ลำปาง – กลุ่มเจ้าของโรงงาน / คนงานเซรามิกลำปางแสดงพลังรวมตัวเกือบหมื่นคนชุมนุมประท้วงรัฐขึ้นราคาก๊าซ เรียกร้องให้ ปตท. ตรึงราคาก๊าซเท่ากับครัวเรือน พร้อมยื่น 3 ข้อเสนอพยุงกิจการก่อนล้มกันระนาว จนต้องเลิกจ้างคนงานทั่วจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาบริเวณหน้าบริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) คลังปิโตรเลียมลำปาง ผู้ประกอบการโรงงานเซรามิกลำปาง พร้อมพนักงานลูกจ้างเกือบหมื่นคน ได้รวมตัวถือป้ายประณามรัฐบาลที่ขึ้นราคาก๊าซ LPG จนทำให้โรงงานเซรามิกลำปางได้รับผลกระทบอย่างหนักในเวลานี้ และรัฐยังประกาศจะขึ้นราคาอีก 6 บาท ยิ่งจะทำให้โรงงานเซรามิกได้รับผลกระทบหนักขึ้น เพราะเอกชนจะไม่มีเวลาปรับตัวและปรับสัญญาซื้อขายกับคู่ค้าได้ทัน โดยเฉพาะต้นทุนที่จะต้องเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้โรงงานขนาดกลางและเล็กกว่า30โรงงานปิดกิจการไปแล้ว
กลุ่มเจ้าของโรงงานได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นบนเวทีรถเคลื่อนที่ โจมตีการทำงานของรัฐบาลและกล่าวโจมตี ปตท. ที่ขึ้นราคาก๊าซโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ โดยมีตำรวจคอยดูแลความเรียบร้อยเกือบร้อยนาย พร้อมรถดับเพลิง รถพยาบาลเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุชุลมุน
ทั้งนี้ได้มีการยื่นหนังสือผ่าน ปตท.ลำปาง ถึงรัฐบาล เรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือและพิจารณาจำนวน 3 ข้อ คือ 1. ขอให้ ปตท.เจรจากับรัฐบาล ยับยั้งการปรับราคาก๊าซหุงต้มออกไป 2.ขอให้ ปตท. จัดจำหน่ายก๊าซ LPG ให้แก่ผู้ประกอบการเซรามิกจังหวัดลำปาง ในราคาเดียวกันทุกราย และ 3.ขอให้ ปตท. บังคับให้ผู้จำหน่ายลดค่าขนส่งก๊าซหุงต้มถึงผู้ซื้อ ซึ่งแต่เดิมมีการปรับราคาขึ้นจากภาวะน้ำมันแพง ปัจจุบันน้ำมันมีราคาถูกลงแต่ค่าขนส่งก๊าซหุงต้มไม่ได้ปรับลดลงมา
ขณะที่คลังปิโตรเลียมลำปาง ยืนยันเป็นเพียงผู้ทำหน้าที่รับ-จ่าย ก๊าซให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคซึ่งรับผิดชอบภาคเหนือตอนบน โดยส่วนใหญ่ลูกค้าคือโรงงานเซรามิก จำนวน 220 โรงงาน และโรงบรรจุก๊าซ รวมวันละประมาณ 700 ตันต่อวัน เท่านั้น ส่วนนโยบายการปรับขึ้นราคานั้นรัฐบาลเป็นผู้กำหนด
นายศุภชัย ธาดากิตติสาร ผู้จัดการฝ่ายคลังปิโตรเลียมส่วนภูมิภาค ซึ่งดูแล 8 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วยเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ตนไม่ได้วิตกกังวลอะไร เพราะการรักษาความปลอดภัยภายในคลังได้ซ้อมและปฏิบัติกันเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการมาชุมนุมของกลุ่มเซรามิกที่จะมาประท้วงกันวันนี้ เรื่องการรักษาความปลอดภัยเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้ทราบล่วงหน้าแล้ว และคิดว่าคงไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง น่าจะเป็นการประท้วงเพื่อแสดงพลังเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ไม่ประมาท ต้องคอยระวังมือที่สามด้วยเช่นกัน
ส่วนการให้บริการแก๊ส LPG คลังได้สำรองการจำหน่ายไปตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน แล้วโดยการขยายเวลาการจำหน่ายจากปกติ หยุดเวลา 16.00 น. ได้เลื่อนเป็น 19.00 น. และหยุดจำหน่ายในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน และจะเปิดจำหน่ายอีกครั้งในวันนี้ โดยการหยุดดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบใดๆต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาบริเวณหน้าบริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) คลังปิโตรเลียมลำปาง ผู้ประกอบการโรงงานเซรามิกลำปาง พร้อมพนักงานลูกจ้างเกือบหมื่นคน ได้รวมตัวถือป้ายประณามรัฐบาลที่ขึ้นราคาก๊าซ LPG จนทำให้โรงงานเซรามิกลำปางได้รับผลกระทบอย่างหนักในเวลานี้ และรัฐยังประกาศจะขึ้นราคาอีก 6 บาท ยิ่งจะทำให้โรงงานเซรามิกได้รับผลกระทบหนักขึ้น เพราะเอกชนจะไม่มีเวลาปรับตัวและปรับสัญญาซื้อขายกับคู่ค้าได้ทัน โดยเฉพาะต้นทุนที่จะต้องเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้โรงงานขนาดกลางและเล็กกว่า30โรงงานปิดกิจการไปแล้ว
กลุ่มเจ้าของโรงงานได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นบนเวทีรถเคลื่อนที่ โจมตีการทำงานของรัฐบาลและกล่าวโจมตี ปตท. ที่ขึ้นราคาก๊าซโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ โดยมีตำรวจคอยดูแลความเรียบร้อยเกือบร้อยนาย พร้อมรถดับเพลิง รถพยาบาลเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุชุลมุน
ทั้งนี้ได้มีการยื่นหนังสือผ่าน ปตท.ลำปาง ถึงรัฐบาล เรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือและพิจารณาจำนวน 3 ข้อ คือ 1. ขอให้ ปตท.เจรจากับรัฐบาล ยับยั้งการปรับราคาก๊าซหุงต้มออกไป 2.ขอให้ ปตท. จัดจำหน่ายก๊าซ LPG ให้แก่ผู้ประกอบการเซรามิกจังหวัดลำปาง ในราคาเดียวกันทุกราย และ 3.ขอให้ ปตท. บังคับให้ผู้จำหน่ายลดค่าขนส่งก๊าซหุงต้มถึงผู้ซื้อ ซึ่งแต่เดิมมีการปรับราคาขึ้นจากภาวะน้ำมันแพง ปัจจุบันน้ำมันมีราคาถูกลงแต่ค่าขนส่งก๊าซหุงต้มไม่ได้ปรับลดลงมา
ขณะที่คลังปิโตรเลียมลำปาง ยืนยันเป็นเพียงผู้ทำหน้าที่รับ-จ่าย ก๊าซให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคซึ่งรับผิดชอบภาคเหนือตอนบน โดยส่วนใหญ่ลูกค้าคือโรงงานเซรามิก จำนวน 220 โรงงาน และโรงบรรจุก๊าซ รวมวันละประมาณ 700 ตันต่อวัน เท่านั้น ส่วนนโยบายการปรับขึ้นราคานั้นรัฐบาลเป็นผู้กำหนด
นายศุภชัย ธาดากิตติสาร ผู้จัดการฝ่ายคลังปิโตรเลียมส่วนภูมิภาค ซึ่งดูแล 8 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วยเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ตนไม่ได้วิตกกังวลอะไร เพราะการรักษาความปลอดภัยภายในคลังได้ซ้อมและปฏิบัติกันเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการมาชุมนุมของกลุ่มเซรามิกที่จะมาประท้วงกันวันนี้ เรื่องการรักษาความปลอดภัยเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้ทราบล่วงหน้าแล้ว และคิดว่าคงไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง น่าจะเป็นการประท้วงเพื่อแสดงพลังเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ไม่ประมาท ต้องคอยระวังมือที่สามด้วยเช่นกัน
ส่วนการให้บริการแก๊ส LPG คลังได้สำรองการจำหน่ายไปตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน แล้วโดยการขยายเวลาการจำหน่ายจากปกติ หยุดเวลา 16.00 น. ได้เลื่อนเป็น 19.00 น. และหยุดจำหน่ายในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน และจะเปิดจำหน่ายอีกครั้งในวันนี้ โดยการหยุดดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบใดๆต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน
