรือใช้เป็นสถานบริการ หรือมีการต่อเติมอาคารโดยได้รับอนุญาตหรือไม่ ผู้ครอบครองเคยขออนุญาตหรือไม่ ผู้เช่าเคยขออนุญาตหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการขออนุญาตเปิดสถานบันเทิงที่ต้องขออนุญาตกับตำรวจ
**ตร.เข้าตรวจหาหลักฐานเพิ่ม
เวลา 11.00 น.ที่ซานติก้าผับ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (รอง ผบก.น.5) หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุอีกครั้ง โดยประสานให้ บ.โฟกัส ไลท์ซาวด์ ซิสเต็ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่รับทำเอฟเฟกต์ในงานคืนวันเกิดเหตุ และบ. เมจิก ไลท์ แอนด์ ซาวด์ นำตัวอย่างเครื่องยิงเปเปอร์ชู้ต จำนวน 2 ตัว ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกับที่บริษัท โฟกัส ใช้ในจุดเกิดเหตุมาลองยิงกระดาษเปรียบเทียบด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญบริษัทที่มาติดตั้งเอฟเฟกต์ในคืนวันเคานต์ดาวน์ที่ซานติก้า ผับ มาชี้จุดที่มีการวางเอฟเฟกต์ให้เจ้าหน้าที่ พฐ.ว่า วางจุดใดบ้าง เบื้องต้นพบว่ามีอยู่ 2 จุด คือ จุดหน้าเวที 4 ตัว และจุดกลางเวที 5 ตัว รวมทั้งหมด 9 ตัว โดยถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ ซึ่งต้องรอตรวจสอบในส่วนอื่นๆ รวมถึงไฟเย็นที่มีการแจก ซึ่งต้องรอดูผลอีกครั้ง โดยจากการตรวจที่เกิดเหตุพบสวิตช์ที่ใช้จุดเอฟเฟกต์อยู่ที่ทางออก ซึ่งจะมีการนำมาตรวจสอบอีกครั้ง โดยในส่วนอื่นๆ พฐ.ยังอยู่ระหว่างตรวจหาหลักฐาน และยังไม่มีการตั้งข้อหาแต่อย่างใด ต้องรอผลจาก พฐ.อีกครั้ง จากนั้นจึงจะประชุมพนักงานสอบสวนอีกครั้งว่า อยู่ในข่ายที่จะมีการแจ้งข้อหาหรือไม่ คาดว่า ต้องใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์
พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับนายสุริยา ฤทธิ์ระบือ อายุ 31 ปี กรรมการผู้จัดการ บ.ไวท์ แอน บราเธอร์ (2003) จำกัด ที่เปิดกิจการซานติก้า ผับ นั้น ถึงขณะนี้ยังไม่มาให้ปากคำ โดยให้ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ ออกหมายเรียกอีกครั้งไปแล้ว คาดว่า วันที่ 9 ม.ค.น่าจะมาพบพนักงานสอบสวน หากยังไม่มาก็อาจต้องขออนุมัติศาลออกหมายจับ ถึงขณะนี้ก็สอบปากคำไปแล้วกว่า 200 ปาก ซึ่งเป็นทั้งคนเจ็บ พนักงาน และญาติของผู้เสียชีวิต โดยหากไม่มาพบจะถือว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน โดยมีความผิดสถานบริการ ฐานปล่อยให้มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ
เมื่อถามว่า ได้มีการตั้งประเด็นเรื่องเปเปอร์ชู้ต ตามที่ นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือ ดีเจภูมิ เข้าให้ปากคำ เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมากับพนักงานสอบสวนหรือไม่ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้ตัดประเด็นทิ้งไป โดยทาง พฐ.ก็ได้มีการเข้าไปตรวจในที่เกิดเหตุก็พบเศษกระดาษดังกล่าวด้วย และได้เก็บเป็นหลักฐานแล้ว แต่สาเหตุจะมาจากเอฟเฟกต์ หรือพลุ ต้องขอสอบให้ชัดเจนก่อน
อนึ่ง สำหรับ บ.เมจิก ไลท์ แอนด์ ซาวด์นั้น พนักงานยืนยันไม่ได้รับงานในคืนวันเกิดเหตุ และไม่เคยรับงานจากซานติก้าผับแต่อย่างใด เพียงแต่ทางตำรวจได้ประสานให้นำเครื่องยิงเปเปอร์ชู้ตจำนวน 2 ตัว ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกันกับที่ใช้ในวันเกิดเหตุมาทดสอบดูในภายในผับ
**”มาร์ค” เผยเหตุเพลิงไหม้ “ซานติก้า” ไม่คืบ
นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องที่หน่วยงานต่างๆรายงานเข้ามา โดยเฉพาะปัญหาอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ และเรื่องของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีเพลิงไหม้ได้รับรายงานเบื้องต้น เกี่ยวกับ ซานติก้าผับ ครม.ได้เร่งรัดให้คณะกรรมการร่วมระหว่าง กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรมสรุปเรื่องทั้งหมด ทั้งในแง่สาเหตุและข้อกฎหมาย รวมถึงมาตรการที่จะต้องปรับปรุงต่อไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอีก
เมื่อถามว่า จากการรายงานเหตุไฟไหม้ซานติก้าผับ ระบุหรือไม่ว่า ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยัง เพราะมี 2 ประเด็นที่คณะกรรมการต้องไปสอบรายละเอียด คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวอาคารทั้งหมดว่าถูกต้องตามหลักเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ หากถูกต้องก็ต้องทำข้อเสนอต่อไปว่าจะปรับปรุงมาตรฐานอย่างไร เช่น การจะเอาระบบสปริงเกอร์มาใช้หรือไม่ อีกส่วนคือ ปัญหาข้อเท็จจริงที่ยังคลาดเคลื่อนกันอยู่ว่า ที่สุดแล้วการขออนุญาตประกอบกิจการเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะมีการร้องไปถึงศาลปกครอง ขณะเดียวกันเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยมีการดำเนินคดีกับทางผู้ประกอบการอยู่ ทั้งนี้กำลังให้กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงมหาดไทยสรุปข้อเท็จจริงมาด้วย
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่ามีการจ่ายใต้โต๊ะให้ตำรวจในพื้นที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ตั้งข้อสังเกตทางหนึ่งทางใด เพราะยังมีข้อเท็จจริงที่ยังแย้งกันอยู่ ทั้งการต่อสู้คดีที่ศาลปกครอง และการดำเนินคดีในส่วนอื่น ซึ่งจะต้องนำตรงนั้นมาดู