xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอย พธม.สร้างการเมืองใหม่ถิ่น“แม้ว” ใช้วิทยุชุมชนปลุกกระแสจุดเทียนแห่งปัญญา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เวทีแห่งความทรงจำที่ พธม.ลำปาง จัดขึ้น ภายใต้การคุมเกมของ มือปราบตี๋ใหญ่-พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ - สมโชค จันทร์ทอง และหมอบุญจง ชูชัยแสงรัตน์ รวมทั้งเครือข่ายพันธมิตรฯ
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ – แกะรอยพันธมิตรฯภาคเหนือ หลังเสร็จศึกไล่รัฐบาลทรราชฆ่า ปชช. 193 วันสงครามครั้งสุดท้าย ทุกพื้นที่ยังยืนหยัดเจตนารมณ์สร้างการเมืองใหม่กลางดงเสื้อแดง เครือข่ายลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง มุ่งเดินหน้าสร้างเครือข่ายวิทยุชุมชน เปิดช่องทางความรู้สู่รากหญ้า – ตั้งทีมงานทุกอำเภอ ขณะที่เหนือตอนบนถิ่นเสื้อแดงหนาแน่น เครือข่ายทุกจังหวัดยังปักหลักเหนียวแน่น หนุนแนวคิดตั้งพรรค พธม.ส่งตัวแทนทำการเมืองในอุดมคติต่อ

ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไร้แผ่นดินอยู่ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ที่เรียกขานโดยรวมว่า “ระบอบแม้ว” ที่ทำให้พี่น้องผองไทยตกเป็น “ทาสทุนนิยม” แทบไม่ลืมหูลืมตาอยู่ในขณะนี้ ทำให้การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เกิดขึ้นอย่างยากลำบากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นยุค “เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร” ต่อเนื่องมาถึง พธม.ปี 48-49 รวมถึงยุคสงครามครั้งสุดท้ายปี 51 นี้ก็เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางมวลชนใน “ระบอบแม้ว” ที่ใช้สัญลักษณ์ “เสื้อแดง” ในภาคเหนือ ก็ทำให้ “ดอกไม้พันธมิตรฯ” ผลิบาน และขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

ลุ่มน้ำเหนือล่างมุ่งสร้างข่ายทุกอำเภอ
ใช้วิทยุชุมชนปลุกการเมืองใหม่


โดยเฉพาะแถบภาคเหนือตอนล่าง ที่ดูเหมือนจะมีการผนึกร่วมกันเป็นกลุ่มก้อนได้ตั้งแต่การเคลื่อนไหวช่วงแรก (ปี 2548-2549) จนสามารถนำ 5 แกนนำ พธม.ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ได้เป็นครั้งแรกของภาคเหนือที่ พิจิตร – พิษณุโลก ท่ามกลางกระแสความรุนแรงที่คุกรุ่น ที่แกนนำพรรคไทยรักไทยยุคนั้นใช้มือไม้ในกรมอุทยานฯ มาชูโรง กระทั่งพี่น้องผองเพื่อนพันธมิตรฯ ได้ “เทพี พธม.-นิตยา กุระดาน”แกนนำ พธม.ตาก ที่นำทีมประท้วง “ทักษิณ” ระหว่างทัวร์นกขมิ้นจังหวัดตาก จนถูกกลุ่มลูกจ้างป่าไม้ ที่ระดมกันมาพิทักษ์แม้ว “ตี” จนได้รับบาดเจ็บ

กระทั่งช่วงปี 2551 เครือข่าย พธม.ในภาคเหนือตอนล่างหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นพิจิตร พิษณุโลก ตาก อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ รวมถึงอุทัยธานี ได้รวมตัวกันก่อตั้ง “ชมรมลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง” ซ้อนเข้ากับการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยภาคเหนือ หรือ ส.ป.ท.ภาคเหนือ เมื่อ 20 พฤษภาคม 2551

ทั้งนี้ มีแกนหลักของพันธมิตรฯแต่ละจังหวัดเข้าร่วมเป็นกรรมการ ไม่ว่าจะเป็น สุวัฒน์ วัฒนศิริ ข้าราชการครูหัวก้าวหน้าแห่งเมืองกล้วยไข่-กำแพงเพชร ที่นอกจากจะเป็นประธานเครือข่ายลุ่มน้ำเหนือล่างแล้ว ยังเป็นเลขาธิการ ส.ป.ท.ภาคเหนือ และหนึ่งในแกนนำ พธม.กำแพงเพชร , พอพันธ์ จินันทุยา แกนหลัก ส.ร.ส.ปากน้ำโพ-นครสวรรค์ , สมเกียรติ โสภณพงศ์พิพัฒน์ เอ็นจีโอหนุ่มใหญ่ แห่งเมืองพิจิตร , นิตยา กุระดาน เทพี พธม.ตาก

ภิทัตย์ สุธาพันธุ์ หนึ่งในแกนนำ พธม.พิษณุโลก , ชูเลห์ สรรพานิช นักการเมืองท้องถิ่นจากพะเยา ที่แท็กทีมร่วมกับบรรเลง เอื้อรักสกุล และยงยุทธ สายสูงเนิน หนุ่มอีสานเขยพะเยา ที่เพิ่งถูกขว้างระเบิดขู่ถึงบ้านพักเมื่อคราวร่วมเคลื่อนไหวกับ พธม. เมื่อ 21 มิถุนายน 2551 , ส่วนเครือข่ายจากเพชรบูรณ์ ก็มีแกนนำอย่าง เกษม บุตรขุนทอง , รวมถึงชื่นศักดิ์ แย้มเจิม และสมชาย วงศ์เวช จากอุทัยธานี เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละจังหวัด ยังมีเพื่อนพ้องน้องพี่ ร่วมทำงาน

หลังยุติการชุมนุมขับไล่รัฐบาลทรราชฆ่าประชาชน 193 วันไปแล้ว เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หลายจังหวัดในภาคเหนือตอนล่าง ยังคงเดินหน้าที่จะขยายแนวร่วมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์การเมืองใหม่ให้เกิดขึ้นตามเป้าหมายใหญ่ของ พธม.
โครงการผ้าป่าวิทยุชุมชน ซึ่งเมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา พันธมิตรฯพิษณุโลก ได้ติดตั้งเสาวิทยุชุมชน ขนาดกำลัง 15 วัตต์ รัศมี 15 กิโลเมตร ที่บ้านกลาง ต.ทรัพย์ไพวัลย์ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
นายสุวัฒน์ วัฒนศิริ แกนนำ พธม.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า เบื้องต้น แต่ละจังหวัดในเขตลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง จะรวบรวมตัวแทนที่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวตลอดระยะ 193 วัน รวมถึงกลุ่มที่เพิ่งจะออกมาร่วมในระยะหลัง ที่มีความตื่นตัวทางการเมืองเป็นอย่างมาก มาเกาะกันเป็นกลุ่ม ตั้งทีมงานระดับอำเภอ เพื่อรวบรวมเครือข่าย จากนั้นก็จะพยายามดึงวิทยากรทั้งจากพื้นที่-ส่วนกลาง มาร่วมจัดเวทีขยายแนวคิดเรื่องการเมืองใหม่ เกาะติดสถานการณ์ทางการเมือง เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะออกมาแสดงพลังได้ทุกเมื่อ

โดยเฉพาะกำแพงเพชร เขาบอกว่า ระยะแรกจะอาศัยเครือข่ายประชาชนที่เขาทำงานอยู่ และมีตัวแทนอยู่ทุกอำเภอ มาร่วมผลักดัน

“มาถึงตอนนี้ยอมรับว่า คนกำแพงเพชรตื่นตัวทางการเมืองสูงมาก โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ซึ่งเราอยากให้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เพื่อเพิ่มอำนาจการตรวจสอบของภาคประชาชนให้เข้มแข็งมากขึ้น อย่างการจัดเวทีสังสรรค์ใหญ่ 20 ธันวาคม ก็มีคนเข้าร่วมมากกว่า 3 หมื่นคนล้นลานวัฒนธรรมกำแพงเพชร”

อีกแนวทางหนึ่ง คือ การสร้างเครือข่ายวิทยุชุมชน เพื่อใช้เป็นกระบอกเสียงกระจายข้อมูลข่าวสาร-ความรู้เกี่ยวกับการเมืองใหม่ในอุดมคติ ให้แก่ประชาชนในวงกว้าง โดยเชื่อมโยงเครือข่ายกับสถานีวิทยุแนวร่วมในทุกๆ จังหวัดเข้าด้วยกัน เพื่อส่งต่อ-ถ่ายทอดความเคลื่อนไหว ได้อย่างมีพลังมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ของกำแพงเพชร ก็มีอยู่แล้ว 3 สถานี หนึ่งในนั้นก็คือ คลื่น 105.75 เมกะเฮิรตซ์ ที่ถ่ายทอด ASTV ทั้งวัน และจะพยายามให้เกิดขึ้นทุกท้องที่

ส่วนที่นครสวรรค์ “กิ้น-อดิศักดิ์ จันทวิชานุวงศ์” อีกหนึ่งแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นครสวรรค์ กล่าวว่า พันธมิตรฯนครสวรรค์ ตื่นตัวกับการเมืองใหม่กันมากขึ้น หลังจากที่ร่วมต่อสู้กันมาตลอดเวลากว่า193 วัน ที่ผ่านมา ได้อาศัย ASTV เป็นแม่ข่ายหลัก กระจายความรู้ ซึ่งจริงๆ แล้วพันธมิตรฯก็ได้ใช้วิทยุชุมชนเป็นสถานีกระจายให้ความรู้และความเคลื่อนไหวของกลุ่มให้เครือข่ายนครสวรรค์รับฟังอยู่ทางบ้านอยู่แล้ว โดยพันธมิตรฯก่อตั้งขึ้นมาเองในคลื่น 101.50 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งในบางโอกาสก็จัดเวทีเสวนาทางการเมือง โดยจัดที่ห้องส่งและถ่ายทอดไปยังกลุ่มพันธมิตรฯนครสวรรค์

นอกจากนี้ยังมีคลื่น 93.75 ซึ่งเป็นวิทยุชุมชนของคนรถไฟ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของกลุ่มพันธมิตรฯนครสวรรค์ อยู่ก่อนแล้ว โดยรับสัญญาณจาก ASTV ที่กรุงเทพฯมาให้ฟัง เพียงแต่ไม่มีภาพเท่านั้น

เช่นเดียวกัน “ทวี ทองถัน-เฒ่าทระนงแห่งตลาดหัวรอ” แกนนำพันธมิตรฯพิษณุโลก กล่าวว่า การเมืองใหม่ของกลุ่มพันธมิตรฯจะทำให้ชาวพิษณุโลกตื่นตัว และสนใจเนื้อหาการเมืองมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับชมทาง ASTV แต่หากพื้นที่ไม่ได้รับชมก็สามารถติดตามทางคลื่นวิทยุชุมชน 100.75 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเครือข่ายรวบรวมทุนก่อตั้งสถานีวิทยุชุมชน เพื่อกระจายข่าวสารให้แก่พี่น้องพันธมิตรฯ โดยตลอดทั้งวัน จะรับสัญญาณจากจอทีวี ASTV ถ่ายทอดออกมาเป็นคลื่นวิทยุ เนื้อหา และสาระทางการเมืองเหมือนกับทีวี แต่ไม่มีภาพให้เห็นเท่านั้น

ส่วนที่พิจิตร “สมเกียรติ โสภณพงศ์พิพัฒน์” แกนนำ พธม.พิจิตร, ประธานชมรมสหกรณ์จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ได้ก่อตั้งสถานีวิทยุชุมชนขึ้นมาแล้วในคลื่น 103.25 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งจะมีทั้งการจัดรายการโดย ดีเจ ในท้องถิ่น-วิเคราะห์ข่าวสาร-ถ่ายทอดสัญญาณ ASTV บางรายการ แทรกด้วยรายการเพลง เพื่อให้เกิดการผ่อนคลายในบางช่วงเวลา

“ในอนาคตสถานีเครือข่ายทุกจังหวัด จะเชื่อมสัญญาณถึงกันหมด เพื่อเลือกนำเอารายการบางรายการมาถ่ายทอดให้เครือข่ายในพื้นที่ได้รับรู้ความเคลื่อนไหว ซึ่งเชื่อว่า แนวทางนี้จะสามารถขยายแนวร่วมในวงกว้างได้เป็นอย่างมากแน่นอน”

พธม.เหนือตอนบน กระจายเบ่งบานแทบทุกจังหวัด

ส่วนพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ที่ดูเหมือนจะมีเครือข่าย “เสื้อแดง” หนาแน่นกว่าตอนล่าง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม 24 มิถุนาฯเชียงราย , กลุ่มเชียงรายฮักประชาธิปไตย กลุ่มฮักทักษิณ กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กลุ่มฮักลำปาง 51 ฯลฯ ที่เคลื่อนไหวสนับสนุน “ทักษิณ – ทรท.-พปช.และเพื่อไทย” เริ่มมีแกนหลักอย่างชัดเจนเมื่อ “มือปราบตี๋ใหญ่ – พล.ต.ท. สมเกียรติ พ่วงทรัพย์” ที่ประกาศตัวเป็นประธานเครือข่าย พธม.ภาคเหนือตอนบน นำทีม พธม.ลำปาง ตั้งเวทีถ่ายทอดสดสัญญาณ ASTV ต่อเนื่องหน้าห้างสรรพสินค้าเสรีพลาซ่า กลางเมืองลำปาง ได้เป็นจุดแรก และจุดเดียว

ภายใต้ทีมงานที่เข้มแข็งทั้ง สมโชค จันทร์ทอง ผู้ประสานงานองค์กรสัมพันธ์ กฟผ.เหมืองแม่เมาะ ที่อาสารับหน้าเสื่อเป็นเลขาธิการ พธม.เหนือตอนบน – หมอบุญจง ชูชัยแสงรัตน์ ผอ.โรงพยาบาลเขลางค์นครราม จ.ลำปาง ที่เข้าร่วมเป็นแกนหลัก ร่วมกับเหล่าแม่ยก พธม.ที่เข้าร่วมเวทีอย่างคับคั่งเป็นประจำ

กล่าวได้ว่าทีม พธม.ลำปาง มีส่วนช่วยสนับสนุน พธม.อีกหลาย ๆ จังหวัดในภาคเหนือตอนบนในการขยายเครือข่าย จัดกิจกรรม เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ เช่น ที่เชียงใหม่ ทั้งมือปราบตี๋ใหญ่ – สมโชค จันทร์ทอง ล้วนแต่ยกกำลังมาช่วยเครือข่ายภาคีฮักเจียงใหม่ – สุริยันต์ ทองหนูเอียด ตลอดจนกลุ่มนักธุรกิจ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ในเชียงใหม่ ที่ปฏิเสธ “ระบอบทักษิณ” จัดเวทีใหญ่ทั้ง 2 ครั้ง คือ ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ และโรงยิมเนเซียม 3 สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่

มิพักต้องพูดถึง “วิหคเรดิโอ 89.0 เมกะเฮิรตซ์ ” ของ “เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ที่ตั้งกลุ่ม “ทหารเสือพระราชา” ขึ้นมาเอง ถ่ายทอดเหตุการณ์ชุมนุมใหญ่ของ พธม.ในส่วนกลางผ่านสัญญาณ ASTV อย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย จนกระทั่งนำมาสู่เหตุการณ์ “มิคสัญญีกลางเมืองเชียงใหม่” ที่กลุ่มคนเสื้อแดง ยกพลยิงถล่มสถานี ที่หมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ “เศรษฐา เจียมกิจวัฒนา” ผู้เป็นบิดา ถูกสังหารตายอย่างทารุณมาแล้ว

ส่วนในพื้นที่เชียงราย ถิ่นของ “ยุทธ ตู้เย็น – ยงยุทธ ติยะไพรัช” อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย , อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน มือทำงานคนสำคัญของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ยังภักดีมิเสื่อมคลายนั้น ถือเป็นพื้นที่สีแดงหนาแน่น แต่ทุกครั้งที่ 5 แกนนำ พธม.ประกาศระดมพลครั้งใหญ่ ก็จะมีขบวน “คนเสื้อเหลือง” จากเชียงราย – แม่สาย เล็ดลอดมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ร่วมชุมนุมใหญ่เป็นประจำ ไม่ว่าจะถูกเครือข่าย ขรก.ใต้ระบอบแม้ว – พลพรรคเสื้อแดง ยกกำลังไปสกัดกั้นอย่างไรก็ตาม

1 ในแกนหลักของ พธม.เชียงราย ที่ยืนหยัดท่ามกลางพลพรรคเสื้อแดงเต็มจังหวัดมาอย่างต่อเนื่องนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีชื่อ “ครูผ้าง พลชัย” อดีตแกนนำกลุ่มรักษ์แม่สาย ที่เคยออกหน้าคัดค้านการลำเลียงเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากถ่านหินของจีน เข้าพม่า ผ่านทางแม่สาย สำเร็จมาแล้ว – ข้าราชการครูบำนาญ สายเลือดคนนครศรีธรรมราช ที่ขึ้นมาเป็น “ครู” ที่เชียงราย กว่า 30 ปี คนนี้อยู่ด้วย โดยมีสถานีวิทยุชุมชนห้วยไคร้ ที่ลงทุนลงแรงก่อตั้งขึ้นมาเอง ในคลื่นเอฟเอ็ม 107.75 เมกะเฮิรตซ์ เลขที่ 108 หมู่ 2 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นมือเป็นไม้ ถ่ายทอดสัญญาณการชุมนุมใหญ่ของ พธม.จากกรุงเทพฯ ไม่หยุดหย่อน จนถูกพลพรรคเสื้อแดงยกพลไปถล่ม – ทำลายทรัพย์สิน – ตัดกระแสไฟ บ้านพักที่เป็นสถานที่ตั้งสถานี รวมถึงข่มขู่หลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม “ครูผ้าง พลชัย” ยืนยันว่า เขาจะถ่ายทอดสัญญาณ ASTV ผ่านคลื่นวิทยุชุมชนของเขาต่อไป เพื่อถ่ายทอดความรู้ กระตุ้นให้คนเชียงรายร่วมเดินหน้าสร้างการเมืองใหม่ที่โปร่งใส ปราศจากคอรัปชั่นต่อไป เพราะถือเป็นช่องทางหนึ่งที่จะแสดงความคิดเห็นได้โดยอิสระ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย

ขณะที่เมืองแพร่ ถิ่น ทรท.-พปช.อีกจังหวัดหนึ่ง ก็มี “พันธมิตรฯเบ่งบาน” กลางหุบเขาบ้านแม่พุงหลวง ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ เช่นกัน เมื่อ “เกียรติ คำน้อย” ส.อบต.จากหมู่ 19 บ้านแม่พุงหลวง ที่ถือเป็นผู้นำท้องถิ่นที่ทำงานมวลชนมาตลอด ตัดสินใจตั้งจอโปรเจกเตอร์ ถ่ายทอดสัญญาณ ASTV กลางลานจอดรถของตนเอง เพราะไม่เห็นด้วยกับ “ระบอบทักษิณ” จนทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมานั่งดูจนล้นออกมาถนนหน้าบ้านเป็นประจำ และทำมาถึงทุกวันนี้ เพื่อปลุกให้เพื่อนบ้านในชุมชนตื่นจาก “ทาสทุนนิยม” ตั้งแต่ยุคกองทุนหมู่บ้าน

สำหรับที่แม่สอด หัวเมืองชายแดนจังหวัดตาก ที่ถือเป็นเมืองที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู คนส่วนใหญ่มีอันจะกิน เพราะมีมูลค่าการค้าระหว่างไทย-พม่า ผ่านช่องทางนี้ปีละไม่น้อยกว่า 13,000 – 15,000 ล้านบาทนั้น ก็มีเครือข่ายพันธมิตรฯเกิดขึ้น ซึ่งเคยส่งคนหมุนเวียนร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ ต่อเนื่อง ผ่านการประสานงานของ 2 แกนนำหลักอย่าง “พนัส รามสุต” ครูโรงเรียนแม่สอดวิทยาฯ-ผู้จัดการร้านอาหาร “ข้าวเม่า ข้าวฟ่าง” ร้านอาหารชื่อดังของแม่สอด และ “เอ-เขมิสรา เอกคณาสิงห์” Young Pad แม่สอด ที่ใช้ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนฯ เป็นสถานที่ประสานงานกับมวลชนร่วมอุดมการณ์ทุกครั้ง ที่มีเหตุรุนแรงในการชุมนุมที่ส่วนกลาง

“พนัส” เห็นว่า วันนี้ ถึงเวลาแล้วที่ พธม.ควรจะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา เพื่อส่งตัวแทนเข้าไปขับเคลื่อนการเมืองใหม่ ให้เป็นจริงขึ้นมาให้ได้ เพราะหลังจากนี้การชุมนุมใหญ่แสดงพลังของ พธม.อาจจะเป็นไปได้ยากขึ้น ความชอบธรรมน้อยลง ดังนั้นน่าจะตั้งพรรคของตนเองขึ้นมา ส่งคนสู้ในระบบ เชื่อว่าเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศ พร้อมที่จะร่วมลงขันเป็นทุนในการเลือกตั้ง รวมทั้งมีคะแนนเสียงพอที่จะมีตัวแทนเข้าไปในสภาฯได้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น