นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู หลังสิ้นสุดการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก ระบุไม่มีความตั้งใจที่จะลาออกตามคำเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ ขณะที่ผู้ชุมนุมนับแสนเคลื่อนขบวนปิดล้อมรัฐสภาในวานนี้ (24)
“เราเข้ามาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นผมจึงไม่ได้คิดถึงการลาออกแต่อย่างใด” เขากล่าว
“ผมจะอดทนจนถึงที่สุด เราต้องเจรจา และพยายามหาทางปรองดอง” เขากล่าว โดยเสริมว่า เขาไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องใช้มาตรการแข็งกร้าวยิ่งขึ้น เพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง
“หากรัฐบาลจะต้องถูกขับไล่ ก็ควรเป็นการถูกขับไล่โดยรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง หรือโดยประชาชน ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง” เขากล่าวเป็นภาษาไทย โดยมีล่ามแปลเป็นภาษาอังกฤษ
นายสมชายยังได้ปฏิเสธเรื่องที่พูดกันว่า กองทัพก่อการปฏิวัติรัฐประหารอีก เนื่องจากสถานการณ์การเมืองอยู่ในภาวะประจันหน้ากัน โดยเขาบอกว่า “ฝ่ายทหารเองได้ยินยันมาหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า พวกเขาจะไม่ทำการปฏิวัติรัฐประหารอย่างแน่นอน”
นอกจากนั้น เขายังแสดงท่าทีไม่เห็นความสำคัญของวิกฤตการเมืองที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยย้ำว่าสิ่งที่น่ากังวลสำหรับประเทศไทยยิ่งไปกว่านั้นคือ วิกฤตการเงินทั่วโลก ที่เป็นประเด็นหลักในการประชุมประจำของกลุ่มเอเปกครั้งนี้
“สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในตอนนี้เป็นเรื่องเล็กมาก เพียงจุดเล็กๆ จุดเดียวในกรุงเทพฯ มันไม่ได้ทำลาย หรือกระทบกระเทือนพื้นฐานเศรษฐกิจของเรามากนัก” เขาสำทับ
“เราเข้ามาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นผมจึงไม่ได้คิดถึงการลาออกแต่อย่างใด” เขากล่าว
“ผมจะอดทนจนถึงที่สุด เราต้องเจรจา และพยายามหาทางปรองดอง” เขากล่าว โดยเสริมว่า เขาไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องใช้มาตรการแข็งกร้าวยิ่งขึ้น เพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง
“หากรัฐบาลจะต้องถูกขับไล่ ก็ควรเป็นการถูกขับไล่โดยรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง หรือโดยประชาชน ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง” เขากล่าวเป็นภาษาไทย โดยมีล่ามแปลเป็นภาษาอังกฤษ
นายสมชายยังได้ปฏิเสธเรื่องที่พูดกันว่า กองทัพก่อการปฏิวัติรัฐประหารอีก เนื่องจากสถานการณ์การเมืองอยู่ในภาวะประจันหน้ากัน โดยเขาบอกว่า “ฝ่ายทหารเองได้ยินยันมาหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า พวกเขาจะไม่ทำการปฏิวัติรัฐประหารอย่างแน่นอน”
นอกจากนั้น เขายังแสดงท่าทีไม่เห็นความสำคัญของวิกฤตการเมืองที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยย้ำว่าสิ่งที่น่ากังวลสำหรับประเทศไทยยิ่งไปกว่านั้นคือ วิกฤตการเงินทั่วโลก ที่เป็นประเด็นหลักในการประชุมประจำของกลุ่มเอเปกครั้งนี้
“สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในตอนนี้เป็นเรื่องเล็กมาก เพียงจุดเล็กๆ จุดเดียวในกรุงเทพฯ มันไม่ได้ทำลาย หรือกระทบกระเทือนพื้นฐานเศรษฐกิจของเรามากนัก” เขาสำทับ