(ฉบับวันเสร์ที่ 20-21 -12-51) ASTVผู้จัดการรายวัน – “เอสคิว” ประกาศรุกตลาดปี 2552 หวังรักษายอดขาย 100 ล้านบาทเท่ากับปีนี้ เตรียมหามาตรการรักษายอดขายในขณะที่กำลังซื้อตก รีดไขมันส่วนเกิน ควบคุมค่าใช้จ่าย เพิ่มความคล่องแคล่วแต่ไม่ลดคน ออกสินค้าใหม่ทั้งในกลุ่มเครื่องฟอก และพัดลมดีไซน์ ไม่ต่ำกว่า 3-5 รุ่น เผยสวิทซ์ปลั๊ก “ซีเมนส์” มียอดขายกว่า 15 ล้านบาท คาดปีหน้าหวังโตเท่าตัวกว่า 300%
นายบุญฤทธิ์ ฉันสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสคิว จำกัด หรือ SQ ในชื่อบริษัทเดิม “แสงชัยแอร์ควอลิตี้” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศและพัดลมดีไซน์แบรนด์ “ฮันนี่เวลล์” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ผ่านมา ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคตกลง จากความความไม่มั่นใจในเศรษฐกิจและการเมือง แต่กลุ่มเป้าหมายของ SQ จะเป็นตลาดกลางถึงบน ซึ่งมีกำลังซื้อแต่ชะลอไว้ก่อน ซึ่งคาดว่ากำลังซื้อจะดีขึ้นใน Q1 ในปีหน้า เนื่องจากสภาวะทางการเมืองได้เริ่มคลี่คลาย และคาดว่าผู้บริโภคจะหันมาจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเราจึงเน้นการรักษาส่วนแบ่งตลาดและยอดขายในช่องทางที่เรายังทำกำไรได้ดี โดยช่วงวิกฤตนี้ ถือเป็นโอกาสทองที่เราจะปรับโครงสร้างองค์กรให้แข็งแรงขึ้น เนื่องจากมีคู่แข่งที่ไม่แข็งแรงพอเริ่มออกจากธุรกิจ ทำให้คู่แข่งขันของธุรกิจน้อยลงเมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม เราต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้เข้ากับสภาวะของตลาดในปัจจุบัน โดยการลดไขมันส่วนเกินให้ตัวองค์กรคล่องแคล่วขึ้น ควบคุมค่าใช้จ่าย แต่ไม่ลดคน จะพยายามใช้ประโยชน์กับพนักงานที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีปรับคุณภาพดีขึ้น คิดเก่งขึ้น แต่จะไม่ใช่คิดเก่งแค่เรื่องงานเท่านั้น ต้องคิดเก่งเรื่องภายในบริษัท โดยจะมีโปรแกรมการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้พนักงานร่วมสนุก พร้อมกับ incentive ตอบแทน พร้อมใช้ระบบการประเมินผลงานแบบเน้นพฤติกรรม ทัศนคติมากขึ้น
สำหรับยอดขายในปีนี้คาดว่าจะมียอดประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้าจะพยายามรักษาระดับไว้เท่าเดิม โดยจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดใน segment B+ ถึง A ของบริษัท
ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้แตกไลน์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสวิตซ์ปลั๊ก แบรนด์ “ซีเมนส์” อีกผลิตภัณฑ์ ซึ่งบริษัทได้รับการเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศ ซึ่งในการทำตลาด 1 ปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมากจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และกลุ่มผู้รับสร้างบ้าน โดยมียอดขายกว่า 15 ล้านบาท และในปีหน้าเราคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 300% หรือประมาณ 50 ล้านบาท
ตลาดสวิทซ์ปลั๊กเมืองไทยมีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านบาท และในกลุ่มของตลาดกลางถึงบนที่เป็นเป้าหมาย มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท ในขณะที่มีแบรนด์เข้ามาทำตลาดนี้น้อยมาก จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของสวิทซ์ ปลั๊ก ซีเมนส์ ที่เราวางตำแหน่งราคาไว้ที่ระดับกลางและคุณภาพสูงมาทำตลาด ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงการแนะนำสินค้าเข้ากลุ่มเป้าหมายหลัก เช่น โครงการอสังหาริมทรัพย์ หรือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเมืองไทย อาทิ แสนสิริ หรือ Major และกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งก็มีเครือ Built to Build และ Cool House ที่เปลี่ยนมาใช้ซีเมนส์แล้ว และบริษัทสถาปนิก ช่องทางการขายนั้น เรามีการขายโดยตรงกับผู้ใช้ เช่นขายเข้าโครงการ, ตัวแทนจำหน่าย, Home store และการขายโดยอ้อม (Indirect Sales) ให้คู่ค้า
นายบุญฤทธิ์ ฉันสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสคิว จำกัด หรือ SQ ในชื่อบริษัทเดิม “แสงชัยแอร์ควอลิตี้” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศและพัดลมดีไซน์แบรนด์ “ฮันนี่เวลล์” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ผ่านมา ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคตกลง จากความความไม่มั่นใจในเศรษฐกิจและการเมือง แต่กลุ่มเป้าหมายของ SQ จะเป็นตลาดกลางถึงบน ซึ่งมีกำลังซื้อแต่ชะลอไว้ก่อน ซึ่งคาดว่ากำลังซื้อจะดีขึ้นใน Q1 ในปีหน้า เนื่องจากสภาวะทางการเมืองได้เริ่มคลี่คลาย และคาดว่าผู้บริโภคจะหันมาจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเราจึงเน้นการรักษาส่วนแบ่งตลาดและยอดขายในช่องทางที่เรายังทำกำไรได้ดี โดยช่วงวิกฤตนี้ ถือเป็นโอกาสทองที่เราจะปรับโครงสร้างองค์กรให้แข็งแรงขึ้น เนื่องจากมีคู่แข่งที่ไม่แข็งแรงพอเริ่มออกจากธุรกิจ ทำให้คู่แข่งขันของธุรกิจน้อยลงเมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม เราต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้เข้ากับสภาวะของตลาดในปัจจุบัน โดยการลดไขมันส่วนเกินให้ตัวองค์กรคล่องแคล่วขึ้น ควบคุมค่าใช้จ่าย แต่ไม่ลดคน จะพยายามใช้ประโยชน์กับพนักงานที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีปรับคุณภาพดีขึ้น คิดเก่งขึ้น แต่จะไม่ใช่คิดเก่งแค่เรื่องงานเท่านั้น ต้องคิดเก่งเรื่องภายในบริษัท โดยจะมีโปรแกรมการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้พนักงานร่วมสนุก พร้อมกับ incentive ตอบแทน พร้อมใช้ระบบการประเมินผลงานแบบเน้นพฤติกรรม ทัศนคติมากขึ้น
สำหรับยอดขายในปีนี้คาดว่าจะมียอดประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้าจะพยายามรักษาระดับไว้เท่าเดิม โดยจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดใน segment B+ ถึง A ของบริษัท
ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้แตกไลน์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสวิตซ์ปลั๊ก แบรนด์ “ซีเมนส์” อีกผลิตภัณฑ์ ซึ่งบริษัทได้รับการเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศ ซึ่งในการทำตลาด 1 ปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมากจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และกลุ่มผู้รับสร้างบ้าน โดยมียอดขายกว่า 15 ล้านบาท และในปีหน้าเราคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 300% หรือประมาณ 50 ล้านบาท
ตลาดสวิทซ์ปลั๊กเมืองไทยมีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านบาท และในกลุ่มของตลาดกลางถึงบนที่เป็นเป้าหมาย มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท ในขณะที่มีแบรนด์เข้ามาทำตลาดนี้น้อยมาก จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของสวิทซ์ ปลั๊ก ซีเมนส์ ที่เราวางตำแหน่งราคาไว้ที่ระดับกลางและคุณภาพสูงมาทำตลาด ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงการแนะนำสินค้าเข้ากลุ่มเป้าหมายหลัก เช่น โครงการอสังหาริมทรัพย์ หรือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเมืองไทย อาทิ แสนสิริ หรือ Major และกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งก็มีเครือ Built to Build และ Cool House ที่เปลี่ยนมาใช้ซีเมนส์แล้ว และบริษัทสถาปนิก ช่องทางการขายนั้น เรามีการขายโดยตรงกับผู้ใช้ เช่นขายเข้าโครงการ, ตัวแทนจำหน่าย, Home store และการขายโดยอ้อม (Indirect Sales) ให้คู่ค้า