“หมอวันชัย” เตรียมขอพบนายกฯ เดินหน้ายุติความขัดแย้งในสังคม ชี้บุคลิค “อภิสิทธิ์” สามารถสร้างความสมานฉันท์ และลดความขัดแย้งในสังคมได้ ด้าน “สมชัย” ส.ส.โคราช พรรครวมใจไทยฯ ที่งดออกเสียงโหวตนายกฯ เสนอเป็นกาวใจให้ “ทักษิณ-อภิสิทธิ์”โว “แม้ว” โทร.มาคุยด้วย 2 ครั้ง เผย 9 เสียง ส.ส.พรรครวมใจไทยฯให้โอกาสรัฐบาล 3 เดือน ถ้าแย่ต้องทบทวนการร่วมรัฐบาล
นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ หัวหน้าคณะทำงานเครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม กล่าวถึงความขัดแย้งทางการเมืองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา จะมีทิศทาง ในเชิงบวกในปีนี้ และนำไปสู่ทางออกร่วมกันได้ หากไม่มีการใช้กำลังทำลายบรรยากาศของการสมานฉันท์ อย่างไรก็ตาม จากการที่ได้มีโอกาสพบปะกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ยังดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน เห็นว่าภาษา และท่าทางของ นายอภิสิทธิ์ มีความประนีประนอมสูง พร้อมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ซึ่งเหมาะสมสำหรับการสร้างความสามัคคีของคนในชาติ
นพ.วันชัย กล่าวว่า ตนจะขอเวลาเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อสอบถามถึง นโยบาย สมานฉันท์ และเสนอแนะแนวทางการสร้างความสามัคคี ด้วยการสานเสวนาหันหน้าเข้าหากัน เนื่องจากแนวทางการสานเสวนาจะเดินหน้าต่อไป แม้สถานการณ์การเมืองจะเริ่มคลี่คลายลงในช่วงนี้ แต่ปัญหาความขัดแย้งในสังคมยังคงอยู่ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือ ผู้มีอำนาจจะต้องฟังเหตุผลของคนที่มีปัญหา
"นายอภิสิทธิ์ แม้จะฟังความเห็นของภาคธุรกิจแล้ว จะต้องรับฟังปัญหาของภาคการเมืองด้วย โดยเฉพาะกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นคู่ขัดแย้ง เพราะทุกคนต้องการการเมืองที่มั่นคง หากทุกฝ่ายมีเหตุผลเคารพกติกาเดียวกันก็ไม่เป็นปัญหา ดังนั้นการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปิดล้อม สนามบินและยึดทำเนียบรัฐบาล ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานเดียวกันกับกลุ่มคนเสื้อแดง จึงจะลดความเหลื่อมล้ำได้"
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (4 ม.ค.) ที่บ้านหนองมะค่า ต.ขามสะแกแสง อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.นครราชสีมา เขต 5 พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ส.ส.ที่งดออกเสียงในการโหวต เลือก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนสมชัย ลงพื้นที่ พบปะเยี่ยมเยียนประชาชน พร้อมปราศรัยเวทีชาวบ้าน เพื่อทำความเข้าใจเรื่องความ ปรองดองของคนในชาติ โดยมีผู้เข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก
นายสมชัย ให้สัมภาษณ์ว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่เข้าใจ และได้รับการตอบรับที่ดีมาก ในท่ามกลางความแตกแยกที่ทุกคนเห็นว่า เป็นภัยต่อประเทศชาติ โดย ส.ส.ที่ประชาชนเลือกเข้ามาไม่ได้ไปเข้าข้างฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านต่างอยากเห็น บ้านเมืองยุติความขัดแย้ง ฉะนั้น การได้ข้อมูลไม่ครบทั้งสองด้านจึงทำให้เกิดความ แตกแยกและมีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรง ถ้าหากไม่ได้รับการแก้ไขแบบจริงจัง บ้านเมืองจะเดินไปลำบาก
นายสมชัย กล่าวถึงเสถียรภาพรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ว่า คงจะประคับประคอง ไปได้ระยะหนึ่ง รัฐบาลจะต้องมีผลงานตอบสนองความต้องการของพรรคการเมืองเดิม ที่ประชาชนเลือก เพราะทุกวันนี้พี่น้องประชาชนเวลาเลือกพรรคการเมืองไหนแล้ว เขามีความรู้สึกว่าผูกพัน ฉะนั้น วิธีเดียวที่จะแก้ได้คือต้องให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลนี้จะแก้ปัญหาประเทศชาติได้ ซึ่งสิ่งที่จะต้องพิสูจน์ก็คือการทำงานและต้องทำให้เกิดผล และต้องทำให้ทันท่วงทีและทันความรู้สึกของประชาชนที่ต้องการ ภายใน 3 เดือนนี้ก็น่าจะพิสูจน์ได้
"หารือกันในพรรคแล้วว่า จะลองให้รัฐบาลทำงานไปสักระยะหนึ่ง ภายใน 3 เดือนถ้าไม่มีผลงานหรือไม่มีอะไรดีขึ้น หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ จึงจะมาพูดคุยกันในพรรค ตอนนี้ ส.ส.พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาทั้ง 9 คนยืนยันว่า จะอยู่กับรัฐบาลใหม่ รวมทั้งนายวิรัช และนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ที่โหวตให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และออกมากล่าวโจมตีพรรคฯ ตนก็ได้ประสานพูดคุยทำความเข้าใจแล้ว ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด"
นายสมชัย กล่าวว่า พร้อมที่จะเสนอตัวไปพูดคุยเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเมื่อไม่กี่วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนถึง 2 ครั้ง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความปรองดองของคนในชาติ ซึ่งทุกคนก็เป็นห่วงเรื่องนี้ ตนประสานงานได้ และตนไม่ได้เข้าข้างหนึ่งข้างใด เวลาพูดอะไรก็พูดตามความรู้สึกนึกคิด จริงๆ ไม่มีเสแสร้ง ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
"อนาคตรัฐบาลชุดนี้อยากให้อยู่อย่างน้อยสัก 1 ปี ก่อน ถ้ารัฐบาลถึงลูกถึงคน มันก็มีโอกาสที่จะอยู่ได้ยืนยาว ถ้าทำดีสามารถอยู่ได้ต่อไปเรื่อยๆ และก็มีคนเขาคิด เหมือนกันว่า อาจะอยู่ได้ยาว และอาจจะอยู่ต่อไปได้นาน ส่วนการสานต่อนโยบายประชานิยมรัฐบาลชุดเก่านั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมืองนโยบายไหนที่ประชาชนชอบ และทำแล้วเกิดประโยชน์การที่จะไปสานต่อ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย ถึงแม้พรรค ปชป.จะเคยโจมตีนโยบายนี้มาก่อนก็ตาม"
นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ หัวหน้าคณะทำงานเครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม กล่าวถึงความขัดแย้งทางการเมืองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา จะมีทิศทาง ในเชิงบวกในปีนี้ และนำไปสู่ทางออกร่วมกันได้ หากไม่มีการใช้กำลังทำลายบรรยากาศของการสมานฉันท์ อย่างไรก็ตาม จากการที่ได้มีโอกาสพบปะกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ยังดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน เห็นว่าภาษา และท่าทางของ นายอภิสิทธิ์ มีความประนีประนอมสูง พร้อมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ซึ่งเหมาะสมสำหรับการสร้างความสามัคคีของคนในชาติ
นพ.วันชัย กล่าวว่า ตนจะขอเวลาเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อสอบถามถึง นโยบาย สมานฉันท์ และเสนอแนะแนวทางการสร้างความสามัคคี ด้วยการสานเสวนาหันหน้าเข้าหากัน เนื่องจากแนวทางการสานเสวนาจะเดินหน้าต่อไป แม้สถานการณ์การเมืองจะเริ่มคลี่คลายลงในช่วงนี้ แต่ปัญหาความขัดแย้งในสังคมยังคงอยู่ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือ ผู้มีอำนาจจะต้องฟังเหตุผลของคนที่มีปัญหา
"นายอภิสิทธิ์ แม้จะฟังความเห็นของภาคธุรกิจแล้ว จะต้องรับฟังปัญหาของภาคการเมืองด้วย โดยเฉพาะกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นคู่ขัดแย้ง เพราะทุกคนต้องการการเมืองที่มั่นคง หากทุกฝ่ายมีเหตุผลเคารพกติกาเดียวกันก็ไม่เป็นปัญหา ดังนั้นการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปิดล้อม สนามบินและยึดทำเนียบรัฐบาล ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานเดียวกันกับกลุ่มคนเสื้อแดง จึงจะลดความเหลื่อมล้ำได้"
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (4 ม.ค.) ที่บ้านหนองมะค่า ต.ขามสะแกแสง อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.นครราชสีมา เขต 5 พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ส.ส.ที่งดออกเสียงในการโหวต เลือก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนสมชัย ลงพื้นที่ พบปะเยี่ยมเยียนประชาชน พร้อมปราศรัยเวทีชาวบ้าน เพื่อทำความเข้าใจเรื่องความ ปรองดองของคนในชาติ โดยมีผู้เข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก
นายสมชัย ให้สัมภาษณ์ว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่เข้าใจ และได้รับการตอบรับที่ดีมาก ในท่ามกลางความแตกแยกที่ทุกคนเห็นว่า เป็นภัยต่อประเทศชาติ โดย ส.ส.ที่ประชาชนเลือกเข้ามาไม่ได้ไปเข้าข้างฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านต่างอยากเห็น บ้านเมืองยุติความขัดแย้ง ฉะนั้น การได้ข้อมูลไม่ครบทั้งสองด้านจึงทำให้เกิดความ แตกแยกและมีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรง ถ้าหากไม่ได้รับการแก้ไขแบบจริงจัง บ้านเมืองจะเดินไปลำบาก
นายสมชัย กล่าวถึงเสถียรภาพรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ว่า คงจะประคับประคอง ไปได้ระยะหนึ่ง รัฐบาลจะต้องมีผลงานตอบสนองความต้องการของพรรคการเมืองเดิม ที่ประชาชนเลือก เพราะทุกวันนี้พี่น้องประชาชนเวลาเลือกพรรคการเมืองไหนแล้ว เขามีความรู้สึกว่าผูกพัน ฉะนั้น วิธีเดียวที่จะแก้ได้คือต้องให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลนี้จะแก้ปัญหาประเทศชาติได้ ซึ่งสิ่งที่จะต้องพิสูจน์ก็คือการทำงานและต้องทำให้เกิดผล และต้องทำให้ทันท่วงทีและทันความรู้สึกของประชาชนที่ต้องการ ภายใน 3 เดือนนี้ก็น่าจะพิสูจน์ได้
"หารือกันในพรรคแล้วว่า จะลองให้รัฐบาลทำงานไปสักระยะหนึ่ง ภายใน 3 เดือนถ้าไม่มีผลงานหรือไม่มีอะไรดีขึ้น หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ จึงจะมาพูดคุยกันในพรรค ตอนนี้ ส.ส.พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาทั้ง 9 คนยืนยันว่า จะอยู่กับรัฐบาลใหม่ รวมทั้งนายวิรัช และนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ที่โหวตให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และออกมากล่าวโจมตีพรรคฯ ตนก็ได้ประสานพูดคุยทำความเข้าใจแล้ว ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด"
นายสมชัย กล่าวว่า พร้อมที่จะเสนอตัวไปพูดคุยเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเมื่อไม่กี่วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนถึง 2 ครั้ง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความปรองดองของคนในชาติ ซึ่งทุกคนก็เป็นห่วงเรื่องนี้ ตนประสานงานได้ และตนไม่ได้เข้าข้างหนึ่งข้างใด เวลาพูดอะไรก็พูดตามความรู้สึกนึกคิด จริงๆ ไม่มีเสแสร้ง ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
"อนาคตรัฐบาลชุดนี้อยากให้อยู่อย่างน้อยสัก 1 ปี ก่อน ถ้ารัฐบาลถึงลูกถึงคน มันก็มีโอกาสที่จะอยู่ได้ยืนยาว ถ้าทำดีสามารถอยู่ได้ต่อไปเรื่อยๆ และก็มีคนเขาคิด เหมือนกันว่า อาจะอยู่ได้ยาว และอาจจะอยู่ต่อไปได้นาน ส่วนการสานต่อนโยบายประชานิยมรัฐบาลชุดเก่านั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมืองนโยบายไหนที่ประชาชนชอบ และทำแล้วเกิดประโยชน์การที่จะไปสานต่อ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย ถึงแม้พรรค ปชป.จะเคยโจมตีนโยบายนี้มาก่อนก็ตาม"