xs
xsm
sm
md
lg

“เสธ.แดง”โผล่จากรูขู่อีกเย้ยผบ.ทอ.ไร้น้ำยาดูแล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า เมื่อเช้าวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) โดยส่วนใหญ่ผบ.ทบ. ได้มอบนโยบายการทำงาน รวมถึงข้อห่วงใยในภารกิจต่างๆ ของกองทัพบก ทั้งนี้ที่ประชุมไม่ได้พูดเรื่องกระแสข่าวปลด ผบ.เหล่าทัพ เพราะในที่ประชุมไม่ได้พูดเรื่องการเมือง และ ผบ.ทบ.ไม่ได้แสดงทัศนะใดๆ กับ ผบ.หน่วยได้รับทราบในเรื่องนี้ แต่ได้ให้ ผบ.หน่วย ไปชี้แจงและไปสร้างความเข้าใจกับกำลังพลของตัวเองให้รับทราบถึงบทบาท และ ความเป็นสถาบันหลักของกองทัพบก ที่จะช่วยกันพยุงสถานการณ์ ให้ผ่านพ้นไปได้ และ วันนี้หลายๆ อย่างคงผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ส่วนบทบาทของกองทัพในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย หลังเหตุยิงระเบิดเอ็ม -79 ใส่ประชาชนที่มาชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า กองทัพบกได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสนับสนุนการทำงานของ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้ว ในภาพรวมสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้กำกับดูแล ทหาร เข้าไปในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานในการดูแลสถานที่สำคัญๆ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างๆ มีส่วนที่รับผิดชอบอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก หรือ ศปก.ทบ. ก็มีการติดตาม สถานการณ์และประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นจะมาวิเคราะห์เพื่อดูการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตามที่มีการร้องขอมาให้เหมาะสมกับภารกิจและสถานการณ์ รวมถึงพื้นที่ด้วย สำหรับการเพิ่มกำลังเข้าไปสนับสนุนนั้น ผบ.ทบ.ได้ให้กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งรับผิดชอบสถานการณ์อยู่ไปประเมินดูว่าจะมีส่วนใดที่ต้องปรับ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเสริมกำลังเข้ามาจากต่างจังหวัด
ผู้สื่อข่าวถามว่าหน่วยข่าวได้มีการรายงานหรือไม่ว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นฝีมือกลุ่มใด พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่าไม่ได้มีการรายงานในเรื่องนี้ เพียงแต่พูด กว้างๆ ปกติฝ่ายข่าวจะพูดเหตุการณ์รวมๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในและนอกประเทศ และที่ประชุมไม่ได้พูดถึง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ถูกสอบสวนอยู่ โดยเรื่องยังอยู่ที่กรมกำลังพล ทั้งนี้ ในส่วนของ ผบ.ทบ.ยังคงเน้นย้ำหน้าที่หลักในการป้องกันไม่ให้มีการทำร้ายซึ่งกันและกัน รวมถึง ไม่ให้ประชาชนเผชิญหน้ากัน อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่ประเมินได้คือกรอบในการทำงานเป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็นอยู่
พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับการส่งกำลังทหารไปดูแลความปลอดภัยที่ศาลปกครองนั้น ทางกองทัพบกได้ส่งกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ไปจำนวน 1 กองร้อย ไม่ใช่จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี อย่างที่มีการพูดกัน ซึ่งหน่วยนี้กำลังที่ประจำการได้รับการฝึกฝนเช่นเดียวกับรบพิเศษ สวมหมวกแดง และ มีอาวุธประจำกายเป็น เอ็ม -16 จริง และที่ได้ส่งหน่วยนี้เข้าไป ก็เพราะอยู่ที่แจ้งวัฒนะ ใกล้กับศาลปกครอง
ด้าน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เปิดเผยว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่ายจะยังออกปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องจนกว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะออกจากสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง เพราะทนไม่ได้ที่เห็น ความเสียหายทีเกิดขึ้นกับประเทศไทยอย่างมหาศาลจากการกระทำของพันธมิตรฯ ในส่วนของสนามบินดอนเมืองนั้น พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงษ์ ผบ.ทอ. ไม่สามารถดูแลได้
เพื่อนเฟื่อง แม้จะเป็นคนชั้นเยี่ยม เป็นนักบินเอฟ16 คนแรก เป็นผู้ช่วยทูต ทหารดี.ซี. รู้แต่เรื่องการทหาร ไม่รู้เรื่องการเมือง เลยปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรฯ ที่ขณะนี้นับได้ว่าเป็นพวกผู้ก่อการร้ายเข้าไปยึดดอนเมืองที่เป็นทำเนียบรัฐบาลแห่งที่สองได้ แถมถูกเย้ยด้วยการยอมให้พวกนี้ไปนั่งในห้องประชุมครม.และ นั่งเก้าอี้นายกฯ ที่สำคัญ พวกก่อการร้ายสากลพวกนี้ยังได้รับการคุ้มครองจาก สห.ทอ. ซึ่งหน่อมแน้ม ไม่ใช่พวก อากาศโยธินที่เข้มแข็ง ทำให้เมื่อคืน สห.ทอ.พวกนี้อ่อนล้า พวกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจึงปฏิบัติการได้ ที่สำคัญเพื่อนเฟื่องยังไปสั่งให้ล้อมรั้วลวดหนาม มีกำลังทหารเฝ้าฯ พวกก่อการร้ายเลยกลายเป็นหน่วยของ ทอ.ที่ได้รับการคุ้มครองไป อยากฝากบอกเพื่อนว่าต้องคำนึงถึงชาติเป็นหลักอย่านึกถึงแค่ผุ้มีพระคุณที่เป็นนายเก่า ไม่เช่นนั้นเกษียณไป หรือ ถูกปลดไป ประชาชนจะไม่อยู่เคียงข้าง
พล.ต.ขัตติยะ ยังบอกว่า ไม่เห็นด้วยกับภาพที่ สห.ทบ.ไปตั้งจุดตรวจร่วมกับ ตำรวจและการ์ดพันธมิตรในการดูแลสนามบิน ทั้งที่กำลังทหารควรจะไปช่วยยึด สนามบินคืนมากกว่า หรือแม้กระทั่งการส่งกำลังไปศาลรัฐธรรมนูญก็ดูขึงขังผิดปกติ เวลาไปดูแลเสื้อเหลืองใช้หน่วยไม่ติดอาวุธไป แต่พอศาลรัฐธรรมนูญมีม็อบเสื้อแดง กับเอาพวกหมวกแดง ติดอาวุธสงครามไป
กำลังโหลดความคิดเห็น