xs
xsm
sm
md
lg

3เกลอหัวขวดปลุกม็อบเสื้อแดงต้านปชป.ตั้งรัฐบาล-อ้างปฏิวัติซ่อนรูป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (7 ธ.ค.) ที่ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว ผู้ดำเนินรายการ ความจริงวันนี้ และอดีตแกนนำกลุ่มาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปก.) นำโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ร่วมกันแถลงแนวทางการเคลิ่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงแฟนคลับรายการความจริงวันนี้
นายวีระ มุสิกพงศ์ กล่าวถึงเรื่องของจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีการเปลี่ยนขั้วว่า พวกตนได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและวิเคราะห์ออกมาค่อนข้างชัดเจนว่า ที่มีความพยายามจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้เป็นการจัดการของฝ่ายอื่นนอกเหนือระบบรัฐสภา โดยได้รับคำยืนยันชัดเจนจากนักการเมืองคนสำคัญที่ไม่ประสงค์จะออกนาม 2 คนว่าเมื่อวานวันที่ 6 ธ.ค.) มีการพบกันที่บ้านของนายทหารใหญ่เพื่อให้ พรรคการเมืองยอมรับรัฐบาลใหม่ภายใต้การอำนวยการของทหาร โดยอ้างว่ารับคำสั่งมาอีกต่อหนึ่ง
ซึ่งเป็นลักษณะที่พวกเราเเรียกว่าการรัฐประหารซ่อนรูป ส่วนการตั้งรัฐบาล เราไม่ขัดข้องให้ใครจัดตั้งหรือเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ แต่ขอให้เป็นกรอบของรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย แต่เมื่อใดเป็นการอำนวยการสร้างของทหาร ถือเป็นวิธีการที่เรารังเกียจและต่อต้าน เพราะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐประหารซ่อนรูป ซึ่งการปล้นการบริหารราชการแผ่นดินครั้งนี้แพงที่สุดกว่าการปฏิวัติยึดอำนาจ ทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะการทำรัฐประหารซ่อนรูปครั้งนี้ทำให้เสียหายหลายแสนล้าน ทั้งยึดทำเนียบ สนามบินและยุบสามพรรค โดยหวังว่าจะให้แนบเนียน แต่คนก็จับได้ นายวีระ กล่าว
นายวีระ กล่าวว่า การแทรกแซงของทหารต่อการเมืองมีมาตั้งแต่ 2523 -2531 เพราะขณะนั้นรัฐธรรมนูญยังครึ่งใบ จึงมีทหารเข้ามาบริหารจัดการซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่กระบวนการประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามถ้าทหารไม่ได้ทำก็ประณามว่าเป็นพฤติการณ์ไม่เป็นประชาธิปไตย ขาดจริยะธรรมทางการเมือง แต่พอตัวเองทำกลับบอกว่าเป็นเรื่องไม่ผิดปกติ ธรรมดา
ทั้งนี้ถ้านับจากรัฐธรรมนูญ 2550 ก็นับว่าหลังจากหลังเลือกตั้ง 23 ธ.ค. 2550 เป็นต้นมาทหารก็กลับมาอีกครั้ง หลังจากพยายามแทรกแซงหลังการเลือกตั้ง เพราะนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นผู้นำที่มีความเข้มแข็งขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีเสียก่อน เพราะเขาต้องการให้พรรคตรงข้ามพลังประชาชนขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ดังนั้นความพยายามหลังการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. ก็ล้มเหลวไป
นี่ยังไม่ทันครบหรือเข้ารอบปีก็กลับมาวังวนเก่า ต้องบอกว่า เป็นพฤติกรรมที่ผู้รักประชาธิปไตยต้องต่อต้าน ซึ่งเราไม่ได้ต่อต้านตัวบุคคล แต่เราต่อต้านความคิดที่ทหารเข้ามาแทรกแซง แล้วทำมากินปูนร้องเพราะผมยังไม่ทันกล่าวหาก็ออกมาบอกว่าทหารไม่เกี่ยวข้อง อะไรกันเดินทางจากพรรคประชาธิปัตย์ถึงโรงแรมสุโขทัยใช้เวลาสองชั่วโมง แล้วเลี้ยวเข้าไปใน ร.1พัน 1 ได้อย่างไร และการที่นักการเมืองสยบสมยอมทหารถือเป็นการทรยศต่อประชาชน ซึ่งนักประชาธิปไตยยอมไม่ได้ ครั้งนี้เราจะดูต่อไปว่าจะมีผลลัพอย่างไร”นายวีระ กล่าว
นายวีระ กล่าวอีกว่า ตนมาแถลงถึงประชาชนถึงเสื้อทุกสีผู้รักประชาธิปไตยว่า ท่านจะยอมให้เกิดเรื่องนี้ไม่ได้ เราไม่ยอม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเสื้อแดง ต้องเตรียมการกันล่วงหน้า ซึ่งเราจะต้องทำความเข้าใจกันครั้งใหญ่ในวันที่ 13 ธ.ค นี้ในรายการความจริงวันนี้สัญญจรที่สนามศุภชลาศัย ตนจะพูดให้รายละเอียดเรื่องรัฐประหารซ่อนรูปว่าเป็นอย่างไร
นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาฯ ตนขอประณาม พฤติกรรมของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่เข้ามายุ่งและบงการการจัดตั้งรัฐบาล เป็นการแทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งตนไม่อยากให้ใครมาเรียกว่า เผด็จการหัวเถิก เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของทหาร
นายจตพร กล่าวว่า การที่ ผบ.ทบ.ปล่อยให้ให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มายึดทำเนียบ สนามบิน เสียหายแสนล้าน แล้วให้ยุบสามพรรค เพื่อให้เกิดสิ่งเหล่านี้ คิดหรือว่าประชาชนจะรับได้ และการที่พรรคประชาธิปัตย์ ปล่อยให้นายสมเกียรติ พงศ์ไพบูลย์ และสมาชิกพรรคไปยึดสถานที่ แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง กลับไม่รับผิดชอบการกระทำครั้งนี้ก็ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ สมคบทำลายให้รัฐบาลเกิดความบอบช้ำ แล้วตัวเองย้อนกลับมาเป็นวีระบุรุษ ซึ่งตนคิดว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแม้แต่วันเดียว
นายจตุพรยังกล่าวถึง กรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนยกรัฐมนตรีไปด้วยเหตุผลทางการเมือง ดังนั้นตัวนายอภิสิทธิ์ ที่ไม่ผ่านการเกณฑ์ทหารจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายการงานว่าจากนั้นนายจตุพรได้แสดงเอกสารเพื่อยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เกณฑ์ทหาร ดังนั้นตนสรุปว่าครั้งนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผบ.ทบ. กวาดต้อนนักการเมืองเพื่อให้คนหนีทหารขึ้นมาเป็นนายกฯ
ท่านทำลายประชาธิปไตยไม่ได้ง่ายต่อหน้าต่อตา และนายอภิสิทธิ์ก็เป็น นายกไม่ได้แม้แต่วันเดียว ทั้งหมดจึงชี้ให้เห็นว่าการพยายามเปลี่ยนขั้วทางการเมือง โดยให้ ผบ.ทบ.มาเดินเกม ดังนั้นประเทศไทยหลังจากนี้ไม่มีความสงบสุขออยู่อีกเลย เหมือนเป็นการตบหน้าประชาธิปไตย เพราะเอาคนหนีเกณฑ์ทหารมาเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องได้รับการขัดขวางจากประชาชนจนถึงที่สุด”นายจตุพร กล่าวและว่าทำไมไม่รัฐประหารไปเสียเลย ฝ่ายประชาธิปไตยจะได้ออกมา อย่ามาเป็นเผด็จการหัวเถิก อย่างไรก็ตามวันที่ 13 ธ.ค. นี้ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะโฟนอินนั้น ท่านจะพูดทุกเรื่องที่เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง ที่เป็นการนำพาการโค่นล้มประชาธิปไตย
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวเสริมว่า อยากฝากไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า อยู่บนถนนการเมืองมานานถึง 60 ปี ซึ่งเวลานี้จำเป็นที่จะต้องควบคุมความ อยากของตัวเอง อย่าให้ความใคร่มีในอำนาจในการขับเคลื่อน เพราะโดยหลักการพรรคที่เสียงข้างมากลำดับที่ 1 เขายืนยันว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยมารยาทของพรรลำดับสองจะไม่แสดงความเคลื่อนไหวแถลงข่าวเหมือนลำตัดแม่ประยูรดังเช่นเมื่อวาน
โดยมารยาทแล้ว พรรคประชาธิปัตย์อย่าว่ายวนอยู่ในทะเลของความอยาก ขอให้ตั้งสติ เพราะการจะผลักดันใครให้เป็นนายกขอให้คำนึงถึงความสวยงาม ทางการเมืองด้วย และด้วยความอยากพรรคประชาธิปัตย์ยังจะเดินไปตามอำนาจของนายทหารใหญ่บางคน ในการกำกับทำตัวอุ้มพรรคร่วมรัฐบาลมาให้จับมือกับประชาธิปัตย์ ประเด็นก็คือวิธีการที่ทำมันไม่ใช่ประชาธิปไตย ถือเป็นการดูหมิ่นประชาชนทั้งประเทศ อย่าคิดว่าเรื่องที่ทำกันจะรู้กันแค่เฉพาะนายอภิสิทธิ์ นายชวนและนายสุเทพ เท่านั้น เพราะคนไทยเขารู้มองออกและไม่ยอมรับวิธีการพวกนี้ ซึ่งน่าแปลกใจที่นายอภิสิทธิ์ที่ไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร แต่พอจะตั้งรัฐบาลก็ให้ทหารไปเกณฑ์พรรคร่วมมาแถลงข่าว นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า อยากฝากไปยังแม่ทัพนายกองว่าไม่มีสิทธิ์จะมาจับขั้ว ทำขั้ว การเมือง เพราะถ้าคิดว่าบ้านเมืองจะเจริญและพัฒนาด้วยวิธีนี้ หากจะเอาอย่างนั้นให้ยึดอำนาจไปเลย อย่าแอบทำอย่าทำลับลับล่อๆ ให้ปล้นดีกว่าเป็นตีนแมวย่องเบา เพราะประชาชนเขารู้ทันไม่มีใครเอาวิธีการแบบนั้น อย่างไรก็ตามตนขอฝากไปยังพี่น้องที่เคยต่อสู้ร่วมกันทุกพรรค พี่น้องส.ส.ด้วยว่าความเป็นพี่น้อง ความรักความห่วงใยยังมีอยู่ไม่เสื่อมคลาย การตัดสินใจสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นนายกตนก็เคารพความคิด แต่ตนอยากให้เคารพประชาชนที่เขาส่งมาป็นตัวแทนประชาชนในนามพรรคพลังประชาชนที่ว่าไม่มีใครสนับสนุนหรือให้ยกมือให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายก
หากคิดว่าเป็นการกระทำโดยชอบ ก็ขอบอกว่าประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงเจตจำนงที่จะสื่อสารไปยังส.ส.ของตัวเอง ว่าพี่น้องประชาชนรู้สึกอย่างไร เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเจตนารมของประชาชนก็ถูกบิดเบือนกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่คำนึงถึงคนรักประชาธิปไตยเขายอมรับไม่ได้ นายณัฐวุฒิ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น