xs
xsm
sm
md
lg

เตือนแฟนหนังโรแมนติกคอมเมดี้ หลงใหลใฝ่ฝันวาดวิมานในอากาศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลายคนคงคิดว่าหนังโรแมนติกคอมเมดี้เป็นตัวเลือกสุดเพอร์เฟ็กต์สำหรับนัดแรก แต่ผลวิจัยล่าสุดกลับพบว่า หนังแนวนี้อาจทำให้ชีวิตรักของคุณมีปัญหา
เพราะแทนที่จะเป็นความบันเทิงไร้พิษภัย แต่ภาพยนตร์รักตลก ไม่ว่าจะเป็น ‘นอตติ้งฮิลล์’ หรือ ‘บริดเจต โจนส์ ไดอะรี่’ กลับทำให้คนดูมีความคาดหวังผิดๆ กับความสัมพันธ์ในชีวิตจริง
นักวิจัยพบว่า คนที่ดูหนังโรแมนติกคอมเมดี้มีแนวโน้มเชื่อในบุพเพสันนิวาสมากกว่าคนที่ชอบดูหนังแนวอื่น และยังมีแนวโน้มเชื่อว่าความสัมพันธ์จะสมบูรณ์พร้อมสำเร็จรูป ทำนองว่ารักกันแล้ว แค่มองตาก็รู้ใจ ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก ซึ่งในความเป็นจริงจะนำไปสู่ปัญหาในการสื่อสารกับคนรัก
งานวิจัยยังพบว่า แค่ดูหนังรักตลกเรื่องเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทัศนคติของคนเราต่อเรื่องรักโรแมนติกเปลี่ยนไปได้
“เราไม่ได้คิดจะขัดขวางความบันเทิง และไม่ได้บอกว่าไม่ควรดูหนังรักตลก แต่เรากำลังจะบอกว่าจะเป็นการดีกว่าถ้าคนที่ดูหนังแนวนี้เข้าใจสาระของหนังอย่างถูกต้อง เพราะปัญหาก็คือ แม้คนส่วนใหญ่รู้ว่าความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบในหนังเป็นเรื่องเกินจริง แต่หลายคนยังถูกโน้มน้าวโดยไม่รู้ตัวจากตัวละครในภาพยนตร์” ดร.บีฌาน โฮล์มส ผู้นำการวิจัยจากศูนย์วิจัยด้านครอบครัวและความสัมพันธ์ส่วนบุคคล มหาวิทยาลัยเฮอเรียตวัตต์ ในสก็อตแลนด์ อธิบาย
ในการทดลองส่วนแรก ดร.โฮล์มส์และทีมนักวิจัยได้ศึกษาหนังที่ติดอันดับบ็อกซ์ออฟฟิศ 40 เรื่องตั้งแต่ปี 1995-2005 อาทิ ‘นอตติ้ง ฮิลล์’, ‘ยู ก็อต เมล’, ‘เดอะ เว็ดดิ้ง แพลนเนอร์’, ‘เมด อิน แมนฮัตตัน’ และ ‘วาย ยู เวอร์ สลีปปิ้ง’
ทีมนักวิจัยพบว่า หนังโรแมนติกคอมเมดี้ส่วนใหญ่ให้ภาพหนุ่มสาวที่ตกหลุมรักกันทันที และโหมกระพือความเชื่อของพรหมลิขิตและเรื่องของคู่แท้ที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวในโลกนี้ นอกจากนั้น คนที่ดูหนังแนวนี้ยังมีแนวโน้มให้อภัยแฟนที่นอกใจมากกว่าในชีวิตจริง
“หนังรักตลกมักบอกเล่าเรื่องราวของโชคชะตาและพรหมลิขิต ที่คนรักกันจะเข้าใจกันได้ทันที ซึ่งหากคุณเชื่อแบบนั้นจริงๆ เท่ากับว่าคุณกำลังจะทำให้ตัวเองผิดหวังอย่างแรง” ดร.โฮล์มส์เตือน
ในการทดลองส่วนที่สอง ดร.โฮล์มส์ขอให้นักศึกษา 100 คนดูภาพยนตร์เรื่อง ‘เซเรนดิพิตี้’ นำแสดงโดยเคต เบกคินเซล และจอห์น คูแซ็ก และออกฉายเมื่อปี 2001 ขณะที่นักศึกษาอีก 100 คนดูหนังดรามาของเดวิด ลินช์
ในแบบสอบถามหลังหนังจบ พบว่านักศึกษาที่ดูหนังโรแมนติกคอมเมดี้มีแนวโน้มเชื่อในโชคชะตาและพรหมลิขิตมากกว่าคนที่ดูหนังชีวิตหนักอึ้ง
ขณะที่การทดลองขั้นที่สามพบว่า แฟนพันธุ์แท้หนังรักตลกเชื่อในบุพเพสันนิวาสมากกว่าคนที่ดูหนังแนวอื่น
คิมเบอร์ลี จอห์นสัน นักวิจัยในทีมนี้สำทับว่า “หนังมักสร้างความตื่นเต้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ใหม่ๆ แต่ให้ข้อมูลผิดๆ ว่ารักแท้ที่ไม่มีวันแปรผันเกิดขึ้นทันทีตั้งแต่แรกพบ ทั้งที่ความรู้สึกแบบนี้ต้องใช้เวลาสร้างสมกันเป็นปี”
อนึ่ง ขณะนี้ ทีมนักวิจัยกำลังเริ่มต้นการศึกษาออนไลน์ในหัวข้อสื่อและสัมพันธภาพ โดยขอให้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมการวิจัยตอบคำถามเกี่ยวกับบุคลิกภาพ ความสัมพันธ์ และพฤติกรรมการบริโภคสื่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น