00 ถือว่าเวลานี้เกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้วสำหรับ “หนุ่มมาร์ค” อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย หลังจากชนะเสียงโหวตในสภา 235 ต่อ 198 คะแนน จนถอนหายใจกันไปเฮือกใหญ่ และงานนี้คนที่ “สมใจอยาก” ยิ้มจนเหงือกบานมากที่สุดอีกคนหนึ่งเห็นจะไม่มีใครเกิน “กำนันสุเทพ” นั่นแหละ
00 ว่ากันว่าถ้าผลออกมากลับตาลปัตรเห็นทีพลพรรค “แม่ธรณี” จะต้องแถกเหงือกรอไปอีกนานแค่ไหนยังไม่มีใครรู้ ไม่มีใครตอบได้ เพราะถ้าพิจารณาตามความเป็นจริงแล้ว หากไม่สามารถเข้ามาควบคุมอำนาจรัฐเอาไว้ในมือโอกาสที่จะสร้างความ “สมดุล” ทางการเมืองนับจากนี้ไปทุกอย่างก็แทบจะเป็นศูนย์ รู้ทั้งรู้ว่าตลอด 7-8 ปี “ระบอบทักษิณ” ได้สร้างเครือข่าย วางตัวบุคคลเอาไว้เป็น “ใยแมงมุม” ครอบคลุมทั่วไปหมด ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง ข้าราชการตั้งแต่ระดับหัวแถวยันท้ายแถวเต็มพรึด นี่ยังไม่นับพวกมวลชน “คนเสื้อแดง” ที่เคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก
00 แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้าตราบใดที่มีอำนาจอยู่ในมือโอกาส “แยกสลาย” ล้างบางเช็กบิลก็ค่อยๆทำได้ไม่ยากนัก ขึ้นอยู่กับว่าจะรู้จักบริหารคนและเวลาได้ดีแค่ไหน ที่แน่ๆ คนที่ต้องรับภาระหนักหน่วงก็หนีไม่พ้นคนชื่อ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ว่าที่ มท. 1 แน่นอน แต่ถึงจะหนักแค่ไหน พี่เทือกของเราก็จะไม่บ่น เต็มใจอยู่แร้ว !
00 ว่าไปทำไมมี ยุคนี้เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ กระแสลมแห่งความเปลี่ยนแปลงน่าจะพัดผ่านมายังบ้านเราบ้าง ขนาดมหาอำนาจอันดับหนึ่งอย่างสหรัฐอเมริกายังมี “โอบามา” ด้วยวัย 46-47 ปี แล้วทำไมเมืองไทยจะมี “โอบามาร์ค” มา “เชนจ์” บ้างไม่ได้ แถมวัยก็ยังไล่เลี่ยกันเสียอีก ส่วนจะเชนจ์ไปทางไหนค่อยมาว่ากันหลังปีใหม่ไปแล้ว ที่แน่ๆ นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไปฝุ่นเริ่มตลบอบอวลกันอีกแล้ว
00 ต้องยอมรับว่า การโหวตในสภาเมื่อวานนี้ออกสตาร์ทช่วงแรกทำเอาใจหายใจคว่ำพอสมควร เพราะขานชื่อทีไรมีแต่หนุน “อินทรีประชา” ยันเต แถมหลายเสียงที่ตอนแรกบอกว่าแน่นปึก พอเอาเข้าจริงเมื่อเจอ “พลังดูด” ด้วยเลข “แปดหลัก” หลายคนก็อ่อนปวกเปียก สวิงกลับเป็นพัลวัน
00 ปฏิเสธความจริงไม่พ้นว่าอดีตพรรคร่วม กลุ่มก๊วนทั้งหลายทั้งปวงเสียงแตกจนเกือบคุมกันไม่อยู่ เริ่มตั้งแต่รายเล็กรายน้อยก่อน ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อแผ่นดิน รวมใจไทยฯ เสียงแตกกันกระเจิง ขนาด “บิ๊กเหวียง” ยังโหวตสวนหน้าตาเฉย ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ปลาไหลพัฒนา” ที่บอกว่าชัวร์ก็ยังพลิกมาให้ฝ่ายตรงข้ามตั้งสองสามเสียง
00 ยกเว้น “เพื่อนเนวิน” เท่านั้น แม้พิจารณาตามตัวเลขแล้วหายไปตั้ง 7-10 เสียง มองผิวเผินดูเหมือนว่าทำไม่ได้สมราคาคุย แต่ถ้าแยกโฟกัสในแต่ละโซน ที่เกือบทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่ในพิกัด “สีแดง” แทบทั้งสิ้น มันก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่เองที่ต้องเจอทั้งแรงข่มแรงขู่ ดังนั้นเมื่อกัดฟันกอดคอแข็งใจเทคะแนนให้ “มาร์ค” ได้ถึง 22-23 เสียง มันก็สมควรตบรางวัลกันบ้างละ
00 นาทีนี้ถ้าดูตามรูปการณ์แล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบารมีของ “เนวิน” พุ่งกระฉูดเป็นหนึ่งในเสาหลักค้ำจุนรัฐบาล “อภิสิทธิ์ 1” ขึ้นมาทันที แม้ว่าหลายคนจะทำใจไม่ค่อยได้ แต่ในเมื่อการเมืองไทยยัง “โคตรน้ำเน่า” อยู่แบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้นะครับพี่น้อง !!
00 ว่ากันว่าถ้าผลออกมากลับตาลปัตรเห็นทีพลพรรค “แม่ธรณี” จะต้องแถกเหงือกรอไปอีกนานแค่ไหนยังไม่มีใครรู้ ไม่มีใครตอบได้ เพราะถ้าพิจารณาตามความเป็นจริงแล้ว หากไม่สามารถเข้ามาควบคุมอำนาจรัฐเอาไว้ในมือโอกาสที่จะสร้างความ “สมดุล” ทางการเมืองนับจากนี้ไปทุกอย่างก็แทบจะเป็นศูนย์ รู้ทั้งรู้ว่าตลอด 7-8 ปี “ระบอบทักษิณ” ได้สร้างเครือข่าย วางตัวบุคคลเอาไว้เป็น “ใยแมงมุม” ครอบคลุมทั่วไปหมด ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง ข้าราชการตั้งแต่ระดับหัวแถวยันท้ายแถวเต็มพรึด นี่ยังไม่นับพวกมวลชน “คนเสื้อแดง” ที่เคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก
00 แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้าตราบใดที่มีอำนาจอยู่ในมือโอกาส “แยกสลาย” ล้างบางเช็กบิลก็ค่อยๆทำได้ไม่ยากนัก ขึ้นอยู่กับว่าจะรู้จักบริหารคนและเวลาได้ดีแค่ไหน ที่แน่ๆ คนที่ต้องรับภาระหนักหน่วงก็หนีไม่พ้นคนชื่อ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ว่าที่ มท. 1 แน่นอน แต่ถึงจะหนักแค่ไหน พี่เทือกของเราก็จะไม่บ่น เต็มใจอยู่แร้ว !
00 ว่าไปทำไมมี ยุคนี้เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ กระแสลมแห่งความเปลี่ยนแปลงน่าจะพัดผ่านมายังบ้านเราบ้าง ขนาดมหาอำนาจอันดับหนึ่งอย่างสหรัฐอเมริกายังมี “โอบามา” ด้วยวัย 46-47 ปี แล้วทำไมเมืองไทยจะมี “โอบามาร์ค” มา “เชนจ์” บ้างไม่ได้ แถมวัยก็ยังไล่เลี่ยกันเสียอีก ส่วนจะเชนจ์ไปทางไหนค่อยมาว่ากันหลังปีใหม่ไปแล้ว ที่แน่ๆ นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไปฝุ่นเริ่มตลบอบอวลกันอีกแล้ว
00 ต้องยอมรับว่า การโหวตในสภาเมื่อวานนี้ออกสตาร์ทช่วงแรกทำเอาใจหายใจคว่ำพอสมควร เพราะขานชื่อทีไรมีแต่หนุน “อินทรีประชา” ยันเต แถมหลายเสียงที่ตอนแรกบอกว่าแน่นปึก พอเอาเข้าจริงเมื่อเจอ “พลังดูด” ด้วยเลข “แปดหลัก” หลายคนก็อ่อนปวกเปียก สวิงกลับเป็นพัลวัน
00 ปฏิเสธความจริงไม่พ้นว่าอดีตพรรคร่วม กลุ่มก๊วนทั้งหลายทั้งปวงเสียงแตกจนเกือบคุมกันไม่อยู่ เริ่มตั้งแต่รายเล็กรายน้อยก่อน ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อแผ่นดิน รวมใจไทยฯ เสียงแตกกันกระเจิง ขนาด “บิ๊กเหวียง” ยังโหวตสวนหน้าตาเฉย ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ปลาไหลพัฒนา” ที่บอกว่าชัวร์ก็ยังพลิกมาให้ฝ่ายตรงข้ามตั้งสองสามเสียง
00 ยกเว้น “เพื่อนเนวิน” เท่านั้น แม้พิจารณาตามตัวเลขแล้วหายไปตั้ง 7-10 เสียง มองผิวเผินดูเหมือนว่าทำไม่ได้สมราคาคุย แต่ถ้าแยกโฟกัสในแต่ละโซน ที่เกือบทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่ในพิกัด “สีแดง” แทบทั้งสิ้น มันก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่เองที่ต้องเจอทั้งแรงข่มแรงขู่ ดังนั้นเมื่อกัดฟันกอดคอแข็งใจเทคะแนนให้ “มาร์ค” ได้ถึง 22-23 เสียง มันก็สมควรตบรางวัลกันบ้างละ
00 นาทีนี้ถ้าดูตามรูปการณ์แล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบารมีของ “เนวิน” พุ่งกระฉูดเป็นหนึ่งในเสาหลักค้ำจุนรัฐบาล “อภิสิทธิ์ 1” ขึ้นมาทันที แม้ว่าหลายคนจะทำใจไม่ค่อยได้ แต่ในเมื่อการเมืองไทยยัง “โคตรน้ำเน่า” อยู่แบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้นะครับพี่น้อง !!