"โอเปก" ประกาศลดกำลังผลิตลงกว่า 520,000 บาร์เรล ภายใน 40 วัน หวังยุติความปั่นป่วนด้านราคาในตลาดโลก พร้อมกับป้องกันราคาไหลลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาเรล
วันนี้ (10 ก.ย.) สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งมีสมาชิก 13 ประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ ในการประชุมกลุ่มโอเปคที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยมติที่ประชุมระบุว่า โอเปกตกลงจะลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกวันละ 520,000 บาร์เรล ในอีก 40 วันข้างหน้า ตามคำยืนยันของรัฐมนตรีพลังงานแอลจีเรีย ซึ่งเป็นประธานกลุ่มโอเปกคนปัจจุบัน
การตัดสินใจครั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาวุ่นวายในตลาดน้ำมันไม่ให้ปะทุขึ้นมาอีก ขณะเดียวกันก็สะท้อนความพยายามของโอเปกในการปกป้องราคาน้ำมันไม่ให้ขยับลงไปมากกว่านี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปแล้วเกือบ 30% นับตั้งแต่ที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า โอเปกเสียใจต่อกรณี ที่อินโดนีเซียได้ระงับบทบาทการเป็นสมาชิกกลุ่มไปชั่วคราว แต่หวังว่า อินโดนีเซียจะได้กลับเข้ามาเป็นสมาชิกโอเปกอีกครั้งในเร็วๆ นี้
แถลงการณ์ของโอเปก กล่าวถึงข้อตกลงว่ากลุ่มโอเปกจะผลิตน้ำมันที่ระดับ 28.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยนายชากิบ เคลิล รัฐมนตรีน้ำมันแอลจีเรีย ในฐานะประธานโอเปก กล่าวว่า เพดานการผลิตดังกล่าวหมายความว่าประเทศสมาชิกเห็นชอบให้ลดการผลิตที่มากเกินไปลง 520,000 บาร์เรลต่อวัน
สำหรับการตัดสินใจลดการผลิตในครั้งนี้เรียกได้ว่าเหนือความคาดหมาย เนื่องจากก่อนหน้าการประชุม นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวทันทีที่เดินทางถึงกรุงเวียนนา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมว่า ตลาดน้ำมันโลกในขณะนี้อยู่ในภาวะสมดุลดีแล้ว และผลผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนักของโอเปคเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของกลุ่มและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด
นายโมฮัมเหม็ด อับดุลลาห์ อัล-อาลีม รมว.น้ำมันของคูเวต ก็กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่มีความจำเป็นที่โอเปคจะต้องลดการผลิต ส่งผลให้บรรดานักวิเคราห์และเทรดเดอร์คาดการณ์กันว่าโอเปกจะคงระดับการผลิตไว้เท่าเดิม
ด้านนายฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์จาก Alaron Trading Corp. ในชิคาโกกล่าวว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าไอค์และโอเปคไม่ได้สร้างแรงกดดันให้กับอุปทานน้ำมันแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่ราคาน้ำมันจะยังคงเดินหน้าต่อ
วันนี้ (10 ก.ย.) สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งมีสมาชิก 13 ประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ ในการประชุมกลุ่มโอเปคที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยมติที่ประชุมระบุว่า โอเปกตกลงจะลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกวันละ 520,000 บาร์เรล ในอีก 40 วันข้างหน้า ตามคำยืนยันของรัฐมนตรีพลังงานแอลจีเรีย ซึ่งเป็นประธานกลุ่มโอเปกคนปัจจุบัน
การตัดสินใจครั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาวุ่นวายในตลาดน้ำมันไม่ให้ปะทุขึ้นมาอีก ขณะเดียวกันก็สะท้อนความพยายามของโอเปกในการปกป้องราคาน้ำมันไม่ให้ขยับลงไปมากกว่านี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปแล้วเกือบ 30% นับตั้งแต่ที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า โอเปกเสียใจต่อกรณี ที่อินโดนีเซียได้ระงับบทบาทการเป็นสมาชิกกลุ่มไปชั่วคราว แต่หวังว่า อินโดนีเซียจะได้กลับเข้ามาเป็นสมาชิกโอเปกอีกครั้งในเร็วๆ นี้
แถลงการณ์ของโอเปก กล่าวถึงข้อตกลงว่ากลุ่มโอเปกจะผลิตน้ำมันที่ระดับ 28.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยนายชากิบ เคลิล รัฐมนตรีน้ำมันแอลจีเรีย ในฐานะประธานโอเปก กล่าวว่า เพดานการผลิตดังกล่าวหมายความว่าประเทศสมาชิกเห็นชอบให้ลดการผลิตที่มากเกินไปลง 520,000 บาร์เรลต่อวัน
สำหรับการตัดสินใจลดการผลิตในครั้งนี้เรียกได้ว่าเหนือความคาดหมาย เนื่องจากก่อนหน้าการประชุม นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวทันทีที่เดินทางถึงกรุงเวียนนา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมว่า ตลาดน้ำมันโลกในขณะนี้อยู่ในภาวะสมดุลดีแล้ว และผลผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนักของโอเปคเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของกลุ่มและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด
นายโมฮัมเหม็ด อับดุลลาห์ อัล-อาลีม รมว.น้ำมันของคูเวต ก็กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่มีความจำเป็นที่โอเปคจะต้องลดการผลิต ส่งผลให้บรรดานักวิเคราห์และเทรดเดอร์คาดการณ์กันว่าโอเปกจะคงระดับการผลิตไว้เท่าเดิม
ด้านนายฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์จาก Alaron Trading Corp. ในชิคาโกกล่าวว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าไอค์และโอเปคไม่ได้สร้างแรงกดดันให้กับอุปทานน้ำมันแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่ราคาน้ำมันจะยังคงเดินหน้าต่อ
