“อภิสิทธิ์” เผย ปชป.เปิดกว้างรับ ส.ส.ต่างพรรค แต่ต้องมีจุดยืนเดียวกัน แนะทบทวนก่อนตัดสินใจทางการเมือง ชี้ รัฐบาลใหม่ต้องเข้าใจปัญหาวิกฤต มีอำนาจอย่างแท้จริง พร้อมรับผิดชอบ ไม่สร้างเงื่อนไขเพื่อให้เกิดความขัดแย้ง และปกป้อง ผลประโยชน์ใครบางคน
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่เกิดขึ้น หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบ 3 พรรคการเมือง ว่า ขณะนี้สิ่งที่ทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ คือ การเปลี่ยนแปลงตามกรอบรัฐธรรมนูญ ไม่ควรเสนอปัญหาความขัดแย้ง หรือประเด็นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งขณะนี้สถานการณ์เดินหน้ารอเพียงการประชุมสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี เห็นได้จากรักษาการนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการยุบสภา ดังนั้น เมื่อเดินหน้าเลือกนายกฯ จึงอยากให้ ส.ส.ทุกคน ได้กลับไปคิดทบทวนปัญหาวิกฤตที่เกิดขึ้น และให้เปิดใจกว้าง เชื่อว่า บ้างคนอาจจะมีความรู้สึกต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่นี่คือ ทางออกของบ้านเมือง จึงอยากให้ทุกคนไดขบคิดปัญหาที่เกิดขึ้น
“ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล แต่จะต้องรับรู้ และเรียนรู้ปัญหาที่ผ่านมา ว่า เกิดจากอะไร รัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ถึงจะแก้วิกฤตได้ และต้องคำนึงถึงปัญหาของประเทศ ไม่ใช่แก้วิกฤตเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ต้องเข้าใจสถานการณ์ของประเทศ และสร้างความปรองดอง ให้ชาติเดินหน้าต่อไปให้ได้ ที่สำคัญ รัฐบาลจะต้องเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจอย่างแท้จริง มีความรับผิดชอบ นำพาชาติเดินไปข้างหน้าได้ ใส่ใจปัญหาของประชาชน มากกว่าเรื่องของการเมือง ซึ่งถ้ารัฐบาลทำเช่นนี้ได้ วิกฤตของชาติจะคลี่คลาย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยุบสภา และการเดินหน้าเลือกนายกฯ แนวทางใดเป็นทางออกที่ดีที่สุด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การยุบสภาน่าจะเป็นวิธีการที่ทำให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เป็นที่ยอมรับของประชาชนได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาล และแม้ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าเลือกผู้นำต่อไป แต่คนที่จะมาเป็นผู้นำ ต้องเข้าใจปัญหาของประเทศ ว่า 1 ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น เพื่อนำพาบ้านเมืองไปข้างหน้า โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ต่างชาติให้ความสนใจเป้นอย่างมาก ซึ่งสื่อต่างประเทศก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมากในเรื่องการแก้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น ผู้นำจะต้องไม่สร้างเงื่อนไนความขัดแย้งในสังคมขึ้นมารอบใหม่
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังเร็วเกินไป เพราะขณะนี้ต้องรอให้ ส.ส.ที่ถูกตัดสิทธิ์ยุบพรรค ได้มีเวลาคิดทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น และเข้าใจความเป็นไปของบ้านเมือง ก่อนตัดสินอนาคตทางการเมือง ซึ่งพรรคก็เปิดกว้างสำหรับทุกคน แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไข และจุดยื่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์