ในอดีตที่ผ่านมา มันสำปะหลัง เป็นพืชที่ไม่อยู่ในสายตาและเป็นพืชที่ไม่มีความหมายทางเศรษฐกิจมากนัก เมื่อเทียบกับข้าว ปอ และพืชอื่นๆ แต่ด้วยธรรมชาติของมันสำปะหลังที่เป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนแห้งแล้ง ขึ้นในดินต่างคุณภาพได้ ทำให้มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ จนวันนี้มีเกษตรกรกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศที่ทำการเพาะปลูกพืชชนิดนี้ และเพาะปลูกต่อเนื่องมานานกว่า 30 ปีเข้าไปแล้ว
ความต้องการมันสำปะหลังของไทย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการที่สหภาพยุโรป (อียู) ได้มีการบิดเบือนการผลิตสินค้าธัญพืชโดยการอุดหนุนการผลิต ทำให้ธัญพืชที่ใช้ผลิตอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้น ผู้ใช้ในอียูต้องแสวงหาวัตถุดิบทดแทนที่มีราคาต่ำกว่าและมันสำปะหลังเป็นทางเลือกที่โดดเด่น จึงทำให้ไทยส่งออกมันสำปะหลังไปอียูได้เป็นจำนวนมาก และกลายเป็นพืชส่งออกที่ทำเงินเข้าประเทศได้สูงถึงปีละไม่ต่ำกว่า 47,900 ล้านบาท
มันสำปะหลัง นอกจากจะใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ ยังเป็นวัตถุดิบสำคัญที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ผงชูรส สารความหวาน ยารักษาโรค เครื่องสำอาง กาว กรดมะนาว สิ่งทอ กระดาษ ไม้อัด วัสดุภัณฑ์ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ แอลกอฮอล์ และเอทานอล เป็นต้น ถือเป็นพืชสารพัดประโยชน์เลยทีเดียว
หากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง มันสำปะหลัง น่าจะเป็นพืชตัวเดียวที่เกี่ยวเนื่องกับวิถีการดำรงชีวิตของคน ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน เพราะมันสำปะหลังได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการดำรงชีวิตของคน จากการที่มันสำปะหลังได้ถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าต่างๆ ที่ระบุไว้ข้างต้น
หรือหากจะให้เห็นภาพชัดเจน ตั้งแต่ตื่นนอนขึ้น กิจกรรมแรกที่มันสำปะหลังได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตคน คือ ยาสีฟัน เมื่ออาบน้ำ ซักเสื้อผ้า มันสำปะหลังก็เข้ามาเกี่ยวข้องอีกในส่วนของผงซักฟอก เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร ก็จะเจอกับมันสำปะหลังในอาหารนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง แยม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว ซอสปรุงรสชนิดต่างๆ ผงชูรส น้ำอัดลม และน้ำผลไม้กระป๋อง
จากนั้นเมื่อแต่งตัวออกจากบ้าน มันสำปะหลังก็เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะเป็นวัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้าที่สวมใส่ เพื่อทำให้ด้ายลื่น ไม่มีขน ด้ายแข็งแรง ทนทานต่อการเสียดสีระหว่างการทอ และเมื่อถึงที่เรียน ที่ทำงาน มันสำปะหลังก็เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยในอุตสาหกรรมกระดาษได้ใช้มันสำปะหลังเพื่อยึดเนื้อกระดาษ ทำให้มีความเหนียว ความหนา และขัดมันหน้ากระดาษ หรือแม้กระทั่งปวดหัว ตัวร้อน มันสำปะหลังก็เข้ามาเกี่ยวข้องอีก เพราะยารักษาโรคหลายๆ ชนิดได้ใช้มันสำปะหลังเป็นตัวเจือจางในยาทั้งประเภทแคปซูลและยาเม็ด ที่สำคัญวิตามินซีที่ทำจากกรดมะนาว ก็ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตด้วย
นอกจากนี้ มันสำปะหลังยังถูกนำไปใช้ในการผลิตแอลกอฮอล์ ซึ่งปัจจุบันจีน เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ มีการใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบสำคัญ ในการผลิตแอลกอฮอล์สำหรับการผลิตสุราและยาฆ่าเชื้อโรค ยิ่งไปกว่านั้น บ้านเรือนที่หลับพักผ่อนในทุกวันนี้ มันสำปะหลังก็มีความเกี่ยวข้องในส่วนของไม้อัด ซึ่งมีการใช้กาวเป็นหัวใจสำคัญในการผลิต ให้มีความแข็งแรงทนทาน และอุตสาหกรรมการผลิตกาวก็ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต และล่าสุดยังมีการใช้แป้งมันสำปะหลังมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตจาน ชาม และบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ทดแทนพลาสติกกันแล้ว
และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น ในส่วนของเหง้ามันสำปะหลัง ยังสามารถนำไปเผาเป็นถ่านให้ความร้อนสูง และไร้ควันได้อีก เรียกว่าไม่มีส่วนไหนของมันสำปะหลังที่จะไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์เลย
ดังนั้น เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นพืชมหัศจรรย์ (Magic Plant) ของมันสำปะหลัง กรมการค้าต่างประเทศ ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยเกษตรเขตร้อนนานาชาติ (CIAT) มูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยและสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำหนดจัดงาน World Tapioca Conference 2009 ขึ้นในวันที่ 15-16 ม.ค.2552 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
การจัดงานมีเป้าหมายเพื่อแสดงศักยภาพการเป็นผู้นำด้านมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ในระดับโลกของไทย การเป็นศูนย์กลางเผยแพร่เทคโนโลยีและวิชาการด้านมันสำปะหลัง รวมทั้งจะใช้เป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนความรู้และการเจรจาการค้าของผู้ประกอบการ นักวิชาการ เกษตรกรทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก
กิจกรรมสำคัญ เช่น การประชุมเชิงวิชาการ โดยเชิญนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ในเรื่อง “วิกฤตการณ์อาหารและพลังงาน” เชิญวิทยากรจากจีน เยอรมัน สหราชอาณาจักร และ CIAT มาบรรยายในหัวข้อสถานการณ์ธัญพืชและอาหารสัตว์ในตลาดโลก สถานการณ์เอทานอล/แอลกอฮอล์ของโลกและจีน สถานการณ์แป้ง การผลิตและการค้ามันสำปะหลังในตลาดโลก และการอภิปรายหัวข้อศักยภาพการผลิตมันสำปะหลังของไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลก
นอกจากนี้ จะมีการจัดนิทรรศการเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าไทยเป็นที่ 1 ในตลาดการค้ามันสำปะหลัง โดยจะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และวิชาการด้านการผลิต การแปรรูป การค้า ตลอดจนศักยภาพในการผลิตและส่งออก รวมไปถึงจะมีการจัดประกวดเกษตรกรดีเด่นและประกวดมันสำปะหลังหัวใหญ่ ซึ่งจะใหญ่แค่ไหน ก็ต้องคอยดูกัน
ส่วนผู้ที่สนใจร่วมการประชุมสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียน ได้ที่ www.world-tapiocaconference.com ซึ่งใครที่ยังสงสัยหรือติดใจในความเป็น Magic Plant ของมันสำปะหลัง ขอให้ตั้งหน้าตั้งตารอ และให้ไปค้นหาคำตอบได้ที่งานนี้ งานเดียวเท่านั้น
ความต้องการมันสำปะหลังของไทย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการที่สหภาพยุโรป (อียู) ได้มีการบิดเบือนการผลิตสินค้าธัญพืชโดยการอุดหนุนการผลิต ทำให้ธัญพืชที่ใช้ผลิตอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้น ผู้ใช้ในอียูต้องแสวงหาวัตถุดิบทดแทนที่มีราคาต่ำกว่าและมันสำปะหลังเป็นทางเลือกที่โดดเด่น จึงทำให้ไทยส่งออกมันสำปะหลังไปอียูได้เป็นจำนวนมาก และกลายเป็นพืชส่งออกที่ทำเงินเข้าประเทศได้สูงถึงปีละไม่ต่ำกว่า 47,900 ล้านบาท
มันสำปะหลัง นอกจากจะใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ ยังเป็นวัตถุดิบสำคัญที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ผงชูรส สารความหวาน ยารักษาโรค เครื่องสำอาง กาว กรดมะนาว สิ่งทอ กระดาษ ไม้อัด วัสดุภัณฑ์ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ แอลกอฮอล์ และเอทานอล เป็นต้น ถือเป็นพืชสารพัดประโยชน์เลยทีเดียว
หากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง มันสำปะหลัง น่าจะเป็นพืชตัวเดียวที่เกี่ยวเนื่องกับวิถีการดำรงชีวิตของคน ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน เพราะมันสำปะหลังได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการดำรงชีวิตของคน จากการที่มันสำปะหลังได้ถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าต่างๆ ที่ระบุไว้ข้างต้น
หรือหากจะให้เห็นภาพชัดเจน ตั้งแต่ตื่นนอนขึ้น กิจกรรมแรกที่มันสำปะหลังได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตคน คือ ยาสีฟัน เมื่ออาบน้ำ ซักเสื้อผ้า มันสำปะหลังก็เข้ามาเกี่ยวข้องอีกในส่วนของผงซักฟอก เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร ก็จะเจอกับมันสำปะหลังในอาหารนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง แยม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว ซอสปรุงรสชนิดต่างๆ ผงชูรส น้ำอัดลม และน้ำผลไม้กระป๋อง
จากนั้นเมื่อแต่งตัวออกจากบ้าน มันสำปะหลังก็เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะเป็นวัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้าที่สวมใส่ เพื่อทำให้ด้ายลื่น ไม่มีขน ด้ายแข็งแรง ทนทานต่อการเสียดสีระหว่างการทอ และเมื่อถึงที่เรียน ที่ทำงาน มันสำปะหลังก็เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยในอุตสาหกรรมกระดาษได้ใช้มันสำปะหลังเพื่อยึดเนื้อกระดาษ ทำให้มีความเหนียว ความหนา และขัดมันหน้ากระดาษ หรือแม้กระทั่งปวดหัว ตัวร้อน มันสำปะหลังก็เข้ามาเกี่ยวข้องอีก เพราะยารักษาโรคหลายๆ ชนิดได้ใช้มันสำปะหลังเป็นตัวเจือจางในยาทั้งประเภทแคปซูลและยาเม็ด ที่สำคัญวิตามินซีที่ทำจากกรดมะนาว ก็ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตด้วย
นอกจากนี้ มันสำปะหลังยังถูกนำไปใช้ในการผลิตแอลกอฮอล์ ซึ่งปัจจุบันจีน เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ มีการใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบสำคัญ ในการผลิตแอลกอฮอล์สำหรับการผลิตสุราและยาฆ่าเชื้อโรค ยิ่งไปกว่านั้น บ้านเรือนที่หลับพักผ่อนในทุกวันนี้ มันสำปะหลังก็มีความเกี่ยวข้องในส่วนของไม้อัด ซึ่งมีการใช้กาวเป็นหัวใจสำคัญในการผลิต ให้มีความแข็งแรงทนทาน และอุตสาหกรรมการผลิตกาวก็ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต และล่าสุดยังมีการใช้แป้งมันสำปะหลังมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตจาน ชาม และบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ทดแทนพลาสติกกันแล้ว
และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น ในส่วนของเหง้ามันสำปะหลัง ยังสามารถนำไปเผาเป็นถ่านให้ความร้อนสูง และไร้ควันได้อีก เรียกว่าไม่มีส่วนไหนของมันสำปะหลังที่จะไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์เลย
ดังนั้น เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นพืชมหัศจรรย์ (Magic Plant) ของมันสำปะหลัง กรมการค้าต่างประเทศ ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยเกษตรเขตร้อนนานาชาติ (CIAT) มูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยและสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำหนดจัดงาน World Tapioca Conference 2009 ขึ้นในวันที่ 15-16 ม.ค.2552 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
การจัดงานมีเป้าหมายเพื่อแสดงศักยภาพการเป็นผู้นำด้านมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ในระดับโลกของไทย การเป็นศูนย์กลางเผยแพร่เทคโนโลยีและวิชาการด้านมันสำปะหลัง รวมทั้งจะใช้เป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนความรู้และการเจรจาการค้าของผู้ประกอบการ นักวิชาการ เกษตรกรทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก
กิจกรรมสำคัญ เช่น การประชุมเชิงวิชาการ โดยเชิญนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ในเรื่อง “วิกฤตการณ์อาหารและพลังงาน” เชิญวิทยากรจากจีน เยอรมัน สหราชอาณาจักร และ CIAT มาบรรยายในหัวข้อสถานการณ์ธัญพืชและอาหารสัตว์ในตลาดโลก สถานการณ์เอทานอล/แอลกอฮอล์ของโลกและจีน สถานการณ์แป้ง การผลิตและการค้ามันสำปะหลังในตลาดโลก และการอภิปรายหัวข้อศักยภาพการผลิตมันสำปะหลังของไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลก
นอกจากนี้ จะมีการจัดนิทรรศการเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าไทยเป็นที่ 1 ในตลาดการค้ามันสำปะหลัง โดยจะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และวิชาการด้านการผลิต การแปรรูป การค้า ตลอดจนศักยภาพในการผลิตและส่งออก รวมไปถึงจะมีการจัดประกวดเกษตรกรดีเด่นและประกวดมันสำปะหลังหัวใหญ่ ซึ่งจะใหญ่แค่ไหน ก็ต้องคอยดูกัน
ส่วนผู้ที่สนใจร่วมการประชุมสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียน ได้ที่ www.world-tapiocaconference.com ซึ่งใครที่ยังสงสัยหรือติดใจในความเป็น Magic Plant ของมันสำปะหลัง ขอให้ตั้งหน้าตั้งตารอ และให้ไปค้นหาคำตอบได้ที่งานนี้ งานเดียวเท่านั้น