xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นฟุ้งบจ.ไทยยังเจ๋ง 9เดือนกำไรเฉียด4แสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยผลงานงวด 9 เดือน บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวม 394,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26% และยอดขายรวม 5,753,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% กลุ่มทรัพยากรยังครองแชมป์กำไรสูงสุด 1.5 แสนล้านบาท แม้จะโตแค่ 2% ขณะที่ PTT, PTTEP, SCC, SCB และ ADVANC รั้งตำแหน่งบจ.ที่กำไรสูงสุด 5 อันดับแรก

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนประจำงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 ว่า บริษัทจดทะเบียน 469 บริษัท จาก 498 บริษัท (รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 21 กองทุน) มีกำไรสุทธิรวม 394,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 26% และมียอดขายรวม 5,753,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% โดยมีบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 388 บริษัท และขาดทุนสุทธิ 81 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน 83 ต่อ 17

ขณะที่ผลการดำเนินงานโดยรวมในงวดไตรมาส 3 ปี 2551 มีกำไรสุทธิรวม 97,851 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 6% และยอดขายรวม 2,006,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34%

“จากผลดำเนินงานงวด 9 เดือนของบริษัทจดทะเบียนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมของธุรกิจในประเทศไทยว่ายังมีความเข้มแข็ง แม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว” นางภัทรียา กล่าว

สำหรับบริษัทในกลุ่ม SET100 มีกำไรสุทธิ 325,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 40% ส่วนบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 กำไรสุทธิรวม 297,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% และยอดขายเพิ่มขึ้น 41%

ส่วนบริษัทที่มีมูลค่ากำไรสุทธิรวมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ.ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANCE)

ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน 8 กลุ่มอุตสาหกรรม   (Industry Group) ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน (Non-Compliance:NC) และบริษัทในกลุ่มที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด  (Non-Performing  Group: NPG) จำนวน 453 บริษัท  งวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิรวม 390,181  ล้านบาท  เพิ่มขึ้นร้อยละ 23   โดยกลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรกที่มีกำไรสูงสุด คือ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับแรก กลุ่มทรัพยากร ประกอบด้วย หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดเหมืองแร่ มีกำไรสุทธิ 153,482  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2%

อันดับสอง กลุ่มธุรกิจการเงิน ประกอบด้วย หมวดธนาคาร หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ และหมวดประกันภัยและประกันชีวิต มีกำไรสุทธิ 78,597 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 199% และอันดับสาม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ประกอบด้วยหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  หมวดวัสดุก่อสร้างและ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ มีกำไรสุทธิ 45,835 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 22%
กำลังโหลดความคิดเห็น