ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โครงการนำชัยคุ้มภัยใต้ปีที่ 4 มีพระสงฆ์จากทั่วประเทศสมัครใจเข้าร่วมจำพรรษาในวัด 3 จังหวัดชายแดนใต้รวม 153 รูปทั้งจากภาคกลาง เหนือ อีสาน โดยตั้งใจเป็นตัวแทนพุทธศาสนาและทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นกำลังใจชาวพุทธและเจ้าหน้าที่เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ ด้านพระในพื้นที่เผยปีนี้คัดเลือกพระที่เคยร่วมโครงการและอยู่ในพระธรรมวินัยลงพื้นที่อีกครั้ง ฝ่ายเจ้าหน้าที่ส่งกำลังคุ้มกันเข้มช่วงพระออกบิณฑบาต
พระสงฆ์ตามโครงการนำชัยคุ้มภัยใต้จากทั่วประเทศ จำนวน 153 รูปได้เดินทางมาจำพรรษาตามวัดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ครบทุกวัดแล้ว ซึ่งพระสงฆ์ชุดแรกได้เดินทางด้วยเครื่องบิน C 130 จากสนามบินดอนเมือง มายังสนามบินบ้านทอน ต.โคกเคียน จ.นราธิวาส ในวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาจำนวน 54 รูป โดยมีพระเทพ ศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ได้ทำการปฐมนิเทศ ณ สโมสรกรมทหารราบที่ 3 กรมนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน ก่อนที่จะแยกย้ายไปจำพรรษาในพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส
ส่วนชุดที่ 2 เดินทางด้วยเครื่องบิน C 130 จากสนามบินกองทัพอากาศดอนเมือง มายังสนามบิน กองบิน 56 กองทัพอากาศ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา จำนวน 99 รูปโดยได้ปฐมนิเทศที่วัดมุจลินทร์ทวาปี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนที่จะแยกย้ายไปจำพรรษาที่วัดต่างๆ 42 วัดใน จ.ปัตตานี
พระสุนทรปริสุทโธ จากวัดธรรมโฆษก อ.เมือง จ.อุทัยธานี กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากเมื่อมาถึงที่วัดแห่งนี้ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เพราะก่อนมาถึงคิดว่าต้องมีปัญหาอุปสรรคมากมาย จากเหตุความไม่สงบในพื้นที่ แต่เมื่อมาถึงได้รับการต้อนรับจากญาติโยมเป็นจำนวนมาก จึงรู้สึกหายห่วง นอกจากนี้ อากาศที่ จ.ปัตตานี ดีมากๆ ต่างกับพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคอีสานที่อากาศค่อนข้างจะร้อน คิดว่าถ้าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบคงเป็นพื้นที่ที่น่าอยู่มากที่สุดในประเทศ
พระวิชัย มิมะพันธ์ มาจากวัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ เพราะจะเป็นตัวแทนพุทธศาสนาและทำความดีถวายสมเด็จพระราชินี เพื่อเป็นกำลังใจชาวพุทธและเจ้าหน้าที่เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ อาตมามุ่งมั่นตั้งใจที่จะลงมา และไม่รู้สึกกลัวเพราะคนในพื้นที่ยังมีคนที่ดี ความกลัวเป็นธรรมดาแต่ถ้าตั้งใจลงมาก็สามารถจะทำความดีได้ อันดับแรกต้องปฏิบัติดี เป็นที่ไว้วางใจของชาวบ้านและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
ด้านพระบุญเสริม พรหมญาโณ รักษาการเจ้าอาวาส วัดบางนารา อ.เมือง จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากปีก่อนๆ ที่มีโครงการนั้นต้องยอมรับว่ามีพระที่ไม่อยู่ในพระธรรมวินัย ประพฤติตัวเสียหายเข้าร่วมโครงการหลายรูป ซึ่งสร้างความเสียหายให้วงการศาสนา และความกระอักกระอ่วนใจแก่ชาวพุทธที่ศรัทธา เช่น การนำเงินทอดกฐินไปด้วยหลังจากออกพรรษา แต่โชคดีที่ปีนี้ทางโครงการได้เปิดโอกาสให้พระในพื้นที่เสนอพระที่เคยลงมาปฏิบัติศาสนกิจในพื้นที่มาแล้ว และอยู่ในวินัยมาเข้าร่วมโครงการอีก จึงแก้ไขปัญหานี้ไปได้
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้นได้มีการใช้เครื่องตรวจหาสารประกอบวัตถุระเบิดออกตรวจตามเส้นทางต่างๆ ก่อนที่พระสงฆ์จะเดินทาง 30 นาที และจัดชุดทหารดูแลความปลอดภัยแด่พระสงฆ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้พระสงฆ์ในโครงการนำชัยคุ้มภัยใต้ ซึ่งหลายรูปเพิ่งร่วมโครงการเป็นครั้งแรก จะได้รู้สึกมั่นใจในความปลอดภัย
ขณะที่ประชาชน ซึ่งมีจิตศรัทธาอันแรงกล้าที่จะทำนุบำรุงศาสนาให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวของประชาชนในยามบ้านเมืองประสบปัญหา โดยผู้ที่ทราบข่าวจำนวนมากออกมาคอยใส่บาตรหน้าบ้านและตามข้างถนนเพิ่มมากขึ้น และบางคนที่มีบ้านอยู่นอกเส้นทางที่พระจะเดินบิณฑบาตก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์นำของใส่บาตรตามหาพระที่เดินบิณฑบาต
สำหรับโครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ เกิดจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ อยากให้มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ตามวัดต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างน้อยวัดละ 5 รูป เพื่อให้วัดทุกวัดมีพระสงฆ์จำพรรษา เพียงพอ สามารถปฏิบัติศาสนกิจ และศาสนพิธีได้ตามปกติ ตลอดจนเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนชาวไทยพุทธ ซึ่งเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา
ที่ จ.ปัตตานี หลังจากพระสงฆ์ในโครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้จำนวน 97 รูปได้เดินทางถึงวัดต่างๆ ในพื้นที่ จ.ปัตตานีแล้ว เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (6 ก.ค.) เวลา 06.30 น.ซึ่งเป็นวันแรกที่พระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ได้เริ่มทำกิจสงฆ์ด้วยการออกเดินบิณฑบาตร่วมกับพระในพื้นที่ โดยมีประชาชนชาวพุทธที่ทราบข่าวจำนวนมากออกมาคอยใส่บาตรหน้าบ้านและตามข้างถนน และบางคนที่มีบ้านอยู่นอกเส้นทางที่พระจะเดินบิณฑบาต ก็ได้ขับขี่รถ จยย.นำของใส่บาตรตามหาพระที่เดินบิณฑบาต ท่ามกลางกำลังทหาร ตำรวจที่คอยจัดชุดดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่
ก่อนที่พระสงฆ์จะออกบิณฑบาตกำลังเจ้าหน้าที่จะแบ่งชุดพร้อมใช้เครื่องตรวจหาสารประกอบวัตถุระเบิดออกตรวจตามเส้นทางต่างๆ ที่พระจะเดินผ่าน เพื่อหาสิ่งแปลกปลอมซึ่งสงสัยว่าคนร้ายจะก่อเหตุก่อนครึ่งชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ ตลอดจนสร้างความมั่นใจให้กับพระในโครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ที่ยังไม่เคยเดินทางมาในพื้นที่ไม่รู้สึกหวาดกลัว
ส่วนในพื้นที่ จ.ยะลา กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ทหารพราน และตำรวจ ก็ได้มีการเพิ่มความเข้มในการออกดูแลรักษาความปลอดภัยแด่พระสงฆ์ในระหว่างการออกบิณฑบาตอย่างเข้มงวดเช่นกัน