“ซีเอ็มฯ” หวังอานิสงส์พิษเศรษฐกิจ บริษัทประหยัดงบ งดโฆษณาผ่านสื่อทีวี เบนเข็มจัดอีเว้นการตลาด ส่งผลธุรกิจออกาไนซ์เติบโตได้ในปีหน้า ยอมรับปิดสนามบิน ตลาดไมซ์ งานหาย 90% ฉุดรายได้ลงเหลือ 700 ล้านบาท คุยยังมั่นใจงานเคาน์ดาวน์ไทย เป็นฮับในอาเซียนได้ เชื่อคนแห่ร่วมกว่า 5 แสนคน
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจรับจัดงานนับจากช่วงเวลานี้ไปจนถึงปีหน้า มองว่ายังมีโอกาสในการเติบโตที่ดีอยู่ เพราะลูกค้าจะหันมาจัดงานในการทำตลาดมากยิ่งขึ้น ขณะที่การโฆษณาในสื่อแมสอย่างโทรทัศน์ และวิทยุจะลดลง แต่อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่มีการปิดสนามบินเกิดขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพรวมของตลาดไมซ์ (MICE) หรือ การจัดงานการประชุมต่างๆ
โดยพบว่าขณะนี้ตัวเลขมูลค่าของการจัดงานไมซ์ ลดลงกว่า 90% เหลือเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการเปิดใช้สนามบินได้ในเร็ววัน แต่ตลาดดังกล่าวมองว่า ในช่วง 6 เดือนหลังจากนั้น จะกลับมาเติบโตขึ้นได้อีกเพียง 30% และหลังจาก 6 เดือนนี้ผ่านไป ตลาดไมซ์ จะเริ่มกลับเข้ามาอีกครั้ง เพราะการจัดงานประชุมแต่ละครั้งจะมีการเตรียมงานค่อนข้างนาน
สำหรับซีเอ็มฯเอง ตัวเลขรายได้และจำนวนงานไมซ์ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด จากที่เคยสร้างรายได้ในบริษัทฯที่ 10% ขณะนี้เหลือเพียง 1% ล่าสุดกับการจัดงานอีเว้นท์ “อาเซียน บิซิเนส ซัมมิท 2008”ระหว่างวันที่ 13-15 ธ.ค.นี้ ที่เชียงใหม่ ก็ได้เลื่อนออกไปเป็นมี.ค. ปีหน้า โดยมูลค่าการจัดงานครั้งนี้อยู่ที่ 20 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ในปีนี้ เดิมคาดว่าจะทำได้ 780-800 ล้านบาทนั้น อาจจะทำได้สูงสุดเพียง 700 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 600 กว่าล้านบาท
อย่างไรก็ตาม รายได้ในส่วนของต่างประเทศยังดีอยู่ การจัดงานแสงสีเสียง นครวัต ที่ประเทศกัมพูชา พบว่า นักท่องเที่ยวยังให้การตอบรับดี ถึงแม้ว่าสนามบินในไทยจะปิดลง แต่นักท่องเที่ยวที่มีการแพลนมาเที่ยวกัมพูชาอยู่แล้ว ก็ได้มีการเปลี่ยนเส้นทางการบินใหม่ มาลงที่ ลาว หรือเวียดนามแทน แล้วต่อเข้ามาเที่ยวกัมพูชาตามแผนที่วางไว้
ในส่วนงานอีเว้นท์ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนธ.ค.นี้ ยังมีต่อไป ล่าสุดกับการจัดงานเคาน์ดาวน์ ที่ร่วมกับทางเซ็นทรัล ปีนี้ได้วางงบจัดงานไว้กว่า 20 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “Hands Bangkok Countdown 2009” ซึ่งมีพันธมิตรร่วมจัดงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ททท, ไปรษณีย์ไทย, พานาโซนิค และ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น คาดว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมงานดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ถ้าเหตุการณ์บ้านเมืองคลี่คลายและสงบลง น่าจะมีผู้ร่วมงานถึง 1 ล้านคน ทั้งนี้มองว่า ถึงแม้สถานการณ์บ้านเรายังไม่สงบ แต่การจัดงานเคาน์ดาวน์ครั้งนี้ ถือว่ายิ่งใหญ่จนเรียกได้ว่าเป็นฮับของการจัดเคาน์ดาวน์ในย่านอาเซียนได้อยู่
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจรับจัดงานนับจากช่วงเวลานี้ไปจนถึงปีหน้า มองว่ายังมีโอกาสในการเติบโตที่ดีอยู่ เพราะลูกค้าจะหันมาจัดงานในการทำตลาดมากยิ่งขึ้น ขณะที่การโฆษณาในสื่อแมสอย่างโทรทัศน์ และวิทยุจะลดลง แต่อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่มีการปิดสนามบินเกิดขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพรวมของตลาดไมซ์ (MICE) หรือ การจัดงานการประชุมต่างๆ
โดยพบว่าขณะนี้ตัวเลขมูลค่าของการจัดงานไมซ์ ลดลงกว่า 90% เหลือเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการเปิดใช้สนามบินได้ในเร็ววัน แต่ตลาดดังกล่าวมองว่า ในช่วง 6 เดือนหลังจากนั้น จะกลับมาเติบโตขึ้นได้อีกเพียง 30% และหลังจาก 6 เดือนนี้ผ่านไป ตลาดไมซ์ จะเริ่มกลับเข้ามาอีกครั้ง เพราะการจัดงานประชุมแต่ละครั้งจะมีการเตรียมงานค่อนข้างนาน
สำหรับซีเอ็มฯเอง ตัวเลขรายได้และจำนวนงานไมซ์ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด จากที่เคยสร้างรายได้ในบริษัทฯที่ 10% ขณะนี้เหลือเพียง 1% ล่าสุดกับการจัดงานอีเว้นท์ “อาเซียน บิซิเนส ซัมมิท 2008”ระหว่างวันที่ 13-15 ธ.ค.นี้ ที่เชียงใหม่ ก็ได้เลื่อนออกไปเป็นมี.ค. ปีหน้า โดยมูลค่าการจัดงานครั้งนี้อยู่ที่ 20 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ในปีนี้ เดิมคาดว่าจะทำได้ 780-800 ล้านบาทนั้น อาจจะทำได้สูงสุดเพียง 700 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 600 กว่าล้านบาท
อย่างไรก็ตาม รายได้ในส่วนของต่างประเทศยังดีอยู่ การจัดงานแสงสีเสียง นครวัต ที่ประเทศกัมพูชา พบว่า นักท่องเที่ยวยังให้การตอบรับดี ถึงแม้ว่าสนามบินในไทยจะปิดลง แต่นักท่องเที่ยวที่มีการแพลนมาเที่ยวกัมพูชาอยู่แล้ว ก็ได้มีการเปลี่ยนเส้นทางการบินใหม่ มาลงที่ ลาว หรือเวียดนามแทน แล้วต่อเข้ามาเที่ยวกัมพูชาตามแผนที่วางไว้
ในส่วนงานอีเว้นท์ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนธ.ค.นี้ ยังมีต่อไป ล่าสุดกับการจัดงานเคาน์ดาวน์ ที่ร่วมกับทางเซ็นทรัล ปีนี้ได้วางงบจัดงานไว้กว่า 20 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “Hands Bangkok Countdown 2009” ซึ่งมีพันธมิตรร่วมจัดงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ททท, ไปรษณีย์ไทย, พานาโซนิค และ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น คาดว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมงานดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ถ้าเหตุการณ์บ้านเมืองคลี่คลายและสงบลง น่าจะมีผู้ร่วมงานถึง 1 ล้านคน ทั้งนี้มองว่า ถึงแม้สถานการณ์บ้านเรายังไม่สงบ แต่การจัดงานเคาน์ดาวน์ครั้งนี้ ถือว่ายิ่งใหญ่จนเรียกได้ว่าเป็นฮับของการจัดเคาน์ดาวน์ในย่านอาเซียนได้อยู่