พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ก.กล่าว วานนี้ (23 ธ.ค.) ถึงการพิจารณา ความผิดคดี นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หลังมีการร้องขอให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบพยานเพิ่มอีก 18 ปาก ว่า คณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพระดับ บช.ก.ได้พิจารณาสำนวนที่พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพยานไปจำนวน 10 ปาก โดยตัดอีก 8 ปากทิ้งไป เนื่องจากไม่สามารถติดตามตัวมาได้แล้ว พบว่า ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความเห็น จากการพิจารณาของคณะกรรมการชุดก่อนหน้านี้ จึงได้มีความเห็นสั่งฟ้องเช่นเดียวกัน
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ คณะกรรมการ บช.ก.ได้ส่งความเห็นสำนวนดังกล่าวไปให้คณะกรรมการระดับ ตร.พิจารณาแล้วเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่า จะมีการประชุมเพื่อลงความเห็นในไม่กี่วันต่อจากนี้ และจะสามารถส่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.พิจารณาลงความเห็นและส่งสำนวนให้อัยการได้ต่อไป โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่นาน เนื่องจาก คณะกรรมการ บช.ก.ได้สอบปากคำและลงความเห็นอย่างละเอียด
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ คดีดังกล่าว ตำรวจได้สรุปและนำสำนวนส่งฟ้องนายจักรภพ ไปยังพนักงานอัยการแล้ว แต่นายจักรภพ ได้เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรม ให้มีการสอบพยานฝ่ายตนเองเพิ่มเติม ทางพนักงานอัยการ จึงส่งเรื่องกลับไปยัง บช.ก. เพื่อให้มีการสอบพยานตามที่นายจักรภพร้องขอ แต่ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า การสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวค่อนข้างล่าช้า เมื่อเทียบกับคดีอื่นๆในลักษณะเดียวกัน อันเนื่องมาจาก คดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่นายจักรภพดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งนายจักรภพลาออก และรัฐบาลผ่านไปถึง 2 รัฐบาลแล้ว คดีกลับยังไม่ถึงมืออัยการ
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผช.น.กล่าวถึงข่าวที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ว่า การพิจารณา คดีของศาลถือเป็นที่สิ้นสุดและศาลตัดสินว่ามีความผิด หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตำรวจก็ต้องดำเนินการจับกุมส่ง ตม.เพื่อส่งต่อไปยังกรมราชทัณฑ์อีกชั้นหนึ่ง
วันเดียวกัน เวลา 15.00 น.พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน สน.บางมด เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวบีบีซีนิวส์ ในข้อหาฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีที่นายโจนาธาน นำเสนอข่าวลงบนเว็บไซต์บีบีซีนิวส์ เรื่อง How did Thai protesters manage it ? ซึ่งมีเนื้อหาบางตอนเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง
โดย พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ ได้นำเอกสารข่าวดังกล่าวที่สรุปเนื้อหามาแล้ว พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย มอบให้กับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ ไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ทาง พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ ยังเรียกร้องให้พนักงานสอบสวน บก.ป. นำวีดีโอที่ นายวีระ มุสิกพงษ์ กับพวก กล่าวไว้ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 9 ธ.คซที่ผ่านมาว่า ไม่กล้าพูดถึงกรณีข่าวของสำนักข่าวบีบีซี เพราะถ้าพูดกลัวจะติดคุก จึงต้องการให้พนักงานสอบสวนนำวีดีโอนี้มาประกอบสำนวนการพิจารณาดำเนินคดีกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวบีบีซีรายนี้อีกด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวที่ว่าพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะทางการไทยก็ต้องการตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อกลับมาก็ว่า กันไปตามกระบวนการ ของกฎหมายเท่านั้นเอง โดยจะให้กระบวนการยุติธรรม เป็นผู้ดำเนินการ แต่คงไม่ต้องไปเร่งรัดอะไรเพราะไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องไปเร่งารัด เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ส่วนหาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเกรงว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะลุกฮือขึ้นมานั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ากล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนก็ต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม เข้ามาก็ต้องดูแลให้เกิดความเรียบร้อยและให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ มาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายปกติ เมื่อถามว่า ในภาวะการเมืองเช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะกลับมาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ เราจะไปกะเกณฑ์ให้เขาไม่ได้ ถ้ากลับมารัฐบาลก็จะดูแลเขาอย่างดีที่สุด ทำตามกฎหมาย ไม่ไปข่มเหงหรือรังแกเขา เมื่อถามว่าถ้ากลับมาจะดีหรือไม่ นายสุเทพ ผมพูดแทนคุณ ทักษิณ ไม่ได้ ส่วนที่มีการเกรงกันว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองหากคุณ ทักษิณ กลับมานั้น ผมไม่กลัว และพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้คิดมาตรการที่จะรับมือเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า
เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาประชาชนอาจจะลุกฮือ แล้วอาจทำให้การสร้างความสมานฉันท์อาจทำได้ยากขึ้น จะวิงวอนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่วิงวอน
ส่วนกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยึดสนามบิน จะดำเนินการ อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอยู่แล้ว ใครที่ทำความผิดก็ว่ากันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลมีจุดแข็งในเรื่องของการบริหารราชการให้เป็นนิติรัฐ แต่เรื่องของการเอาผิดกับกลุ่มพันธมิตรฯในการก่อการร้ายยึดสนามบิน ซึ่งต่างชาติวิพากษ์วิจารณ์มามาก รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร หรือต้องรอให้ ตำรวจดำเนินการไปก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ จะช้าหรือเร็วก็ต้องว่ากันตามขั้นตอนของกระบวนการ ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะไม่มีแอ็คชั่นอะไรในเรื่องนี้เลยหรือ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็เพราะรัฐบาลที่แล้วไปทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้องมามากแล้ว มันถึงเกิดปัญหา
ขณะที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่ให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับวันที่ 25 ธ.ค.ปรากฎว่า วานนี้ (23 ธ.ค.) กลับให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่เดินทางกลับประเทศในวันที่ 25 ธ.ค.แล้ว เพราะยังไม่แน่ใจในหลายๆ เรื่อง ตรงกันข้าม อาจเป็นพวกที่ไปรวมหัวกันตั้งรัฐบาลพันธมิตรฯ หรือรัฐบาลงูเห่ามากกว่า ที่จะเดินทางหนีออกไปนอกประเทศซึ่งเรื่องนี้จะต้องไปดูว่าจะเป็นใคร
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ คณะกรรมการ บช.ก.ได้ส่งความเห็นสำนวนดังกล่าวไปให้คณะกรรมการระดับ ตร.พิจารณาแล้วเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่า จะมีการประชุมเพื่อลงความเห็นในไม่กี่วันต่อจากนี้ และจะสามารถส่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.พิจารณาลงความเห็นและส่งสำนวนให้อัยการได้ต่อไป โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่นาน เนื่องจาก คณะกรรมการ บช.ก.ได้สอบปากคำและลงความเห็นอย่างละเอียด
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ คดีดังกล่าว ตำรวจได้สรุปและนำสำนวนส่งฟ้องนายจักรภพ ไปยังพนักงานอัยการแล้ว แต่นายจักรภพ ได้เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรม ให้มีการสอบพยานฝ่ายตนเองเพิ่มเติม ทางพนักงานอัยการ จึงส่งเรื่องกลับไปยัง บช.ก. เพื่อให้มีการสอบพยานตามที่นายจักรภพร้องขอ แต่ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า การสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวค่อนข้างล่าช้า เมื่อเทียบกับคดีอื่นๆในลักษณะเดียวกัน อันเนื่องมาจาก คดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่นายจักรภพดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งนายจักรภพลาออก และรัฐบาลผ่านไปถึง 2 รัฐบาลแล้ว คดีกลับยังไม่ถึงมืออัยการ
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผช.น.กล่าวถึงข่าวที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ว่า การพิจารณา คดีของศาลถือเป็นที่สิ้นสุดและศาลตัดสินว่ามีความผิด หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตำรวจก็ต้องดำเนินการจับกุมส่ง ตม.เพื่อส่งต่อไปยังกรมราชทัณฑ์อีกชั้นหนึ่ง
วันเดียวกัน เวลา 15.00 น.พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน สน.บางมด เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวบีบีซีนิวส์ ในข้อหาฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีที่นายโจนาธาน นำเสนอข่าวลงบนเว็บไซต์บีบีซีนิวส์ เรื่อง How did Thai protesters manage it ? ซึ่งมีเนื้อหาบางตอนเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง
โดย พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ ได้นำเอกสารข่าวดังกล่าวที่สรุปเนื้อหามาแล้ว พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย มอบให้กับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ ไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ทาง พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ ยังเรียกร้องให้พนักงานสอบสวน บก.ป. นำวีดีโอที่ นายวีระ มุสิกพงษ์ กับพวก กล่าวไว้ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 9 ธ.คซที่ผ่านมาว่า ไม่กล้าพูดถึงกรณีข่าวของสำนักข่าวบีบีซี เพราะถ้าพูดกลัวจะติดคุก จึงต้องการให้พนักงานสอบสวนนำวีดีโอนี้มาประกอบสำนวนการพิจารณาดำเนินคดีกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวบีบีซีรายนี้อีกด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวที่ว่าพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะทางการไทยก็ต้องการตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อกลับมาก็ว่า กันไปตามกระบวนการ ของกฎหมายเท่านั้นเอง โดยจะให้กระบวนการยุติธรรม เป็นผู้ดำเนินการ แต่คงไม่ต้องไปเร่งรัดอะไรเพราะไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องไปเร่งารัด เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ส่วนหาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเกรงว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะลุกฮือขึ้นมานั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ากล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนก็ต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม เข้ามาก็ต้องดูแลให้เกิดความเรียบร้อยและให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ มาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายปกติ เมื่อถามว่า ในภาวะการเมืองเช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะกลับมาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ เราจะไปกะเกณฑ์ให้เขาไม่ได้ ถ้ากลับมารัฐบาลก็จะดูแลเขาอย่างดีที่สุด ทำตามกฎหมาย ไม่ไปข่มเหงหรือรังแกเขา เมื่อถามว่าถ้ากลับมาจะดีหรือไม่ นายสุเทพ ผมพูดแทนคุณ ทักษิณ ไม่ได้ ส่วนที่มีการเกรงกันว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองหากคุณ ทักษิณ กลับมานั้น ผมไม่กลัว และพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้คิดมาตรการที่จะรับมือเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า
เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาประชาชนอาจจะลุกฮือ แล้วอาจทำให้การสร้างความสมานฉันท์อาจทำได้ยากขึ้น จะวิงวอนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่วิงวอน
ส่วนกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยึดสนามบิน จะดำเนินการ อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอยู่แล้ว ใครที่ทำความผิดก็ว่ากันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลมีจุดแข็งในเรื่องของการบริหารราชการให้เป็นนิติรัฐ แต่เรื่องของการเอาผิดกับกลุ่มพันธมิตรฯในการก่อการร้ายยึดสนามบิน ซึ่งต่างชาติวิพากษ์วิจารณ์มามาก รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร หรือต้องรอให้ ตำรวจดำเนินการไปก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ จะช้าหรือเร็วก็ต้องว่ากันตามขั้นตอนของกระบวนการ ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะไม่มีแอ็คชั่นอะไรในเรื่องนี้เลยหรือ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็เพราะรัฐบาลที่แล้วไปทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้องมามากแล้ว มันถึงเกิดปัญหา
ขณะที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่ให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับวันที่ 25 ธ.ค.ปรากฎว่า วานนี้ (23 ธ.ค.) กลับให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่เดินทางกลับประเทศในวันที่ 25 ธ.ค.แล้ว เพราะยังไม่แน่ใจในหลายๆ เรื่อง ตรงกันข้าม อาจเป็นพวกที่ไปรวมหัวกันตั้งรัฐบาลพันธมิตรฯ หรือรัฐบาลงูเห่ามากกว่า ที่จะเดินทางหนีออกไปนอกประเทศซึ่งเรื่องนี้จะต้องไปดูว่าจะเป็นใคร