xs
xsm
sm
md
lg

อัด “แม้ว-ชาย”พปช.แสลงหูสภาเดือดส่งท้ายส.ส.ฟัดกันนัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วานนี้ (27 พ.ย.) ซึ่งเป็นการประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติวันสุดท้าย เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. โดยมี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม นายชัย ประธานในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือถึงผลสรุปของคณะกรรมการติดตาม สถานการณ์ร่วม (คตร.) ที่มีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เป็นประธาน มีข้อเสนอให้นายกฯยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาความวุ่นวายในขณะนี้ โดย ส.ส. พรรคพลังประชาชน อาทิ นายประเสริฐ เด่นกิจนภาลัย ส.ส.สมุทรปราการ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ได้อภิปราย โจมตีการปิดล้อม สนามบินสุวรรณภูมิและการยึดทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรฯ อีกทั้งยืนยันว่า สภาไม่มีความผิดที่จะต้องไปยุบสภาตามที่ คตร.เสนอ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาล ใช้อำนาจการบริหาร ตามกฎหมายดำเนินการกับทั้งม็อบพันธมิตรฯ และ ผู้ที่ทำผิด กฎหมายโดยดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด ต้องยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินคืน

ปชป.ฟัดสภาทาส-รัฐบาลทำเพื่อทักษิณ
ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายสุวโรช พะลัง ส.ส.ชุมพร นายเจะอามิง โต๊ะตาหยง ส.ส.นราธิวาส และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก อภิปรายขอให้ สมาชิกรับฟังความคิดเห็นของ คตร. เพราะเชื่อว่าเป็นหนทางจะนำความสงบสุขกลับมาสู่บ้านเมืองได้
โดย นพ.วรงค์ ได้อภิปรายว่า ผบ.ทบ.เสนอทางออกให้ประเทศโดยการยุบสภา แล้ว แต่แปลกใจที่ ส.ส.ทำตัวเหมือนโดนน้ำร้อนลวก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมือง รัฐบาลและรัฐสภาจะต้องรับผิดชอบ การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ไปยึดสนามบินก็มีที่มาที่ไป ว่าก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น ที่ผ่านมาสภาฯชุดนี้สร้างปัญหามาโดยตลอด บางครั้งก็เหมือน สภาทาส นอกจากนี้การทำหน้าที่ของประธานสภาฯ บางครั้ง ตนก็ไม่อยากเคารพในหลายๆเรื่อง ส่วนนายสมชายและรัฐบาลชุดนี้ก็ทำเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีกลับมาเป็นใหญ่
จากการอภิปรายของนพ.วรงค์ ที่พาดพิงถึงนายชัย ทำให้นายชัย กล่าวโต้ตอบ ด้วยความไม่พอใจว่า ไม่ต้องเคารพผมหรอก เคารพบรรพบุรุษของท่านก็พอ

พปช.แสลงแม้วถูกถล่มจี้ถอนคำพูด
จากนั้นส.ส.พรรคพลังประชาชนได้ลุกขึ้นประท้วงกันอย่างวุ่นวายเพื่อขอให้ นพ.วรงค์ถอนคำพูด เนื่องจากเป็นการใส่ร้ายนายกฯและพ.ต.ท.ทักษิณ แต่นพ.วรงค์ ยืนยันไม่ขอถอนเพราะได้พูดตามข้อเท็จจริง ส่งผลให้เกิดการตอบโต้กันอย่างดุเดือด จนนายชัย ขอร้องว่า วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของการประชุม ขอความกรุณาอะไรผ่านไปได้ก็ขอให้ผ่านไป ถ้าต่างคนต่างขึ้นประท้วง ผมจะลุกขึ้นบ้าง และถ้าผมลุกขึ้น จะอ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุมทันที นายชัยกล่าวว่า วันนี้ตนเห็นว่า ครม. คงไม่มาตอบกระทู้ถาม จึงเปิดโอกาสให้สมาชิกระบายกันอย่างเต็มที่ในสิ่งที่อัดอั้น เพราะปิดประชุมแล้ว ถ้ายังมีสภาอยู่ ก็จะเปิดประชุมอีกในวันที่ 21 ม.ค.52
จากนั้นนายชัยได้สั่งให้นพ.วรงค์ ถอนคำพูด แต่ นพ.วรงค์ก็ยังยืนยันไม่ถอนคำพูด พร้อมขอเหตุผลที่ให้ถอน

สภาวุ่นชัยสั่งพักการประชุม5นาที
ส่วนนาย บุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงว่า หากสมาชิกอ้างว่าไม่สามารถพูดพาดพิงถึงบุคคลภายนอกได้ ต้องสั่งให้ถอนคำพูด ที่พูดพาดพิงถึง ผบ.ทบ.ด้วยเช่นกัน ทำให้นายชัยถึงกับนั่งกุมขมับและ พยายาม ไกล่เกลี่ยว่า ผมว่าผมขอบิณฑบาตเถอะ แต่ส.ส.ก็ยังคงประท้วงกันต่อไป จน ทำให้นายชัย ต้องสั่งพักการประชุม 5 นาที
และเมื่อเปิดประชุมอีกครั้ง นายชัย ได้ตัดบท ขอปิดการหารือในเรื่องนี้และจะเปิดโอกาสให้สมาชิกหารือถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ และยังต้องมีการ พิจารณากฎหมายอีกหลายฉบับ ที่คณะกรรมาธิการฯพิจารณาเสร็จแล้ว เพื่อส่งต่อให้ วุฒิสภา พิจารณาต่อไป
แต่ นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ หารือว่า วันนี้ประเทศเข้าสู่วิกฤติ แต่สภาฯไม่สามารถพูดเรื่องวิกฤติของประเทศได้ ส.ส.จะทำหน้าที่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างไร และจะมีประโยชน์อะไร ประธานควรปล่อย ให้มีการพูดเรื่องนี้ และเหตุการณ์ความวุ่นวายให้ถือว่าเป็นบรรยากาศเท่านั้น ประธานมีหน้าที่ควบคุมการประชุมก็พอ และในช่วงนี้ตนไม่เห็นด้วยที่จะมาพูดปัญหา ความเดือดร้อน เพียงแค่ถนนเส้นเดียวในประเทศ แต่วันนี้เราต้องพูดทางออกในประเทศ หากประธานไม่อนุญาตให้พูดต่อ หากเกิดอะไรขึ้นมา ประธานจะเป็นผู้เสียใจ
จากนั้น นายชัย ได้ตัดบทให้ ส.ส.ใหม่ 3 คนได้แก่ นพ. บรรพต ต้นธีรวงศ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ นายชัยวัฒน์ กุลศักดิ์วิมล และนายเรวัต สิรินุกูล ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชนได้ลุกขึ้นกล่าวคำปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ก่อน

เชาวรินหัวหมอให้ลบบันทึกการประชุม
จากนั้น ร.ต.ท.เชาวริน ลักธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน ได้ประท้วงว่า ประธานปฎิบัติ 2 มาตรฐาน เนื่องจากในการประชุมสภาวันที่13 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดการโต้เถียงและวุ่นวายเช่นเดียวกัน ซึ่งประธานให้ตนถอนคำพูดแต่ตนไม่ยอมถอน ทำให้ประธานสั่งให้ตนออกจากห้องประชุมทันที ดังนั้นหากประธานไม่ให้ นพ.วรงค์ออกจากห้องประชุม ตนก็อยากเรียกร้องให้ประธานแก้บันทึกการประชุมที่ไล่ตนออกจากห้องในวันดังกล่าวด้วย
นายชัย กล่าวว่า ตนจะสั่งให้ลบชื่อออก เพราะไม่อยากให้มีชื่อในสภาฯเพราะเป็นตราบาป วันนั้นตนสั่งให้ร.ต.ท.เชาวริน ออกจากห้องประชุม 10 นาที ตนก็นอน ไม่หลับไป7วัน ถ้าจะให้นพ.วรงค์ออก ตนคงนอนไม่หลับเพราะไม่มีใครมาฉีดยา เพราะนพ.วรงค์เป็นหมอ
แต่นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นคนประท้วง ร.ต.ท.เชาวิน ในวันที่13 พ.ย.ที่ผ่านมาได้ลุกขึ้นประท้วงว่า การที่จะลบรายงานการประชุมสภา จะใช้ข้อบังคับข้อไหน ตนอยากทราบเพื่อนำไปสอนลูกศิษย์ ซึ่งนายชัยชี้แจงว่า ตอนนี้ท่านเป็น ส.ส.ไม่ได้เป็นอาจารย์ แล้ว ตนจะลบเทปการประชุม ทำให้นาย ศุภชัย ไม่พอใจ
ขณะที่ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า เมื่อ นพ.วรงค์ไม่ยอมถอน ก็อยากให้ดำเนินการ ในมาตรฐานเดียวกับตนคือให้ออกจากห้องประชุม ซึ่งก็ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.พรรคพลังประชาชนหลายคน แต่นพ.วรวงค์ชี้แจงว่า อยากให้ประธานได้ใช้สติ และนำทั้ง 2 เหตุการณ์มาเปรียบเทียบกัน วันนั้นเป็นการพูดเท็จ แต่วันนี้ตนพูดความจริง ไม่ได้เสียดสี ใส่ร้ายใคร
ขณะที่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับประธานที่จะใช้อำนาจลบรายงาน คนที่ผิดควรจะดำเนินการ ไม่เช่นนั้นต้องลบการประชุมตั้งแต่ปี 2475 หรือไม่

ชัยสั่ง2ส.ส.ปชป.ออกห้องประชุม
จากนั้นนายชัย ได้สั่งให้ นพ.วรงค์ถอนคำพูดอีกครั้ง แต่เมื่อไม่ได้ผล จึงได้สั่งให้ออกไปพักนอกห้องประชุม 5 นาที แต่นพ.วรงค์ไม่ยอม ออกจากห้องประชุมและถามกลับว่า ผมผิดตรงไหน
นอกจากนี้นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมประท้วงด้วย ทำให้นายชัยเกิดอาการโมโห และได้สั่งให้นายธนา ออกไปพักสมอง 5นาที ด้วยเช่นกัน แต่ส.ส.ทั้งสองคน ไม่ยินยอมทำตาม โดยยังยืนประท้วงไม่เลิก นายชัย จึงได้สั่งให้ เจ้าหน้าที่นำทั้ง2 คนออกจากห้อง ทำให้บรรยากาศทวีความตรึงเครียดและวุ่นวาย มากขึ้นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากได้ลุกขึ้นยืนประท้วง พร้อมกับ ตะโกนว่า ทำงานกันไม่ได้ ประธานลำเอียงยุบเลยๆๆ ปิดประชุมไปเลย ขณะที่บางส่วน ได้ทยอยเดินออกจากห้องประชุมไป

ประธานสภาฯคุมไม่อยู่สั่งปิดประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางบรรยากาศความวุ่นวาย นายชัยได้สั่งให้ รองเลขาธิการสภา ทำหน้าที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อ่านพระบรมราชโองการ ปิดสมัยประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ และหลังจากอ่านจบ นายชัยได้กดสัญญาณปิดประชุมในเวลา12.15 น. ท่ามกลางความมึนงงขอสมาชิกที่อยู่ในห้องประชุม
ทั้งนี้ตามธรรมเนียมปฎิบัติก่อนที่จะมีการอ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุม ประธานสภา จะต้องสรุปผลการทำงานของสมัยประชุม ทั้งการพิจารณากฎหมาย กระทู้ถาม และญัตติต่างๆ จึงถือเป็นครั้งแรกของสภาชุดนี้ ที่ไม่มีการสรุปผลงาน แต่อย่างใด

ส.ส.ปชป.เฉ่งชัยลำเอียง
ภายหลังนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งปิดการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก ได้ลงมาแถลงข่าวโจมตีการปฏิบัติหน้าที่ของนายชัย โดยนพ.วรงค์กล่าวว่า การทำหน้าที่ของนายชัยในวันนี้ไม่มีหลักการ ลำเอียงอย่างเห็นได้ชัด ชี้ให้เห็นว่า สภาไม่สามารถเป็นที่แก้ปัญหาของชาติได้ รัฐบาลเองก็ทำตัวเป็นสัมภเวสี หนีไปวันๆ วันนี้เหลือทางเลือกแค่ 2 ทางเท่านั้นคือ ยุบสภา หรือนายกฯลาออก
นายธนา กล่าวว่า ประธานสภาฯทำตัวเป็นเผด็จการ ทั้งที่เป็นแค่ผู้รักษาการ ตามข้อบังคับการประชุมเท่านั้น วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า รัฐบาลโดยพรรคพลังประชาชนไม่ใส่ใจที่จะรับฟังข้อเสนอแนะของฝ่ายอื่น วันนี้ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดคุยกัน แม้ข้อเท็จจริงนั้นจะทำให้เจ็บปวดก็ตาม แต่การแสดงออกวันนี้ของรัฐบาลที่กระทำ โดยผ่านนายชัย เป็นการไม่รับฟังความเห็นที่แตกต่างจากฝ่ายอื่น ที่ชิงอ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุม แสดงให้เห็นว่าสภาไม่ได้ใส่ใจที่จะหาทางออกให้ชาติบ้านเมือง

ชี้ไร้มารยาทใช้เวทีสภาฯเล่นงานผบ.ทบ.
นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งป้อมถล่ม ผบ.ทบ. มาตั้งแต่วันก่อน ที่เสนอ ให้นายกรัฐมนตรียุบสภาฯ คงเสียดแทงใจดำ เพราะรัฐบาลยังอยากเป็นผู้ใช้งบประมาณ ที่จะต้องเบิกจ่ายในเดือน ม.ค.2552 ที่บอกว่าอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นคนนอก อยากถามว่าแล้ว ผบ.ทบ. เป็นคนนอกหรือเปล่า ที่พรรคร่วมรัฐบาลพยายามบอกว่า สภาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่จำเป็นต้องยุบสภานั้น วันนี้ชัดเจนแล้วว่า สภาไม่สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้อีกแล้ว เพราะประธานสภาฯไม่มีวุฒิภาวะ ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารก็ล้มเหลว ต้องพเนจรไปเปิดประชุม ครม. ที่เชียงใหม่ และการที่ประธานรัฐสภาบอกว่า เกิดการรัฐประหารก็ดีเรื่องจะได้จบๆ นั้น อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ หากเห็นว่า ผบ.ทบ. ทำผิดกฎหมาย ก็ต้องไปดำเนินการกับท่านและผบ.เหล่าทัพ ไม่ใช่ใช้เวทีสภา ถล่มแบบนี้
นายธนิตพล กล่าวว่า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงาน พรรคฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ยืนยันว่าฝ่ายค้านจะดำเนินการทุกวิถีทางต่อประธานสภาฯ และจะกดดันสภาที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญนี้อย่างถึงที่สุด หากเหตุการณ์ เหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งจะเสนอให้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ไปพูดคุยกับประธานสภาฯ เพื่อให้รับปากว่าจะไม่เกิดกรณี การเลือกปฏิบัติแบบนี้ขึ้นอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น