xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อไทยเหิมหันงับผบ.เหล่าทัพยื่นปลัดฯกห.สอบยุ่งตั้งรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประะานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ร.ท.ปรีชาพล พาษ์พาณิช ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการกรรมาธิการการทหารฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าว ถึงกรณีที่มีทหารออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองว่า ตามระเบียบข้อบังคับกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2499 ที่ลงนามโดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ระบุไว้ชัดเจนว่า ทหารจะต้องวางตัวเป็นกลางไม่ยุ่งเกี่ยวเพื่อมุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมือง เช่นห้ามใช้สถานที่ ดำเนินการทางการเมือง ไม่วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลให้ปรากฎต่อประชาชน
แต่ขณะนี้กลับมีผู้นำเหล่าทัพออกมาระบุว่า พรรคการเมืองควรจะสนันสนุน พรรคประชาธิปัตย์โดยให้เปลี่ยนขั้วในการจัดตั้งรัฐบาล แสดงให้เห็นว่าทหารไม่ปฎิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่พึงกระทำ ดังนั้นผมจะทำหนังสือไปถึงผู้บังคับบัญชาไปยังต้นสังกัดของผู้ที่ออกมาวางตัวไม่เป็นกลางและยุ่งเกี่ยวกับการเมืองวตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 74 ให้กับปลัดกระทรวงกลาโหมในระหว่างที่ยังไม่มีรมว.กลาโหม ทำหน้าที่นี้
พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า ขอฝากไปถึงผบ.เหล่าทัพว่า ไม่ควรชี้นำให้เลือกข้าง ทางการเมืองทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เพราะกองทัพต้องดูแลเรื่องความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ที่สำคัญ กองทัพเคยระบุว่า ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ดังนั้นจึงอยากให้รักษาสัจจะวาจา เพราะตนไม่อยากให้เหล่าทัพเป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย
พ.ต.ท.สมชาย กล่าวถึงกรณีการจัดซื้อฝูงบินกริพเพนจากรประเทศสวีเดน มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท ของกองทัพอากาศสมัยที่พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข เป็นผบ.ทอ. และพล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ เป็นเสนาธิการกองทัพอากาศด้วยว่า เป็นการนำมาใช้ แทนเครื่องบินเอฟ16 จำนวน 57 ลำที่มีอยู่ ตนในฐานะกรรมาธิการการทหารฯ ได้เรียก พล.อ.อ.อิทธพรมาชี้แจงเรื่องนี้และแสดงความไม่เห็นด้วย เพราะการจัดซื้อฝูงบินกริพเพนไม่เหมาะกับการใช้งานกับประเทศไทยในปัจจุบัน ทั้งเรื่องของเทคโนโลยีและการซ่อมบำรุง ที่สำคัญเราไม่มีสนธิสัญญาช่วยรบกับประเทศสวีเดนหากมีการทำสงครามจะเกิดปัญหาในอนาคตได้
เราได้ตั้งข้อสังเกตุว่าการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพนนั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณารัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เรื่องการลงนามสัญญาระหว่างประเทศ และอาจส่งผลให้การซื้อขายต้องยกเลิกสัญญาในอนาคต ดังนั้นจึงเสนอว่า ควรใช้เครื่องบินเอฟที่เป็นเทคโนโลยีของประเทศสหรัฐอเมริกาน่าจะดีกว่า แต่ปรากฎว่า ผู้ใหญ่ในกองทัพไม่เห็นด้วย
ด้านร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า การซื้อฝูงบินกริพเพน ส่งผลให้เราเสียงบประมาณ ที่สูงกว่าการจัดซื้อฝูงบินเอฟ 16 ประมาณ 1.5 พันล้านบาท ทั้งๆที่กรรมาธิการ การทหาร ได้แย้งไปแล้วว่า ประเทศอื่นๆ ที่เป็นเพื่อนบ้านของสวีเดนเอง ก็ไม่นิยมใช้เครื่องบินกริพเพน แต่ทางกองทัพอากาศก็ยังยืนยันที่จะซื้อ ทั้งๆที่ประเทศอื่นรวมทั้งสวีเดนเองก็เลิกพัฒนาการใช้งานของฝูงบินกริพเพนนี้ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เจตนาที่อกมาแถลงเรื่องดังกล่าวทั้งๆ ที่มีการลงนามไปแล้วนั้นต้องการจะสื่อถึงเรื่องใด พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า เราต้องการบอกสิ่งที่กองทัพดำเนินการลงไป ควรจะกลับมาทบทวนให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 อีกครั้ง ถึงแม้จะมีการลงนามไปแล้ว
ทั้งนี้อยากตั้งข้อสังเกตว่า มีเรื่องการทุจริตในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะการจัดซื้อฝูงบิน กริพเพนที่มีราคาสูงแต่คุณภาพสู้เครื่องบินเอฟ 16 ไม่ได้ แต่กองทัพกลับยืนยันที่จะซื้อ และมีการลงนามทั้งๆ ที่ยังมีข้อสงสัย
ส่วนที่มีรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น จะต้องรับผิดชอบด้วยเลยหรือไม่นั้น พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า ใครที่เกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดชอบ เพราะเงินเป็นหมื่นล้านที่ประเทศต้องเสียไปโดยไม่คุ้มค่า ดังนั้นก็ควรที่จะต้องรับผิดชอบด้วย รวมทั้ง ผบ.ทอ.ด้วย ไม่ใช่ว่ากองทัพอยากได้อะไรก็จะทำให้ได้ตามใจชอบ โดยที่เราไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบได้
พล.อ.อ. อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. กล่าวว่า ที่กล่าวหาว่าตนสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น อยากให้ไปฟังเทพคำสัมภาษณ์ให้ดี ตนระวังคำพูดตลอด ไม่เคยเอยชื่อพรรคการเมืองไหนเลย และการให้สัมภาษณ์วันนั้น พูดในฐานะเป็นประชาชนคนหนึ่ง ดังนั้น ไม่อยากให้ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งที่นำคำพูดตนไปโยงอะไรต่างๆ ยืนยันว่าทหารเป็นกลาง
พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า ส่วนตัวอยากได้นายกฯที่มีความมุ่งมั่นที่จะบริหารประเทศด้วยความซื้อสัตย์สุจรติ แก้ปัญหาแท้จริง ไม่มีกลุ่มหรือก๊วน ไม่มีผลประโยชน์ที่แอบแฝง ซึ่งประเทศไทยจะผ่านวิกฤติไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปด้วยดี เห็นด้วยกับการโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ หรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่าที่ผ่านมา ทำอะไรขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย เราคงไปห้ามไปดำเนินการไม่ได้
ต่อข้อถามว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ หวังดีต่อบ้านเมืองควรยุติการโฟนอินหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า ทราบว่าวันที่ 15 ธ.ค.นี้ จะเปิดประชุมสภาฯวิสามัญ เพื่อโหวตนายกฯ คนที่ 27 คิดว่าน่าจะรอวันนั้นดีกว่า อย่าเพิ่งทำอะไรที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ และมีปัญหา ตอนนี้ประเทศชาติกำลังเดินไปด้วยดี
อีกด้านที่รัฐสภา วันเดียวกัน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ นาย ไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กทม. นางนฤมล ธารดำรงค์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้นำหนังสือพร้อมแนบรายชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทย57 คน มายื่นต่อ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ส่งเรื่องไปยัง กกต.เพื่อ เร่งรัด ตรวจสอบ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 28 คน อาทิ นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร คุณหญิง กัลยา โสภณพณิช นายสัมพันธ์ ทองสมัคร นาย ไตรรงค์ สุวรณคีรี นายองอาจ คร้ามไพบูลย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นต้น
เนื่องจาก ถือครองหุ้นและบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ ตามมาตรา 48และมาตรา 265 (2) (4 ) ซึ่งนาย ศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกกลุ่มเพื่อนเนวิน เคยยื่น เรื่องนี้ต่อ กกต. เมื่อวันที่ 14 ก.ค.2551 ดำเนินการ แต่วันนี้กลุ่มเพื่อนเนวินได้ไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นตนเกรงว่าเรื่องนี้จะเงียบหายไป จึงใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ที่ให้ส.ส.เข้าชื่อ 1ใน10 เข้าชื่อต่อประธานสภาฯให้ดำเนินการ และจะเป็นการพิสูจน์ประธานสภาฯที่อยู่ในกลุ่มเพื่อนเนวิน ว่าจะมีความเที่ยงตรงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายสุรพงษ์ ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ หน้าห้องประธานสภาฯเพื่อขอพบนายชัย แต่ปรากฎว่าเป็นจังหวะที่นายชัย ติดบันทึกเทปอวยพรปีใหม่2552 ให้กับประชาชน ซึ่งนายสุรพงษ์ บอกว่า ได้ติดต่อ ขอยื่นหนังสือในเวลา 14.00น. แต่ปรากฎว่านายชัย กลับติดภารกิจของสภา ถ้าปลีกเวลามารับเรื่องก็ได้ แต่การทำแบบนี้จะหนีไม่รับเรื่องได้อย่างไร ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ก็ยังให้ 2 ส.ส.. คอยมองตามประตูต่างๆ เพราะเกรงว่านายชัยจะหลบไปที่ประตูอื่น
จนกระทั่งเวลา 14.50น. นายชัย ได้ส่งเจ้าหน้าทีมาแอบดูประตูหลังว่า นายสุรพงษ์ ไปหรือยัง จากนั้นเดินออกจากห้องประชุมสภา โดยใช้ที่ประตูด้านหลังบัลลังก์ เพื่อจะหลบเข้าห้องทำงาน บริเวณชั้น 2 แต่ปรากฎว่านักข่าวเหลือบเห็นนายชัย จึงบอกว่าออกมาทางประตูหลังทำให้นายสุรพงษ์ รีบวิ่งไปดักที่ประตูหน้าห้องและยื่นหนังสือต่อนาย ชัย อย่างฉิวเฉียด
นายชัย กล่าวหลังรับหนังสือว่า จะมอบให้นาย พิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาฯ ไปดำเนินการเพราะไม่อยากให้ถูกมองว่าลำเอียง ซึ่งเรื่องนี้มีคนเคยยื่นมาแล้ว และเรื่องก็ไม่ได้เงียบหายไป เป็นเพราะ กกต. 5 คน อาจทำงานไม่ทัน เพราะมีคนยื่นเรื่อง เข้ามามาก ทำงานกันไม่หยุดหย่อน ทั้งนั้นายชัย ยืนยันว่าไม่ได้หนีนายสุพงษ์ แต่จะไปเข้าห้องน้ำในห้องทำงานก่อน แล้วจะออกมารับหนังสือ
กำลังโหลดความคิดเห็น