กระบี่ - รวบหมอเถื่อน ตระเวนทำแท้ง สารภาพหมดเปลือกทำมานานกว่า 20 ปี มีลูกค้ามากกว่า 100 ราย ผู้ใช้บริการอายุน้อยสุด 12 ปี ล่าสุด เสียชีวิต 1 ราย
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ห้องสืบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกระบี่ นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองนายแพทย์สารธารณสุขจังหวัดกระบี่ พ.ต.ท.เชิดพงษ์ ชิวปรีชาสารวัตรสืบสวนปรามปรามสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกระบี่ (สว.สป.สภ.เมืองกระบี่ ) พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป สารสัตร กลุ่มงานสืบสวน ภูธรจังหวัดกระบี่
พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสำราญ ศิริพันธุ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 ม.2 ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และ น.ส.ศฐา ศิริพันธุ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179/123 ม.5 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา โดยทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ 331/2551 ลงวันที่ 19 ส.ค.2551 ข้อหา ร่วมกันทำให้หญิงแท้งลูก โดยหญิงนั้นยินยอม เป็นเหตุให้หญิงนั้นถึงแก่ความตาย”
พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย ถุงมือยาง จำนวน 4 คู่ ผ้าปิดจมูก จำนวน 2 ชิ้น ผ้าอนามัย จำนวน 3 ชิ้น สำลี จำนวน 1 ถุง ยาชนิดต่างๆ (ยาชุด จำนวน 6 ถุง ยาคุม จำนวน 2 หลอด ขดลวด จำนวน 4 เส้น สายยาง จำนวน 4 เส้น หลอดฉีดยา จำนวน 4 หลอด อุปกรณ์หูฟังของหมอ จำนวน 1 ชุด น้ำยาไม่ทราบชนิด บรรจุในหลอดพลาสติกทรงกลม จำนวน 22 หลอด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง รถยนต์กระบะ แบบตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีแดง หมายเลขทะเบียน บจ-2136 นครศรีธรรมราชจำนวน 1 คัน และสมุดนัดหมายลูกค้า จำนวน 1 เล่ม
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ และโรงพยาบาลกระบี่ ว่า มีการทำแท้งเถื่อนเป็นเหตุให้ผู้ทำแท้งถึงแก่ความตาย โดยผู้ตายเป็นเด็กนักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ อายุ 16 ปี ทาง พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ภ.จว.กระบี่ สั่งการให้ พ.ต.อ.สมภพ กัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนจึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า นายสำราญ เป็นผู้ลงมือทำแท้งโดยมี น.ส.ศฐา บุตรสาวเป็นผู้ช่วย
จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลกับทางโรงพยาบาลกระบี่ พบว่า มีผู้เข้ามารับการรักษาจากการทำแท้งประมาณเกือบ 100 ราย ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการขอหมายเข้าจับกุม
ต่อมาขณะที่ผู้ต้องหาเดินทางมาทำแท้งให้กับลูกค้าในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ จึงได้วางแผนทำการจับกุมสามารถจับกุมตัวได้ ที่บริเวณบริเวณหน้าโรงแรมเรนโบว์ ถ.นภาจรัส ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่
จากนั้นได้นำตัว นายสำราญ ไปตรวจค้นที่บ้านอดีตภรรยาของ นายสำราญ ซึ่งเลิกรากันมาประมาณ 1 ปีเศษ ทราบชื่อนางพวงผกา ศิริพันธุ์ อายุ 50 ปี เป็นข้าราชการครู เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบอุปกรณ์การทำแท้งอยู่ใต้เตียงภายในห้องนอน และที่บริเวณหลังบ้านพบถุงยาสวนทวารและผ้าอนามัยอีกจำนวนมาก คาดว่า ผู้ต้องหาใช้เป็นสถานที่รับทำแท้งด้วย แต่นางพวงผกา ให้การปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็น จึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองกระบี่
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำให้หญิงแท้งลูก โดยหญิงนั้นยินยอม เป็นเหตุให้หญิงนั้นถึงแก่ความตาย ในชั้นการจับกุมภรรยาของนายสำสาราญนั้นให้การปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับกุมต่อไป
ส่วน นายสำราญ และลูกสาว ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนายสำราญได้ให้การรับสารภาพ ว่า ตนนั้นจบการศึกษาเพียงแค่ ป.4 โดยเรียนรู้วิธีการทำมาจากโทรทัศน์ และจากการศึกษาเพิ่มเติม และสารภาพอีกว่าได้ทำแทงมานานเป็นเวลานานกว่า 20 ปี โดยลูกค้าอยู่หลายจังหวัด เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง พังงา ภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ มีทั้งเด็กนักเรียน นักศึกษา และคนวัยทำงาน มีอายุต่ำสุด 12 ปี สูงสุดอายุ 47 ปี
สำหรับวิธีการติดต่อลูกค้า ผู้ต้องหารสารภาพ ว่า ให้เบอร์โทรติดต่อกับกลุ่มที่เคยมาทำแท้ง หรือบอกกันปากต่อปากกลุ่มผู้ที่เคยทำแท้ง เมื่อมีผู้ติดต่อเข้ามาจะไปเปิดโรงแรม หรือรีสอร์ท เพื่อทำแท้ง โดยจะใช้วิธีการสอดสายยางเข้าไปในช่องคลอด ถึงโพรงมดลูก โดยมีลวดเหล็กสอดในสายยางนำเข้าไป
จากนั้นจะฉีดน้ำเกลือ (น้ำยาสวดทวาร) เข้าไปประมาณ 2-3 หลอด จะให้ยาแก้ปวด และให้กลับบ้านไป โดยจะคิดค่าบริการตามอายุครรภ์เดือนละ 1,000 บาท ซึ่งต่อรายใช้ระยะเวลาประมาณไม่เกิน 5 นาที
นายแพทย์ บัญชา ค้าของ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า หลังการทำแท้งของบางรายเท่าที่ได้รับรายงานจากทางโรงพยาบาล พบว่า มีทั้งต้องเข้ามารับการขูดมดลูก และบางรายอาจจะโชคร้ายถึงกับต้องตัดมดลูกทิ้ง ที่ซ้ำร้ายถึงกับเสียชีวิตเลยก็มี จึงอยากจะฝากกลุ่มวัยรุ่น และผู้ที่ต้องการทำแท้ง อย่าคิดแก้ไขในภายหลังวิธีการที่ดีที่สุดก็คือการคุมกำเนิด ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ห้องสืบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกระบี่ นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองนายแพทย์สารธารณสุขจังหวัดกระบี่ พ.ต.ท.เชิดพงษ์ ชิวปรีชาสารวัตรสืบสวนปรามปรามสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกระบี่ (สว.สป.สภ.เมืองกระบี่ ) พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป สารสัตร กลุ่มงานสืบสวน ภูธรจังหวัดกระบี่
พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสำราญ ศิริพันธุ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 ม.2 ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และ น.ส.ศฐา ศิริพันธุ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179/123 ม.5 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา โดยทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ 331/2551 ลงวันที่ 19 ส.ค.2551 ข้อหา ร่วมกันทำให้หญิงแท้งลูก โดยหญิงนั้นยินยอม เป็นเหตุให้หญิงนั้นถึงแก่ความตาย”
พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย ถุงมือยาง จำนวน 4 คู่ ผ้าปิดจมูก จำนวน 2 ชิ้น ผ้าอนามัย จำนวน 3 ชิ้น สำลี จำนวน 1 ถุง ยาชนิดต่างๆ (ยาชุด จำนวน 6 ถุง ยาคุม จำนวน 2 หลอด ขดลวด จำนวน 4 เส้น สายยาง จำนวน 4 เส้น หลอดฉีดยา จำนวน 4 หลอด อุปกรณ์หูฟังของหมอ จำนวน 1 ชุด น้ำยาไม่ทราบชนิด บรรจุในหลอดพลาสติกทรงกลม จำนวน 22 หลอด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง รถยนต์กระบะ แบบตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีแดง หมายเลขทะเบียน บจ-2136 นครศรีธรรมราชจำนวน 1 คัน และสมุดนัดหมายลูกค้า จำนวน 1 เล่ม
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ และโรงพยาบาลกระบี่ ว่า มีการทำแท้งเถื่อนเป็นเหตุให้ผู้ทำแท้งถึงแก่ความตาย โดยผู้ตายเป็นเด็กนักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ อายุ 16 ปี ทาง พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ภ.จว.กระบี่ สั่งการให้ พ.ต.อ.สมภพ กัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนจึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า นายสำราญ เป็นผู้ลงมือทำแท้งโดยมี น.ส.ศฐา บุตรสาวเป็นผู้ช่วย
จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลกับทางโรงพยาบาลกระบี่ พบว่า มีผู้เข้ามารับการรักษาจากการทำแท้งประมาณเกือบ 100 ราย ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการขอหมายเข้าจับกุม
ต่อมาขณะที่ผู้ต้องหาเดินทางมาทำแท้งให้กับลูกค้าในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ จึงได้วางแผนทำการจับกุมสามารถจับกุมตัวได้ ที่บริเวณบริเวณหน้าโรงแรมเรนโบว์ ถ.นภาจรัส ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่
จากนั้นได้นำตัว นายสำราญ ไปตรวจค้นที่บ้านอดีตภรรยาของ นายสำราญ ซึ่งเลิกรากันมาประมาณ 1 ปีเศษ ทราบชื่อนางพวงผกา ศิริพันธุ์ อายุ 50 ปี เป็นข้าราชการครู เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบอุปกรณ์การทำแท้งอยู่ใต้เตียงภายในห้องนอน และที่บริเวณหลังบ้านพบถุงยาสวนทวารและผ้าอนามัยอีกจำนวนมาก คาดว่า ผู้ต้องหาใช้เป็นสถานที่รับทำแท้งด้วย แต่นางพวงผกา ให้การปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็น จึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองกระบี่
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำให้หญิงแท้งลูก โดยหญิงนั้นยินยอม เป็นเหตุให้หญิงนั้นถึงแก่ความตาย ในชั้นการจับกุมภรรยาของนายสำสาราญนั้นให้การปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับกุมต่อไป
ส่วน นายสำราญ และลูกสาว ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนายสำราญได้ให้การรับสารภาพ ว่า ตนนั้นจบการศึกษาเพียงแค่ ป.4 โดยเรียนรู้วิธีการทำมาจากโทรทัศน์ และจากการศึกษาเพิ่มเติม และสารภาพอีกว่าได้ทำแทงมานานเป็นเวลานานกว่า 20 ปี โดยลูกค้าอยู่หลายจังหวัด เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง พังงา ภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ มีทั้งเด็กนักเรียน นักศึกษา และคนวัยทำงาน มีอายุต่ำสุด 12 ปี สูงสุดอายุ 47 ปี
สำหรับวิธีการติดต่อลูกค้า ผู้ต้องหารสารภาพ ว่า ให้เบอร์โทรติดต่อกับกลุ่มที่เคยมาทำแท้ง หรือบอกกันปากต่อปากกลุ่มผู้ที่เคยทำแท้ง เมื่อมีผู้ติดต่อเข้ามาจะไปเปิดโรงแรม หรือรีสอร์ท เพื่อทำแท้ง โดยจะใช้วิธีการสอดสายยางเข้าไปในช่องคลอด ถึงโพรงมดลูก โดยมีลวดเหล็กสอดในสายยางนำเข้าไป
จากนั้นจะฉีดน้ำเกลือ (น้ำยาสวดทวาร) เข้าไปประมาณ 2-3 หลอด จะให้ยาแก้ปวด และให้กลับบ้านไป โดยจะคิดค่าบริการตามอายุครรภ์เดือนละ 1,000 บาท ซึ่งต่อรายใช้ระยะเวลาประมาณไม่เกิน 5 นาที
นายแพทย์ บัญชา ค้าของ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า หลังการทำแท้งของบางรายเท่าที่ได้รับรายงานจากทางโรงพยาบาล พบว่า มีทั้งต้องเข้ามารับการขูดมดลูก และบางรายอาจจะโชคร้ายถึงกับต้องตัดมดลูกทิ้ง ที่ซ้ำร้ายถึงกับเสียชีวิตเลยก็มี จึงอยากจะฝากกลุ่มวัยรุ่น และผู้ที่ต้องการทำแท้ง อย่าคิดแก้ไขในภายหลังวิธีการที่ดีที่สุดก็คือการคุมกำเนิด ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี
