เอเอฟพี - ราคาน้ำมันในตลาดโลกดีดกลับขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้ (10) หลังจากโอเปกตัดสินใจแบบเซอร์ไพรซ์ตลาด ที่จะลดกำลังการผลิตลงครึ่งล้านบาร์เรลต่อวัน ด้วยเหตุผลว่าเพื่อสกัดกั้นราคาที่ตกฮวบลงมา
หลังจากองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)ประชุมกันมาตั้งแต่วันอังคาร(9)ที่กรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย ในเช้าวานนี้ก็มีประกาศการตัดสินใจลดการผลิตออกมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ที่ร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลเมื่อวันอังคาร (9) สามารถดีดกลับขึ้นมา
ทั้งนี้น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ เพื่อการส่งมอบเดือนตุลาคม ที่ซื้อขายกันผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดเอเชียวานนี้ ขึ้นมา 1.41 เซนต์อยู่ที่ 104.67 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือเพิ่มขึ้น 1.06 เซนต์มาอยู่ที่ 101.40 ดอลลาร์
ชาคิบ เคลิล รัฐมนตรีพลังงานแอลจีเรีย ซึ่งอยู่ในตำแหน่งของประธานโอเปก แถลงตอนเช้าวานนี้ว่า การลดกำลังการผลิตดังกล่าวเกิดขึ้นทันที
"หากว่าคุณลองคำนวณดู ก็เท่ากับลดกำลังการผลิตลง 520,000 บาร์เรลต่อวัน" เคลิลกล่าวขณะประกาศว่าเพดานกำลังการผลิตใหม่จะเป็น 28.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในขณะเดียวกันสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ไออีเอ ก็ตัดลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปีนี้และปีหน้าลง เพราะว่าผู้บริโภคของประเทศนำเข้ารายใหญ่อย่างเช่นสหรัฐฯ กำลังต้องรัดเข็มขัดเพราะเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่
ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมโอเปกครั้งนี้ ซามูเอล บอดแมน รัฐมนตรีพลังงานของสหรัฐฯได้เรียกร้องให้บรรดาผู้ผลิตป้อนน้ำมันเข้าตลาดต่อไปเพื่อรักษาปริมาณให้สมดุล
อย่างไรก็ตาม อับดุลเลาะห์ อัล บาดรี เลขาธิการของโอเปกยืนยันว่า "สหรัฐฯอาจจะสามารถสั่งบริษัทของตนเองให้ทำตามได้ แต่ไม่สามารถจะสั่งโอเปกได้"
เมื่อวันอังคารก่อนหน้าที่จะมีการประชุมรัฐมนตรีน้ำมันโอเปก ราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา
การลดกำลังการผลิตของโอเปกนับเป็นการหักปากกาเซียนครั้งใหญ่เพราะบรรดานักวิเคราะห์ทุกสำนักคาดกันว่าโอเปกจะคงเพดานการผลิตเดิมไว้ แต่ก็จะมีข้อตกลงลับ ๆที่ให้ประเทศที่เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นไปจนเกินโควตาของพวกตนก่อนหน้านี้ อย่างเช่น ซาอุดีอาระเบีย ต้องลดกำลังการผลิตมา
ดังนั้นจึงทำให้หลายฝ่ายมองว่าการประกาศลดกำลังการผลิตครั้งนี้เป็นการใช้ยาแรงกว่าที่คาด ซึ่งสมาชิกก็เห็นพ้องต้องกันทุกประเทศ ทั้งนี้เพดานการผลิตที่กำหนดใหม่นี้ ไม่นับรวมโควตาของอิรักและอินโดนีเซีย โดยเฉพาะอินโดนีเซียนั้น ได้ทำเรื่องขอออกจากโอเปก เพราะกลายเป็นชาติผู้นำเข้าสุทธิเสียแล้ว และที่ประชุมโอเปกคราวนี้ได้อนุมัติการลาออกอย่างเป็นทางการ
โอเปกอธิบายการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเนื่องจากบรรยากาศในตลาดน้ำมันเปลี่ยนไปอย่างมากเพราะว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง, เงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น, สถานการณ์ตึงเครียดระดับโลกต่าง ๆก็ลดลง และปริมาณน้ำมันในตลาดที่เพิ่มขึ้น
การตัดสินใจครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะตรงข้ามกับสิ่งที่ซาอุดีอาระเบียหวังเอาไว้เพราะก่อนหน้าการประชุม โดยซาอุดีอาระเบียออกมาแสดงท่าทีว่าไม่อยากลดกำลังการผลิต อีกทั้งรับได้ที่ราคาน้ำมันจะลงไปอยู่ที่ระดับราว 80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ผลการประชุมที่ออกมาจึงแสดงให้เห็นว่าเสียงของสมาชิกสายเหยี่ยวอย่างอิหร่าน และเวเนซุเอลา ที่ต้องการให้น้ำมันมีราคาเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อไป ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นจนเป็นฝ่ายชนะ
หลังจากองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)ประชุมกันมาตั้งแต่วันอังคาร(9)ที่กรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย ในเช้าวานนี้ก็มีประกาศการตัดสินใจลดการผลิตออกมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ที่ร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลเมื่อวันอังคาร (9) สามารถดีดกลับขึ้นมา
ทั้งนี้น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ เพื่อการส่งมอบเดือนตุลาคม ที่ซื้อขายกันผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดเอเชียวานนี้ ขึ้นมา 1.41 เซนต์อยู่ที่ 104.67 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือเพิ่มขึ้น 1.06 เซนต์มาอยู่ที่ 101.40 ดอลลาร์
ชาคิบ เคลิล รัฐมนตรีพลังงานแอลจีเรีย ซึ่งอยู่ในตำแหน่งของประธานโอเปก แถลงตอนเช้าวานนี้ว่า การลดกำลังการผลิตดังกล่าวเกิดขึ้นทันที
"หากว่าคุณลองคำนวณดู ก็เท่ากับลดกำลังการผลิตลง 520,000 บาร์เรลต่อวัน" เคลิลกล่าวขณะประกาศว่าเพดานกำลังการผลิตใหม่จะเป็น 28.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในขณะเดียวกันสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ไออีเอ ก็ตัดลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปีนี้และปีหน้าลง เพราะว่าผู้บริโภคของประเทศนำเข้ารายใหญ่อย่างเช่นสหรัฐฯ กำลังต้องรัดเข็มขัดเพราะเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่
ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมโอเปกครั้งนี้ ซามูเอล บอดแมน รัฐมนตรีพลังงานของสหรัฐฯได้เรียกร้องให้บรรดาผู้ผลิตป้อนน้ำมันเข้าตลาดต่อไปเพื่อรักษาปริมาณให้สมดุล
อย่างไรก็ตาม อับดุลเลาะห์ อัล บาดรี เลขาธิการของโอเปกยืนยันว่า "สหรัฐฯอาจจะสามารถสั่งบริษัทของตนเองให้ทำตามได้ แต่ไม่สามารถจะสั่งโอเปกได้"
เมื่อวันอังคารก่อนหน้าที่จะมีการประชุมรัฐมนตรีน้ำมันโอเปก ราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา
การลดกำลังการผลิตของโอเปกนับเป็นการหักปากกาเซียนครั้งใหญ่เพราะบรรดานักวิเคราะห์ทุกสำนักคาดกันว่าโอเปกจะคงเพดานการผลิตเดิมไว้ แต่ก็จะมีข้อตกลงลับ ๆที่ให้ประเทศที่เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นไปจนเกินโควตาของพวกตนก่อนหน้านี้ อย่างเช่น ซาอุดีอาระเบีย ต้องลดกำลังการผลิตมา
ดังนั้นจึงทำให้หลายฝ่ายมองว่าการประกาศลดกำลังการผลิตครั้งนี้เป็นการใช้ยาแรงกว่าที่คาด ซึ่งสมาชิกก็เห็นพ้องต้องกันทุกประเทศ ทั้งนี้เพดานการผลิตที่กำหนดใหม่นี้ ไม่นับรวมโควตาของอิรักและอินโดนีเซีย โดยเฉพาะอินโดนีเซียนั้น ได้ทำเรื่องขอออกจากโอเปก เพราะกลายเป็นชาติผู้นำเข้าสุทธิเสียแล้ว และที่ประชุมโอเปกคราวนี้ได้อนุมัติการลาออกอย่างเป็นทางการ
โอเปกอธิบายการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเนื่องจากบรรยากาศในตลาดน้ำมันเปลี่ยนไปอย่างมากเพราะว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง, เงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น, สถานการณ์ตึงเครียดระดับโลกต่าง ๆก็ลดลง และปริมาณน้ำมันในตลาดที่เพิ่มขึ้น
การตัดสินใจครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะตรงข้ามกับสิ่งที่ซาอุดีอาระเบียหวังเอาไว้เพราะก่อนหน้าการประชุม โดยซาอุดีอาระเบียออกมาแสดงท่าทีว่าไม่อยากลดกำลังการผลิต อีกทั้งรับได้ที่ราคาน้ำมันจะลงไปอยู่ที่ระดับราว 80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ผลการประชุมที่ออกมาจึงแสดงให้เห็นว่าเสียงของสมาชิกสายเหยี่ยวอย่างอิหร่าน และเวเนซุเอลา ที่ต้องการให้น้ำมันมีราคาเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อไป ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นจนเป็นฝ่ายชนะ
