เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (24ธ.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ สมาชิกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในวันที่ 26 ธ.ค. จะไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อให้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ส่งข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือของประชาชนผ่านเครือข่ายต่างๆ และให้ประชาชนผู้สนใจรับฟังข้อมูลส่งข้อความกลับมายังหมายเลข 9191 ซึ่งเป็นระบบทรูมูฟ โดยประชาชนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 3 บาทนั้น เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ กับเครือข่ายโทรศัพท์ระบบทรูมูฟ น่าจะมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน เนื่องจากที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า เครือข่ายทรูมูฟ ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตนมีหลักฐาน และมีข้อมูลชัดเจน ทราบว่ามิสเตอร์เค ได้ติดต่อไปยังบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์ทั้ง 3 ระบบ มาเข้าประชุมเพื่อขอความร่วมมือในการจัดส่งข้อความไปสู่ประชาชนทั่วประเทศ โดยในวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น มิสเตอร์เจ ซึ่งเป็นลูกน้องมิสเตอร์เค ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้ให้บริการทั้ง 3 ระบบ ที่โรงแรมโฟร์ซีซัน ในเวลา 18.00 น. ด้วย พร้อมทั้งมีการคุยเรื่องค่าใช้จ่ายในการส่งข้อความ 1 บาท ต่อครั้ง ซึ่งในการประชุมมีการชี้แจงว่า เอไอเอส มี 27 ล้านหมายเลข ดีเทคมี 18 ล้านหมายเลข ส่วนทรูมูฟ มี 13 ล้านเลขหมาย
ดังนั้น เมื่อคำนวณค่าส่งแล้วค่าใช้จ่ายถูกที่สุดไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ล้านบาท ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า ตอนแรกติดต่อทั้ง 3 ระบบ แต่เมื่อส่งข้อความกลับส่งมาที่ทรูมูฟ ดังนั้นสอดคล้องกับที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเงินประมาณ 50 ล้านบาท
นี่ถือเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะนายกฯ เพิ่งออกกฎเหล็ก 9 ข้อ ให้ครม.ปฎิบัติ พร้อมยังกำชับให้ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชา แต่กลับทำเรื่องนี้ขึ้นมา หลักฐานเหล่านี้ตนได้กันพยานไว้หมดแล้ว วันนี้ได้กระทำความผิดแล้ว ยังไม่ทันแถลงนโยบาย แม้จะออกกฎเหล็ก 9 ข้อออกมา แล้วตัวเองยังปฎิบัติไม่ได้ จึงขอถามหาจริยธรรมจากนายกรัฐมนตรีรูปหล่อหน้าตาดีว่า สิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นผลประโยชน์เอื้อพวกพ้องหรือไม่ และจะต้องตอบให้ได้ว่า ทำไมต้องให้ประชาชนส่งไป 9191 ในระบบทรูมูฟ ต้องตอบสังคมให้ได้ และเชื่อว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี จะอยู่ได้ไม่ครบเดือน และที่ก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นเรื่องให้ป.ป.ช. หากละเว้นไม่ดำเนินการ ตนก็ไม่ละเว้น และจะทำให้ความจริงปรากฏ
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตนมีหลักฐาน และมีข้อมูลชัดเจน ทราบว่ามิสเตอร์เค ได้ติดต่อไปยังบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์ทั้ง 3 ระบบ มาเข้าประชุมเพื่อขอความร่วมมือในการจัดส่งข้อความไปสู่ประชาชนทั่วประเทศ โดยในวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น มิสเตอร์เจ ซึ่งเป็นลูกน้องมิสเตอร์เค ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้ให้บริการทั้ง 3 ระบบ ที่โรงแรมโฟร์ซีซัน ในเวลา 18.00 น. ด้วย พร้อมทั้งมีการคุยเรื่องค่าใช้จ่ายในการส่งข้อความ 1 บาท ต่อครั้ง ซึ่งในการประชุมมีการชี้แจงว่า เอไอเอส มี 27 ล้านหมายเลข ดีเทคมี 18 ล้านหมายเลข ส่วนทรูมูฟ มี 13 ล้านเลขหมาย
ดังนั้น เมื่อคำนวณค่าส่งแล้วค่าใช้จ่ายถูกที่สุดไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ล้านบาท ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า ตอนแรกติดต่อทั้ง 3 ระบบ แต่เมื่อส่งข้อความกลับส่งมาที่ทรูมูฟ ดังนั้นสอดคล้องกับที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเงินประมาณ 50 ล้านบาท
นี่ถือเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะนายกฯ เพิ่งออกกฎเหล็ก 9 ข้อ ให้ครม.ปฎิบัติ พร้อมยังกำชับให้ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชา แต่กลับทำเรื่องนี้ขึ้นมา หลักฐานเหล่านี้ตนได้กันพยานไว้หมดแล้ว วันนี้ได้กระทำความผิดแล้ว ยังไม่ทันแถลงนโยบาย แม้จะออกกฎเหล็ก 9 ข้อออกมา แล้วตัวเองยังปฎิบัติไม่ได้ จึงขอถามหาจริยธรรมจากนายกรัฐมนตรีรูปหล่อหน้าตาดีว่า สิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นผลประโยชน์เอื้อพวกพ้องหรือไม่ และจะต้องตอบให้ได้ว่า ทำไมต้องให้ประชาชนส่งไป 9191 ในระบบทรูมูฟ ต้องตอบสังคมให้ได้ และเชื่อว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี จะอยู่ได้ไม่ครบเดือน และที่ก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นเรื่องให้ป.ป.ช. หากละเว้นไม่ดำเนินการ ตนก็ไม่ละเว้น และจะทำให้ความจริงปรากฏ