บอร์ด ททท.ขอดูนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ ประกอบการทำแผนของบกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในภาวะวิกฤต หวังของบ 1,900 ล้านบาท ช่วยพลิกสถานการณ์ ด้านตลาดในประเทศ ได้ “เบิร์ด ธงไชย” จากค่ายแกรมมี่ พร้อมแถมอีก 4 ศิลปินในค่าย ร่วมโปรโมต ตอกย้ำความมั่นใจ โกยนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศได้ 84 ล้านคนครั้ง ตามเป้าหมาย
นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดเห็นตรงกันว่า จะรอรับฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ก่อน เพื่อนำมาเป็นข้อมูล ประกอบการจัดทำแผนกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในภาวะวิกฤต ขณะเดียวกัน ระหว่างนี้ก็สั่งการให้ทุกสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศเก็บข้อมูลเป็นรายตลาด ว่า นักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยว มีทัศนคติอย่างไรกับประเทศไทยบ้าง หลังเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนั้น ยังสั่งชะลอแผนประชาสัมพันธ์ในตลาดต่างประเทศเอาไว้ก่อน แต่ใช้เวลาช่วยนี้เก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด เพื่อนำมาวิเคราะห์ เพราะปัจจัยลบจากนี้ไป ไม่ใช่แค่ผลกระทบจากการปิดสนามบิน แต่ ผลกระทบจากวิกฤตซัพไพร์มในสหรัฐอเมริกา กำลังเริ่มเห็นผลในประเทศต่างๆ จึงต้องวิเคราะห์ตลาดให้แม่นยำ ว่า จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น ทำให้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปหรือไม่อย่างไร
“เราจะนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลผล เพื่อกำหนดเป็นแผน ซึ่งจะต้องเสร็จพร้อมนำเข้าที่ประชุมบอร์ดครั้งหน้า ในวันที่ 15 ม.ค.2552 ให้พิจารณาก่อนนำเสนอต่อกระทรวงการท่องเที่ยว ฯ เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาของบประมาณวงเงิน 1,900 ล้านบาท มาใช้ในการกระตุ้นตลาดกู้สถานการณ์ในครั้งนี้”
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ มีการประเมินว่า อาจได้เท่ากับปี 2550 คือ 14.464 ล้านคน จากที่ตั้งเป้าว่าจะได้นักท่องเที่ยวทั้งปีที่ 15.7 ล้านคน ซึ่งเป็นเพราะ ปัจจัยลบ ทางการเมือง ในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นทำให้ ปี 2552 ที่ตั้งเป้าว่าจะเติบโต 5% จากเป้าหมายปีนี้ หรือ 16 ล้านคน ก็จะปรับลดเหลือ 15.183 ล้านคน ตามฐานนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป
***จ้างเบิร์ดกระตุ้นคนไทยเที่ยว***
ทางด้าน นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับ ตลาดในประเทศ เน้นเรื่องการจัดกิจกรรม เพื่อกระตุ้นให้ตลาดคนไทยเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดว่าจ้าง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ วงเงิน 62 ล้านบาท โดยเลือก ซูเปอร์สตาร์ “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ โครงการ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” วงเงินดังกล่าว แบ่งเป็นค่าตัวศิลปิน 20 ล้านบาท ส่วนอีก 42 ล้านบาท เป็นค่าดำเนินงาน ซึ่งทาง แกรมมี่ จะต้องจัดทำหนังโฆษณา, แต่งเพลงพร้อมมิวสิกวิดีโอ และเป็นพรีเซ็นเตอร์ในโครงการประกวดภาพถ่าย พร้อมเดินสายประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้คนไทยเดินทางเที่ยว
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ททท.ทำสัญญากับบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากเดือนมกราคม 2552 ซึ่ง ทางแกรมมี่ จะต้องทำงานร่วมกับ บริษัท ลีโอเบอร์เนทท์ ซึ่งเป็นเอเยนซี่ที่ทำประชาสัมพันธ์ให้กับ ททท.อยู่แล้ว โดยทั้ง 2 บริษัท จะร่วมกันทำงานแบบบูรณาการ
“การเซ็นสัญญาครั้งนี้ แกรมมี่ ยังให้ศิลปินในสังกัดอีก 4 คน มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ โปรโมตท่องเที่ยวไทยในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเบื้องต้น น่าจะเป็น นัท มีเรีย ซึ่งจะนำมาช่วยโปรโมตท่องเที่ยวภาคใต้ เป็นต้น”
อย่างไรก็ตาม ตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ ททท.ยังมั่นใจว่า จะทำได้ตามเป้าหมาย คือ ปีนี้ 83 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้หมุนเวียน 4.2 แสนล้านบาท และปีหน้า ตั้งเป้า 84 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 4.41 แสนล้านบาท ซึ่งเชื่อว่า การใช้ เบิร์ด ธงไชย” เป็นพรีเซ็นเตอร์ร่วมโปรโมตนี้ จะตอกย้ำ ให้ ททท.ได้นักท่องเที่ยวตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดเห็นตรงกันว่า จะรอรับฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ก่อน เพื่อนำมาเป็นข้อมูล ประกอบการจัดทำแผนกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในภาวะวิกฤต ขณะเดียวกัน ระหว่างนี้ก็สั่งการให้ทุกสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศเก็บข้อมูลเป็นรายตลาด ว่า นักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยว มีทัศนคติอย่างไรกับประเทศไทยบ้าง หลังเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนั้น ยังสั่งชะลอแผนประชาสัมพันธ์ในตลาดต่างประเทศเอาไว้ก่อน แต่ใช้เวลาช่วยนี้เก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด เพื่อนำมาวิเคราะห์ เพราะปัจจัยลบจากนี้ไป ไม่ใช่แค่ผลกระทบจากการปิดสนามบิน แต่ ผลกระทบจากวิกฤตซัพไพร์มในสหรัฐอเมริกา กำลังเริ่มเห็นผลในประเทศต่างๆ จึงต้องวิเคราะห์ตลาดให้แม่นยำ ว่า จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น ทำให้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปหรือไม่อย่างไร
“เราจะนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลผล เพื่อกำหนดเป็นแผน ซึ่งจะต้องเสร็จพร้อมนำเข้าที่ประชุมบอร์ดครั้งหน้า ในวันที่ 15 ม.ค.2552 ให้พิจารณาก่อนนำเสนอต่อกระทรวงการท่องเที่ยว ฯ เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาของบประมาณวงเงิน 1,900 ล้านบาท มาใช้ในการกระตุ้นตลาดกู้สถานการณ์ในครั้งนี้”
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ มีการประเมินว่า อาจได้เท่ากับปี 2550 คือ 14.464 ล้านคน จากที่ตั้งเป้าว่าจะได้นักท่องเที่ยวทั้งปีที่ 15.7 ล้านคน ซึ่งเป็นเพราะ ปัจจัยลบ ทางการเมือง ในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นทำให้ ปี 2552 ที่ตั้งเป้าว่าจะเติบโต 5% จากเป้าหมายปีนี้ หรือ 16 ล้านคน ก็จะปรับลดเหลือ 15.183 ล้านคน ตามฐานนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป
***จ้างเบิร์ดกระตุ้นคนไทยเที่ยว***
ทางด้าน นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับ ตลาดในประเทศ เน้นเรื่องการจัดกิจกรรม เพื่อกระตุ้นให้ตลาดคนไทยเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดว่าจ้าง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ วงเงิน 62 ล้านบาท โดยเลือก ซูเปอร์สตาร์ “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ โครงการ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” วงเงินดังกล่าว แบ่งเป็นค่าตัวศิลปิน 20 ล้านบาท ส่วนอีก 42 ล้านบาท เป็นค่าดำเนินงาน ซึ่งทาง แกรมมี่ จะต้องจัดทำหนังโฆษณา, แต่งเพลงพร้อมมิวสิกวิดีโอ และเป็นพรีเซ็นเตอร์ในโครงการประกวดภาพถ่าย พร้อมเดินสายประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้คนไทยเดินทางเที่ยว
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ททท.ทำสัญญากับบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากเดือนมกราคม 2552 ซึ่ง ทางแกรมมี่ จะต้องทำงานร่วมกับ บริษัท ลีโอเบอร์เนทท์ ซึ่งเป็นเอเยนซี่ที่ทำประชาสัมพันธ์ให้กับ ททท.อยู่แล้ว โดยทั้ง 2 บริษัท จะร่วมกันทำงานแบบบูรณาการ
“การเซ็นสัญญาครั้งนี้ แกรมมี่ ยังให้ศิลปินในสังกัดอีก 4 คน มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ โปรโมตท่องเที่ยวไทยในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเบื้องต้น น่าจะเป็น นัท มีเรีย ซึ่งจะนำมาช่วยโปรโมตท่องเที่ยวภาคใต้ เป็นต้น”
อย่างไรก็ตาม ตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ ททท.ยังมั่นใจว่า จะทำได้ตามเป้าหมาย คือ ปีนี้ 83 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้หมุนเวียน 4.2 แสนล้านบาท และปีหน้า ตั้งเป้า 84 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 4.41 แสนล้านบาท ซึ่งเชื่อว่า การใช้ เบิร์ด ธงไชย” เป็นพรีเซ็นเตอร์ร่วมโปรโมตนี้ จะตอกย้ำ ให้ ททท.ได้นักท่องเที่ยวตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน