xs
xsm
sm
md
lg

สังคมไทยสมยอมความสำส่อนและกดขี่ทางเพศ

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

ท่านผู้อ่านที่เคารพ สังคมไทยเป็นสังคมหน้าไหว้หลังหลอก ชอบซ่อนความจริง และหลอกแม้กระทั่งตัวเอง

ไม่มียุคใด ที่คำกล่าวข้างต้นจะจริงที่สุดเหมือนกับในยุคนี้ คือยุคของอดีตนายกฯทักษิณและซากเดนที่เหลืออยู่ ณ ปัจจุบัน

ผู้ที่กระทำการ “โกหก-ปกปิด-บิดเบือน-เชือนเฉย” ทำให้ความจริงถูกกด และความเท็จปรากฏเป็นเหมือนจริง คือ คณะผู้ใช้อำนาจรัฐและกลไกของระบบราชการปัจจุบันที่อยู่ภายใต้การชี้นำของทักษิณเกือบทั้งสิ้น

แต่บางที “ผู้กระทำ” หรือตัวการเหล่านั้น ก็มี “ผู้สมคบ” และ “ผู้สมยอม” อีกมากมาย

“ผู้สมยอม” นั้นก็คือคนส่วนใหญ่ที่ประกอบกันขึ้นเป็นสังคมไทย ในขณะที่ “ผู้สมคบ” ก็คือผู้ที่อยู่เหนือขึ้นไปในบันไดแห่งชนชั้นหรือฐานันดร เป็นผู้ที่มีฐานะอย่างใดอย่างหนึ่งที่สูงกว่าคนทั่วไป เป็นผู้ที่อยู่ในอำนาจ เป็นส่วนหนึ่งของอำนาจ หรืออยู่ใกล้อำนาจ มีความสามารถเข้าถึงหรือมีปฏิสัมพันธ์อย่างหนึ่งอย่างใดกับอำนาจได้ อำนาจในกรณีที่ว่านี้อาจนิยามแต่เพียงหลวมๆ ว่าอำนาจรัฐ รัฐบาล หรือระบบราชการ ก็ได้

ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ โปรดกรุณาอ่านข้อความข้างต้นของผมให้ดีๆ เพราะต่อไปเราจะสามารถใช้ความคิดนี้ไปวิเคราะห์เรื่องอื่นๆ ได้หลายเรื่อง ไม่จำกัดอยู่เฉพาะเรื่องการกดขี่หรือสำส่อนทางเพศเท่านั้น ผมจะพยายามยกตัวอย่างประกอบในตอนท้าย

ผมขอออกตัวกลัวว่าท่านผู้อ่านจะเข้าใจผิด เมื่อผมกล่าวถึงบันไดแห่งชนชั้นนั้น ผมมิได้ถือกำเนิดหรือวงศ์ตระกูลเป็นเครื่องวัด และผมมิได้ใช้ทฤษฎีแห่งชนชั้นหรือการแบ่งชนชั้นแบบตะวันตกมาเป็นหลักคิด ผมเพียงแต่อ้างข้อเท็จจริงของฐานะบุคคลซึ่งแตกต่างกันในตำแหน่งทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองไทย อันเกิดขึ้นจากอำนาจหรือเงินหรือการศึกษา ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องผูกขาดอยู่ที่กำเนิดหรือวงศ์ตระกูลสูง ตัวอย่างของคนที่ถีบตัวขึ้นมา ที่เห็นได้ง่ายๆ ในปัจจุบันก็คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายบรรหาร ศิลปอาชา และบริวารชั้นแนวหน้าของระบอบทักษิณ เป็นต้น

ข้อแตกต่างระหว่าง “ผู้สมคบ” กับ “ผู้สมยอม” ก็คือ ผู้ที่สมคบนั้นมิใช่ผู้ที่ถูกกดขี่ เป็นเหยื่อ และรับกรรมจาก “ผลโดยตรง” หรือ “ผลทางอ้อม” จากการกดขี่หรือการกระทำนั้นๆ ซ้ำกลับจะเป็นผู้เห็นด้วย ผู้ช่วยให้เกิดความสะดวก ผู้ที่น่าจะระงับหรือห้ามมิให้เกิดการกดขี่ดังกล่าว หรือเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็งดเว้นเสียไม่ทำหน้าที่ในความรับผิดชอบ ท้วงติง ลงโทษ หรือวิพากษ์การกระทำดังกล่าว ปล่อยให้การกระทำความผิดและผู้กระทำความผิดลอยนวล เป็นใจให้ความผิดนั้นๆ เกิดขึ้นอีกซ้ำๆ ซากๆ บ่อยเข้าก็จะกลายเป็นความยอมรับ ค่านิยม หรือวัฒนธรรมประจำของสังคมไป

ส่วน “ผู้สมยอม” นั้น ได้แก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการกดขี่หรือการกระทำผิดโดยตรง เพราะอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จำเป็นหรือน้ำท่วมปาก หรือค่านิยมผิดๆ รวมทั้งสังคมหรือคนส่วนใหญ่ที่รู้เห็นแต่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน เพราะตนเองมิใช่ผู้รับกรรมโดยตรง และไม่มีความรู้ว่าเมื่อสังคมตกอยู่ในสภาพสิ้นคิด ไร้ความถูกต้องและจริยธรรม สักวันหนึ่งตนเองและลูกหลานญาติมิตร ก็อาจจะตกเป็นเหยื่ออย่างเดียวกันก็ได้

ตัวอย่างอันอาจเกิดขึ้นได้ เช่น ภารโรงต่างจังหวัดมีลูกสาวสวย ที่สอบบรรจุได้ และได้รับคัดเลือกให้เป็นหน้าห้องของปลัดกระทรวง เป็นต้น

ผมยกตัวอย่างข้างต้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า ถ้าเรื่องจบแค่นั้น เพราะผู้ที่เกี่ยวข้อง ต่างก็อยู่ในครรลองแห่งศีลธรรมและจรรยาบรรณของตนก็ไม่มีอะไร แปลว่าไม่มีภาระจำยอมโดยอำนาจเล่ห์กลหรืออามิสสินจ้าง ทำให้เกิดความสมยอมและการกดขี่ทางเพศเกิดขึ้น

บางครั้งเส้นแบ่งระหว่าง “การสมคบ” และ “การสมยอม” นั้นก็อาจจะไม่ชัดเจน และเบาบางมาก แต่ในกรณีของผู้เสียเปรียบที่ตกเป็นเหยื่อโดยตรง เราจะเรียกว่า “ผู้สมยอม” มิใช่ “ผู้สมคบ”

หากหน้าห้องคนนั้นเป็นผู้จัดหาและจัดคิวให้ข้าราชการสตรีไปเข้าม่านรูดกับปลัดกระทรวง เธอก็เป็น “ผู้สมคบ” ถ้าเมื่อใดเธอตกเป็นเหยื่อเสียเอง เธอก็เป็น “ผู้สมยอม”

ผมเห็นว่า ถ้าเราไม่อยากตกเป็นผู้สมคบหรือผู้สมยอม เราจะต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง มิใช่หุบปากอยู่เฉยๆ

ผมจึงขอยก คลิปสมชายกรณีศึกษาการกดขี่ทางเพศและความส่ำส่อนของผู้นำการเมืองไทย ให้พวกเราทำความเข้าใจว่าเราจะช่วยกันล้างความสกปรก และทำความสะอาดให้สังคมและการเมืองไทยอย่างไร

ผมหลีกเลี่ยงที่จะมิสรุปมิได้ว่า ผู้นำการเมืองไทยยุคสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นี้ตกต่ำที่สุดด้านศีลธรรม คุณธรรม มโนธรรม และจริยธรรม

ผู้นำระดับสูงในรัฐบาลสมชายรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมชายล้วนแต่ไร้จริยธรรมและจรรยาบรรณของผู้นำการเมืองทั้งสิ้น

เราตั้งมาตรฐานทางจริยธรรมของบุคคลประเภทต่างๆ ด้วยการดูการกระทำผิดและการลงโทษของการกระทำผิด

สำหรับคนธรรมดา หากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ากระทำผิด

สำหรับนักบุญหรือผู้นำทางศาสนา หากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ากระทำผิด จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

สำหรับผู้นำการเมือง เพียงแต่ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดยังไม่ต้องถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด ก็ให้ถือว่ากระทำผิด

ทั้งนี้เพราะความเสียหายจากการกระทำผิดของคนธรรมดา นักบุญ และนักการเมืองนั้นแตกต่างกันมาก

คนธรรมดานั้นกระทำความเสียหายแก่คู่กรณีและบางกรณีเท่านั้น นักบุญก่อความเสียหายสะเทือนใจจำเพาะในวงศานุศิษย์สาวกเท่านั้น แต่นักการเมืองก่อความเสียหายทั้งประเทศ

เพราะฉะนั้น นักการเมืองที่เพียงต้องสงสัยทำตนไม่เป็นที่ไว้ใจของประชาชนเท่านั้นก็ต้องไป ไม่ต้องคอยให้ถูกกล่าวหาหรือจับตัวขึ้นโรงขึ้นศาล มิฉะนั้นประเทศจะเสียหาย

รัฐบาลสมชายเป็นอย่างไรไม่ต้องกล่าวถึงอีกแล้ว สรุปได้ว่าเป็นรัฐบาลที่หน้าด้านที่สุดในโลก

พูดเฉพาะจรรยาบรรณและจริยธรรมของนักการเมืองในเรื่องเพศ ผมได้เคยยกตัวอย่างมาตรฐานทางจริยธรรมและความรับผิดชอบของผู้นำต่างประเทศไปมากแล้ว เพียงแต่ความไม่เหมาะสม ยังไม่ต้องถึงความสำส่อนและกดขี่ทางเพศปรากฏต่อสาธารณะ รัฐมนตรีมาเลเซีย ผู้ว่ามลรัฐนิวยอร์ก และรัฐมนตรีกว่า 4-5 คนของอังกฤษ ตั้งแต่ ลอร์ด แลมป์ตัน จอน ปอฟรูโม มาถึงปัจจุบัน ต่างก็พากันลาออกอย่างฉับไว พร้อมกับกล่าวคำขอโทษต่อสังคมอย่างสำนึกผิด

ผมอยากเห็นสื่อ และนักวิชาการด้านสตรีศึกษาในประเทศไทยนำคำขอโทษมาแปล และนำกรณีเหล่านั้นมาศึกษาเพื่อเป็นบทเรียนแก่สังคมไทย แทนที่จะเยาะเย้ยถากทางกันสนุกปาก ผมอยากเห็นการแสดงความรับผิดชอบ ความเห็นอกเห็นใจ และการรับโทษอันควรแก่ข้อเท็จจริงและมูลเหตุของการกระทำผิด และการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมและจรรยาบรรณของผู้นำการเมืองไทยให้แก่คนรุ่นต่อไป

ต่อไปนี้ คือรายชื่อขององค์กรและบุคคลซึ่งผมถือว่าเป็น “ผู้สมคบ” ทำให้เกิดความสำส่อนและกดขี่ทางเพศในประเทศไทย นอกจากเจ้าของโรงแรมม่านรูด ตำรวจ และกระทรวงที่ออกไปอนุญาตแล้ว ผู้ที่นิ่งเงียบไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น คือ สภาสตรีแห่งประเทศไทย สมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย กรรมาธิการกิจกรรมสตรีในสภาทั้งสอง คณะสตรีศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ กระทรวงศึกษาธิการ ผู้อำนวยการสถาบันศึกษามหาวิทยาลัย และโรงเรียนมัธยมที่เป็นสตรีและมีนักเรียนสตรี โดยเฉพาะกระทรวงวัฒนธรรม สำนักพุทธศาสนา ผู้นำสงฆ์ระดับประเทศ ผู้นำและนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี นักกฎหมายสตรี ฯลฯ

บุคคลเหล่านี้จะต้องเขียนจดหมายถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ให้ยืนยันว่าคลิปอื้อฉาวนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม ถ้าเป็นของจริงนายสมชาย สมควรแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ถ้าท่านเขียนจดหมายไม่เป็น ผมยินดีจะเขียนให้

ถ้าท่านทั้งนั้นยังทำเป็นเบื้อใบ้ไม่รู้ไม่ชี้อยู่ ผมเสนอให้ท่านลาออกจากตำแหน่งหน้าที่และความรับผิดชอบของท่านเสีย หรือเคลื่อนไหวให้ยุบองค์กรและสถาบันของท่านด้วย อย่าอยู่หลอกลวงสังคมไทย อย่าให้ภาษีอากรของประชาชนถูกผลาญต่อไปเลย

ท่านผู้อ่านที่เคารพ หนักนิดเบาหน่อย โปรดอภัยให้ผมด้วย ผมต้องการให้สังคมไทยเอาจริงในเรื่องนี้ เพราะผมรักและเคารพเพศแม่เป็นที่สุด ผมหวั่นว่าคุณหญิงคุณนายไฮโซที่เอาหน้าออกหน้าเรื่องสิทธิสตรีอยู่ทุกวันนี้ จะทำตนอยู่หลังฉากเป็น “ผู้สมคบ” สร้างและรักษาความสำส่อนและกดขี่ทางเพศ ในเมืองไทยต่อไปอีกนานเท่านาน
กำลังโหลดความคิดเห็น