xs
xsm
sm
md
lg

เทพไทอัดตุ๊ดตู่รับใช้คนหนีคุก ยันมาร์คสะอาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคประชาธิปัตย์ รวบรวมส.ส.เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ยืดถือมารยาททางการเมืองมาโดยตลอด และได้เปิดโอกาสให้พรรคพลังประชาชนเดิมจัดรัฐบาลมาแล้วถึง 2 ครั้ง เพื่อบริหารประเทศ แต่ก็มีความล้มเหลวมาโดยตลอด วันนี้เมื่อเกิดสุญญากาศทางการเมือง พรรคการเมืองถูกยุบ สมาชิกพรรคเหล่านั้นมีอิสระในการที่จะไปสังกัดพรรคการเมืองใดก็ได้ จึงเห็นว่า ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองอันดับ 2 ที่หัวหน้าพรรคเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร จึงถือว่าเป็นความรับผิดชอบทางการเมือง เมื่อพรรคการเมืองอันดับ 1 ประสบความล้มเหลวในการเป็นรัฐบาล พรรคการเมือง อันดับ 2 ก็มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล ตามหลักประชาธิปไตยในระบบสากลที่ให้การยอมรับ
"ที่ผ่านมาพรรคไม่เคยประกาศว่าไม่พร้อมที่จะเป็นรัฐบาล ทุกพรรคที่เสนอตัวลงเลือกตั้งก็พร้อมที่จะเป็นรัฐบาลทั้งนั้น แล้วแต่โอกาสและเสียงสนับสนุนจากประชาชน แล้วจะมาหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ กลืนน้ำลาย และปล้นตำแหน่งมาได้อย่างไร การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ เป็นความรับผิดชอบทางการเมือง ของ ส.ส. ทั้งหมด ที่เห็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มีรัฐบาล 2 ชุด ก็ไม่สามารถที่จะบริหารประเทศไปได้ ก็น่าที่จะให้พรรคการเมืองอีกฝากหนึ่งได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศบ้าง เป็นความเห็นพ้องของนักการเมือง ไม่ได้มีนายทหารคนใดมายุ่งเกี่ยว หรือบงการการจัดตั้งรัฐบาล ตามที่สมาชิกพรรคพลังประชาชนกล่าวหา แต่อาจจะเป็นเพราะว่า ทุกครั้งที่พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็จะมีนายหญิง และนายใหญ่ คอยบงการ จึงคิดไปเองว่า พรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล ก็น่าจะมีนายทหารอยู่เบื้องหลังด้วย"
นอกจากนี้ คนเหล่านั้น ยังพยายามดิสเครดิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่ นายอภิสิทธิ์ เป็นนักการเมืองที่ขาวสะอาด ไม่มีจุดด่างพร้อย ในชีวิตทางการเมือง
"ขณะนี้ มีความพยายามที่จะขุดคุ้ยเรื่องการหนีเกณฑ์ทหารมาโจมตี ทั้งที่ๆปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า นายอภิสิทธิ์ ได้รับการยกเว้น เพราะได้สมัครเป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยมีหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร และรูปภาพปรากฏในสื่อต่างๆมาแล้ว จึงอยากถาม คนเหล่านี้ว่า การที่มาใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์ ว่าหนีเกณฑ์ทหาร แต่ตัวเองกลับหนีบ้านเกิด ไม่กล้าไปลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อพิสูจน์ตนเอง กลับอาศัยใบบุญพรรคการเมืองแสดงบทบาทใส่ร้ายคนอื่นเพื่อทดแทนคุณ แต่กลับยกย่องคนที่หนีคุก โกงบ้านโกงเมือง หัวซุกหัวซุน วันนี้มีเพียงกระแสข่าวว่า การเมืองจะพลิกขั้วให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล นักธุรกิจ ภาคเอกชน ก็ออกมาขานรับนักวิชาการ ก็ออกมาสนับสนุน ประชาชนทั่วไปก็โล่งอก ว่าบ้านเมืองกำลังมีความหวัง แม้แต่ผลโพล ของสำนักต่างๆ ก็เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯมากที่สุดในบรรดานักเมืองทั้งหมด แล้วพรรคเพื่อไทย มาขัดขวาง และทำลายความหวังของประเทศชาติทำไม" นายเทพไท กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้พยายามออกมาดิสเครดิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าประชาธิปัตย์ ว่าหนีทหาร และเตรียมยื่นเรื่องให้นายสมชาย เพศประเสริฐ ประธานคณะกรรมาธิการทหาร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ตรวจสอบ พร้อมทั้ง ท้าทายว่า หากนายอภิสิทธิ์ สามารถนำใบ สด.43 มายืนยัน ตนก็พร้อมที่จะโหวตให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ
นายจตุพร ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองที่พรรคร่วมรัฐฐาลเดิมหันไปจับขั้วกับพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีทหารอยู่เบื้องหลังในการประสาน
"ทหารเคยประกาศว่า การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง แล้วทหารมาเกี่ยวอะไรด้วย เห็นได้ชัดว่ากระบวนการยุบ 3 พรรค และการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล เป็นกระบวนการเดียวกันที่เกิดจากเผด็จการหัวเถิก ซึ่งกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็สนิทกันทุกคน และมีความผูกพันกับพรรค ทุกคนเจ็บปวด อาจจะซวนเซกันไปบ้าง เพราะเห็นว่าพรรคถูกยุบมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่เชื่อว่ายังมีเวลาเหลือที่จะคุยกันก่อนโหวตเลือกนายกฯ" นายจตุพรกล่าว พร้อมเยาะเย้ย ปชป.ระวังจะเปิดไวน์เก้อ นายจตุพร ยังกล่าวถึงท่าทีของกลุ่มเสื้อแดง ที่จะไปขัดขวางการเลือกนายกฯ ว่า เราไม่ขัดข้อง หากจะมีการเลือกนายกฯ ตามระบบ แต่เห็นได้ชัดเจนว่า มีกระบวนการนอกระบบยื่นมือเข้ามา คือ ทหาร พยายามเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล มีการแอบอ้างเบื้องสูง ต่อรองคดีที่ยังค้างอยู่กับคณะกรรมการป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งข่มขู่นักการเมืองว่า หากไม่ยอมสลับขั้ว จะทำรัฐประหาร เพราะวันนี้ชัยชนะไม่ได้อยู่ในสภา มิฉะนั้นพรรคพลังประชาชน คงไม่ต้องพ่ายแพ้ในสภา
"เชื่อว่าการเลือกนายกฯ จะมีหลังวันที่ 13 ธ.ค. ตอนนี้คนเสื้อแดงน้ำตาตกใน เราจะไม่สร้างความเดือดร้อนในลักษณะเดียวกับกลุ่มพันธมิตรฯ แต่จุดยืนคือ จะขัดขวางให้ถึงที่สุด ไม่ให้มีการรัฐประหารเงียบ อยากให้ฟังการชุมนุมในวันที่ 13 ธ.ค. ที่สนามศุภชลาศัย เพราะพ.ต.ท.ทักษิณจะพูดแบบหมดเปลือก ถึงกระบวนการย่ำยีประชาธิปไตย จะแฉหมดทุกคน ทุกเรื่อง เพราะถึงจุดที่มันสุดทางแล้ว" นายจตุพรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น