เอกชนท่องเที่ยวไปกันใหญ่ แนะ ททท.จีบนายกฯ “มาร์ค “ เป็นพรีเซ็นเตอร์ โปรโมทท่องเที่ยวไทยในตลาดต่างประเทศ หวังเรียกความเชื่อมั่นกลับแบบเร่งด่วน ด้าน “พรศิริ”อ้ำอึ้ง แนะแค่ช่วยพูดผ่านสื่อต่างประเทศยืนยันประเทศไทยพร้อมต้อนรับก็น่าจะเพียงพอ
วานนี้(18ธ.ค.51) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนที่ทำตลาดท่องเที่ยวย่านเอเชีย นายสรรเสริญ เงารังษี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและโอเชเนีย ททท. กล่าว หลัง การประชุมว่า ผู้ประกอบการตลาด ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ฯลฯ เสนอแนวคิดให้ทาบทาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นพรีเซ็นเตอร์ ของการประชาสัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นให้ชาวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย
ทั้งนี้เพราะ ในเวลานี้ ต่างชาติต้องการความเชื่อมั่น ดังนั้น หาก ได้นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวเป็นการยืนยันด้านความสนุกและปลอดภัย จะสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในตลาดที่อ่อนไหว อย่าง จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี
จากแนวคิดดังกล่าว จะต้องเสนอให้ นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. ตัดสินใจ รวมถึงต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการททท.(บอร์ด)ให้พิจารณาเห็นชอบด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการประชุม หารือ พบว่า เอกชนมีการรายงานสถานการณ์ความคืบหน้า โดยล่าสุด นักท่องเที่ยวในหลายตลาด เริ่มกลับมาบุ๊คกิ้งแล้ว เช่น ตลาดเกาหลี เป็นเพราะ เขาเริ่มเกิดความเชื่อมั่นในประเทศไทยอีกครั้งภายหลังการมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
“ขณะนี้ ททท.อยู่ระหว่างการรวบรวมปัญหาและผลกระทบ เพื่อจัดความสำคัญในการแก้ปัญหา โดยแบ่งเป็น ระยะเร่งด่วน ปานกลาง และ ระยะยาว “
ล่าสุดแผนเร่งด่วนที่จะดำเนินการ คือ จัดแฟมทริป เชิญสื่อจากประเทศโซนเอเชียตะวันออก มาเที่ยวประเทศไทยจำนวน 400 คน ทยอยกันมาเป็นกลุ่มๆ เช่น ปัจจุบัน สื่อจากญี่ปุ่น เกือบ 40 คน ได้ทยอดเดินทางมาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวแล้ว
ทางด้านนางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องของแนวคิดที่จะเชิญนายกรัฐมนตรีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมทการท่องเที่ยวให้แก่ ททท. แต่ในความเป็นจริง คาดว่า อาจไม่ต้องทำถึงขั้นนั้น เพียงแต่ให้ นายกรัฐมนตรี ประกาศผ่านสื่อทั้งในและต่างประเทศ ว่า ไทยมีความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว ก็สามารถสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมาได้
ส่วนแผนงานโรดโชว์ ททท.มีแผนจับมือกับ บริษัท ซีจีแซดแอล ประเทศจีน ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวชั้นนำ มีสาขากว่า 200 สาขา ในจีน ออกเดินสายโรดโชว์ ที่ ที่มณฑลกวางโจว ระหว่างวันที่ 2-4 ม.ค.52 โดยจะใช้เวทีนี้เรียกความเชื่อมั่นจากตลาดจีนให้กลับคืนมา
วานนี้(18ธ.ค.51) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนที่ทำตลาดท่องเที่ยวย่านเอเชีย นายสรรเสริญ เงารังษี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและโอเชเนีย ททท. กล่าว หลัง การประชุมว่า ผู้ประกอบการตลาด ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ฯลฯ เสนอแนวคิดให้ทาบทาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นพรีเซ็นเตอร์ ของการประชาสัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นให้ชาวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย
ทั้งนี้เพราะ ในเวลานี้ ต่างชาติต้องการความเชื่อมั่น ดังนั้น หาก ได้นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวเป็นการยืนยันด้านความสนุกและปลอดภัย จะสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในตลาดที่อ่อนไหว อย่าง จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี
จากแนวคิดดังกล่าว จะต้องเสนอให้ นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. ตัดสินใจ รวมถึงต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการททท.(บอร์ด)ให้พิจารณาเห็นชอบด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการประชุม หารือ พบว่า เอกชนมีการรายงานสถานการณ์ความคืบหน้า โดยล่าสุด นักท่องเที่ยวในหลายตลาด เริ่มกลับมาบุ๊คกิ้งแล้ว เช่น ตลาดเกาหลี เป็นเพราะ เขาเริ่มเกิดความเชื่อมั่นในประเทศไทยอีกครั้งภายหลังการมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
“ขณะนี้ ททท.อยู่ระหว่างการรวบรวมปัญหาและผลกระทบ เพื่อจัดความสำคัญในการแก้ปัญหา โดยแบ่งเป็น ระยะเร่งด่วน ปานกลาง และ ระยะยาว “
ล่าสุดแผนเร่งด่วนที่จะดำเนินการ คือ จัดแฟมทริป เชิญสื่อจากประเทศโซนเอเชียตะวันออก มาเที่ยวประเทศไทยจำนวน 400 คน ทยอยกันมาเป็นกลุ่มๆ เช่น ปัจจุบัน สื่อจากญี่ปุ่น เกือบ 40 คน ได้ทยอดเดินทางมาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวแล้ว
ทางด้านนางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องของแนวคิดที่จะเชิญนายกรัฐมนตรีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมทการท่องเที่ยวให้แก่ ททท. แต่ในความเป็นจริง คาดว่า อาจไม่ต้องทำถึงขั้นนั้น เพียงแต่ให้ นายกรัฐมนตรี ประกาศผ่านสื่อทั้งในและต่างประเทศ ว่า ไทยมีความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว ก็สามารถสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมาได้
ส่วนแผนงานโรดโชว์ ททท.มีแผนจับมือกับ บริษัท ซีจีแซดแอล ประเทศจีน ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวชั้นนำ มีสาขากว่า 200 สาขา ในจีน ออกเดินสายโรดโชว์ ที่ ที่มณฑลกวางโจว ระหว่างวันที่ 2-4 ม.ค.52 โดยจะใช้เวทีนี้เรียกความเชื่อมั่นจากตลาดจีนให้กลับคืนมา