ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมขออนุญาตตอกย้ำว่า สังคมไทยเป็นสังคมหน้าไหว้หลังหลอก ชอบซ่อนความจริง หลอกแม้กระทั่งตัวเอง
ผมขอตอกย้ำว่าการ “สมคบ” และ “สมยอม” ที่เหลือเชื่อและเลวทรามที่สุด เป็นการทำลายกฎหมายทั้งระบบ และทำลายหลักการปกครองประชาธิปไตย ก็คือ การสมยอมให้พรรคเถื่อนหลายพรรคลงแข่งขันเลือกตั้ง และเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล ในหนังสือเรื่อง “พระราชอำนาจจากพระโอษฐ์ในหลวง” กับ “เลือกตั้งน้ำเน่า-เราจะพากันไปตาย” ผมเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ออกไปก่อนจนกว่าทุกพรรครวมทั้งไทยรักไทยจะจัดระบบพรรคของตนให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน
หาไม่ แต่ละพรรคต่างก็จะมีจุดอ่อน ขาดความชอบธรรม จะคอยจ้องทำลายกัน สังคมไทยจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เผชิญหน้าฆ่าฟันกันเอง กระทบกระเทือนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์อย่างยิ่ง
หลักเกณฑ์ที่จะดูว่ารัฐบาลใดมีความชอบธรรมหรือไม่ ให้ดูเอาง่ายๆ ว่า รัฐบาลนั้นมาอย่างไร อยู่อย่างไร และไปอย่างไร
รัฐบาลที่ชอบธรรมอย่างสมบูรณ์นั้นต้องมาชอบ อยู่ชอบ และไปชอบด้วย
การไปชอบคือการไปโดยไม่ทิ้งวิกฤตการสืบทอดอำนาจ รวมทั้งมรดกทรามทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองไว้ให้คนรุ่นหลัง อันเกิดจากการอยู่ไม่ชอบหรือการบริหารไม่ดีในตอนที่ครองอำนาจ การมาชอบก็ได้แก่ การมาตามกติกา เช่น การเลือกตั้งอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการยินยอมมอบหมายจากประชาชน แต่สัญลักษณ์อย่างเดียวไม่พอ เพราะเผด็จการก็มีเลือกตั้ง การเลือกตั้งที่ชอบธรรมต้องครบลักษณะ คือ เสรี ยุติธรรม และมีความเป็นตัวแทนเพียงพอ ซึ่งจะดูได้จากโครงสร้าง องค์ประกอบ และพฤติกรรมในระบบการเลือกตั้งนั้นๆ โครงสร้างคือข้อกำหนดหรือกฎหมายทำให้เกิดกลุ่ม องค์คณะหรือพรรคต่างๆ อย่างใด และในองค์คณะเหล่านั้นย่อมมีองค์บุคคลเป็นองค์ประกอบว่ามีใครบ้าง เช่น เจ้าพ่อท้องถิ่น นายทุนชาติ ผู้รับเหมาก่อสร้าง นักพนัน ฯลฯ ดังคำพังเพยว่าถ้าเลือกโจรก็ได้สภาโจร สำหรับระบบพฤติกรรมที่เห็นได้ชัด ก็คือ สะอาดหรือไม่ หรือว่ามีซื้อเสียงขายเสียง ซื้อบัตรประชาชน พลร่มไพ่ไฟ บัตรผี ยกหีบ ไฟดับ ซื้อกรรมการ บังคับข่มขู่ เป็นต้น
วัฒนธรรม “ชนะไหน เข้าด้วย ช่วยกระพือ” ผู้ใดได้กุมอำนาจรัฐ ย่อมจะหา “ผู้สมคบ” และ “ผู้สมยอม” ง่ายขึ้น แม้แต่พระพยอมก็ยังต้องยอม
ยกเว้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในประเทศและทั่วโลก กับแนวร่วมและพลังเงียบทั้งหลาย ที่จงรักภักดีต่อในหลวง ไม่อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฟอกผิดทักษิณกับพวก และไม่ชอบความโหดร้ายของตำรวจและอันธพาล นปก. ฯลฯ พันธมิตรฯ ชุมนุมประท้วงมา 184 วัน คงเหนื่อยอ่อนถอนใจเต็มที บางครั้งก็เผลอ “พูดชั่ว ตัวตาย ทำลายมิตร” เสียก็มี
ฝ่ายรัฐบาลเถื่อนซากเดนทักษิณก็เหิมเกริมก้าวร้าวไม่ยอมฟังผู้ใด สมกับบุคลิก “ข้าเก่งคนเดียว” ของนายกฯ หุ่นสมัคร
รัฐบาลเถื่อนกระทำชำเราประเทศชาตินานัปการอย่างมิเคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย นายทหารเก่าผู้ถือศีลนุ่งขาวห่มขาวถึงกับอดรนทนไม่ได้ ส่งบทความเรื่อง “คุณทหาร ขณะนี้คุณอยู่ที่ไหน” และ “คุณเป็นใครกันแน่” ตีพิมพ์แจกจ่ายในวันที่ 12 ก.ค. 2551 สนับสนุนการหยุดยั้งการชำเราประเทศชาติโดยรัฐบาลเถื่อน
บทความของพล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 มีความตอนจบว่า
“4. คุณทหาร และ ขุนทหาร คุณต้องเป็นทหารของพระราชา ของพระราชินี และของประชาชน และกล้าประกาศด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “ทหารเป็นทหารของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ไม่ใช่ทหารของนักการเมือง”
5. เป็นการกระทำที่ง่ายๆ มิฉะนั้น คุณทหารและขุนทหารจะต้องอับอายลูกเสือสำรอง ซึ่งเป็น ด.ช. และ ด.ญ.อายุไม่เกิน 15 ปีซึ่งกำลังตะโกนเสียงดังในใจว่า "ด้วยเกียรติของข้า ข้าขอสัญญาว่า ข้อ 1 ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์"
6. สมการการต่อสู้ทางคณิตศาสตร์ไม่เปลี่ยนแปลง คือ พันธมิตรฯ + ผู้ถืออาวุธ ชนะ อำนาจรัฐ + อำนาจเงิน
ผู้ถืออาวุธ คือ ผู้ถืออำนาจรัฐ
ผบ.เหล่าทัพ แม่ทัพนายกอง ที่อ้างว่าเป็นทหารของพระราชา พระราชินี และของประชาชนทราบหรือเปล่า?
และอีกครั้ง 2-3 วันนี้ พล.อ.กิตติ รัตนฉายา เขียนเรียกร้องให้ยุติพฤติกรรมและยุติรัฐบาล
พฤติกรรมของรัฐบาล
1) การกระทำเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ โดยพยายามล้มล้างกระบวนการยุติธรรม โดยใช้สื่อของรัฐเป็นเครื่องมือในการพยายามล้มล้างกระบวนการยุติธรรม เช่น ใช้ทีวี NBT จัดรายการต่อต้านทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรกลาง ป.ป.ช. กกต.
2) ขัดขืนไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ คำสั่งพิพากษาศาลในหลายกรณี
3) ทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
4) การจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเกื้อกูลผลประโยชน์ต่อพวกพ้อง นักการเมือง และระบอบทักษิณ
5) วิกฤตสภาฯ สภาฯ ล่ม 3 ครั้งสมาชิกไม่ครบองค์ประชุม สมาชิกไม่ปฏิบัติหน้าที่ (ตลอดสมัยประชุมที่ 1 ไม่ออกกฎหมายสักฉบับเดียว ผมเติมข้อความนี้ให้)
6) รัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศได้ ศูนย์กลางอำนาจ ( ทำเนียบรัฐบาล )โดนยึดโดย พธม.รัฐบาลขาดความเชื่อถือ มีอำนาจแต่บริหารไม่ได้
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมอยากจะเสริมแม่ทัพกิตติง่ายๆ เป็นภาษาชาวบ้านว่า บ้านเมืองกำลังจะลุกเป็นไฟ พันธมิตรฯ ได้ลุกลามไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงจะอธิบายเหตุผลและความชอบธรรมอย่างไร สังคมไทยที่ความคิดล้าหลังคงยากที่จะเข้าใจหรือรับได้ ไม่มีใครคิดโยงไปจนถึงต้นเหตุว่า การเลือกตั้งที่ผิดให้กำเนิดรัฐบาลเถื่อนที่หน้าด้านที่สุดในประวัติศาสตร์โลก (อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต) ถ้าเป็นรัฐบาลธรรมดาๆ เขาลาออกไปนานแล้ว
รัฐบาลเถื่อนนี้ได้เริ่มชำเราประเทศตั้งแต่ยังมิได้เข้ารับตำแหน่งจนถึงวันนี้ ดังนี้
1. ตั้งประธานสภาและครม.โดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์และหน้าตาของประเทศ แม้กระทั่งน้ำพระทัยผู้ลงพระปรมาภิไธย เพราะรู้อยู่แล้วว่าประธานสภาฯ คนแรกอีก 2-3 วันจะได้ใบแดง และประธานสภาฯ คนใหม่ มีคดีบุกรุกโกงที่ดินของการรถไฟฯ คา ป.ป.ช.อยู่ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงมาถึงรมต.สำคัญ เป็นอนาคตขี้คุก ปัจจุบันถูกคำพิพากษามีคดีความแขวนคออยู่ทั้งอาญาฉ้อโกง ละเมิดกฎหมาย ปกปิดสินทรัพย์หุ้น ปลอมแปลงประกาศนียบัตรการศึกษา เป็นผู้ด้อยจริยธรรมศีลธรรมหลอกล่อสตรีทำอนาจารเข้าม่านรูด มีพยานหลักฐาน ฯลฯ หน้าด้านทั้งโคตร ไม่ห่วงเลยว่าไม่ช้าก็จะหนีกฎหมายไม่พ้น
2. ทั้งครม. ทั้งสภาฯ แย่งตำแหน่ง แย่งงบประมาณ แย่งเมกะโปรเจกต์ ฟาดฟัดกัดกันเองไร้ยางอาย จนสภาฯ ล่ม งานทั้งในครม.และในสภาฯ หาสาระเรื่องอื่นมิได้ นอกจากเรื่องเล่นพวก วางหมาก หาทางให้ทักษิณและบริวารฟอกตัว ด้วยการแก้กฎหมาย กฎระเบียบและรัฐธรรมนูญ กดดัน ติดสินบน ข่มขู่ศาล ควบคุมอัยการกับตำรวจอยู่หมัด
3. ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ คำสั่งศาลปกครอง คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เช่น กรณีเอาดินแดนเขาพระวิหารและอธิปไตยของชาติไปแลกกับสัมปทานเกาะกง และแหล่งก๊าซในพื้นที่ทับซ้อนไทย-เขมรในทะเล เพื่อผลประโยชน์ของผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค
4.ไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีในสังคม ซ้ำปล่อยให้ตำรวจสมคบกับอันธพาลข่มขู่เข่นฆ่าประชาชนนับไม่ถ้วนกรณี เช่น ที่อุดรธานี สะพานมัฆวานฯ วันที่ 7 ตุลาคม และการแอบยิงและขว้างระเบิดประจำวัน ฯลฯ ทั้งกรรมการสิทธิ กรรมาธิการวุฒิสภาฯ ยืนยันว่ารัฐบาลเป็นฆาตกร
5. อดีต ผบ.ตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดให้ลงโทษผู้รับผิดชอบโฆษณาข้อความในเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลจาบจ้วงสถาบัน ป่านนี้เกิน 3 เดือนแล้วยังเงียบเฉย ปรากฏชัดว่าผู้นำรัฐบาล ผู้นำพรรค ส.ส.คนสำคัญในพรรคสมคบกันให้มีการจาบจ้วงสถาบันอย่างกว้างขวางผ่านสื่อใต้อิทธิพลพรรค วิทยุชมชน เว็บไซต์ ฯลฯ ละเลยหรืออำนวยความสะดวกให้พวกที่ถูกกล่าวหา ประวิงเวลาไม่ดำเนินการตามกฎหมาย
3 ผู้นำสำคัญในสังคมไทย คือนายเกษม จาติกวณิช อดีตผู้นำดุสิต 99 และผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการฯ นิด้า ในนามกลุ่มปัญญาสยามออกมาเรียกร้องเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นี้ให้รัฐบาลลาออกทั้งชุด และให้พันธมิตรฯ ยุติการชุมนุมประท้วง
หากไม่ยุติรัฐบาลเถื่อนที่ชำเราประเทศไม่ยอมหยุด เราจะยุติการชุมนุมของพันธมิตรฯ ได้อย่างไร ผมสงสารพันธมิตรฯ ชาวบ้านจับใจที่ชุมนุมมา 184 วันแล้วยังหยุดไม่ได้
ผมอยากเห็นเขาเลิกตั้งแต่วันแรกแล้วครับ แต่คนอย่างคุณเกษมหรือซุปเปอร์เคนี่ล่ะครับที่บอกว่า เลิกได้ยังไง เดี๋ยวไอ้สวะพวกนี้ ก็จะพากันหน้าด้านแก้รัฐธรรมนูญให้ระบอบทักษิณกลับมาอีก
ไม่เอา เพราะคนแก่อย่างเรารักในหลวงยิ่งชีวิต
ผมขอตอกย้ำว่าการ “สมคบ” และ “สมยอม” ที่เหลือเชื่อและเลวทรามที่สุด เป็นการทำลายกฎหมายทั้งระบบ และทำลายหลักการปกครองประชาธิปไตย ก็คือ การสมยอมให้พรรคเถื่อนหลายพรรคลงแข่งขันเลือกตั้ง และเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล ในหนังสือเรื่อง “พระราชอำนาจจากพระโอษฐ์ในหลวง” กับ “เลือกตั้งน้ำเน่า-เราจะพากันไปตาย” ผมเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ออกไปก่อนจนกว่าทุกพรรครวมทั้งไทยรักไทยจะจัดระบบพรรคของตนให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน
หาไม่ แต่ละพรรคต่างก็จะมีจุดอ่อน ขาดความชอบธรรม จะคอยจ้องทำลายกัน สังคมไทยจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เผชิญหน้าฆ่าฟันกันเอง กระทบกระเทือนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์อย่างยิ่ง
หลักเกณฑ์ที่จะดูว่ารัฐบาลใดมีความชอบธรรมหรือไม่ ให้ดูเอาง่ายๆ ว่า รัฐบาลนั้นมาอย่างไร อยู่อย่างไร และไปอย่างไร
รัฐบาลที่ชอบธรรมอย่างสมบูรณ์นั้นต้องมาชอบ อยู่ชอบ และไปชอบด้วย
การไปชอบคือการไปโดยไม่ทิ้งวิกฤตการสืบทอดอำนาจ รวมทั้งมรดกทรามทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองไว้ให้คนรุ่นหลัง อันเกิดจากการอยู่ไม่ชอบหรือการบริหารไม่ดีในตอนที่ครองอำนาจ การมาชอบก็ได้แก่ การมาตามกติกา เช่น การเลือกตั้งอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการยินยอมมอบหมายจากประชาชน แต่สัญลักษณ์อย่างเดียวไม่พอ เพราะเผด็จการก็มีเลือกตั้ง การเลือกตั้งที่ชอบธรรมต้องครบลักษณะ คือ เสรี ยุติธรรม และมีความเป็นตัวแทนเพียงพอ ซึ่งจะดูได้จากโครงสร้าง องค์ประกอบ และพฤติกรรมในระบบการเลือกตั้งนั้นๆ โครงสร้างคือข้อกำหนดหรือกฎหมายทำให้เกิดกลุ่ม องค์คณะหรือพรรคต่างๆ อย่างใด และในองค์คณะเหล่านั้นย่อมมีองค์บุคคลเป็นองค์ประกอบว่ามีใครบ้าง เช่น เจ้าพ่อท้องถิ่น นายทุนชาติ ผู้รับเหมาก่อสร้าง นักพนัน ฯลฯ ดังคำพังเพยว่าถ้าเลือกโจรก็ได้สภาโจร สำหรับระบบพฤติกรรมที่เห็นได้ชัด ก็คือ สะอาดหรือไม่ หรือว่ามีซื้อเสียงขายเสียง ซื้อบัตรประชาชน พลร่มไพ่ไฟ บัตรผี ยกหีบ ไฟดับ ซื้อกรรมการ บังคับข่มขู่ เป็นต้น
วัฒนธรรม “ชนะไหน เข้าด้วย ช่วยกระพือ” ผู้ใดได้กุมอำนาจรัฐ ย่อมจะหา “ผู้สมคบ” และ “ผู้สมยอม” ง่ายขึ้น แม้แต่พระพยอมก็ยังต้องยอม
ยกเว้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในประเทศและทั่วโลก กับแนวร่วมและพลังเงียบทั้งหลาย ที่จงรักภักดีต่อในหลวง ไม่อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฟอกผิดทักษิณกับพวก และไม่ชอบความโหดร้ายของตำรวจและอันธพาล นปก. ฯลฯ พันธมิตรฯ ชุมนุมประท้วงมา 184 วัน คงเหนื่อยอ่อนถอนใจเต็มที บางครั้งก็เผลอ “พูดชั่ว ตัวตาย ทำลายมิตร” เสียก็มี
ฝ่ายรัฐบาลเถื่อนซากเดนทักษิณก็เหิมเกริมก้าวร้าวไม่ยอมฟังผู้ใด สมกับบุคลิก “ข้าเก่งคนเดียว” ของนายกฯ หุ่นสมัคร
รัฐบาลเถื่อนกระทำชำเราประเทศชาตินานัปการอย่างมิเคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย นายทหารเก่าผู้ถือศีลนุ่งขาวห่มขาวถึงกับอดรนทนไม่ได้ ส่งบทความเรื่อง “คุณทหาร ขณะนี้คุณอยู่ที่ไหน” และ “คุณเป็นใครกันแน่” ตีพิมพ์แจกจ่ายในวันที่ 12 ก.ค. 2551 สนับสนุนการหยุดยั้งการชำเราประเทศชาติโดยรัฐบาลเถื่อน
บทความของพล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 มีความตอนจบว่า
“4. คุณทหาร และ ขุนทหาร คุณต้องเป็นทหารของพระราชา ของพระราชินี และของประชาชน และกล้าประกาศด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “ทหารเป็นทหารของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ไม่ใช่ทหารของนักการเมือง”
5. เป็นการกระทำที่ง่ายๆ มิฉะนั้น คุณทหารและขุนทหารจะต้องอับอายลูกเสือสำรอง ซึ่งเป็น ด.ช. และ ด.ญ.อายุไม่เกิน 15 ปีซึ่งกำลังตะโกนเสียงดังในใจว่า "ด้วยเกียรติของข้า ข้าขอสัญญาว่า ข้อ 1 ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์"
6. สมการการต่อสู้ทางคณิตศาสตร์ไม่เปลี่ยนแปลง คือ พันธมิตรฯ + ผู้ถืออาวุธ ชนะ อำนาจรัฐ + อำนาจเงิน
ผู้ถืออาวุธ คือ ผู้ถืออำนาจรัฐ
ผบ.เหล่าทัพ แม่ทัพนายกอง ที่อ้างว่าเป็นทหารของพระราชา พระราชินี และของประชาชนทราบหรือเปล่า?
และอีกครั้ง 2-3 วันนี้ พล.อ.กิตติ รัตนฉายา เขียนเรียกร้องให้ยุติพฤติกรรมและยุติรัฐบาล
พฤติกรรมของรัฐบาล
1) การกระทำเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ โดยพยายามล้มล้างกระบวนการยุติธรรม โดยใช้สื่อของรัฐเป็นเครื่องมือในการพยายามล้มล้างกระบวนการยุติธรรม เช่น ใช้ทีวี NBT จัดรายการต่อต้านทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรกลาง ป.ป.ช. กกต.
2) ขัดขืนไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ คำสั่งพิพากษาศาลในหลายกรณี
3) ทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
4) การจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเกื้อกูลผลประโยชน์ต่อพวกพ้อง นักการเมือง และระบอบทักษิณ
5) วิกฤตสภาฯ สภาฯ ล่ม 3 ครั้งสมาชิกไม่ครบองค์ประชุม สมาชิกไม่ปฏิบัติหน้าที่ (ตลอดสมัยประชุมที่ 1 ไม่ออกกฎหมายสักฉบับเดียว ผมเติมข้อความนี้ให้)
6) รัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศได้ ศูนย์กลางอำนาจ ( ทำเนียบรัฐบาล )โดนยึดโดย พธม.รัฐบาลขาดความเชื่อถือ มีอำนาจแต่บริหารไม่ได้
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมอยากจะเสริมแม่ทัพกิตติง่ายๆ เป็นภาษาชาวบ้านว่า บ้านเมืองกำลังจะลุกเป็นไฟ พันธมิตรฯ ได้ลุกลามไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงจะอธิบายเหตุผลและความชอบธรรมอย่างไร สังคมไทยที่ความคิดล้าหลังคงยากที่จะเข้าใจหรือรับได้ ไม่มีใครคิดโยงไปจนถึงต้นเหตุว่า การเลือกตั้งที่ผิดให้กำเนิดรัฐบาลเถื่อนที่หน้าด้านที่สุดในประวัติศาสตร์โลก (อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต) ถ้าเป็นรัฐบาลธรรมดาๆ เขาลาออกไปนานแล้ว
รัฐบาลเถื่อนนี้ได้เริ่มชำเราประเทศตั้งแต่ยังมิได้เข้ารับตำแหน่งจนถึงวันนี้ ดังนี้
1. ตั้งประธานสภาและครม.โดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์และหน้าตาของประเทศ แม้กระทั่งน้ำพระทัยผู้ลงพระปรมาภิไธย เพราะรู้อยู่แล้วว่าประธานสภาฯ คนแรกอีก 2-3 วันจะได้ใบแดง และประธานสภาฯ คนใหม่ มีคดีบุกรุกโกงที่ดินของการรถไฟฯ คา ป.ป.ช.อยู่ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงมาถึงรมต.สำคัญ เป็นอนาคตขี้คุก ปัจจุบันถูกคำพิพากษามีคดีความแขวนคออยู่ทั้งอาญาฉ้อโกง ละเมิดกฎหมาย ปกปิดสินทรัพย์หุ้น ปลอมแปลงประกาศนียบัตรการศึกษา เป็นผู้ด้อยจริยธรรมศีลธรรมหลอกล่อสตรีทำอนาจารเข้าม่านรูด มีพยานหลักฐาน ฯลฯ หน้าด้านทั้งโคตร ไม่ห่วงเลยว่าไม่ช้าก็จะหนีกฎหมายไม่พ้น
2. ทั้งครม. ทั้งสภาฯ แย่งตำแหน่ง แย่งงบประมาณ แย่งเมกะโปรเจกต์ ฟาดฟัดกัดกันเองไร้ยางอาย จนสภาฯ ล่ม งานทั้งในครม.และในสภาฯ หาสาระเรื่องอื่นมิได้ นอกจากเรื่องเล่นพวก วางหมาก หาทางให้ทักษิณและบริวารฟอกตัว ด้วยการแก้กฎหมาย กฎระเบียบและรัฐธรรมนูญ กดดัน ติดสินบน ข่มขู่ศาล ควบคุมอัยการกับตำรวจอยู่หมัด
3. ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ คำสั่งศาลปกครอง คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เช่น กรณีเอาดินแดนเขาพระวิหารและอธิปไตยของชาติไปแลกกับสัมปทานเกาะกง และแหล่งก๊าซในพื้นที่ทับซ้อนไทย-เขมรในทะเล เพื่อผลประโยชน์ของผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค
4.ไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีในสังคม ซ้ำปล่อยให้ตำรวจสมคบกับอันธพาลข่มขู่เข่นฆ่าประชาชนนับไม่ถ้วนกรณี เช่น ที่อุดรธานี สะพานมัฆวานฯ วันที่ 7 ตุลาคม และการแอบยิงและขว้างระเบิดประจำวัน ฯลฯ ทั้งกรรมการสิทธิ กรรมาธิการวุฒิสภาฯ ยืนยันว่ารัฐบาลเป็นฆาตกร
5. อดีต ผบ.ตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดให้ลงโทษผู้รับผิดชอบโฆษณาข้อความในเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลจาบจ้วงสถาบัน ป่านนี้เกิน 3 เดือนแล้วยังเงียบเฉย ปรากฏชัดว่าผู้นำรัฐบาล ผู้นำพรรค ส.ส.คนสำคัญในพรรคสมคบกันให้มีการจาบจ้วงสถาบันอย่างกว้างขวางผ่านสื่อใต้อิทธิพลพรรค วิทยุชมชน เว็บไซต์ ฯลฯ ละเลยหรืออำนวยความสะดวกให้พวกที่ถูกกล่าวหา ประวิงเวลาไม่ดำเนินการตามกฎหมาย
3 ผู้นำสำคัญในสังคมไทย คือนายเกษม จาติกวณิช อดีตผู้นำดุสิต 99 และผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการฯ นิด้า ในนามกลุ่มปัญญาสยามออกมาเรียกร้องเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นี้ให้รัฐบาลลาออกทั้งชุด และให้พันธมิตรฯ ยุติการชุมนุมประท้วง
หากไม่ยุติรัฐบาลเถื่อนที่ชำเราประเทศไม่ยอมหยุด เราจะยุติการชุมนุมของพันธมิตรฯ ได้อย่างไร ผมสงสารพันธมิตรฯ ชาวบ้านจับใจที่ชุมนุมมา 184 วันแล้วยังหยุดไม่ได้
ผมอยากเห็นเขาเลิกตั้งแต่วันแรกแล้วครับ แต่คนอย่างคุณเกษมหรือซุปเปอร์เคนี่ล่ะครับที่บอกว่า เลิกได้ยังไง เดี๋ยวไอ้สวะพวกนี้ ก็จะพากันหน้าด้านแก้รัฐธรรมนูญให้ระบอบทักษิณกลับมาอีก
ไม่เอา เพราะคนแก่อย่างเรารักในหลวงยิ่งชีวิต