ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13 พ.ย.) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามปกติ โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายชัย ชิดชอบ ได้เปิดโอกาสให้สมาชิก ได้หารือ ปรากฎว่าทันทีที่เริ่มประชุม ร.ต.ท. เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ได้ขอหารือถึงกรณีที่ หนังสือพิมพ์บางฉบับนำเสนอข่าวกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า มีบางคนได้นำผ้าอนามัยที่ใช้แล้วไปวางแก้ไสยศาสตร์บริเวณฐานของอนุสาวรีย์รัชกาลที่5 พระบรมรูปทรงม้า ซึ่งตนรับไม่ได้กับพฤติกรรมของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร เพราะเป็นการทำร้ายจิตใจประชาชน เพราะตนเป็นคนที่สักการะและห้อยเหรียญรัชกาลที่5มากว่า15ปี
ปรากฏว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้น ประท้วงว่า ประธานสภาฯไม่ควรปล่อยให้มีการพูดพาดพิงถึงบุคคลอื่นที่ไมได้อยู่ใน ห้องประชุม แต่ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวสวนว่า ตนไม่ได้พาดพิง แต่อ่านจาก หนังสือพิมพ์ที่วางจำหน่ายทั่วประเทศ ไม่ทราบว่าเป็นญาติหรืออย่างไร ถึงได้เดือดร้อน แทน ตนเป็นที่ที่สักการะบูชารัฐบาลที่ 5. และเคยสร้างอนุสาวรีย์ร.5 ที่ราชบุรีด้วย
นอกจากนี้การที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีบินไปรักษาตัวที่ประเทศสหรัฐฯก็ยังมีคนตามไปชูป้ายด่าถือว่า ไม่เหมาะสม เขาตกทุกข์ได้ยากแบบนี้แล้ว พวกนี้เคยคิดจะฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพ มาแล้ว เมื่อวันที่7 ต.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ก็ยังจะฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพอีก ใครทนได้แต่สำหรับตนทนไม่ได้ ทั้งนี้จะเสนอสภาฯให้กระทรวงวัฒนธรรมฯแจกหนังสือสมบัติผู้ดีแจกให้กับส.ส.และคนไทยทั่วประเทศได้อ่านกันบ้าง
นพ.วรงค์กล่าวตอบโต้ว่า นายสนธิไม่ใช่ญาติตน แต่การปล่อยให้ส.ส.ตะโกนป่าวๆ ไม่มีความน่าเชื่อถือ คนอายุขนาดนี้แล้วน่าจะรู้ว่าสมบัติที่ดีคืออะไร ทำให้ ร.ต.ท.เชาวรินออกอาการฉุนเฉียวลุกขึ้นชี้หน้า พร้อมตอบโต้อย่างเกรี้ยวกราด จน นายชัยที่พยายามไกล่เกลี่ยต้องปิดไมค์
ขณะที่นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประท้วงประธานที่ประชุมว่า ขณะนี้ประธานให้หารือถึงความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ควรนำเรื่อง ไร้สาระมาพูด และขอถาม ร.ต.ท.เชาวรินว่าคำพูดว่า ฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพ นั้นหมาย ถึงใคร เพราะทำให้ตนเสียหาย การพูดเช่นนี้ไม่มีความสง่างาม ขอให้ถอนคำพูด
ด้านร.ต.ท. เชาวริน แก้ตัวทันทีว่า ตนไมได้พูดว่า ฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพ แต่บอกว่า จะฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น และเคยพูดแบบนี้ มาตั้งแต่หลังวันที่7 ต.ค. ไม่เห็นมีใครขอให้ถอน ดังนั้นตนจะไม่ยอมถอน คำพูดเด็ดขาด
เป็นส.ส.มากี่สมัยแล้วไอ้น้อง อย่ามาสอนพี่ ที่เป็นส.ส.มา8 สมัย รักษา เครื่องแบบมาอย่างดี อย่ามาทำตัวหน่อมแน้มเป็นคุณหนูมาสั่ง ผมไม่ยอมถอนหรอก ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวต่อว่านายศุภชัย พร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋าแสดงความเป็นนักเลง
นายศุภชัย จึงกล่าวตอบโต้ว่า ไม่ต้องอ้างว่าเป็นส.ส.มาหลายสมัย เพราะความรับผิดชอบของส.ส.มีค่าสูงยิ่งกว่าการเป็นส.ส.มากี่สมัย อย่ามาเติมคำว่า จะ เพราะตนยืนยันว่าไม่มีหรือจะต้องให้เปิดเทปพิสูจน์ ร.ต.ท.เชาวริน ต้องถอนคำพูดอย่างเดียว
ด้านร.ต.ท. เชาวริน พยายามเฉไฉว่า ตนเคยพูดว่ามีการปิดรั้วสภาหวังจะฆ่า ส.ส.ข้างในให้ตายก็ไม่เห็นมีใครเดือดร้อน ถ้าประธานฯจะไปค้นบันทึกการประชุมในวันนั้น แล้วบอกว่าตนผิด ตนก็ยอมถอนคำพูด ตนจะเชื่อแต่ประธานสภาฯ ไม่เชื่อเด็ก เมื่อวานซืนจะมาสั่งให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำเพราะตนไม่ได้ทำผิด มีการวางแผนฆ่า ส.ส.ในสภาจริง ขณะที่นายศุภชัยโต้ว่า ประชาชนก็เลือกตนมาเหมือนกัน การวัดคุณค่าของคนเขาวัดกันที่สัจจะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการตอบโต้กันไปมาทำให้บรรยากาศในที่ประชุมตึงเครียด ขึ้นมาทันที ขณะที่นายชัย ได้ขอให้ทั้งสองฝ่ายยุติและจะให้มีการนำบันทึกการประชุมทั้งสองครั้งมาตรวจสอบ โดยอ้างว่า ยังมีปัญหาเดือดร้อนอื่นที่จะต้องดำเนินการ อีกหลายเรื่อง แต่ นายศุภชัย กล่าวว่าตนไม่ติดใจคำพูดของ ร.ต.ท.เชาวริน เรื่องก่อน แต่กำลังพูดถึงคำพูดในวันนี้ที่พึ่งพูดออกมา ประธานอย่าพยายามตัดตอน และจะต้องนำเทปบันทึกสดๆ มาเปิด อย่าไปพูดเรื่องปีนรั้ว
ขณะที่นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วง ที่ ร.ต.ท.เชาวรินให้ถอนคำพูดที่เรียก ส.ส.ว่า คุณหนู เพราะเป๋นการไม่ให้เกียรติ ส.ส. ด้วยกัน แม้พวกตนจะเป็นส.ส.สมัยแรกแต่ก็มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมรุ่นพี่ เรื่องอายุไม่เกี่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่สองฝ่ายถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน ด้านนายชัย ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมถึงกลับนั่งกุมขมับ และสั่งปิดไมค์โครโฟนของทั้งคู่ และขอร้องให้ทั้งคู่ยุติโดยกล่าวว่า สงสารผมเถอะ ตอนนี้คุมกันไม่อยู่แล้ว ทำให้ นพ.วรงค์ ทวงถามว่าตามข้อบังคับการประชุมเมื่อประธานสั่งสมาชิก ให้ถอนคำพูด แล้วไม่ยอมปฏิบัติตาม ประธานฯต้องเชิญผู้นั้นออกนอกห้องประชุม แต่นายชัยไม่กล้าสั่ง เพียงกล่าวว่า เอาขนาดนั้นเลยหรือ ซึ่งนพ.วรงค์กล่าวว่า หากประธานควบคุมการประชุมไม่ได้ประธานฯก็ควรต้องลงจากบัลลังก์ และ ยืนยันว่า สมาชิก ได้พยายามจะหารือเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แต่ร.ต.ท.เชาวรินได้เป็นคน จุดชนวนในสภาเอง
ทำให้นายชัยกล่าวอย่างโมโหว่า ผมจะลงจากบัลลังก์เดี๋ยวนี้ก็ได้ จะได้ปิดประชุมไม่ต้องประชุมกันต่อ จะเอาอย่างนี้ก็ได้ ตอนนี้ก็ควบคุมการประชุมไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมีการนำเรื่องไร้สาระมาพูด จากนั้นจึงได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 5 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันที่ที่เปิดประชุมสภาฯอีกครั้ง นายชัย พยายาม ขอบิณฑบาตรทั้งสองฝ่ายุติข้อถกเถียง เพื่อการประชุมจะได้เดินหน้าต่อไป แต่ นพ.วรงค์ ยังคงทวงถามให้ประธานฯสั่งให้ร.ต.ท.เชาวรินถอนคำพูดที่ไม่เหมาะสม แต่ ร.ต.ท.เชาวรินอ้าวว่าประธานได้วินิจฉัยก่อนที่จะพักการประชุมไปแล้วว่า จะสั่งให้มีการ ตรวจสอบบันทึกการประชุมที่ตนพูดทั้งสองครั้ง ตนจึงไม่ขอถอน
ทำให้นายชัย กล่าวว่า เมื่อขอร้องกันไม่ได้ก็ต้องใช้ข้อบังคับ และสั่งให้ ร.ต.ท.เชาวรินที่ยังคงยืนยันไม่ยอมถอนคำพูดให้ออกจากห้องประชุมไปพักสมอง เป็นเวลา 10 นาที และ ต่อไปนี้ใครพูดล้ำเส้น ตนจะสั่งหยุดทันที ส่วนใครที่ลุกขึ้นประท้วงแล้วพูดเลยโดยประธานยังไม่อนุญาต ก็จะใช้มาตรฐานขั้นเด็ดขาดเช่นกัน ส่งผลให้ร.ต.ท.เชาวรินต้องยอมเดินคอตกออกจากห้องประชุมไป
ปรากฏว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้น ประท้วงว่า ประธานสภาฯไม่ควรปล่อยให้มีการพูดพาดพิงถึงบุคคลอื่นที่ไมได้อยู่ใน ห้องประชุม แต่ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวสวนว่า ตนไม่ได้พาดพิง แต่อ่านจาก หนังสือพิมพ์ที่วางจำหน่ายทั่วประเทศ ไม่ทราบว่าเป็นญาติหรืออย่างไร ถึงได้เดือดร้อน แทน ตนเป็นที่ที่สักการะบูชารัฐบาลที่ 5. และเคยสร้างอนุสาวรีย์ร.5 ที่ราชบุรีด้วย
นอกจากนี้การที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีบินไปรักษาตัวที่ประเทศสหรัฐฯก็ยังมีคนตามไปชูป้ายด่าถือว่า ไม่เหมาะสม เขาตกทุกข์ได้ยากแบบนี้แล้ว พวกนี้เคยคิดจะฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพ มาแล้ว เมื่อวันที่7 ต.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ก็ยังจะฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพอีก ใครทนได้แต่สำหรับตนทนไม่ได้ ทั้งนี้จะเสนอสภาฯให้กระทรวงวัฒนธรรมฯแจกหนังสือสมบัติผู้ดีแจกให้กับส.ส.และคนไทยทั่วประเทศได้อ่านกันบ้าง
นพ.วรงค์กล่าวตอบโต้ว่า นายสนธิไม่ใช่ญาติตน แต่การปล่อยให้ส.ส.ตะโกนป่าวๆ ไม่มีความน่าเชื่อถือ คนอายุขนาดนี้แล้วน่าจะรู้ว่าสมบัติที่ดีคืออะไร ทำให้ ร.ต.ท.เชาวรินออกอาการฉุนเฉียวลุกขึ้นชี้หน้า พร้อมตอบโต้อย่างเกรี้ยวกราด จน นายชัยที่พยายามไกล่เกลี่ยต้องปิดไมค์
ขณะที่นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประท้วงประธานที่ประชุมว่า ขณะนี้ประธานให้หารือถึงความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ควรนำเรื่อง ไร้สาระมาพูด และขอถาม ร.ต.ท.เชาวรินว่าคำพูดว่า ฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพ นั้นหมาย ถึงใคร เพราะทำให้ตนเสียหาย การพูดเช่นนี้ไม่มีความสง่างาม ขอให้ถอนคำพูด
ด้านร.ต.ท. เชาวริน แก้ตัวทันทีว่า ตนไมได้พูดว่า ฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพ แต่บอกว่า จะฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น และเคยพูดแบบนี้ มาตั้งแต่หลังวันที่7 ต.ค. ไม่เห็นมีใครขอให้ถอน ดังนั้นตนจะไม่ยอมถอน คำพูดเด็ดขาด
เป็นส.ส.มากี่สมัยแล้วไอ้น้อง อย่ามาสอนพี่ ที่เป็นส.ส.มา8 สมัย รักษา เครื่องแบบมาอย่างดี อย่ามาทำตัวหน่อมแน้มเป็นคุณหนูมาสั่ง ผมไม่ยอมถอนหรอก ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวต่อว่านายศุภชัย พร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋าแสดงความเป็นนักเลง
นายศุภชัย จึงกล่าวตอบโต้ว่า ไม่ต้องอ้างว่าเป็นส.ส.มาหลายสมัย เพราะความรับผิดชอบของส.ส.มีค่าสูงยิ่งกว่าการเป็นส.ส.มากี่สมัย อย่ามาเติมคำว่า จะ เพราะตนยืนยันว่าไม่มีหรือจะต้องให้เปิดเทปพิสูจน์ ร.ต.ท.เชาวริน ต้องถอนคำพูดอย่างเดียว
ด้านร.ต.ท. เชาวริน พยายามเฉไฉว่า ตนเคยพูดว่ามีการปิดรั้วสภาหวังจะฆ่า ส.ส.ข้างในให้ตายก็ไม่เห็นมีใครเดือดร้อน ถ้าประธานฯจะไปค้นบันทึกการประชุมในวันนั้น แล้วบอกว่าตนผิด ตนก็ยอมถอนคำพูด ตนจะเชื่อแต่ประธานสภาฯ ไม่เชื่อเด็ก เมื่อวานซืนจะมาสั่งให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำเพราะตนไม่ได้ทำผิด มีการวางแผนฆ่า ส.ส.ในสภาจริง ขณะที่นายศุภชัยโต้ว่า ประชาชนก็เลือกตนมาเหมือนกัน การวัดคุณค่าของคนเขาวัดกันที่สัจจะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการตอบโต้กันไปมาทำให้บรรยากาศในที่ประชุมตึงเครียด ขึ้นมาทันที ขณะที่นายชัย ได้ขอให้ทั้งสองฝ่ายยุติและจะให้มีการนำบันทึกการประชุมทั้งสองครั้งมาตรวจสอบ โดยอ้างว่า ยังมีปัญหาเดือดร้อนอื่นที่จะต้องดำเนินการ อีกหลายเรื่อง แต่ นายศุภชัย กล่าวว่าตนไม่ติดใจคำพูดของ ร.ต.ท.เชาวริน เรื่องก่อน แต่กำลังพูดถึงคำพูดในวันนี้ที่พึ่งพูดออกมา ประธานอย่าพยายามตัดตอน และจะต้องนำเทปบันทึกสดๆ มาเปิด อย่าไปพูดเรื่องปีนรั้ว
ขณะที่นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วง ที่ ร.ต.ท.เชาวรินให้ถอนคำพูดที่เรียก ส.ส.ว่า คุณหนู เพราะเป๋นการไม่ให้เกียรติ ส.ส. ด้วยกัน แม้พวกตนจะเป็นส.ส.สมัยแรกแต่ก็มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมรุ่นพี่ เรื่องอายุไม่เกี่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่สองฝ่ายถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน ด้านนายชัย ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมถึงกลับนั่งกุมขมับ และสั่งปิดไมค์โครโฟนของทั้งคู่ และขอร้องให้ทั้งคู่ยุติโดยกล่าวว่า สงสารผมเถอะ ตอนนี้คุมกันไม่อยู่แล้ว ทำให้ นพ.วรงค์ ทวงถามว่าตามข้อบังคับการประชุมเมื่อประธานสั่งสมาชิก ให้ถอนคำพูด แล้วไม่ยอมปฏิบัติตาม ประธานฯต้องเชิญผู้นั้นออกนอกห้องประชุม แต่นายชัยไม่กล้าสั่ง เพียงกล่าวว่า เอาขนาดนั้นเลยหรือ ซึ่งนพ.วรงค์กล่าวว่า หากประธานควบคุมการประชุมไม่ได้ประธานฯก็ควรต้องลงจากบัลลังก์ และ ยืนยันว่า สมาชิก ได้พยายามจะหารือเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แต่ร.ต.ท.เชาวรินได้เป็นคน จุดชนวนในสภาเอง
ทำให้นายชัยกล่าวอย่างโมโหว่า ผมจะลงจากบัลลังก์เดี๋ยวนี้ก็ได้ จะได้ปิดประชุมไม่ต้องประชุมกันต่อ จะเอาอย่างนี้ก็ได้ ตอนนี้ก็ควบคุมการประชุมไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมีการนำเรื่องไร้สาระมาพูด จากนั้นจึงได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 5 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันที่ที่เปิดประชุมสภาฯอีกครั้ง นายชัย พยายาม ขอบิณฑบาตรทั้งสองฝ่ายุติข้อถกเถียง เพื่อการประชุมจะได้เดินหน้าต่อไป แต่ นพ.วรงค์ ยังคงทวงถามให้ประธานฯสั่งให้ร.ต.ท.เชาวรินถอนคำพูดที่ไม่เหมาะสม แต่ ร.ต.ท.เชาวรินอ้าวว่าประธานได้วินิจฉัยก่อนที่จะพักการประชุมไปแล้วว่า จะสั่งให้มีการ ตรวจสอบบันทึกการประชุมที่ตนพูดทั้งสองครั้ง ตนจึงไม่ขอถอน
ทำให้นายชัย กล่าวว่า เมื่อขอร้องกันไม่ได้ก็ต้องใช้ข้อบังคับ และสั่งให้ ร.ต.ท.เชาวรินที่ยังคงยืนยันไม่ยอมถอนคำพูดให้ออกจากห้องประชุมไปพักสมอง เป็นเวลา 10 นาที และ ต่อไปนี้ใครพูดล้ำเส้น ตนจะสั่งหยุดทันที ส่วนใครที่ลุกขึ้นประท้วงแล้วพูดเลยโดยประธานยังไม่อนุญาต ก็จะใช้มาตรฐานขั้นเด็ดขาดเช่นกัน ส่งผลให้ร.ต.ท.เชาวรินต้องยอมเดินคอตกออกจากห้องประชุมไป