รอยเตอร์ – ราคาน้ำมันดิบดำดิ่งลงมาอยู่ไม่ถึง 34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้(19) อันเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี เมื่อภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ยังมีอิทธิพลเหนือความพยายามลดเพดานการผลิตขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของนิวยอร์ก เพื่อการส่งมอบเดือนมกราคม ปิดวันพฤหัสบดี(18) โดยลดลงมา 3.84 ดอลลาร์ ยืนอยู่ที่ 36.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และในระหว่างการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ก่อนตลาดเปิดวานนี้ เมื่อถึงเวลา 11.50 น.เวลาจีเอ็มที (18.50 น.เวลาเมืองไทย) ราคาก็ลบต่ออีก 2.64 ดอลลาร์ อยู่ที่ 33.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยที่ก่อนหน้านั้นมีช่วงหนึ่งแตะที่ 33.44 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาต่ำที่สุดตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2004
ส่วนน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของลอนดอน เพื่อการส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปิดวันพฤหัสบดีที่ 43.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถอยลงมา 2.17 ดอลลาร์ จากนั้นเมื่อวานนี้ ในเวลา 11.50 น.จีเอ็มที ได้ขยับขึ้น 18 เซ็นต์ อยู่ที่ 43.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อเทียบกับช่วงที่ขึ้นไปทำสถิติสูงสุดในระดับ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนกรกฎาคม เวลานี้ราคาน้ำมันก็ได้ดำดิ่งถึงมากว่า 110 ดอลลาร์แล้ว นอกจากนั้น หากคิดเฉพาะสัปดาห์นี้ก็ถือว่ามีการไหลรูดแรงที่สุดเป็นอันดับสองตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา
โจนาธาน คอร์นาเฟล ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชีย แห่งฮัดสัน แคปิตอล เอเนอจี ให้ความเห็นว่า ตราบใดที่พวกผู้ค้าน้ำมันยังไม่เห็นว่าอัตราความต้องการใช้น้ำมันที่หดตัวลงอย่างมาก จะมีการกระเตื้องขึ้นแล้ว ตราบนั้นตลาดก็ยังต้องพยายามอย่างหนักหน่วงเพื่อหาให้เจอว่าราคาจะหล่นกันไปถึงระดับไหนจึงจะหยุดได้
“เมื่อดูจากจุดยืนในเรื่องความน่าเชื่อถือแล้ว โอเปกไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแบกรับความเจ็บปวดกันไปในช่วงสองสามเดือนต่อจากนี้” เขาชี้
ราคาน้ำมันยังคงหล่นฮวบฮาบ ทั้งๆ ที่โอเปกให้คำมั่นสัญญาในการประชุมกลางสัปดาห์นี้ว่า จะตัดลดเพดานการผลิตลงมาอีก 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะเป็นการหั่นลดมากที่สุดเท่าที่องค์การนี้เคยประกาศกันมา
ระหว่างไปประชุมเรื่องน้ำมันที่กรุงลอนดอนวานนี้ อาลี อัล นาอิมี รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียจะผลิตน้ำมันออกมาให้น้อยลงไปอีกในเดือนมกราคม และจะปฏิบัติตามโควตาการผลิตใหม่ตามที่ได้ตกลงไว้ในที่ประชุมโอเปก
เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อทั่วโลกได้ลุกลามส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้นักวิเคราะห์จำนวนมากต่างคาดหมายว่าในปีนี้จะมีความต้องการใช้น้ำมันดิบลดต่ำลงเป็นปีแรกตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา
ยิ่งกว่านั้น นักวิเคราะห์บางรายยังตั้งข้อสงสัยว่า โอเปกซึ่งได้ประกาศตัดลดเพดานการผลิตมา 3 ครั้งตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยได้หั่นลงรวมทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ 5% ของน้ำมันที่ออกมาทั่วโลกแล้วนั้น เอาเข้าจริงพวกประเทศสมาชิกจะมีการปฏิบัติตามสิ่งที่ตกลงกันไว้ขนาดไหน และความไม่เชื่อใจเช่นนี้ก็ยิ่งมีผลทำให้ราคาน้ำมันหล่นลงอีก
“เราเชื่อว่าไม่น่าที่จะมีการปฏิบัติตามข้อตกลงลดการผลิตอย่างเต็มที่หรอก” พวกนักวิเคราะห์ของค่ายโกลด์แมนแซคส์ ระบุไว้ในบทวิเคราะห์ส่งถึงลูกค้า
ขณะที่ประธานโอเปก ชาคิบ เคลิล ซึ่งเป็นรัฐมนตรีน้ำมันของแอลจีเรียด้วย กล่าวที่ลอนดอนวานนี้ว่า เขาเชื่อว่า ราคาน้ำมันได้ลงมาสู่จุดต่ำสุดแล้ว ณ ระดับปัจจุบัน ไม่น่าจะมีการลงต่ำไปกว่านี้แล้ว
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของนิวยอร์ก เพื่อการส่งมอบเดือนมกราคม ปิดวันพฤหัสบดี(18) โดยลดลงมา 3.84 ดอลลาร์ ยืนอยู่ที่ 36.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และในระหว่างการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ก่อนตลาดเปิดวานนี้ เมื่อถึงเวลา 11.50 น.เวลาจีเอ็มที (18.50 น.เวลาเมืองไทย) ราคาก็ลบต่ออีก 2.64 ดอลลาร์ อยู่ที่ 33.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยที่ก่อนหน้านั้นมีช่วงหนึ่งแตะที่ 33.44 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาต่ำที่สุดตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2004
ส่วนน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของลอนดอน เพื่อการส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปิดวันพฤหัสบดีที่ 43.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถอยลงมา 2.17 ดอลลาร์ จากนั้นเมื่อวานนี้ ในเวลา 11.50 น.จีเอ็มที ได้ขยับขึ้น 18 เซ็นต์ อยู่ที่ 43.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อเทียบกับช่วงที่ขึ้นไปทำสถิติสูงสุดในระดับ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนกรกฎาคม เวลานี้ราคาน้ำมันก็ได้ดำดิ่งถึงมากว่า 110 ดอลลาร์แล้ว นอกจากนั้น หากคิดเฉพาะสัปดาห์นี้ก็ถือว่ามีการไหลรูดแรงที่สุดเป็นอันดับสองตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา
โจนาธาน คอร์นาเฟล ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชีย แห่งฮัดสัน แคปิตอล เอเนอจี ให้ความเห็นว่า ตราบใดที่พวกผู้ค้าน้ำมันยังไม่เห็นว่าอัตราความต้องการใช้น้ำมันที่หดตัวลงอย่างมาก จะมีการกระเตื้องขึ้นแล้ว ตราบนั้นตลาดก็ยังต้องพยายามอย่างหนักหน่วงเพื่อหาให้เจอว่าราคาจะหล่นกันไปถึงระดับไหนจึงจะหยุดได้
“เมื่อดูจากจุดยืนในเรื่องความน่าเชื่อถือแล้ว โอเปกไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแบกรับความเจ็บปวดกันไปในช่วงสองสามเดือนต่อจากนี้” เขาชี้
ราคาน้ำมันยังคงหล่นฮวบฮาบ ทั้งๆ ที่โอเปกให้คำมั่นสัญญาในการประชุมกลางสัปดาห์นี้ว่า จะตัดลดเพดานการผลิตลงมาอีก 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะเป็นการหั่นลดมากที่สุดเท่าที่องค์การนี้เคยประกาศกันมา
ระหว่างไปประชุมเรื่องน้ำมันที่กรุงลอนดอนวานนี้ อาลี อัล นาอิมี รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียจะผลิตน้ำมันออกมาให้น้อยลงไปอีกในเดือนมกราคม และจะปฏิบัติตามโควตาการผลิตใหม่ตามที่ได้ตกลงไว้ในที่ประชุมโอเปก
เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อทั่วโลกได้ลุกลามส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้นักวิเคราะห์จำนวนมากต่างคาดหมายว่าในปีนี้จะมีความต้องการใช้น้ำมันดิบลดต่ำลงเป็นปีแรกตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา
ยิ่งกว่านั้น นักวิเคราะห์บางรายยังตั้งข้อสงสัยว่า โอเปกซึ่งได้ประกาศตัดลดเพดานการผลิตมา 3 ครั้งตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยได้หั่นลงรวมทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ 5% ของน้ำมันที่ออกมาทั่วโลกแล้วนั้น เอาเข้าจริงพวกประเทศสมาชิกจะมีการปฏิบัติตามสิ่งที่ตกลงกันไว้ขนาดไหน และความไม่เชื่อใจเช่นนี้ก็ยิ่งมีผลทำให้ราคาน้ำมันหล่นลงอีก
“เราเชื่อว่าไม่น่าที่จะมีการปฏิบัติตามข้อตกลงลดการผลิตอย่างเต็มที่หรอก” พวกนักวิเคราะห์ของค่ายโกลด์แมนแซคส์ ระบุไว้ในบทวิเคราะห์ส่งถึงลูกค้า
ขณะที่ประธานโอเปก ชาคิบ เคลิล ซึ่งเป็นรัฐมนตรีน้ำมันของแอลจีเรียด้วย กล่าวที่ลอนดอนวานนี้ว่า เขาเชื่อว่า ราคาน้ำมันได้ลงมาสู่จุดต่ำสุดแล้ว ณ ระดับปัจจุบัน ไม่น่าจะมีการลงต่ำไปกว่านี้แล้ว
