00 แบะท่าชัดแล้วว่า โอกาสที่ “อภิรักษ์”ลงชิงชัยในตำแหน่ง ผู้ว่าฯกทม.อีกสมัยก็มีโอกาสสูงยิ่ง หลังจากฟังจากท่าทีจากแม่บ้านประชาธิปัตย์อย่าง “สุเทพ” แต่เพื่อความชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องรอคอนเฟิร์มจากปากเจ้าตัวอีกที แต่ถ้าดูรูปการณ์แล้วบรรดา “แม่ยก” หน้าเวทีก็เตรียมกรี๊ดล่วงหน้าได้แล้ว
00 ว่าไปแล้วหากการรักษาพื้นที่ในเมืองหลวงเอาไว้ได้ เท่ากับว่าความฝันของ “กำนันสุเทพ” ที่จะปั้น "อภิสิทธิ์" เป็นนายกฯหลังการเลือกตั้งสมัยหน้าก็สะดวกไม่น้อย ขณะเดียวกัน นาทีนี้ถ้าส่องกล้องมองกันไปทั่วทั้งพรรคแล้วก็ยังไม่มีใครเหมาะสมเท่า เอาเป็นว่า แม้จะไม่โดดเด่นเต็มร้อย แต่ก็ถือว่า “เจ๋ง” สุดแล้ว
00 อีกเรื่องที่แยกกันไม่ออก และขอบอกว่านาทีนี้สำหรับคนอย่าง “หมัก” ที่ถือว่ายังคงเส้นคงวากับการใช้ลีลาทาง “ปาก” โลดแล่นในทางการเมืองได้อย่างสะดวกโยธินต่อไป ยอกเว้นถูก “เจ้าของพรรค” ตัวจริงถีบตกเก้าอี้ไปก่อนเท่านั้น เพราะดูๆไปแล้วด้วยคำพูดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ยากที่ชาวบ้านบ้านทั่วไปที่จู่ๆพอเปิด “เพ็ญทีวี” มาดูรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ในทุกเช้าวันอาทิตย์ ยากจะจับได้ ไล่ทัน
00 แม้แต่นักข่าวก็เถอะขนาดทำการบ้านมาดี ยังมาเจอ “ลูกเขี้ยว” ของลุงหมักยังไปไม่เป็น กลายเป็นถูกไล่ต้อนบางครั้งต้องยืนเซ่อไปเลย
00 คำให้สัมภาษณ์เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เช่นเดียวกัน ฟังดูเผินๆแล้วมันช่างโก้เก๋ และเสียสละโดยแท้ เช่นบอกว่า “แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคนไทย” “แก้เพื่อวันข้างหน้าไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง เพราะผมไม่ลงสมัครเลือกตั้งในสมัยหน้า” อะไรประมาณนี้ ฟังดูแล้วพาลน้ำตาจะไหลในความหวังดีต่อคนส่วนใหญ่
00 แต่ถ้าตั้งสติมาพิจารณาให้ละเอียดมองอีกมุมหนึ่ง ถึง “หมัก” จะถ่อสังขารลงสมัครอีกรอบเขาก็ไม่ให้ลงแล้ว หรือถ้าจะกลับไปฟื้นพรรคประชากรไทยของตัวเองอีกรอบ อย่างมากก็น่าจะเป็นแบบเดิมเหนื่อยฟรีตอนแก่อีก
00 คิดกันง่ายๆ คนอย่าง “หมัก” อายุเท่านี้ถือว่าเป็นไม้ใกล้ฝั่ง ดังนั้นเมื่อ “ส้มหล่น” ได้เป็นนายกฯโดยไม่ต้องลงทุนซักบาทมันก็เกินคุ้ม และถือว่าถึงจุดสุดยอด ติดทำเนียบอดีตนายกฯรัฐมนตรี เมื่อเป็นแบบนี้แล้วจะเอาอะไรกันอีก
00 ขณะเดียวกันการเสียสละของ “นอมินีหมัก” ยังต้องใช้เวลาถึงสี่ปี เพราะย้ำว่าจะอยู่จนครบวาระ ไม่ใช่จะลาออกวันนี้พรุ่งนี้เสียเมื่อไหร่ ดังนั้นตนเองก็ได้ประโยชน์วันยังค่ำ
00 อย่างไรก็ดีเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือตกเป็นเหยื่อของพวก “หัวหมอ” ใช้ประชาธิปไตยบังหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ “พรรคพวกและเพื่อนฝูง” สังคมก็ตั้งคำถามว่า แล้วจะรีบแก้ไข “ทำหอก” อะไร และรัฐธรรมนูญที่ใช้กันอยู่ตอนนี้มันมีปัญหาอะไรนักหนา หรือทำให้บ้านเมืองหยุดการพัฒนา หรือว่าทำให้การแก้ปัญหาข้าวยากหมากแพงไม่ได้ผลอย่างนั้นหรือ ก็เปล่า
00 แต่ที่ต้องเร่งกันเต็มสูบ เพราะกำลังนี้ “นายใหญ่” กับพวกกำลังเดือดร้อน ทั้งเรื่องยุบพรรค คดีทุจริตกำลังไล่หลังมาเรื่อยๆ ปัญหาน่าจะมีอยู่แค่นั้นจริงๆ และถ้ายังขืนดันทุรัง ไม่เคยสรุปบทเรียนมันก็มีสิทธิ์พังอีกรอบ ไม่ต้องฟังโหรดังที่ไหนบอกก็ได้ เพราะของมันเห็นๆ กันอยู่แล้ว !!
00 ว่าไปแล้วหากการรักษาพื้นที่ในเมืองหลวงเอาไว้ได้ เท่ากับว่าความฝันของ “กำนันสุเทพ” ที่จะปั้น "อภิสิทธิ์" เป็นนายกฯหลังการเลือกตั้งสมัยหน้าก็สะดวกไม่น้อย ขณะเดียวกัน นาทีนี้ถ้าส่องกล้องมองกันไปทั่วทั้งพรรคแล้วก็ยังไม่มีใครเหมาะสมเท่า เอาเป็นว่า แม้จะไม่โดดเด่นเต็มร้อย แต่ก็ถือว่า “เจ๋ง” สุดแล้ว
00 อีกเรื่องที่แยกกันไม่ออก และขอบอกว่านาทีนี้สำหรับคนอย่าง “หมัก” ที่ถือว่ายังคงเส้นคงวากับการใช้ลีลาทาง “ปาก” โลดแล่นในทางการเมืองได้อย่างสะดวกโยธินต่อไป ยอกเว้นถูก “เจ้าของพรรค” ตัวจริงถีบตกเก้าอี้ไปก่อนเท่านั้น เพราะดูๆไปแล้วด้วยคำพูดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ยากที่ชาวบ้านบ้านทั่วไปที่จู่ๆพอเปิด “เพ็ญทีวี” มาดูรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ในทุกเช้าวันอาทิตย์ ยากจะจับได้ ไล่ทัน
00 แม้แต่นักข่าวก็เถอะขนาดทำการบ้านมาดี ยังมาเจอ “ลูกเขี้ยว” ของลุงหมักยังไปไม่เป็น กลายเป็นถูกไล่ต้อนบางครั้งต้องยืนเซ่อไปเลย
00 คำให้สัมภาษณ์เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เช่นเดียวกัน ฟังดูเผินๆแล้วมันช่างโก้เก๋ และเสียสละโดยแท้ เช่นบอกว่า “แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคนไทย” “แก้เพื่อวันข้างหน้าไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง เพราะผมไม่ลงสมัครเลือกตั้งในสมัยหน้า” อะไรประมาณนี้ ฟังดูแล้วพาลน้ำตาจะไหลในความหวังดีต่อคนส่วนใหญ่
00 แต่ถ้าตั้งสติมาพิจารณาให้ละเอียดมองอีกมุมหนึ่ง ถึง “หมัก” จะถ่อสังขารลงสมัครอีกรอบเขาก็ไม่ให้ลงแล้ว หรือถ้าจะกลับไปฟื้นพรรคประชากรไทยของตัวเองอีกรอบ อย่างมากก็น่าจะเป็นแบบเดิมเหนื่อยฟรีตอนแก่อีก
00 คิดกันง่ายๆ คนอย่าง “หมัก” อายุเท่านี้ถือว่าเป็นไม้ใกล้ฝั่ง ดังนั้นเมื่อ “ส้มหล่น” ได้เป็นนายกฯโดยไม่ต้องลงทุนซักบาทมันก็เกินคุ้ม และถือว่าถึงจุดสุดยอด ติดทำเนียบอดีตนายกฯรัฐมนตรี เมื่อเป็นแบบนี้แล้วจะเอาอะไรกันอีก
00 ขณะเดียวกันการเสียสละของ “นอมินีหมัก” ยังต้องใช้เวลาถึงสี่ปี เพราะย้ำว่าจะอยู่จนครบวาระ ไม่ใช่จะลาออกวันนี้พรุ่งนี้เสียเมื่อไหร่ ดังนั้นตนเองก็ได้ประโยชน์วันยังค่ำ
00 อย่างไรก็ดีเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือตกเป็นเหยื่อของพวก “หัวหมอ” ใช้ประชาธิปไตยบังหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ “พรรคพวกและเพื่อนฝูง” สังคมก็ตั้งคำถามว่า แล้วจะรีบแก้ไข “ทำหอก” อะไร และรัฐธรรมนูญที่ใช้กันอยู่ตอนนี้มันมีปัญหาอะไรนักหนา หรือทำให้บ้านเมืองหยุดการพัฒนา หรือว่าทำให้การแก้ปัญหาข้าวยากหมากแพงไม่ได้ผลอย่างนั้นหรือ ก็เปล่า
00 แต่ที่ต้องเร่งกันเต็มสูบ เพราะกำลังนี้ “นายใหญ่” กับพวกกำลังเดือดร้อน ทั้งเรื่องยุบพรรค คดีทุจริตกำลังไล่หลังมาเรื่อยๆ ปัญหาน่าจะมีอยู่แค่นั้นจริงๆ และถ้ายังขืนดันทุรัง ไม่เคยสรุปบทเรียนมันก็มีสิทธิ์พังอีกรอบ ไม่ต้องฟังโหรดังที่ไหนบอกก็ได้ เพราะของมันเห็นๆ กันอยู่แล้ว !!
