xs
xsm
sm
md
lg

ชัยไขว้ขาหลอกเสื้อแดง"มาร์ค"ยันไม่ใช้วิธีถ่อย!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ม็อบเสื้อแดงปิดล้อมรัฐสภา “ชัย” ต้องเลื่อนเวลาแถลงนโยบายหลายรอบ จนที่สุดต้องนัดประชุมใหม่วันนี้ หลัง ”สุเทพ เทือกสุบรรณ” ส่งคนเจรจาม็อบล้มเหลว เหตุ ”จตุพร” ดื้อไม่ยอม ยื่นคำขาดให้เลื่อนไปประชุมหลังปีใหม่ ด้าน “อภิสิทธิ์” ประกาศเดินหน้าแถลงนโยบายวันนี้ต่อเนื่อง 31 ธ.ค. แต่ไม่ขีดเส้นตาย ไม่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม และไม่คิดใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่พร้อมให้ทหารเข้าช่วยหากจำเป็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ได้เดินทางมาปักหลักชุมนุมอยู่ที่หน้ารัฐสภาเพื่อขัดขวางไม่ให้รัฐบาล ภายใต้การนำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบาย และเรียกร้องให้ยุบสภา ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 28 ธ.ค.นั้น
โดยนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำม็อบเสื้อแดง กล่าวยืนยันข้อเรียกร้องเดิมให้นายกรัฐมนตรียุบสภา หากไม่ได้ตามที่เรียกร้อง ขอพร้อมชุมนุมยืดเยื้อต่อไปที่หน้ารัฐสภา และหากจะถูกดำเนินคดีข้อหากบฏ ที่ปิดล้อมรัฐสภาจนไม่สามารถประชุมได้ก็ยอม ซึ่งหากมีการใช้กำลัง สลายการชุมนุม ก็จะเกิดสงครามกลางเมืองโดยกลุ่มเสื้อแดงทั่วประเทศ และหลังจากนี้หากนายกรัฐมนตรี เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ใด ก็จะต้องเจอเสื้อแดงขับไล่ทุกพื้นที่เช่นกัน

** ใช้ตีนตบหลอกม็อบเข้าสภา
สำหรับบรรยากาศภายในรัฐสภา หลังเวลา 07.30 น. วานนี้ (29 ธ.ค.) ได้เปิดให้เข้า-ออกได้เพียงประตูเดียวคือประตูด้านถนนอู่ทองใน โดยส.ส.ที่เดินทาง เข้ามาถึงรัฐสภาเป็นคนแรกคือ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางมาถึงเวลา 05.30 น. จากนั้นจึงมีส.ส.ทั้งฟากของรัฐบาลและฝ่ายค้านเดินทางเข้ามา อาทิ นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง และนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย โดยพ.ต.ท.สุรทิน สวมชุดสูทผ้าไหมสีแดง โพกผ้าแดง รองเท้าขาว
นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวว่า ตนเดินเข้ามาเฉยๆ ทางประตูปราสาทเทวฤทธิ์ กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะตนถือตีนตบมาด้วย เดินตบมาตลอดก็ไม่มีอะไร เราต้องฉลาดถึงเข้ามาได้ และตอนนี้ก็เตรียมเสื้อแดงกับผ้าแดงไว้เผื่อตอนออกแล้ว

**เทพเทือกส่งคนเจรจาม็อบ
สำหรับบรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์ เริ่มคึกคักตั้งแต่เวลา 06.30 น. โดย ส.ส.ต่างทยอยเดินทางมาที่พรรคอย่างต่อเนื่อง และยืนจับกลุ่มคุยกันถึงกรณีที่ กลุ่ม นปช. ชุมนุมปิดล้อมทางเข้า- ออกรัฐสภาตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดย ส.ส.บางส่วนพูดกระเซ้ากันเองว่าวันนี้อาจต้องปีนกำแพงออกจากสภา ขณะที่บางส่วนจับกลุ่มคุยอย่างเคร่งเครียด
จนเมื่อเวลา 07.30 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึง ด้วยสีหน้าปลอดโปร่ง แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวเพียงว่า ขอหารือกันก่อน จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินขึ้นไปประชุมประเมินสถานการณ์ร่วมกับแกนนำพรรค อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรค นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารมูลนิธิควง อภัยวงศ์
นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ส่งคนไปเจราจากับกลุ่มผู้ชุมชุนอยู่ และคิดว่า ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจว่า เราตั้งใจที่จะไปแถลงนโยบาย เพื่อให้ประชาชนได้กลับบ้านไปฉลองปีใหม่ได้อย่างมีความสุข ว่ามีรัฐบาลแล้ว แต่หากผู้ชุมนุมยังไม่เห็นใจ เราจะเลื่อนต่อไปเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแผนสำรองหรือไม่ เพราะตามกรอบรัฐธรรมนูญ รัฐบาล ต้องแถลงนโยบายภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 7 ม.ค.นี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เราอย่าไปมองโลกในแง่ร้าย ค่อยทำไปทีละขั้นตอน เดิมตั้งใจว่า จะแถลงนโยบายก่อนปีใหม่ เขาไม่ให้ทำ หรือทำไม่ได้ หลังปีใหม่แล้วอารมณ์ดีขึ้น อาจทำได้ก็ได้
ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุม ประกาศว่าจะเปิดทางให้ส.ส.เข้าสภา แต่ต้องเดินเท้า เข้าไปนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่เสนอให้สมาชิกรัฐสภาเสี่ยงเดินเข้าไปอย่างนั้น เพราะไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถควบคุมคนจำนวนมากได้ ดูได้จากวันโหวตเลือกนายกฯ ส.ส.นั่งรถยนต์กันออกมาจากสภาแท้ๆ รถพังไปตั้งหลายคัน คนบาดเจ็บไปหลายคน จนถึงขณะนี้บางคนยังไม่หายเลย ส่วนเรื่องการเปลี่ยนสถานที่แถลงนโยบายนั้นก็ค่อยมาหารืออีกครั้ง
จริงๆ แล้วการประชุมเป็นเรื่องของนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ที่จะตัดสินใจ แต่เราก็เสนอความเห็นไป ว่าถ้ามีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าก็ค่อยๆ คิดกัน ตอนนี้ก็คิดอย่างนี้ไปก่อน ขณะนี้ยังไม่ได้กราบเรียนนายชัย แต่ถ้าเห็นว่าจะไม่ปลอดภัยสำหรับสมาชิกรัฐสภา เราคงจะกราบเรียนให้ทราบ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลัง การหารือกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ว่า ที่ประชุมได้มีแนวทางแก้ปัญหาหลังจากที่ได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล 2 แนวทาง คือ จะยังคงใช้แนวทางการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งทราบว่าแกนนำบางส่วนยอมเปิดทางแล้ว แต่แกนนำบางส่วนไม่ยอม ซึ่งการเจรจาก็ยังดำเนินต่อไป

**ผบ.ตร.พบนายกฯแจงสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.10 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร พร้อมด้วยพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. และพล.ต.ต. พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น. ได้เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เพื่อเข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มนปช.ที่ปิดล้อมหน้ารัฐสภา
ภายหลังการหารือนานประมาณ 30 นาที พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า นายสุเทพ เชิญตนมาให้ข้อมูล คงไม่มีอะไร ซึ่งรัฐบาลจะสามารถเข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้หรือไม่นั้นอยู่ที่การตัดสินใจของประธานรัฐสภา ตนเพียงมาให้ข้อมูลในฐานะที่ดูแลความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่ากลุ่ม นปช.คงไม่ใช้ความรุนแรง และเหตุการณ์คงไม่รุนแรง แต่เมื่อเช้า ได้ส่งคนเข้าไปพูดคุยเรียบร้อยแล้ว ส่วนผลการเจรจานั้นขอให้รออีกนิดหนึ่ง

**ปธ.วิปรัฐบาลเรียก3ฝ่ายถกด่วน
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้เชิญประชุม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ตัวแทนวิปรัฐบาล ตัวแทนวุฒิสภา และ ตัวแทน ส.ส.ฝ่ายค้าน เพื่อหาทางออก สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.
นายชินวรณ์ เปิดเผยว่า การประสานงานติดต่อค่อนข้างกะทันหันเพราะไม่มีใครรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าจึงเชิญประชุมด่วน 3 ฝ่าย โดยได้ประสานไปยังนาย สมเกียรติ ศรลัมภ์ ส.ส.สัดส่วน ตัวแทนพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา นายพิษณุ หัสถะสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู ตัวแทนพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุม

**ฝ่ายค้านเสนอให้ประชุมหลังปีใหม่
นายชินวรณ์ กล่าวว่า จากการหารือทั้ง 3 ฝ่ายมีมติร่วมกันว่า เป็นอำนาจของประธานรัฐสภาที่จะเลื่อนการประชุมสภาออกไปหากมีความพร้อมเมื่อไหร่ ก็สามารถเรียกประชุมสมาชิกรัฐสภาได้ทันทีเพราะได้ออกวาระการประชุมไปแล้ว เพราะการแถลงนโยบายจะมีกรอบระยะเวลาสิ้นสุดในวันที่ 5 ม.ค. 2552 ตาม มาตรา176 ของ รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ระบุให้ต้องแถลงนโยบายภายใน 15 วันหลังจากที่รับตำแหน่ง ซึ่งในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.2551 ถึงวันที่ 4 ม.ค. 2552 รัฐบาล เห็นว่าเป็นวันหยุดน่าจะให้ประชาชนหยุดฉลองปีใหม่ในช่วงดังกล่าวอย่างมีความสุข ซึ่งที่ประชุมยังเห็นพ้องว่าหากจะยังมีการประชุม สมาชิกรัฐสภาทั้งหมดรวมถึงประชาชนต้องมีความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อเสนอให้ย้ายสถานที่ประชุม นายชินวรณ์ กล่าวว่า มีการเสนอให้ประชุมทางวีดีโอ คอนเฟอร์เร้น แต่เราเห็นว่าไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น ทั้งนี้ที่ประชุมก็มีการหารือ โดยมีความเห็น 2 ฝ่ายคือ วิปฝ่ายค้านเห็นว่าควรที่จะเลื่อนวันแถลงนโยบายออกไปเป็นวันที่ 5 ม.ค. 2552 ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเห็นว่า ประธานรัฐสภาสามารถเรียกประชุมสมาชิกได้ทันทีที่มีความพร้อม ซึ่งขณะนี้สมาชิกทั้งหมดก็ได้เตรียมความพร้อมที่จะเข้าร่วมประชุมได้ทันทีหากมีการเรียกประชุม
ด้านนายพิษณุ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านเองยินดีที่จะร่วมประชุม แต่เห็นว่าควรที่จะชะลอการประชุมออกไปก่อนหากดันทุรังจะเข้าไปประชุมก็อาจเกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อวันที่ 7ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะเราเองก็อยากให้รัฐบาลมีความสง่างามในการเข้าบริหารประเทศซึ่งตัวแทนรัฐบาลเองต้องไปเจรจากับผู้ชุมนุมว่าเขาต้องการอะไรและรัฐบาลเองสามารถสนองตอบได้หรือไม่ เพราะการเจรจาเป็นวิธีการที่ดีที่สุด

** “ชัย”เลื่อนประชุมเป็น14.00 น.
ขณะที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้โฟนอินเข้ามายังรัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. โดยแจ้งว่า ส.ส.ไม่สามารถเข้ารัฐสภาเพื่อเซ็นชื่อเข้าประชุมได้ เนื่องจากมีการปิดล้อมรัฐสภา ทราบมาว่าท่านผู้มีเกียรติและท่านที่มาชุมนุมได้เปิดช่องทาง ให้เดินเข้าไปได้ แต่ได้เห็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. จึงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยที่อาจมีความไม่แน่นอน หากสมาชิกเข้าไปอาจถูกหนังสติ๊ก บางท่านอาจมีอารมณ์ ร้อนแรง อาจสร้างความเสียหาย จึงได้พิจารณาอย่างรอบคอบและได้คุยกับประธานวุฒิสภาแล้ว เห็นควรเลื่อนการประชุมแถลงนโยบายออกไป เพื่อให้รัฐบาลแก้ปัญหาไปก่อนจนถึงเวลา 14.00น. ถ้ายังไม่ได้รับการยืนยันจากรัฐบาลและผู้ควบคุมสถานการณ์ ก็อาจเลื่อนการแถลงนโยบายออกไป
“วันนี้ใกล้ปีใหม่อยากให้เกิดความสมานฉันท์ ไม่อยากให้เหตุการณ์ซ้ำรอย เหมือนเหตุการณ์ 7 ต.ค. หากหลังเวลา 14.00 น. มีการเปลี่ยนแปลงอะไรจะแจ้งให้ทราบ” นายชัยกล่าว

**อ้างส.ส.เพื่อไทยนับร้อยไม่ร่วมประชุม
สำหรับความเคลื่อนไหวที่พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีส.ส.พรรคเพื่อไทย หลายคนทยอยเข้าพรรค อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ในฐานะหัวหน้าทีมอภิปราย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส. เชียงใหม่ เดินทางมาหารือรอดูท่าทีพรรคประชาธิปัตย์และท่าทีของนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา จะสั่งเลื่อนการแถลงนโยบายหรือไม่
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส. เชียงใหม่แถลงว่า วันนี้ได้มีส.ส. พรรคเพื่อไทยไม่ต่ำกว่า 100 คน แสดงเจตจำนงจะไม่ร่วมประชุมสภา เพื่อฟังแถลงนโยบายรัฐบาล แม้จะมีการเปลี่ยนสถานที่ประชุม เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน ไม่ต้องการให้ส.ส.เข้าร่วมประชุม เนื่องจากรัฐบาลจากพรรคประชาธิปัตย์ปล้นประชาธิปไตย ส่วนส.ส.คนอื่นที่เข้าไปในสภานั้นเพราะเขาไม่กลัว เพราะไม่ได้ไปปล้นมาเหมือนนายอภิสิทธิ์
นายสุรพงษ์กล่าวว่า หากสามารถเข้าประชุมได้ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ก็มีอำนาจที่จะสั่งเลื่อนการประชุมได้ ก็อาจจะนัดประชุมกันอีกครั้งในช่วงหลังปีใหม่ก็ยังไม่สาย เพราะการเลื่อนประชุมออกไป เป็นอำนาจของประธานคือนายชัย จะต้องหารือ กับวิปรัฐบาล ไม่ใช่ให้วิปรัฐบาลมาหารือกับวิปฝ่ายค้าน ประธานจะต้องกล้าตัดสินใจที่จะเลื่อนการประชุมออกไป ไม่ใช่เป็นประธานลูกอุ้มอย่างเดียว

** อ้างชัยเลื่อนประชุมผิดข้อบังคับ
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังจากที่ นายชัย ประกาศเลื่อนประชุมรัฐสภาในการแถลงนโยบายรัฐบาลออกไป ว่า รูปแบบของกลุ่มคนเสื้อแดงจะคล้ายกับพันธมิตรฯ ที่ไปล้อมสภา แต่ช่วงนั้นเสื้อเหลือง ไปช้ารัฐบาลไปก่อน และลงชื่อโดย ส.ว.ร่วมด้วยจนองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีช่วงนั้น จึงแถลงนโยบาย เสร็จแล้วก็ปีนออกไปเพราะออกไม่ได้ แต่คราวนี้เสื้อแดงไปเร็วขึ้นก็เลยไม่มีใครเข้าสภาได้ เท่าที่ทราบนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาก็เข้าไปไม่ได้
อย่างไรก็ตาม การที่นายชัยแสดงความเห็นผ่านโฟนอินให้เลื่อนเวลาประชุมไปในเวลา14.00 น.แต่ข้อบังคับการประชุม ข้อที่ 19 ระบุว่า ต้องเปิดประชุมและเมื่อเปิดประชุมแล้วภายใน 30นาที องค์ประชุมไม่ครบ ประธานมีสิทธิเลื่อนประชุมได้ แต่เหตุการณ์วันนี้ยังไม่มีการเปิดประชุมเพราะไม่มีใครเข้าสภา ฉะนั้นต้องดูว่านายชัยมีอำนาจเลื่อนประชุมหรือไม่ พรรคเพื่อไทยพร้อมหากจะเรียกประชุม

**เหลิมอ้างเสื้อแดงชอบด้วยเหตุผล
ผู้สื่อข่าวถามว่าการชุมนุมครั้งนี้ประชาชนอาจเบื่อหน่าย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่ามันเป็นความคับแค้นทางจิตใจของเสื้อแดงที่เห็นว่ารัฐบาลได้จัดตั้งขึ้นโดยมีปัจจัยภายนอกเกื้อหนุนเยอะจึงไม่พอใจ มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ช่วงพรรคพลังประชาชน เป็นรัฐบาล พันธมิตรฯก็ไม่พอใจแบบไม่มีสาเหตุ แม้จะมีสิทธิก็ตาม
“เสื้อแดงมาชุมนุมครั้งนี้คิดว่าชอบด้วยเหตุผล เอาไหมล่ะหากพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าเป็นรัฐบาลที่ดีก็ยุบสภา ช่วงนั้นที่ไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาเพราะพวกเรามาจากการเลือกตั้งและประชาชนศรัทธา ตอนนี้แม้พรรคประชาธิปัตย์มาจากการเลือกตั้งแต่คะแนนน้อยกว่าพวกผมก็ควรคืนอำนาจให้ประชาชนแล้วมีสัตยาบันร่วมกันว่ามาเซ็นชื่อกัน เสื้อเหลืองมาเซ็นว่าหากพรรคเพื่อไทย ได้เสียงข้างมาก ต้องหยุด เสื้อแดงมาเซ็นว่าหากประชาธิปัตย์ได้เสียงข้างมากก็ต้องหยุด บ้านเมืองจะได้เดินหน้า” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สุดท้ายแล้วจะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าไม่ทราบว่าเสื้อแดงคิดอย่างไรแต่ใครทำกรรมใดไว้ บางครั้งกรรมจะสนอง สมัยหลังนี้กรรมมันติดจรวด และคำพระว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
การยุบสภามันเป็นทางออกของการเมืองที่ยอมรับได้ทุกฝ่าย พรรคประชาธิปัตย์จะตั้งรัฐบาลแบบนี้ไม่ได้เพราะทั่วโลกไม่ยอมรับ ครั้นจะยุบสภาเสื้อเหลือง คงไม่ยอม หากพรรคเพื่อไทยเลือกตั้งชนะก็จะไม่ยอม

**ชัยเลื่อนอีกเป็นเวลา17.00น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมาเวลา 14.00 น. นายชัย ได้โฟนอินเข้ามายังห้องผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาอีกครั้งโดยระบุว่า สมาชิกรัฐสภาและพี่น้องประชาชนคนไทยที่เคารพเมื่อเช้าช่วง 10.30 น.ได้เรียนให้กับพี่น้องสมาชิกรัฐสภา ไปแล้วว่าจำเป็นต้องเลื่อนการแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเดิมกำหนดไว้ในวันที่ 29-30 ธ.ค.ในเวลา 09.30 น.ปรากฎว่า มีผู้ชุมนุมปิดล้อมหน้ารัฐสภา จึงไม่สามารถเข้ามาประชุมได้ จึงขอเลื่อนเป็นเวลา 14.00 น. เมื่อถึงเวลา 14.00 น. ก็ไม่สามารถเข้าประชุมได้ ทางรัฐบาลจึงแจ้งมาว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการประสานงานกับแกนนำผู้ชุมนุม จึงขอเลื่อนการแถลงนโยบายออกไป 17.00 น.เป็นอย่างช้า ถ้าไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะเลื่อนไปเป็นวันอังคารที่ 30 ธ.ค.และเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นกับทุกฝ่ายและเพื่อให้ได้ประโยชน์กับทุกฝ่าย ส่วนปัญหาต่างๆที่ไม่ได้ประชุมในวันที่ 29 และ 30 ธ.ค. ก็อาจจะเลื่อนการแถลงนโยบายของรัฐบาลออกไป

**ส.ส.เพื่อไทยฉุนจี้ชัยลาออก
ด้านพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร สมาชิกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่นายชัย เลื่อนเวลาการประชุมเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลเป็นครั้งที่ 2 ออกไปเป็นเวลา 17.00 น. โดย พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า ตัวประธานรัฐสภาเองก็ไม่มาที่รัฐสภา มีเพียงแต่การโฟนอินเข้ามาว่ายังเจรจากันไม่เรียบร้อยขอเลื่อนการประชุมออกไปอีก ทั้งๆที่พวกตนก็มานั่งรออยู่ในห้องประชุมสภาเรียบร้อยแล้ว ตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม เพราะยังไม่เคยเกิดกรณีแบบนี้มาก่อน ดังนั้นหากประธานรัฐสภามีพฤติกรรมแบบนี้ แสดงว่าเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงไม่เหมาะสมที่จะนั่งตำแหน่งประธานรัฐสภาอีกต่อไป

**ปชป.เครียดหลังถกม็อบเหลว
ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดทั้งวันแกนนำพรรค นำโดย นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค ได้มีการประเมินสถานการณ์การ ชุมนุมของกลุ่ม นปก. โดยเมื่อเวลา 15.00 น.แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้เรียกประชุม ส.ส. เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมหาก นปช.เปิดทางให้เข้าอาคารรัฐสภา
จากนั้น เวลา 15.30 น. นายสุเทพ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ ได้เดินทางไปหารือร่วมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เพื่อหาทางเจราให้กลุ่มนปช.เปิดทาง แต่ปรากฏว่าไม่สามารถที่จะตกลงกันได้เนื่องจากกลุ่มนปช.ยื่นเงื่อนไขว่าจะมีการเปิดให้รัฐบาลแถลงนโยบายหลังปีใหม่คือวันที่ 5 ม.ค. 2552 แต่รัฐบาลไม่เห็นด้วยเนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้กับครบกำหนด 15 วัน ที่รัฐบาลต้องแถลง นโยบายหลังจาก ครม.ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ ส.ส.แต่ละคนที่มีความคุ้นเคยและมีความสนิทสนมส่วนตัวกับแกนนำพรรคเพื่อไทยไปเจรจาเพื่อให้กลุ่มนปช.เปิดทางปรากฏว่าแกนนำนปช.ต่างเห็นด้วยที่จะเปิดทางให้รัฐบาลเข้าไปแถลงนโยบาย มีเพียงนายจตุพร พรมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน แกนนำ นปช.เท่านั้นที่ยังยืนยันที่จะเปิดทางให้รัฐบาลเข้าแถลงนโยบายในวันที่ 5 ม.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น.นายสุเทพ ได้เดินทางกลับเข้ามายังพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง เพื่อรายงานความคืบหน้า รวมทั้งรัฐมนตรีได้ทยอยกันเข้ามา โดยได้ให้ ส.ส.เตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา หากสามารถเจรจากับกลุ่มนปช.สำเร็จก็จะเข้าไปแถลงนโยบายทันที
ต่อมาเวลา 16.10 น.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้เดินทางมาเพื่อร่วมประเมินสถานการณ์ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และนายชวรัตน์ เป็นตัวแทนในการเจรจากับกลุ่มนปช.โดยรัฐบาลยังคงยืนยันที่จะแถลงนโยบายให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 ธ.ค.นี้เพื่อเดินหน้าดำเนินนโยบายต่อ

**ชัยเลื่อนแถลงนโยบายเป็นวันนี้
ต่อมา เวลา 16.50 น.นาย คัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า นายชัย ชิดชอบ ได้ส่งข้อความไปถึงสมาชิกรัฐสภาทุกคนแล้วว่าจะมีการประชุมสภาเพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 30 นี้ เวลา 09.30 น. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้โฟนอินเลื่อนมาแล้วถึง 2 ครั้งนี้ โดยไม่แจ้งเหตุผลการเลื่อนแต่อย่างใด
**นายกฯมุ่งมั่นเจรจากับม็อบ
หลังนายชัย ชิดชอบ สั่งเลื่อนประชุมเวลา 09.30 น. วันนี้ (30 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พร้อมด้วยนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ร่วมกันแถลงข่าวว่ารัฐบาลตั้งใจที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพื่อที่จะสามารถเข้าบริหารราชการแผ่นดินได้ โดยกำหนดไว้ในวันที่ 29-30 ธ.ค.เพื่อให้เสร็จสิ้นก่อนปีใหม่ เพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าเรื่องสำคัญที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน ซึ่งหลังแถลงนโยบายเสร็จก็เตรียมประชุม ครม. ทันที
อย่างไรก็ตามแม้เรามุ่งมั่นที่จะแถลงนโยบายให้เร็วที่สุด แต่ก็ไม่ต้องการให้บ้านเมืองเสียบรรยากาศ และไม่ต้องการเห็นภาพความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนคนไทยและต่างประเทศ
ฉะนั้นวันนี้ เมื่อมีประชาชนจำนวนหนึ่งมาประชุมหน้ารัฐสภา ปิดกั้นไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายได้ สิ่งที่ตนมอบเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหากับรองนายกฯ ที่ดูแลเรื่องความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ใช้วิธีการเจรจา ประสานงานจนถึงที่สุด จะต้องไม่มีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม และจะต้องไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอย เหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. ซึ่งถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้บ้านเมืองถลำลึกสู่วิกฤติมากขึ้น
”ดังนั้นตลอดทั้งวัน ผมเรียนว่า เราได้ใช้ช่องทางเจรจาโดยรองนายกฯ ประธานสภา ประธานวิปรัฐบาล ผบ.ตร.รวมทั้ง ส.ส. และอีกหลายฝ่าย ได้ดำเนินการเอง ใครที่พอจะพูดจากับทางฝ่ายผู้ชุมนุมได้เราก็ส่งให้ไปประสานงาน และมีการเจรจาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สัมฤทธิ์ผลนี่คือความตั้งใจของรัฐบาลที่จะใช้ความอดทนอดกลั้น และจะยึดสันติวิธีในการแก้ปัญหา เรียนว่าความพยายามตรงนี้ยังไม่สิ้นสุด หลังจากแถลงข่าวแล้วจะเดินหน้าในการเจรจาต่อไปอย่างต่อเนื่อง”

**ย้ำแถลงโยบายวันนี้ต่อเนื่อง 31ธ.ค.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อท่านประธานใช้ดุลยพินิจในการเลื่อนการประชุมเป็นเช้าวันพนี้ (30ธ.ค.) รัฐบาลจึงยืนยันว่ามีความมุ่งมั่นแถลงนโยบายในวันพนี้ และจะบริหารจัดการภายใต้หลักการไม่ทำให้เสียบรรยากาศบ้านเมือง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าเพื่อให้การแถลงนโยบายและเดินหน้าบริหารราชการ แผ่นดินได้ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า วันที่ 31 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันหยุดราชการอาจต้องขอไปยังสมาชิกรัฐสภา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเสียสละเวลาวันหยุดมาทำงานเพื่อประเทศชาติ แต่ทั้งหมดจะไม่กระทบกระเทือนต่อแนวทางรัฐบาล และพยายามอย่างเต็มที่ ในการประสานพูดคุยกับผู้ชุมนุม ตนเชื่อว่าแนวทางนี้ในที่สุดจะประสบความสำเร็จทำให้เราเดินหน้าต่อไป

**ไม่ขีดเส้นตาย
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะไม่ขีดเส้นตายในการเจรจากับผู้ชุมนุม แต่จะทำหลายๆเรื่องไปพร้อมๆกัน ส่วนตามรัฐธรรมนูญวันแถลงนโยบายวันสุดท้ายคือวันที่ 7 ม.ค.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นข้อกังวลหรือปัจจัยสำคัญในขณะนี้ เจตนาของรัฐบาลคือทำอย่างไรที่จะทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้เร็วที่สุด ยืนยันว่า วันที่30 ธ.ค. รัฐบาลตั้งใจแถลงนโยบาย ขอร้องผู้ที่เกี่ยวข้องว่าในวันที่ 31 ธ.ค. มาทำงานนี้ให้สำเร็จ การเตรียมการของเรานั้นทำหลายด้านพร้อมๆกัน ยังเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปได้ เราอย่าเพิ่งตั้งสมมติฐานว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คิดว่าวันนี้ทุกคนต้องการเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ทุกคนทีความหวัง รัฐบาลจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่คิดว่าการแถลงนโยบายไม่ได้ตามกำหนดเป็นการเสียหน้า ถ้ารัฐบาลเสียหน้าก็ยังดีกว่าประเทศเสียภาพลักษณ์ เสียบรรยากาศ สำหรับการเจรจานั้นได้แบ่งสายกันไปประสาน โดยนายสุเทพจะเป็นผู้ประสานงานระดับสูงสุดเพื่อป้องกันปัญหาความซ้ำซ้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแนวคิดจะลดเวลาในการแถลงนโยบายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าเรื่องเวลาว่ากันไปตามธรรมชาติ เราไม่ทราบว่าการอภิปรายเป็นอย่างไร สมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง
ต่อข้อถามว่าตำรวจจะดูแลสถานการณ์ได้หรือไม่ จำเป็นต้องให้ทหารเข้ามาช่วยดูแลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในชั้นนี้ดูแลได้ ตนไม่มีแนวคิดที่จะใช้กฎหมายพิเศษอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่ามีความจำเป็นร้องขอให้เจ้าหน้าที่ส่วนอื่น รวมทั้งทหาร ก็สามารถทำได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น