00 หากพูดถึง “แก๊งออฟโฟร์” มักจะเข้าใจกันว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งเกือบร้อยทั้งร้อยมักใช้กับผู้มีอิทธิพลในวงการเมือง มีบทบาททั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ขอโทษแม้ว่าจะมีอำนาจมากแค่ไหน แต่สุดท้ายมักจบลงแบบไม่สวย เพราะหากย้อนไปในอดีตกลุ่มคนหรือคนที่ร่วมอยู่ในแก๊งจะมีชะตากรรมที่น่าเศร้าแทบทั้งสิ้น
00 ยังจำได้ แก๊งออฟโฟร์ต้นตำหรับของแท้ในเมืองจีนเมื่อหลายสิบปีก่อนอย่าง “เจียงชิง” ภริยาของท่าน “ประธานเหมา” ที่ในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ใหญ่จนคับ “แผ่นดินใหญ่” มาอยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็ต้องตกจากอำนาจอย่างน่าอนาถ จากนั้นก็มีแก๊งทำนองนี้เกิดขึ้นตามมาเรื่อยๆในหลายประเทศ ล่าสุดในเมืองไทยก็ยังถูกเรียกขานในยุครัฐบาล “สมัคร” ก็ล้วนมีอันเป็นไปพร้อมกับรัฐบาล
00 นี่ก็เริ่มตั้งฉายามีเสียงนินทาขึ้นมาอีกว่าทำตัว “จุ้น” ในการฟอร์มครม. “มาร์ค1” แต่ถ้าดูรายชื่อแต่ละคนก็ไม่อยากพูดให้เสียน้ำใจ ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยน้อย” วิทยา แก้วภราดัย สาทิตย์ วงศ์หนองเตยอัญชลี และ แม่เลี้ยงติ๊กงี้ เพราะถ้าบอกว่าคนพวกนี้มีมีอิทธิพลในการชี้นำเห็นจะยกเครดิตกันเกินไป ถ้าดูศักยภาพแต่ละคนอย่างมากน่าทำได้แค่ “วิ่งเต้น” ให้ตัวเองได้รับเก้าอี้รมต.มากกว่า รู้ทั้งรู้กันอยู่แล้วว่า งานนี้มีแต่ “เทพเทือก” โชว์เดี่ยวล้วนๆ ขนาด “นายหัวชวน” ยังอึ้งกิมกี่ หรือ “ทั่นบัญญัติ” ก็ไปไม่เป็น ต้องกลับไปนอนเลียแผลกบดานเงียบมาสาม-สี่วันแล้ว
00 แต่ที่นี่กลับพิลึกพิลั่นไม่เว้นแต่ละวันหลังจากที่ “กลุ่มพันธมิตรฯ” ยอมถอนออกมาจากทำเนียบฯ มีทั้งเรื่องไสยศาสตร์ เรื่องอาวุธซุกซ่อนมีออกมาไม่เว้นแต่ละวัน แต่โชคยังดีที่ “เฮียจงรัก” ยังหาไม่พบ “ขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์” เท่านั้น แต่ถ้าปล่อยให้เวลาเนิ่นนานไปกว่านี้ก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะยิ่งค้น ยิ่งงมก็ยิ่งเจอมุกแปลกๆอยู่แทบทุกวัน
00 ไม่เว้นแม้กระทั่งงบประมาณในการปรับปรุงฟื้นฟูสนามหญ้า เปลี่ยนแปลงต้นไม้ภายในทำเนียบฯ นัยว่าเพื่อปรับภูมิทัศน์ใหม่เพื่อรับการประชุมซัมมิตอาเซียน แต่ที่งงเป็นไก่ตาแตกก็คือทำไมงบมันถึงได้ “บานกระฉูด” ถึง 3 เท่า จากเดิมตั้งเอาไว้แค่ 8 ล้าน ไหงงอกเพิ่มมาเป็น 24 ล้านบาทหน้าตาเฉย แถมคนปูหญ้าก็มาจาก “สวนนงนุช” เจ้าเก่าที่หากย้อนดูประวัติก็มักรับงานจากเครือข่ายพรรคไทยรักไทยเรื่อยมาจนถึงพรรคพลังประชาชน ไม่เคยเปลี่ยน
00 หลายคนยังงงไม่หาย เพราะถ้าดูด้วยสายตาแล้วพื้นที่ปูหญ้า ปรับปรุงต้นไม้มีแค่นิดเดียว หลักๆก็มีอยู่บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้าเท่านั้น เรื่องนี้รับรองว่ามีพิรุธ อย่าให้จับได้นะฮึ่ม ! ว่านอกจากกินอิฐ กินหิน กินทรายแล้วยัง “กินหญ้า” อีกด้วย
00 เรื่องตัวเลขยังถือว่ามีความหมาย เพราะนอกจากมีผลทางด้านงบประมาณและเป็นเงินภาษีของชาวบ้านแล้ว ยังมีผลอีกต่อในเรื่องคดีที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มขึ้นจากพันธมิตรฯในภายหลัง ว่ากันว่าอย่างหลังนี่แหละที่จะพยายามทำให้เป็นประเด็น นะพี่น้อง !!
00 ยังจำได้ แก๊งออฟโฟร์ต้นตำหรับของแท้ในเมืองจีนเมื่อหลายสิบปีก่อนอย่าง “เจียงชิง” ภริยาของท่าน “ประธานเหมา” ที่ในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ใหญ่จนคับ “แผ่นดินใหญ่” มาอยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็ต้องตกจากอำนาจอย่างน่าอนาถ จากนั้นก็มีแก๊งทำนองนี้เกิดขึ้นตามมาเรื่อยๆในหลายประเทศ ล่าสุดในเมืองไทยก็ยังถูกเรียกขานในยุครัฐบาล “สมัคร” ก็ล้วนมีอันเป็นไปพร้อมกับรัฐบาล
00 นี่ก็เริ่มตั้งฉายามีเสียงนินทาขึ้นมาอีกว่าทำตัว “จุ้น” ในการฟอร์มครม. “มาร์ค1” แต่ถ้าดูรายชื่อแต่ละคนก็ไม่อยากพูดให้เสียน้ำใจ ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยน้อย” วิทยา แก้วภราดัย สาทิตย์ วงศ์หนองเตยอัญชลี และ แม่เลี้ยงติ๊กงี้ เพราะถ้าบอกว่าคนพวกนี้มีมีอิทธิพลในการชี้นำเห็นจะยกเครดิตกันเกินไป ถ้าดูศักยภาพแต่ละคนอย่างมากน่าทำได้แค่ “วิ่งเต้น” ให้ตัวเองได้รับเก้าอี้รมต.มากกว่า รู้ทั้งรู้กันอยู่แล้วว่า งานนี้มีแต่ “เทพเทือก” โชว์เดี่ยวล้วนๆ ขนาด “นายหัวชวน” ยังอึ้งกิมกี่ หรือ “ทั่นบัญญัติ” ก็ไปไม่เป็น ต้องกลับไปนอนเลียแผลกบดานเงียบมาสาม-สี่วันแล้ว
00 แต่ที่นี่กลับพิลึกพิลั่นไม่เว้นแต่ละวันหลังจากที่ “กลุ่มพันธมิตรฯ” ยอมถอนออกมาจากทำเนียบฯ มีทั้งเรื่องไสยศาสตร์ เรื่องอาวุธซุกซ่อนมีออกมาไม่เว้นแต่ละวัน แต่โชคยังดีที่ “เฮียจงรัก” ยังหาไม่พบ “ขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์” เท่านั้น แต่ถ้าปล่อยให้เวลาเนิ่นนานไปกว่านี้ก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะยิ่งค้น ยิ่งงมก็ยิ่งเจอมุกแปลกๆอยู่แทบทุกวัน
00 ไม่เว้นแม้กระทั่งงบประมาณในการปรับปรุงฟื้นฟูสนามหญ้า เปลี่ยนแปลงต้นไม้ภายในทำเนียบฯ นัยว่าเพื่อปรับภูมิทัศน์ใหม่เพื่อรับการประชุมซัมมิตอาเซียน แต่ที่งงเป็นไก่ตาแตกก็คือทำไมงบมันถึงได้ “บานกระฉูด” ถึง 3 เท่า จากเดิมตั้งเอาไว้แค่ 8 ล้าน ไหงงอกเพิ่มมาเป็น 24 ล้านบาทหน้าตาเฉย แถมคนปูหญ้าก็มาจาก “สวนนงนุช” เจ้าเก่าที่หากย้อนดูประวัติก็มักรับงานจากเครือข่ายพรรคไทยรักไทยเรื่อยมาจนถึงพรรคพลังประชาชน ไม่เคยเปลี่ยน
00 หลายคนยังงงไม่หาย เพราะถ้าดูด้วยสายตาแล้วพื้นที่ปูหญ้า ปรับปรุงต้นไม้มีแค่นิดเดียว หลักๆก็มีอยู่บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้าเท่านั้น เรื่องนี้รับรองว่ามีพิรุธ อย่าให้จับได้นะฮึ่ม ! ว่านอกจากกินอิฐ กินหิน กินทรายแล้วยัง “กินหญ้า” อีกด้วย
00 เรื่องตัวเลขยังถือว่ามีความหมาย เพราะนอกจากมีผลทางด้านงบประมาณและเป็นเงินภาษีของชาวบ้านแล้ว ยังมีผลอีกต่อในเรื่องคดีที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มขึ้นจากพันธมิตรฯในภายหลัง ว่ากันว่าอย่างหลังนี่แหละที่จะพยายามทำให้เป็นประเด็น นะพี่น้อง !!
