xs
xsm
sm
md
lg

“ซีเอ็มโอ” เปิดแผนบุกเวียดนาม ผนึก “เมตาน” ลุยอีเวนต์คอนซูเมอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ซีเอ็มโอ” ปักธงเวียดนาม ลุยธุรกิจเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากเขมร หลังพบศักยภาพเศรษฐกิจรุ่งเรือง ล่าสุด ร่วมลงนาม “เมตาน เวียดนาม” บริษัทท้องถิ่นชั้นนำ ลุยอีเวนต์คอนซูเมอร์เต็มกำลัง เผยรายได้รับรู้ปีหน้า

นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) ในนามของ ซีเอ็มโอ กรุ๊ป (CMO Group) เปิดเผยว่า ตามแผนของบริษัทที่จะมุ่งเน้นตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ปีนี้ได้มีการศึกษาตลาดต่างประเทศในย่านอาเซียน ล่าสุดตัดสินใจที่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจให้บริการทางด้านอีเวนต์ในประเทศเวียดนาม เป็นประเทศที่ 2 ต่อจากประเทศกัมพูชา ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังตั้งแต่ในปี 2550 ที่ผ่านมา

สาเหตุที่เลือกประเทศเวียดนามนั้น เนื่องจากพบว่าเป็นประเทศที่มีการพัฒนาและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว บวกกับจำนวนประชากรที่สูงถึง 80 ล้านคน ขณะนี้ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจยังเติบโตเฉลี่ย 10% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จึงมองว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงมาก และจากการเข้าไปสำรวจตลาดอีเว้นต์ในเวียดนาม 6-7 เดือนที่ผ่านมา ยังพบอีกว่ามีการแข่งขันทางด้านการจัดอีเว้นต์ค่อนข้างสูง ซึ่งในประเทศเวียดนามมีบริษัทท้องถิ่นที่ทำทางด้านอีเว้นต์ถึง 3,000 บริษัท ซีเอ็มโอ เป็นรายแรก ที่เป็นบริษัทต่างชาติที่เข้าไปทำ เพราะมองเห็นโอกาสที่จะเข้าไปทำตลาดนี้ได้

ล่าสุด ทางบริษัทได้มีการลงนามเซ็นสัญญาทางธุรกิจร่วมกันกับ บริษัท เมตาน เวียดนาม จำกัด (Metan Viet Nam Co.,Ltd) ซึ่งเป็นบริษัททางด้านอีเวนต์แมเนจเมนต์ชั้นนำติด 1 ใน 5 ของประเทศเวียดนาม เพื่อดำเนินธุรกิจทางด้านอีเว้นต์ร่วมกัน ขณะที่เมตานฯมีลูกค้าที่เป็นแบรนด์ชั้นนำต่างๆ หลายราย อาทิ ไมโครซอฟท์, ซีเกท, เอเซอร์, เบนคิว, โซนี่ อีริคสัน, ไฮเนเก้น, ไทเกอร์, โคคา โคลา และจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เป็นต้น ส่วนความร่วมมือกับเมตานฯครึ่งนี้ งานแรกที่จะทำร่วมกันนั้น จะเป็นลูกค้าของทางเมตานฯเอง ส่วนรายได้จากการทำธุรกิจในเวียดนามนี้ คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีหน้าเป็นต้นไป

“การเข้ามาทำธุรกิจอีเว้นต์ในเวียดนาม จะมุ่งเน้นลูกค้าคอนซูเมอร์ท้องถิ่น และเจ้าของสินค้าจากเมืองไทยที่ต้องการเข้าไปทำตลาดในเวียดนามเป็นหลัก ในอนาคตอาจจะมีการต่อยอดการทำธุรกิจในลักษณะอื่นๆ ต่อไป แต่ต้องขึ้นอยู่กับผลจากความร่วมมือครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ การเข้ามาทำธุรกิจอีเว้นต์ในเวียดนาม จะมีความแตกต่างจากที่ทำในประเทศกัมพูชา โดยในกัมพูชาจะเป็นการเข้าไปลงทุนเปิดบริษัทที่นั่น ส่วนลูกค้าจะเป็นกลุ่มต่างชาติที่ซื้อบัตรมาดูการแสดงแสง เสียง และสื่อผสมอย่างยิ่งใหญ่ ณ นครวัด ประเทศกัมพูชา”

นายเสริมคุณ กล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจอีเวนต์ในประเทศไทย ช่วงครึ่งปีหลังนี้ จากข้อมูลที่มีอยู่ พบว่ามีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะมีจำนวนงานมากกว่าถึง 10 งานแล้ว โดย 10 งานนี้ คิดเป็นมูลค่ารายได้ประมาณ 200-300 ล้านบาท อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีอีกหลายงานของทางภาครัฐที่บริษัทกำลังเข้าไปพิทอยู่ ซึ่งมีทั้งงานที่จะเกิดขึ้นในปีนี้และปีหน้า รวมถึงงาน “สีสัน ล้านนา” ที่กำลังจะจัดขึ้นกลางเดือน ส.ค.นี้ด้วย เชื่อว่า หากทุกอย่างดำเนินไปตามที่วางแผนไว้ ปีนี้บริษัทจะมีรายได้เติบโตตามเป้า
กำลังโหลดความคิดเห็น