xs
xsm
sm
md
lg

คุมไม่ได้แล้ว!! จี้"สมชาย"ออกตั้งรัฐบาลพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิด

ขึ้นในขณะนี้ว่า เป็นสถานการณ์ที่รัฐบาลควบคุมให้อยู่ในภาวะเรียบร้อยไม่ได้แล้ว ที่ทำงานกี่แห่ง

พันธมิตรฯ ก็ตามยึดหมด และถ้ารัฐบาลยังมีความรับผิดชอบก็มี 2 ทางเลือก คือ
1. ลาออก เพื่อให้เหตุการณ์จบ และพรรครัฐบาลว่าจะฟอร์มรัฐบาลใหม่อย่างไร เพื่อให้เป็น

รัฐบาลรูปแบบพิเศษ โดยเอาทุกฝ่ายเข้ามาเป็นรัฐมนตรี เพื่อทำให้สถานการณ์กลับสู่ปกติ ซึ่งรัฐบาลรูป

แบบพิเศษ ไม่ใช่รัฐบาลตามโควต้าของพรรคการเมืองอย่างที่เป็นอยู่ ที่เอาคนที่ประชาชนไม่รู้หน้า ไม่

รู้จัก หน้าตาดูไม่ได้ ทำงานไม่เป็น มารับผิดชอบ พูดจาก็แย่ เหมือนเช่น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.

มหาดไทย ที่ทำงานไม่ได้เรื่องที่สุด เท่าที่เคยเห็นมา พูดจาก็ไม่ดี ไปตอบกระทู้ในสภาว่าม็อบนี้ปราบ

ไม่ได้ เพราะเป็นม็อบที่มีเส้น ถือว่าเสียมาตรฐานคนเป็น รมว.มหาดไทยหมด
2 . ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ให้ประชาชนได้กลับบ้าน กลุ่มพันธมิตรฯ ก็กลับบ้าน เปิดโอกาส

ให้ประชาชนตัดสินใจเลือกผู้นำคนใหม่ และนักการเมืองคนใหม่ เข้ามาบริหารบ้านเมือง
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าทั้ง 2 ทางออกนี้ รัฐบาลไม่ทำ เพราะรัฐบาลนี้ดื้อด้าน และไม่สนใจ

ความเสียหายของบ้านเมือง ดูเหมือนจะพยายามจงใจให้เห็นว่า บ้านเมืองนี้ไปไม่ได้แล้ว จะได้สอด

คล้องกับเสียงเรียกร้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ขอกลับมาเป็นอัศวินม้าขาว อัศวินควายดำ มาแก้

ปัญหาบ้านเมือง เพราะฉะนั้น สิ่งที่รัฐบาลทำ ไม่มีทางถูกใจประชาชนส่วนใหญ่ได้ เพราะปล่อยปละ

ละเลยสถานการณ์แล้วทำให้สอดคล้องกับสิ่งที่นายเขาต้องการจริงๆ คือ พ.ต.ท. ทักษิณ
ส่วนการปฏิวัติ นั้นไม่เห็นด้วยเพราะจะไปทำให้สถานการณ์การเมืองเลวร้ายไปกว่านี้

เพราะสภาพความเป็นสากลไม่เอื้ออำนวยให้ประเทศไทยต้องเลือกเอาแนวทางเผด็จการ มาบริหารบ้าน

เมือง
ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวกลางในการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ

เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ นายสุเทพ กล่าวว่า การเจรจาเป็นเรื่องที่ดี เพราะสงครามก็ยังมีการเจรจาเพื่อ

หาข้อยุติ เพราะฉะนั้น คนไทยด้วยกันแท้ๆ ก็น่าจะเจรจากันได้ แต่รัฐบาลต้องแสดงความจริงใจในการ

เจรจา แต่ถ้าให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวกลางในการจัดเจรจา ตนยังไม่ได้หารือกันภายในพรรค แต่

ในส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะตนไม่เชื่อใจรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากคนกลางต้องเป็นที่ไว้ใจได้ แล้วคน

กลางก็ต้องไว้ใจผู้เจรจาด้วยว่าเป็นคนที่มีเกียรติยศ รักษาคำพูด เมื่อพูดจาและตกลงกันแล้ว ก็ต้อง

ปฏิบัติตาม
"แต่ผมเห็นว่า คนในรัฐบาลนี้เป็นพวกไม่เกียรติยศ รักษาคำพูดไม่ได้ พูดอย่าง ทำอย่าง มี

เล่ห์เหลี่ยมตลอดเวลา เล่นการเมืองทั้งบนดิน และใต้ดิน พ.ต.ท.ทักษิณ เล่นใต้ดิน รัฐบาลเล่นบนดิน

แล้วก็ประสานกัน โดยพูดจาสร้างความแตกแยกตลอด ที่ผ่านมามีการติดต่อมาขอเจรจาด้วย แต่ผมไม่

เคยเจรจาเลย แต่ว่าเรื่องของบ้านเมือง ผมเห็นว่าควรจะเจราจา แต่สำคัญที่สุด คือจะเจรจากับใคร แล้ว

ฝ่ายรัฐบาลเป็นใคร เพราะต้องเจรจากันทั้งคณะรัฐมนตรี และฝ่ายพันธมิตรฯ ให้มานั่งพูดคุยกัน เพราะ

ถือเป็นคู่กรณี"
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงสถานการณ์จะรุนแรงหรือไม่ เพราะ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายก

รัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้(26พ.ย.) นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ห่วงนายกฯ เพราะไม่มี

ความรัก ความผูกพัน ไม่มีความหวังอะไรกับนายกฯคนนี้ แต่ที่ห่วงคือบ้านเมือง

**สภาทาสหยุดรับใช้รัฐบาล
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงผลการประชุมถึงการเคลื่อนไหวของ

กลุ่มพันธมิตรฯ ว่า หากการต่อสู้ระหว่างพันธมิตรฯกับรัฐบาล หากยังคงยืดเยื้อต่อไปจะทำให้เกิดความ

เสียหายรุนแรงกับประเทศชาติ ดังนั้นวิปฝ่ายค้านจึงขอเสนอทางออก 3 แนวทาง คือ 1. รัฐสภาต้อง

ดำรงบทบาทที่มีความเป็นอิสระ โดยต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาล เพราะหากสภาตกเป็นเครื่อง

มือของรัฐบาล เหมือนที่บางกลุ่มเรียกว่าสภาทาส จะเป็นเรื่องยากที่สภาจะดำรงอยู่ และสามารถทำ

งานต่อไปได้
2. รัฐบาลจะต้องถอดเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งลงคือ กรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ถ้าเป็นไปได้ พรรคพลังประชาชนควรเจรจากับ คปพร. ให้ถอนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกจากการ

เสนอสู่ที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ และรัฐบาลจะต้องมีท่าทีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่

ชัดเจนกว่านี้ ในเชิงของการเคารพกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการถอน พาสปอร์ตแดง และ

การนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับผิดในกระบวนการยุติธรรม และรัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิด

ชอบกับเหตุการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เนื่องจากเวลาที่ผ่านมา 1 เดือนกว่าแล้ว ยังไม่มีความ

รับผิดชอบใดหลุดออกมาจากปากของนายกฯ ซึ่งถือว่าตรงนี้เป็นจริยธรรมของคนเป็นนายกฯ ที่ชัดเจน

รวมไปถึงรัฐบาลจะต้องกำกับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ติดตามเอาผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่

ชุมนุมของพันธมิตรฯ มาดำเนินคดีให้ได้
3 . การเจรจาระหว่างรัฐบาล และพันธมิตรฯ ถือเป็นทางออกเดียวในขณะนี้ ที่จะช่วยแบ่ง

เบาสถานการณ์ได้

**ยุบสภาทางออกสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม หากทั้ง 3 ข้อนี้ยังไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะโดยความตั้งใจของรัฐบาลที่จะ

ไม่ทำ โดยจะสู้ต่อหรือในกรณีใดก็ตาม วิปฝ่ายค้านเห็นว่า ไม่มีทางออกอื่น หนทางสุดท้ายคือ รัฐบาล

คงต้องตัดสินใจยุบสภา เพราะการยุบสภาน่าจะเป็นทางออกสุดท้าย ที่จะยุติสถานการณ์ทั้งหมดใน

ขณะนี้ลงได้ ถ้ารัฐบาลเห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง คิดว่าข้อเสนอทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นข้อเสนอที่ทุก

ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐบาล ก็ควรจะนำกลับไปพิจารณา
"ผมไม่อยากให้เห็นว่า เราเรียกร้องยุบสภาซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่ผมเห็นว่าสถานการณ์ในขณะ

นี้พัฒนาไปสู่สถาพของการที่รัฐบาลทำงานไม่ได้ สภาก็ทำงานไม่ได้ ถ้าทั้ง 2 องค์กรนี้ทำงานไม่ได้

สภาพของประเทศก็ยากที่จะเดิน และไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศต่อไปได้"
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ข้อสังเกตในเวลาที่รัฐบาลกับกลุ่มพันธมิตรฯ ยังขัดแย้งกัน การ

ทำงานในพรรคร่วมรัฐบาลหลายกระทรวงยังมีข่าวที่น่าสลดใจอย่างยิ่งคือ มีกรณีข้อกล่าวหา ความไม่

โปร่งใส และเรื่องของการทุจริตเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีฝายแม้ว การรับจำนำข้าว ดังนั้น ถ้าภาวะนี้

ยังอยู่ เราคิดว่าประเทศยากที่จะแก้ไขปัญหาประชาชนแล้วเดินหน้า ดังนั้น การตัดสินใจทางการเมือง

ต้องเกิดขึ้นทันที มากกว่าที่รัฐบาลจะผ่อนภาระนี้ต่อไปเรื่อยๆ

นาย เทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย ระบุ

ว่าจะไม่ลาออก เพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้นประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นคนตัดสิน ว่า

ตนไม่เข้าใจว่าทำไมนายกฯ จึงแอบอ้างเอาประชาชนเป็นเกราะกำบัง เพื่อดันทุรังอยู่ในตำแหน่งต่อไป

และที่กลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนมากออกมาขับไล่นายกฯทุกวัน คนเหล่านี้ไม่ใช่ประชาชน หรือ อย่ามา

แอบอ้างประชาชน คนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่จะบังคับให้นายกฯลาออกได้ เชื่อว่าเพียงคนๆ เดียวที่

อยู่ในเมืองดูไบในตอนนี้ ยกหูโทรศัพท์มาให้ลาออก ก็เชื่อว่านายกฯ จะลาออกทันที โดยก็ไม่ได้สนใจ

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน
"ผมอยากให้นายกฯ รีบตัดสินใจแก้ปัญหาวิกฤตชาติด้วยตัวเอง เพราะท่าน คือกุญแจ

สำคัญที่จะไขปัญหาของบ้านเมืองให้พ้นจากวิกฤตได้ เพียงประกาศลาออกหรือยุบสภา ก็สามารถ

ปลดล็อกได้ทันที วันนี้นายกฯ หมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศ ในฐานะผู้นำสูงสุดแล้ว และ

การที่นายกฯ ไปประชุมเอเปกที่ประเทศเปรูนั้น จะตอบคำถามผู้นำสมาชิกเอเปกได้อย่างไรว่าตนเอง

มีอำนาจเต็มอยู่ เพราะทำเนียบรัฐบาลทั้ง 2 แห่ง ก็ถูกประชาชนยึด รัฐสภาก็ถูกประชาชนปิดล้อม มือที่

เปื้อนเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาฯ ก็ยังไม่ได้ล้าง แล้วจะไปสัมผัสกับมิตรประเทศได้อย่างเต็มภาคภูมิได้

อย่างไร" นายเทพไท กล่าว
นายเทพไทกล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในวันนี้ ความขัดแย้งของสังคม จะย้อนรอย

เหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ที่มีกลุ่มนักศึกษา และประชาชนต่อต้านรัฐบาล และฝ่ายรัฐบาลก็ใช้สถานี

วิทยุเสียงสามยอด โดยมี 3 โฆษกคอยปลุกระดม และจัดตั้งกลุ่มกระทิงแดง ขึ้นมาต่อต้าน และใน

วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ฝ่ายรัฐบาลก็ได้ใช้สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ซึ่งเป็นสื่อ

ของรัฐ โดยให้สามเกลอหัวกลมจัดรายการปลุกระดม และจัดตั้งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้าน

เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นมาต่อต้านพันธมิตรฯ และที่เหมือนกันอีกอย่างคือ มีการนำเรื่องของ

ศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง ที่เคยมีพระกิตติวุฒิโฑ แห่งจิตตภาวัน ออกเทศนาว่า ฆ่า

คอมมิวนิสต์ ไม่บาป ซึ่งคล้ายกับกลุ่มนปช.จัดรายการความจริงวันนี้ ในวัดสวนแก้ว โดยให้พระพยอม

กัลยาโณ เทศนาเปิดเวที" นายเทพไทกล่าว
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลไม่แก้ไข ความขัดแย้งดังกล่าวปล่อยให้ประชาชน

เผชิญหน้า และประหัต ประหาร จนเลือดนองแผ่นดิน รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ และถ้าหาก

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนทนไม่ได้ และเบื่อหน่ายความขัดแย้งกลับไปเรียกหาทหารมา

แก้ไขปัญหา แล้วรัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายไม่ปรารถนา และไม่เป็นผลดี

ต่อฝ่ายใด ไม่ว่าจะเป็นทหาร นักการเมือง ประชาชน และประเทศชาติก็จะได้รับผลกระทบกันถ้วน

หน้า
**ประเมินแม้วทุ่มเงินซื้อแหลก
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุม ส.ส.วานนี้ ( 25 พ.ย.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่

ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ที่เคลื่อนไหวชุมนุมที่

ต่างๆจะเริ่มอ่อนแรงลง อีกทั้งรัฐบาลมีกุนซือใหม่จึงทำให้สถานาการณ์ไม่มีการปะทะ หรือแตกหัก

ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร แต่ทันทีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อที่ เมืองดูไบ ทำให้เป็น

การส่งสัญญาณที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น
นอกจากนี้ ให้จับตาดูหลังวันที่ 5 ธ.ค.นี้ สถานการณ์จะมีความรุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม

ที่ประชุมยังได้วิเคราะห์การประชุมสภาในวันนี้ โดยบางส่วนเห็นว่าไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น เพราะกลุ่ม

พันธมิตรฯส่วนใหญ่ อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว แต่ส.ส.บางส่วนก็เห็นว่า กลุ่มพันธมิตรฯจะปิดล้อม

สภาอีกรอบ เพราะเห็นว่าสภานี้เป็นทาสของระบอบทักษิณ และเป็นเครื่องมือรัฐบาล อย่างไรก็ตาม

ส.ส.ของพรรคจะเดินทางไปร่วมประชุมสภาตามปกติ
นอกจากนี้ในการประชุม ส.ส.นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา แกนนำพรรคประชาธิ

ปัตย์ ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะความเคลื่อนไหว ของพ.ต.ท.

ทักษิณ ชินวัตร ว่ายังคงคิดว่าเงินสามารถซื้อได้ทุกอย่าง และที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ คิดว่าตนเองใช้

เงินน้อยเกินไป ทำให้ไม่หลุดคดีต่างๆ แต่ต่อจากนี้ไป พ.ต.ท.ทักษิณ จะเปิดเกมใหม่ โดยจะรุกทุก

ประตู รุกทุกซอก ใช้เงินซื้อทุกอย่าง รวมถึงการตั้งพรรคเพื่อไทย เพื่อรองรับการยุบพรรคพลัง

ประชาชน รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าเป็นพรรคการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่มีนอมินี

ทั้งนี้ หากการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร จะสามารถควบคุมได้หมด ซึ่งที่ผ่านมา นาย

ชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค เคยเตือนรัฐบาลของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายก

รัฐมนตรี ให้ชี้แจงเหตุผลการทำรัฐประหาร 5 ข้อ ว่าอาจจะกระทบต่อสถาบันฯได้ ซึ่งขณะนี้ชัดเจน

แล้วว่า สถาบันฯนั้นหมายถึงอะไร ดังนั้น จึงขอให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งมั่นไม่ประมาท และ

ต้องสู้ให้สมกับประชาชนเลือกเข้ามา
นอกจากนี้ แกนนำพรรคยังได้วิเคราะห์ว่า หากจะมีการยุบสภาก็ต่อเมื่อได้เงินก้อนโตจาก

การคอร์รัปชั่น และวันนี้รัฐบาลก็พร้อมใช้พรรคอะไหล่ 2 และ 3 โดยไม่สนใจเรื่องการยุบพรรค และ

ไม่สนใจว่า คนที่เข้ามาจะมีความสามารถในการทำงานหรือไม่ จะเห็นได้จากขณะนี้มีการทยอยลาออกของ ส.ส.กันแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น