นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนการประชุมถึงคดีรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ถูกสอบสวนเรื่องการทุจริต ซึ่งมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่า กทม เกี่ยวข้องด้วย ว่าขณะนี้ยังหาข้อยุติไม่ได้ ซึ่งการพิจารณาของคตส.ถือว่ามีผลดีกับนายอภิรักษ์ คือไม่ได้วินิจฉัยว่ามีการกระทำผิด ส่วนนี้เป็นเรื่องที่กรรมการจะต้องนำมาพิจารณากัน และจะไปด่วนตัดสิทธิ์ไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) เพราะเหตุนี้ไม่ได้ เพราะในขณะที่การพิจารณาของคตส.ยังไม่ชี้ชัด แต่มีแนวโน้มว่าเป็นเรื่องการปฏิบัติตามสัญญา ถ้าเป็นเช่นนี้ก็คิดว่านายอภิรักษ์ก็มีโอกาส และที่สำคัญคือโดยประเพณีปฏิบัติของพรรคในการคัดเลือกตั้งผู้สมัคร คนเก่าอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบ ถ้าไม่มีความเสียหายหรือบกพร่อง หรือไม่มีคนใหม่ที่มีความโดดเด่นกว่าก็จะให้ความเห็นชอบกับคนเก่า
กรณีเช่นนี้นายอภิรักษ์ก็มีโอกาสสูง และในวันนี้ถ้าไม่มีคนอื่นมาเปรียบเทียบ ผมคิดว่าจะจบในชั้นนี้ได้ แต่การตัดสินเด็ดขาดจะอยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรค
สำหรับการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่ากทม.คนใหม่จะอยู่ที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ ของพรรคว่าจะเปิดตัวเมื่อไหร่ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่จะมีการเปิดตัวในช่วงเดือน สิงหาคม อย่างไรก็ตามนายอภิรักษ์คิดว่าเป็นคนทีได้เปรียบเพราะทำงานมาตลอด เข้าตาชาวบ้านพอสมควร แต่ถ้าคดียังไม่ยุติก็อาจจะถูกโจมตีได้ก็ต้องมีการชี้แจง ทำความเข้าใจกัน และประชาชนก็จะเป็นคนตัดสิน ส่วนเรื่องแผนการรับมือในเรื่องนี้ฝ่ายยุทธศาสตร์จะเป็นคนไปดู
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่า กทม.กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า มีการหารือ เกี่ยวกับบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งตนในฐานะเป็นผู้ว่าฯกทม. ได้ชี้แจงถึงการทำงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องนโยบายโดยได้มีการสอบถามจากประชาชนว่าจะให้แก้ไขปัญหาในเรื่องใด เช่น การจราจร สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การส่งเสริมพัฒนาการศึกษา การดูแลสุขภาพของประชาชน ที่สำคัญคือ การส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยคณะกรรมการสอบถามรายละเอียด ถึงแนวทางในเชิงนโยบายเกี่ยวกับการทำงานที่ผ่านมา ส่วนกระบวนการต่อไปจะมีการเสนอชื่อไปยังหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และเลขาธิการพรรคเพื่อเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติ และส่งชื่อลงสมัครในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ต่อไป
สำหรับการเตรียมการรณรงค์หาเสียงนั้น นายอภิรักษ์ กล่าวว่า จะหารือกับพรรคอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนตุลาคมเพราะต้องรอ กกต.ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งก่อน ส่วนนโยบายจะมีการประกาศหลังจากมีการเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ตนมีความตั้งใจที่จะดำเนินนโยบายที่เป็นเป้าหมายหลัก และประเด็นที่ได้สอบถามประชาชนว่า ต้องการให้ทำอะไรต่อเพื่อผลักดันโครงการให้มีความต่อเนื่องในทุกโครงการ หรืออาจจะมีการเสนอโครงการใหม่ที่ประชาชนอยากทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยที่ผ่านมามีการสำรวจทุกสามเดือนเพื่อประเมินผลการทำงานในทุกโครงการ และจะได้มีการสำรวจเกี่ยวกับปัญหาจราจรและสิ่งแวดล้อมว่ามีจุดบกพร่องที่ต้องปรับปรุงในส่วนใดบ้างเพื่อผลักดันให้กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลกต่อไป
ผมมั่นใจในการทำงานที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับคนกรุงเทพฯว่าจะตัดสินใจอย่างไร ซึ่งเมื่อพรรคประกาศอย่างเป็นทางการ ผมมีความพร้อมและมีความมั่นใจที่จะเร่งผลักดันโครงการทั้งในส่วนที่ทำมาแล้ว และยังไม่แล้วเสร็จ และยอมรับว่าคงมีการนำประเด็นทุจริตโครงการรถและเรือดับเพลิง กทม.มาโจมตี แต่ไม่กังวลเพราะมีการชี้แจงมาตลอด เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของ ป.ป.ช. และ มั่นใจว่าชี้แจงได้ แต่เมื่อมีการแข่งขันก็คงหยิบยกเรื่องนี้มาโจมตี แต่คิดว่าประชาชนจะเข้าใจในสิ่งที่ผมชี้แจง
ส่วนที่มีข่าวว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อาจลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่า กทม. ด้วย ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ไม่กังวลหากลงสมัครก็แข่งขันกันตามกติกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าวใช้เวลาเกือบสามชั่วโมง โดยมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน ซึ่งมีความชัดเจนว่าจะส่งนายอภิรักษ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม.อีกสมัยหนึ่ง โดยได้ให้นายอภิรักษ์แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม เกี่ยวกับการทำงานที่ผ่านมา และสิ่งที่จะดำเนินการต่อหากลงสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งสอบถามถึงปัญหาเกี่ยวกับคดีทุจริตรถและเรือดับเพลิงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. ซึ่งนายอภิรักษ์มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ได้ ที่ประชุมจึงมีมติที่จะเสนอชื่อนายอภิรักษ์ให้คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติอนุมัติเพื่อลงสมัครในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกสมัยหนึ่งในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค.นี้
กรณีเช่นนี้นายอภิรักษ์ก็มีโอกาสสูง และในวันนี้ถ้าไม่มีคนอื่นมาเปรียบเทียบ ผมคิดว่าจะจบในชั้นนี้ได้ แต่การตัดสินเด็ดขาดจะอยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรค
สำหรับการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่ากทม.คนใหม่จะอยู่ที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ ของพรรคว่าจะเปิดตัวเมื่อไหร่ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่จะมีการเปิดตัวในช่วงเดือน สิงหาคม อย่างไรก็ตามนายอภิรักษ์คิดว่าเป็นคนทีได้เปรียบเพราะทำงานมาตลอด เข้าตาชาวบ้านพอสมควร แต่ถ้าคดียังไม่ยุติก็อาจจะถูกโจมตีได้ก็ต้องมีการชี้แจง ทำความเข้าใจกัน และประชาชนก็จะเป็นคนตัดสิน ส่วนเรื่องแผนการรับมือในเรื่องนี้ฝ่ายยุทธศาสตร์จะเป็นคนไปดู
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่า กทม.กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า มีการหารือ เกี่ยวกับบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งตนในฐานะเป็นผู้ว่าฯกทม. ได้ชี้แจงถึงการทำงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องนโยบายโดยได้มีการสอบถามจากประชาชนว่าจะให้แก้ไขปัญหาในเรื่องใด เช่น การจราจร สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การส่งเสริมพัฒนาการศึกษา การดูแลสุขภาพของประชาชน ที่สำคัญคือ การส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยคณะกรรมการสอบถามรายละเอียด ถึงแนวทางในเชิงนโยบายเกี่ยวกับการทำงานที่ผ่านมา ส่วนกระบวนการต่อไปจะมีการเสนอชื่อไปยังหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และเลขาธิการพรรคเพื่อเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติ และส่งชื่อลงสมัครในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ต่อไป
สำหรับการเตรียมการรณรงค์หาเสียงนั้น นายอภิรักษ์ กล่าวว่า จะหารือกับพรรคอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนตุลาคมเพราะต้องรอ กกต.ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งก่อน ส่วนนโยบายจะมีการประกาศหลังจากมีการเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ตนมีความตั้งใจที่จะดำเนินนโยบายที่เป็นเป้าหมายหลัก และประเด็นที่ได้สอบถามประชาชนว่า ต้องการให้ทำอะไรต่อเพื่อผลักดันโครงการให้มีความต่อเนื่องในทุกโครงการ หรืออาจจะมีการเสนอโครงการใหม่ที่ประชาชนอยากทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยที่ผ่านมามีการสำรวจทุกสามเดือนเพื่อประเมินผลการทำงานในทุกโครงการ และจะได้มีการสำรวจเกี่ยวกับปัญหาจราจรและสิ่งแวดล้อมว่ามีจุดบกพร่องที่ต้องปรับปรุงในส่วนใดบ้างเพื่อผลักดันให้กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลกต่อไป
ผมมั่นใจในการทำงานที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับคนกรุงเทพฯว่าจะตัดสินใจอย่างไร ซึ่งเมื่อพรรคประกาศอย่างเป็นทางการ ผมมีความพร้อมและมีความมั่นใจที่จะเร่งผลักดันโครงการทั้งในส่วนที่ทำมาแล้ว และยังไม่แล้วเสร็จ และยอมรับว่าคงมีการนำประเด็นทุจริตโครงการรถและเรือดับเพลิง กทม.มาโจมตี แต่ไม่กังวลเพราะมีการชี้แจงมาตลอด เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของ ป.ป.ช. และ มั่นใจว่าชี้แจงได้ แต่เมื่อมีการแข่งขันก็คงหยิบยกเรื่องนี้มาโจมตี แต่คิดว่าประชาชนจะเข้าใจในสิ่งที่ผมชี้แจง
ส่วนที่มีข่าวว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อาจลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่า กทม. ด้วย ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ไม่กังวลหากลงสมัครก็แข่งขันกันตามกติกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าวใช้เวลาเกือบสามชั่วโมง โดยมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน ซึ่งมีความชัดเจนว่าจะส่งนายอภิรักษ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม.อีกสมัยหนึ่ง โดยได้ให้นายอภิรักษ์แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม เกี่ยวกับการทำงานที่ผ่านมา และสิ่งที่จะดำเนินการต่อหากลงสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งสอบถามถึงปัญหาเกี่ยวกับคดีทุจริตรถและเรือดับเพลิงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. ซึ่งนายอภิรักษ์มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ได้ ที่ประชุมจึงมีมติที่จะเสนอชื่อนายอภิรักษ์ให้คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติอนุมัติเพื่อลงสมัครในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกสมัยหนึ่งในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค.นี้