ใครเป็นใคร-แกนนำพันธมิตรฯภาคเหนือ

“พี่กิ้น” อดิศักดิ์ จันทวิชานุวงศ์แกนนำพันธมิตรฯนครสวรรค์ ที่คนนครสวรรค์ยอมรับนับถือ เขตคนเมืองสี่แคว เรียกว่าพอมีฐานะ อู้ฟู่ อันดับสองของเมืองสี่แควเลยทีเดียว ขณะที่บุคลิกคล่องแคล่ว เป็นแกนนำให้แก่พันธมิตรฯนครสวรรค์จัดงานใหญ่ๆ สำเร็จมานับไม่ถ้วน เป็นคนหน่วยก้านดี ที่ระดมพลพร้อมเครื่องครัวออกศึกไปชุมชุมที่ทำเนียบฯหรือที่ไหนก็พร้อมทันควัน

“สุพัฒน์ ทบอุต” สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ หนึ่งในแกนหลักสำคัญของพันธมิตรฯนครสวรรค์ ที่มีทั้งคนและบุคลากรพร้อมต่อต้านระบอบทักษิณ หากฟื้นคืนชีพ ร่วมลุยและร่วมจัดงานเวทีปราศรัยกับ “พี่กิ้น-อดิศักดิ์” ปัจจุบัน “สุพัฒน์” ยังคงทำงานอยู่ที่ชุมทางปากน้ำโพ ในตำแหน่ง พขร.หรือ พนักงานขับรถไฟ ในทางการเมือง สุพัฒน์ นั่งเป็นประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศ สาขาปากน้ำโพ และ เลขาธิการ สรส.นครสวรรค์

“พี่นัน” แห่งร้านก๋วยเตี๋ยว ดงมูลเหล็ก นครสวรรค์ ที่คนที่ร่วมต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทราบว่า ช่วงเวลา 193 วันเข้าร่วมการต่อสู้ล้มล้างรัฐบาลหุ่นเชิด ต้องไปขึ้นรถบัส ที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวดงมูลเหล็ก จ.นครสวรรค์ เรียกว่า เต็มออก ! เต็มออก! หญิงเหล็กหัวใจพันธมิตรฯของแท้ ที่โด่งดังขึ้นมา ก็เพราะ หมอเลี้ยบ หรือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี จะเดินทางเข้ามากินก๋วยเตี๋ยวเนื้อใจกลางเมืองนครสวรรค์ แต่ถูก “พี่นัน” โห่ไล่ ไม่ขายให้จนต้องหนีออกจากร้าน

หากถามว่า พี่นัน เป็นใคร ต้องบอกว่า พี่นัน คือ อดีตครูที่ถูกย้ายจากกระบี่ ไปภูเก็ตและสุราษฎร์ฯ และถูกบีบอย่างหนัก จากพวกขี้ข้าทักษิณ จำใจต้องละทิ้งอาชีพครูด้วยความจำเป็น หันไปซื้อสูตรก๋วยเตี๋ยว ดงมูลเหล็ก ที่พรานนก(ฝั่งธนฯ กทม.) เปิดร้านขายที่นครสวรรค์ริมแม่น้ำปิง แม้ว่าภูมิลำเนาเดิม “พี่นัน”จะเป็นคนจังหวัดกำแพงเพชรก็ตาม

“พี่โน” เรโน ท้าวมะกฤษ์ แกนนำพันธมิตรฯจังหวัดกำแพงเพชรแถวหน้า จากผลงานที่ผ่านมา ดึงคนหัวใจพันธมิตรฯ จากกำแพงเพชรเข้ามาฟังเวทีปราศรัยที่ลานอนุรักษ์วัฒนธรรมกว่า 3 หมื่นคน ซึ่งพิธีกรไม่ใช่ใครที่ไหน พี่โน - พี่นัน ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อดงมูลเหล็กนั่นเอง คืนนั้นจัดคิวแกนนำพันธมิตรฯปราศรัยจนตี 3 กว่า เก็บของเสร็จก็เช้าตรู่พอดี

สำหรับ “พี่โน”เป็นคนเพชรบุรี มาอยู่กำแพงเพชร ปาเข้าไป 15 ปีแล้ว ด้วยอาชีพค้าขายอาหารทะเล หากถามว่า เข้าสู่วงการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่า เป็นคนแรกๆของกำแพงฯ ที่นั่งรถจากกำแพงฯเข้ากรุงฯ บังเอิญเจอกับ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำพันธมิตรฯก็เลยร่วมกันต่อสู้จากนั้นมา โดยร่วมมือกับ **“อาจารย์สุวัฒน์ วัฒนศิริ” **ครูพันธมิตรฯ อีกคนหนึ่งแห่งเมืองกล้วยไข่อย่างใกล้ชิด แต่หลังๆติดลมบน เลยปิดร้านขายจาน ASTV อยู่หลังตลาดไนท์ แถมปักหลักถ่ายทอดสัญญาณดาวเทียมให้คนตลาดไนท์ และชาวกำแพงฯที่หมุนเวียนรับชมและซื้อจานASTVเป็นประจำทุกคืน

“ลุงวี - เฒ่าทระนงแห่งตลาดหัวรอ” ทวี ทองถัน หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯพิษณุโลก ที่หลังจากเสร็จศึก ร่วมกันต่อสู้กับรัฐบาลหุ่นเชิด 193 วัน ก็ชื่นอกชื่นใจกับคำว่า “ผู้เฒ่าทระนง”เพราะช่างดลใจจริงๆ เรียกว่า แฟนพันธุ์แท้ประชาธิปัตย์เป็นทุนเดิม ปัจจุบันนับถือคารมของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เพราะทึ่งที่ “สนธิ”พูดความจริงให้โลกรู้ ช่วยเปิดหูเปิดตา กลโกงชาติของทักษิณ และชอบใช้บริการนโยบายรัฐบาลสมัคร – สมชาย เพียงอย่างเดียว คือ ขึ้นรถไฟฟรีทุกครั้ง ที่เสียงนกหวีดดังขึ้น ระดมพลคนเสื้อเหลืองขึ้นรถไฟฟรี โดย ลุงวี บอกว่า ทุนน้อย เลยขอใช้บริการของฟรี แม้คนติดสอยห้อยตามไปเพียง 20 คน แกก็ต้องไป

“ภูริทัติ สุธาธรรม” หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ที่ถือว่า หน่วยก้านดี หรือแนวหน้าของพันธมิตรฯพิษณุโลก หากเจอกับเสื้อแดง แต่ก็ยังไม่เคยประทะกันจริงๆ ท่าทางขึงขัง เอาจริงเอาจัง จนถูกหน่วยข่าวจับตา แต่บังเอิญว่าสื่อมวลชนเขียนชื่อผิดตั้งแต่แรก หน่วยข่าวค้นชื่อตามทะเบียนแล้วไม่เจอ เลยรอดถูกติดตาม ทั้งที่”อ.ภูริทัติ”เคยเป็นอาจารย์สอน ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏ พิบูลสงครามพิษณุโลก แต่ระยะหลังหันมาขายคอมพิวเตอร์ แรกเริ่มเดิมทีก็เป็นผู้เชี่ยวชาญการติดตั้งเครื่องเสียง เครื่องไฟพร้อมจานASTV แต่ดูไปดูมาหัวใจเกินร้อยโดดเข้าใส่เข้าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเต็มตัว ตั้งแต่ช่วงปี 2548-2549 ไปไหนไปด้วยกับ “ทวี ทองถัน” ผู้เฒ่าทระนง แกนนำพันธมิตรฯพิษณุโลก

“พี่เกียรติ” หรือ “สมเกียรติ โสภณพงศ์พิพัฒน์”แกนนำพันธมิตรฯจังหวัดพิจิตร เอ็นจีโอรุ่นแรกๆของจังหวัดพิจิตร เด็กรามฯ คนกรุงเทพ จบรัฐศาสตร์ แต่กลับชอบงานกับมวลชน ทำงานองค์กรพัฒนาเอกชนมาหลายปี เป็นผู้ริ่เริ่มและก่อตั้ง “สหกรณ์ชาวนาวชิรบารมี จำกัด” ปี 37 เบื่อการทำงานเชื่องช้าของรัฐบาล และหลงชอบอก ชอบใจการทำงานแบบ “ทักษิณ” อยู่ช่วงหนึ่ง จนพบว่า “ทักษิณ” โกง เลยทนไม่ไหว รับไม่ได้กับนโยบายทำลายคนในชุมชน เลยทุ่มสุดตัว สำหรับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คนจริงมีอุดมการณ์ แถมความรู้การเมืองฉะฉาน เรียกว่า รู้ทันนักการเมืองไทย ตั้งใจปลุกคนชนบทให้ตื่นตัวรับข้อมูลใหม่ เพราะเขาเชื่อว่า ชาวบ้านไม่ได้โง่ เพียงแต่ถูกยัดข้อมูลเพียงฝ่ายเดียว

“หมอจง” คำเรียกติดปากของบรรดา เพื่อสนิทมิตรสหายและคนที่คุ้นเคย ที่เรียกคุณหมอบุญจง ชูชัยแสงรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขลางค์นครราม จังหวัดลำปาง หนึ่งในแกนนำ พธม.ลำปาง ซึ่งจบการศึกษาจากรั้วจุฬาฯ ใช้ชีวิตในงานราชการเกือบ10 ปี แต่ก็ทนความอึดอัดในระบบราชการไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องลาออก มาทำโรงพยาบาลเอกชนร่วมกับเพื่อนๆ คือโรงพยาบาลเขลางค์นครราม ในปัจจุบัน

หมอใหญ่ รพ.เขลางค์นครราม แห่งนี้มีความคิดทางการเมืองเริ่มต้นตั้งแต่สมัยเรียน หากมีโอกาสร่วมกิจกรรมทางการเมืองก็จะเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นช่วง 16 ตุลาฯ - พฤษภาทมิฬ จนคุณแม่ก็มักจะออกตามหาเสมอเมื่อเกิดเหตุการณ์เพราะความเป็นห่วง ซึ่งในขณะนั้นมีเพื่อนร่วมรุ่นที่มีอุดมการณ์เดียวกันจำนวนมาก โดยเฉพาะนักศึกษาสวนกุหลาบรุ่น 87 ที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่ทำงานให้แก่ “ทักษิณ” เป็นจำนวนมาก

“สมโชค จันทร์ทอง” หนุ่มใต้หนวดงาม ที่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการทั้งผู้ประสานงานองค์กรสัมพันธ์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เหมืองแม่เมาะ คณะอนุกรรมการสรรหา กกต.ลำปาง เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ภาคเหนือ หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรแรงงาน กฟผ. ประธานฝ่ายกีฬาตะกร้อ สมาคมกีฬา จังหวัดลำปาง ประธานกีฬาตะกร้อ กฟผ.แม่เมาะ ประธานชมรมปักษ์ใต้ จังหวัดลำปาง เลขาธิการสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ (สสทน.)ลำปาง ที่ปรึกษาโรงแรมรีเจนท์ ลอดจลำปาง และเลขาธิการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือ ลำปาง

ตลอดระยะเวลาที่มีการชุมนุมใหญ่ของ พธม.ทั้งที่ลำปาง และส่วนกลาง “พี่โชค” จะทำหน้าที่ประสานงาน จัดหารถบริการให้เพื่อนพ้อง น้องพี่ ที่ต้องการเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง โดยยึดสถานีรถไฟลำปาง เป็นจุดนัดหมาย แต่ใช่ว่า จะมุ่งหน้าใช้เพียงรถไฟฟรีของรัฐบาลในการลำเลียงพลพรรคเข้าร่วมการชุมนุมเท่านั้น แต่ยังมีทั้งรถบัส รถตู้ รถยนต์ส่วนตัว คอยให้บริการอย่างไม่ขาดสายสำหรับเครือข่าย พธม.ภาคเหนือตอนบน

“มือปราบตี๋ใหญ่ – พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์” ในฐานะประธานเครือข่าย พธม.ภาคเหนือตอนบน ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ต้องวิ่งรอกช่วยจัดเวทีทั้งที่ลำปาง เชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือตอนล่าง พร้อม ๆ กับเปิดหน้าขึ้นเวทีพันธมิตรฯในส่วนกลาง อยู่เนือง ๆ ต้องถือว่า ด้วยเครือข่ายของ “มือปราบตี๋ใหญ่” ท่านนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การจัดเวทีในบางจุดของภาคเหนือ ที่ถือเป็นฐานเสียงสำคัญของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร – พรรคไทยรักไทย – พลังประชาชน และเพื่อไทย เกิดขึ้นได้

“ผ้าง พลชัย” อดีตข้าราชการครูวัย 63 ปี ที่ “รัก” ที่จะเรียกตัวเอง และ ถูกเรียกว่า “ครูผ้าง” ถือเป็นแกนนำพันธมิตรฯเชียงราย กลางดงคนเสื้อแดงอย่างแท้จริงคนหนึ่ง ซึ่งปักหลักตั้งวิทยุชุมชนทางคลื่นเอฟเอ็ม 107.75 เมกะเฮิรตซ์ เลขที่ 108 หมู่ 2 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อถ่ายทอดเสียงการชุมนุมของ พธม.และสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี อย่างต่อเนื่อง นับเป็นการท้าทายต่อระบอบทักษิณในพื้นที่อย่างยิ่ง และทำให้ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา วิทยุชุมชนแห่งนี้ได้รับแรงกดดันสารพัด ทั้งจังหวัดสั่งปิด ข่มขู่ ยกพวกไปประท้วงทำลายข้าวของ ขว้างระเบิดขวด ฯลฯ แต่ “ครูผ้าง” ก็ยังยืนหยัดทำหน้าที่อยู่ได้จนถึงปัจจุบัน

“ครูผ้าง” เป็นลูกหลานคนนครศรีธรรมราช ที่มุ่งหน้าขึ้นเหนือยึดอาชีพ “เรือจ้าง” เป็น ครู อยู่ที่เชียงราย มานานกว่า 30 ปี จนกระทั่งเกษียณ แต่ด้วยความคิดที่รักอิสระตามระบอบประชาธิปไตย จึงกระโดดเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ พธม. ออกหน้าเคลื่อนไหวในพื้นที่เชียงราย ดงคนเสื้อแดง โดยไม่หวั่นไหวต่อเภทภัย ที่มีเข้ามากระทบตนเองอย่างต่อเนื่อง

 “หมี – สุริยันต์ ทองหนูเอียด” หนุ่มใต้ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ทำงานมวลชนในพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูน มานาน ถือเป็นอีกคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ประสานงาน และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ของ พธม.เชียงใหม่ ทั้งที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ และโรงยิมเนเซียม 3 สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ ภายใต้การสนับสนุนจากภาคีคนฮักเชียงใหม่ – กลุ่มนักธุรกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อีกมากหน้าหลายตา ที่ปฏิเสธ “ระบอบแม้ว” ท่ามกลางแรงต่อต้านจากกลุ่มคนเสื้อแดง ที่หลายครั้งมีการเคลื่อนไหวต่อต้าน พธม.โดยใช้ความรุนแรง