ASTVผู้จัดการรายวัน-เผือกร้อน “พาณิชย์” รอ “พรทิวา” รัฐมนตรีคนใหม่สะสาง ทั้งส่งออกทรุด เกษตรตกต่ำ ค่าครองชีพ การเจรจาการค้า การสะสางผลงานโบว์ดำของอดีตรมว.พาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นการประมูลข้าว ทำรัฐเจ๊งหลายหมื่นล้าน การแต่งตั้งผอ.อคส. คนใหม่ รวมไปถึงการผลักดันกฎหมายค้าปลีก การแก้ไขกฎหมายคนต่างด้าว
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมต่างๆ ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ รวบรวมงานเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ งานที่คั่งค้าง และงานที่ต้องการให้มีการผลักดันต่อ เพื่อทำเป็นประเด็นไว้เสนอให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์คนใหม่พิจารณา และผลักดันให้เป็นผลสำเร็จในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
“มีหลายเรื่องมาก ที่กระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งผลักดันต่อ ทั้งในเรื่องการดูแลราคาสินค้าเกษตร การดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน การผลักดันการส่งออก การเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ยังคั่งค้างอยู่ รวมไปถึงการผลักดัน และการแก้ไขกฎหมายฉบับต่างๆ” นายศิริพลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานสำคัญที่จะเสนอให้รมว.พาณิชย์คนใหม่เร่งดำเนินการคือ การสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประเทศ เพราะขณะนี้ภาพของไทยในสายตาของชาวต่างชาติตกต่ำลงมาก หลังจากมีการปิดสนามบิน ทำให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องทั้งภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ในฐานะที่เป็นกระทรวงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จำเป็นต้องมีมาตรการอย่างเร่งด่วนออกมา
ในด้านการส่งออก มีแนวโน้มว่าจะมีปัญหาชะลอตัวลง จากการที่ประเทศคู่ค้าประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคเอกชนก็มีความกังวลว่าการส่งออกในปีหน้าหลายๆ สินค้าอาจขยายตัวติดลบ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องมีแผนผลักดันการส่งออกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีมาตรการออกมาสนับสนุนผู้ส่งออก
ขณะที่ภาคการเกษตร มีแนวโน้มประสบปัญหาราคาตกต่ำ ที่เป็นไปตามสถานการณ์ตลาดโลก และจะส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน รวมไปถึงผักและผลไม้ ที่กระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องมีมาตรการรับมือเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้คุ้มกับต้นทุนการผลิต ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะต้องมีบทบาทสำคัญในการเสนอแผนงานและวิธีการในการรับมือ
ในด้านการดูแลค่าครองชีพ ที่ขณะนี้กลไกตลาดยังถูกบิดเบือน เพราะหลังจากที่ราคาสินค้าได้ปรับขึ้น โดยอ้างต้นทุนราคาน้ำมันที่เคยขยับขึ้นสูงสุดถึง 140 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันได้ปรับลดลงเหลือประมาณ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ราคาสินค้าก็ยังไม่มีการปรับลดลงมากนัก และในส่วนที่มีการปรับลดลง ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก อาหารสัตว์ น้ำมันพืช ปุ๋ยเคมี แบตเตอรี่ ยางรถยนต์ ก็ปรับลดลงในราคาที่ไม่มากนัก
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาความตกลงการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่กระทรวงพาณิชย์จะต้องเสนอเรื่องผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอีกหลายฉบับ เพื่อให้ไทยลงนามได้ในการประชุมผู้นำอาเซียน รวมถึงเรื่องที่อดีตรมว.พาณิชย์คนเก่าทำไว้ และต้องทำให้เกิดความชัดเจน เช่น การประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่ทำให้รัฐบาลขาดทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่ส่อว่าจะมีการล๊อกสเป็ก การผลักดันกฎหมายค้าปลีก และกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมต่างๆ ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ รวบรวมงานเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ งานที่คั่งค้าง และงานที่ต้องการให้มีการผลักดันต่อ เพื่อทำเป็นประเด็นไว้เสนอให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์คนใหม่พิจารณา และผลักดันให้เป็นผลสำเร็จในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
“มีหลายเรื่องมาก ที่กระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งผลักดันต่อ ทั้งในเรื่องการดูแลราคาสินค้าเกษตร การดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน การผลักดันการส่งออก การเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ยังคั่งค้างอยู่ รวมไปถึงการผลักดัน และการแก้ไขกฎหมายฉบับต่างๆ” นายศิริพลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานสำคัญที่จะเสนอให้รมว.พาณิชย์คนใหม่เร่งดำเนินการคือ การสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประเทศ เพราะขณะนี้ภาพของไทยในสายตาของชาวต่างชาติตกต่ำลงมาก หลังจากมีการปิดสนามบิน ทำให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องทั้งภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ในฐานะที่เป็นกระทรวงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จำเป็นต้องมีมาตรการอย่างเร่งด่วนออกมา
ในด้านการส่งออก มีแนวโน้มว่าจะมีปัญหาชะลอตัวลง จากการที่ประเทศคู่ค้าประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคเอกชนก็มีความกังวลว่าการส่งออกในปีหน้าหลายๆ สินค้าอาจขยายตัวติดลบ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องมีแผนผลักดันการส่งออกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีมาตรการออกมาสนับสนุนผู้ส่งออก
ขณะที่ภาคการเกษตร มีแนวโน้มประสบปัญหาราคาตกต่ำ ที่เป็นไปตามสถานการณ์ตลาดโลก และจะส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน รวมไปถึงผักและผลไม้ ที่กระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องมีมาตรการรับมือเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้คุ้มกับต้นทุนการผลิต ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะต้องมีบทบาทสำคัญในการเสนอแผนงานและวิธีการในการรับมือ
ในด้านการดูแลค่าครองชีพ ที่ขณะนี้กลไกตลาดยังถูกบิดเบือน เพราะหลังจากที่ราคาสินค้าได้ปรับขึ้น โดยอ้างต้นทุนราคาน้ำมันที่เคยขยับขึ้นสูงสุดถึง 140 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันได้ปรับลดลงเหลือประมาณ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ราคาสินค้าก็ยังไม่มีการปรับลดลงมากนัก และในส่วนที่มีการปรับลดลง ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก อาหารสัตว์ น้ำมันพืช ปุ๋ยเคมี แบตเตอรี่ ยางรถยนต์ ก็ปรับลดลงในราคาที่ไม่มากนัก
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาความตกลงการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่กระทรวงพาณิชย์จะต้องเสนอเรื่องผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอีกหลายฉบับ เพื่อให้ไทยลงนามได้ในการประชุมผู้นำอาเซียน รวมถึงเรื่องที่อดีตรมว.พาณิชย์คนเก่าทำไว้ และต้องทำให้เกิดความชัดเจน เช่น การประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่ทำให้รัฐบาลขาดทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่ส่อว่าจะมีการล๊อกสเป็ก การผลักดันกฎหมายค้าปลีก และกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
