ASTVผู้จัดการรายวัน – บิวตี้ แอนด์ เฮลท์ตี้โซน พลาดเป้ายอดขาย สกินแคร์ คอลลาจีน่าปรับแผนรุกปี 2522 ขยายช่องทางจำหน่ายทุกรูปแบบ ทั้งเอาท์เลท บิวตี้เซ็นเตอร์ เคาน์เตอร์ ขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย ผนึกพันธมิตรต่างธุรกิจทำโปรโมชั่น
นางสาวกัณฐาภรณ์ ตันติพิบูลทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้ แอนด์ เฮลท์ตี้โซน จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “คอลลาจีน่า” ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากพืชออร์แกนิกส์ จากสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2551 นี้ บริษัทฯทำยอดขายได้ประมาณ 40 ล้านบาท และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้จะมียอดขายที่ 45 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่าปี 2550 ประมาณ 30% แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 50 ล้านบาท เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ชะลอตัวในปัจจุบัน
สำหรับปี 2552 บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายไว้เมื่อกลางปี 2551 ว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ภายในสิ้นปี 2552 ที่ 100 ล้านบาท เนื่องจากมีการวางแผนที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายได้แก่ การเปิดเอาท์เลทในห้างสรรพสินค้า โดยงบการลงทุนเอาท์เลทละ 5 ล้านบาท และการเปิดบิวตี้เซ็นเตอร์ แต่เนื่องจากช่วงไตรมาสที่ 4 เกิดสภาวะทางเศรษฐกิจต่างๆที่ไม่ดี ทางบริษัทฯจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป้ายอดขายจากเดิมเป็นไม่ต่ำกว่า 30% ของยอดขายในปี 2551
ปัจจุบันบริษัทฯมีเอาท์เลท 4 แห่งได้แก่ อีตันไท เดอะมอลล์ โคราช งามวงศ์วานและบางกะปิ ทั้งนี้ในปี 255 2มีแผนที่จะขยายในส่วนของเอาท์เลท ประมาณ 2-3 จุด ภายในไตรมาสที่ 1 โดยใช้งบลงทุนประมาณ 15 ล้านบาททั้งปี ซึ่งการเปิดเอาท์เลทเพื่อเป็นการรองรับกลุ่มลูกค้าเดิมรวมทั้งเป็นการขยายฐานกลุ่มลุกค้าใหม่
นอกจากนี้ในปี 2552 ทางบริษัทยังมีแผนที่จะขยายเคาน์เตอร์ในแผนกเครื่องสำอางค์ในส่วนของพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเจรจากับทางเซ็นทรัล รวมทั้งมีการขยายบิวตี้เซ็นเตอร์ ในฝั่งพื้นที่พลาซ่า โดยจะมีพื้นที่เฉลี่ยบิวตี้เซ็นเตอร์ละประมาณ 80-150 ตารางเมตร คาดว่าในปี 2552 จะสามารถเปิดได้ 2 แห่ง ทั้งนี้คาดว่าการขยายแผนกบิวตี้จะสามารถสร้างยอดขายในสัดส่วน 20%
สำหรับงบการตลาดในปี 2552 บริษัทฯวางงบไว้ที่ 20-25% ของยอดขาย อย่างไรก็ตามมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรอย่างบัตรเครดิต โครงการบ้านจัดสรรและ ประกันชีวิต เพื่อทำตลาดร่วมกัน รวมทั้งมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์อีก 8 รายการในปีหน้า
สำหรับฐานสมาชิกเดิมอยู่ที่ 5,000 คน คาดว่าปี 2552 จะสามารถมีฐานสมาชิกเพิ่มเป็น10,000 คน เนื่องมาจากการทำกิจกรรมกับฐานสมาชิกและการเปิดช่องการจัดจำหน่ายโดยเฉลี่ยราคาสินค้าของบริษัทฯอยู่ที่ประมาณ 2,000-6,000 บาท แบ่งเป็นกลุ่ม เซรั่มประมาณ 2,000-6,000บาท ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า 2,000 บาท และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 3,900 บาท
ทั้งนี้ตลาดรวมสกินแคร์ปัจจุบันของไทยอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดของเครื่องสำอางค์และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีมูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท
นางสาวกัณฐาภรณ์ ตันติพิบูลทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้ แอนด์ เฮลท์ตี้โซน จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “คอลลาจีน่า” ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากพืชออร์แกนิกส์ จากสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2551 นี้ บริษัทฯทำยอดขายได้ประมาณ 40 ล้านบาท และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้จะมียอดขายที่ 45 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่าปี 2550 ประมาณ 30% แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 50 ล้านบาท เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ชะลอตัวในปัจจุบัน
สำหรับปี 2552 บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายไว้เมื่อกลางปี 2551 ว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ภายในสิ้นปี 2552 ที่ 100 ล้านบาท เนื่องจากมีการวางแผนที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายได้แก่ การเปิดเอาท์เลทในห้างสรรพสินค้า โดยงบการลงทุนเอาท์เลทละ 5 ล้านบาท และการเปิดบิวตี้เซ็นเตอร์ แต่เนื่องจากช่วงไตรมาสที่ 4 เกิดสภาวะทางเศรษฐกิจต่างๆที่ไม่ดี ทางบริษัทฯจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป้ายอดขายจากเดิมเป็นไม่ต่ำกว่า 30% ของยอดขายในปี 2551
ปัจจุบันบริษัทฯมีเอาท์เลท 4 แห่งได้แก่ อีตันไท เดอะมอลล์ โคราช งามวงศ์วานและบางกะปิ ทั้งนี้ในปี 255 2มีแผนที่จะขยายในส่วนของเอาท์เลท ประมาณ 2-3 จุด ภายในไตรมาสที่ 1 โดยใช้งบลงทุนประมาณ 15 ล้านบาททั้งปี ซึ่งการเปิดเอาท์เลทเพื่อเป็นการรองรับกลุ่มลูกค้าเดิมรวมทั้งเป็นการขยายฐานกลุ่มลุกค้าใหม่
นอกจากนี้ในปี 2552 ทางบริษัทยังมีแผนที่จะขยายเคาน์เตอร์ในแผนกเครื่องสำอางค์ในส่วนของพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเจรจากับทางเซ็นทรัล รวมทั้งมีการขยายบิวตี้เซ็นเตอร์ ในฝั่งพื้นที่พลาซ่า โดยจะมีพื้นที่เฉลี่ยบิวตี้เซ็นเตอร์ละประมาณ 80-150 ตารางเมตร คาดว่าในปี 2552 จะสามารถเปิดได้ 2 แห่ง ทั้งนี้คาดว่าการขยายแผนกบิวตี้จะสามารถสร้างยอดขายในสัดส่วน 20%
สำหรับงบการตลาดในปี 2552 บริษัทฯวางงบไว้ที่ 20-25% ของยอดขาย อย่างไรก็ตามมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรอย่างบัตรเครดิต โครงการบ้านจัดสรรและ ประกันชีวิต เพื่อทำตลาดร่วมกัน รวมทั้งมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์อีก 8 รายการในปีหน้า
สำหรับฐานสมาชิกเดิมอยู่ที่ 5,000 คน คาดว่าปี 2552 จะสามารถมีฐานสมาชิกเพิ่มเป็น10,000 คน เนื่องมาจากการทำกิจกรรมกับฐานสมาชิกและการเปิดช่องการจัดจำหน่ายโดยเฉลี่ยราคาสินค้าของบริษัทฯอยู่ที่ประมาณ 2,000-6,000 บาท แบ่งเป็นกลุ่ม เซรั่มประมาณ 2,000-6,000บาท ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า 2,000 บาท และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 3,900 บาท
ทั้งนี้ตลาดรวมสกินแคร์ปัจจุบันของไทยอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดของเครื่องสำอางค์และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีมูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท
